ดูแลผู้สูงอายุ ใน หาดใหญ่, สงขลา

ดูแลผู้สูงอายุ ใน หาดใหญ่, สงขลา

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ ใน หาดใหญ่, สงขลา:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
4 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
4 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
4 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

จ้างคนดูแลคนชราที่บ้านดีกว่าส่งไปบ้านพักคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานั่นเอง ครั้นเมื่อท่านทั้งหลายอายุมากขึ้นหน้าที่ของคนเป็นลูกเป็นหลานต้องคอยดูแลท่านให้ดีที่สุด หากเป็นไปได้คงไม่มีใครที่อยากให้ผู้สูงอายุที่เรารักต้องไปอยู่บ้านพักคนชราและอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่หากเราอยู่ดูแลท่านเองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหรือมีภาระอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ควรจ้างคนมาดูแลที่บ้าน เพื่อความสะดวกของเราเองและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันมานานสังคมไทยมีแนวคิดในแบบระบบครอบครัวใหญ่ โดยจะช่วยดูแลกันและกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากสังคมของชาวตะวันตก ที่ส่วนมากมักมีค่านิยมให้ผู้สูงอายุไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะคิดว่าสะดวกสบายกว่า และผู้สูงอายุจะได้มีเพื่อนในสังคมวัยเดียวกัน แต่คนไทยโดยส่วนมากไม่คิดแบบนั้น ดังนั้นในครอบครัวของคนไทยจึงต้องการคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งต้องไว้ใจให้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่บ้านได้

ข้อดีของการมีคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

หลักๆ ก็คือ เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ทั้งยังปลอดภัยมากกว่าเพราะยังอยู่ในสายตาของเราได้ตลอด แตกต่างกับการส่งไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชรา ซึ่งอาจจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางไปหา โดยเราสามารถเลือกบริการของคนที่จะมาดูแลแบบไปเช้า เย็นกลับ หรือคอยดูแล 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วทางบริษัทที่จัดหาคนดูแลผู้สูงอายุจะมีการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความกังวลของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

ขุนนิพัทธ์จีนนคร ผู้บุกเบิกเมืองหาดใหญ่

ขุนนิพัทธ์จีนนคร (เจียกีซี) คนสร้างเมืองหาดใหญ่ เดิมเป็นคนจีนแคะที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อมาทำมาหากินในประเทศสยาม ในปี พ.ศ. 2452 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดให้สร้างทางรถไฟสายเพชรบุรีจรดสุดชายแดนภาคใต้ ขุนนิพัทธ์จีนนคร ได้สมัครเข้ามาทำงานกับบริษัทรับเหมาสร้างทางรถไฟสายนี้ โดยรับหน้าที่เป็นผู้ตรวจการและดูแลทั่วไป งานสร้างทางรถไฟสายใต้ในสมัยนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก ปักษ์ใต้ยังมีพลเมืองน้อยเป็นป่าทึบเต็มไปด้วยไข้ป่าบางแห่งเป็นที่ลุ่มน้ำขึ้นสูง ท่านมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ริมคลองอู่ตะเภา ข้างที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ เนื่องจากแถบสถานีรถไฟอู่ตะเภาเป็นที่ลุ่มบ้านหลังเก่านั้น เกิดน้ำท่วมเป็นประจำ ขุนนิพัทธ์ฯ ผู้ที่มีนิสัยชอบบุกป่าฝ่าดงจึงทำการออกสำรวจหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกสร้างบ้านเรือนหลังใหม่ จนพบป่าต้นเสม็ดแห่งหนึ่ง มีผู้คนอาศัยอยู่บ้าง ป่าแห่งนี้เป็นป่าที่อยู่ในบริเวณรอบๆ หมู่บ้านต่างๆ เช่น บ้านหาดใหญ่ และบ้านโคกเสม็ดชุน

ป่าต้นเสม็ดแห่งนี้อยู่ห่างจากสถานีรถไฟอู่ตะเภาประมาณ 3 กม. ขุนนิพัทธ์ฯ จึงได้ทำการซื้อที่ป่าต้นเสม็ดจำนวน 50 ไร่ เป็นเงินจำนวน 175 บาทจากชาวบ้านผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินบริเวณนั้น

“บ้านหาดใหญ่” ในสมัยนั้นมีบ้านเรือนตั้งอยู่สองฟากทางรถไฟสายใต้ อยู่ทางทิศใต้ของสถานีรถไฟหาดใหญ่เลียบริมฝั่งคลองเตยไปทางด้านตะวันออก เป็นหมู่บ้านเก่าแก่แห่งหนึ่งของอำเภอเหนือ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นอำเภอหาดใหญ่ในปี พ.ศ. 2460 ส่วนบริเวณทางตอนเหนือของสถานีรถไฟหาดใหญ่ ตั้งแต่บริเวณถนนนิยมรัฐ หรือที่ตั้งของโรงแรมโฆษิต เรื่อยไปจนถึงที่ทำการตำรวจรถไฟ ถึงบริเวณวัดโคกสมานคุณ ตลอดจนริมถนนเพชรเกษมจนถึงวงเวียนน้ำพุ เรียกว่า “บ้านโคกเสม็ดชุน”

หลังจากที่ขุนนิพัทธ์ฯ ได้ซื้อป่าต้นเสม็ดแล้ว ก็ทำการถางป่าจนเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ และได้ลงทุนสร้างห้องแถวห้าห้องในปี พ.ศ. 2459 โดยใช้ไม้กลมมาทำเป็นเสาสร้างบ้าน และมีหลังคามุงจาก ท่านได้ตัดถนนเป็นถนนดินสายแรกขึ้นเรียกว่า “ถนนเจียกีซี” ห้องแถวห้าห้องแรกนี้ท่านสร้างอยู่ใกล้กับเขตรถไฟ เขตรถไฟนี้ทางการได้ขอซื้อที่ดินจากขุนนิพัทธ์ฯ ในปี พ.ศ. 2458 กินเนื้อที่เป็นบริเวณกว้างจากสถานีรถไฟหาดใหญ่ตลอดริมถนนทั้งสองฟากของถนนธรรมนูญวิถีจรดร้านถ่ายรูปโปจินและธนาคารนครหลวงไทย จํากัด ตลอดจนบริเวณสนามฟุตบอลด้านข้างธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์

บ้านหลังแรกที่ขุนนิพัทธ์ฯ เริ่มสร้างนั้น ปัจจุบัน คือที่ตั้งของธนาคารนครหลวงไทย จํากัด และถนนเจียกีซีสายแรกของขุนนิพัทธ์ฯ นั้น ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็นถนนธรรมนูญวิถี



สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ สถานที่ออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัย

อำเภอหาดใหญ่ไม่ได้มีแค่แหล่งช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีเท่านั้น หาดใหญ่ยังมีสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะเป็นการพาครอบครัวไปเดินเล่น หรือพาสูงอายุไปออกกำลังกายเบา ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์และชมบรรยากาศ นั่นคือ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่

ถือเป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงามมากแห่งหนึ่งได้ในอำเภอหาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเขาคอหงส์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คนภายในเมืองแห่งนี้ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของผู้คนจากทั่วทั้งภาคใต้ ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมเท่านั้น สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งยังมีสถานที่ให้สักการบูชา ตามความเชื่อของศาสนาพุทธ เต๋า และพราหมณ์-ฮินดู รวมไปถึงความเชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ยังมีศูนย์การเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ให้บริการเข้าเยี่ยมชมได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ถือเป็นอีกจุดเด่นที่นิยมชมชอบของนักท่องเที่ยวทั้งหลายเช่นกัน ด้วยลักษณะทรงประทับนั่งบนบัลลังก์ดูน่าเกรงขาม ทำให้ดูมีมนต์ขลังของความเป็นสถาบันอันสูงสุดแห่งประเทศไทย ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้ถูกเลือกให้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมวันปิยมหาราชของทุกปี

และยังมีสถานที่สักการะ เทพเจ้ากวนอู ที่ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่สักการะเทพเจ้าตามความเชื่อของชาวจีน ผู้ซึ่งได้รับการยอมรับ และเคารพนับถือในฐานะของเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ และมีคุณธรรมอันสูงส่ง โดยสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กับสถานสักการะ พระโพธิสัตว์กวนอิม และอยู่ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ด้วย ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ก็ยังมี หอศิลป์นครหาดใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ตลอดจน เคเบิลคาร์ จุดให้บริการเคเบิลคาร์ไปกลับ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ข้ามฟากไปยังจุดชมวิวอีกด้านหนึ่งของภูเขา และยังถือเป็นจุดให้บริการเคเบิลคาร์แห่งแรกของภาคใต้อีกด้วย



วิธีลดความเครียดให้กับผู้สูงอายุ

การดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวถือได้ว่าเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบสูงและสามารถสร้างความเครียดให้กับผู้ดูแลผู้สูงอายุไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะหากสมาชิกในครอบครัวเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุเอง ไม่ได้ใช้บริการหรือจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ความชำนาญ การดูแลผู้สูงอายุเพียงลำพังอาจทำให้ผู้ดูแลมีความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย รวมถึงเบื่อหน่ายเนื่องจากมีเวลาส่วนตัวน้อยหรือออกไปติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่นได้น้อยลงจนเกิดเป็นความเครียด รู้สึกไม่มีความสุข น้อยใจว่าคนในครอบครัวไม่ช่วยแบ่งเบาภาระ นานวันไปความเครียดที่สะสมอยู่จะแสดงออกทางร่างกายและอารมณ์ เช่น ปวดศีรษะ หน้านิ่วคิ้วขมวด พูดจาชวนทะเลาะ บางรายแสดงออกด้วยการทำร้ายร่างกายหรือพูดทำร้ายจิตใจผู้สูงอายุโดยไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่ผู้ดูแลเพศหญิงมักมีความเครียดมากกว่าผู้ดูแลเพศชาย บางคนจัดการกับความเครียดด้วยการร้องไห้ ตะโกน หรือระบายอารมณ์กับสิ่งของ แต่วิธีการดังกล่าวไม่ช่วยแก้ปัญหาความเครียดให้หายไป กลับทำให้ความเครียดเพิ่มมากขึ้น

ผู้ดูแลควรฝึกการคลายเครียดด้วยวิธีที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีของผู้ดูแลของผู้สูงอายุและของทุกคนในครอบครัว โดย การคลายเครียดของผู้ดูแลผู้สูงอายุ นั้นมีหลายวิธีได้แก่

1. การปรับทัศนคติและยอมรับหน้าที่ด้วยความเต็มใจ คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีในการตอบแทนผู้มีพระคุณ เป็นช่วงที่ได้ใช้เวลาร่วมกันสร้างความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน

2. อ่านหนังสือแนวให้กำลังใจหรือสอนให้มองโลกในแง่ดี หนังสือศาสนา สวดมนต์ทำสมาธิ นำหลักศาสนา มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้มองเห็นความเป็นจริงของชีวิต

3. ใช้เวลาดูแลผู้สูงอายุสลับกับการทำกิจกรรมที่ชอบหรือทำแล้วรู้สึกผ่อนคลาย เช่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ ฟังเพลง ฯลฯ โดยเฉพาะที่มีเนื้อหาตลกขำขัน เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับชีวิต

4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาจเป็นการออกกำลังกายเบาๆ ภายในบ้าน เช่น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ แอโรบิก โยคะ หรือหาเวลาออกกำลังกายนอกบ้านให้ได้เหงื่อ เช่น วิ่ง เดินเร็ว

5. ทำกิจกรรมคลายเครียด หาเวลาไปนวดผ่อนคลายในสปาหรือไปร้านเสริมสวย ดูแลตัวเอง ให้รางวัลกับตนเองบ้าง

6. พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหรือเข้าร่วมชมรมผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อพูดคุยระบายความเครียด และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ให้กำลังใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้ที่มีหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุคนอื่น ๆ

7. หยุดพักผ่อนสัปดาห์ละ 1 วัน เพื่อมีเวลาส่วนตัว หรือวันหยุดยาว ๆ เดินทางไปพักผ่อนในสถานที่ ทางธรรมชาติ เติมพลังกายและพลังใจให้เต็มที่

8. หาคนผลัดเปลี่ยนช่วยดูแลผู้สูงอายุ คนในครอบครัวควรผลัดเปลี่ยนกันดูแลผู้สูงอายุ การมีผู้ช่วยดูแลจะลดระดับความเครียด ลงไปได้ หรืออาจจ้างผู้ดูแลเป็นครั้งคราว