วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง
1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
วันนี้เรามีวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรมองข้ามมาแชร์ให้ทราบกันค่ะ
1 สัตว์เลี้ยงมีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริง นอนมากกว่าปกติ ไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่อ้อนเหมือนเคย
2 พฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้ง ๆ ที่ปกติกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น อากาศร้อนเกินไป เปลี่ยนอาหารใหม่ ที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงกินน้อยลง
3 พบความผิดปกติ หรืออาการอื่นๆ เช่น มีขี้ตาเยอะ อาเจียน ตาแดง มีน้ำมูก มีกลิ่นตัวแรง เดินผิดปกติ ถ่ายเหลว
4 กินน้ำมากกว่าปกติ ก็เป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเราป่วยได้เช่นกัน
5 สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการ นอนไม่หลับ ตาเหล่ ตาเอียง ไม่มีแรงเดิน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางระบบประสาทในสัตว์เลี้ยง
6 สัตว์เลี้ยงเดินวนไปวนมาในเวลากลางคืน เป็นอาการที่พบบ่อยว่าเกิดจากโรคสมองเสื่อมในสัตว์วัยชรา หรืออาจจะบ่งชี้ได้ว่ามีโรคทางสมองอยู่ จนทำให้วงจรการหลับมีปัญหา นอกจากนี้โรคเบาหวาน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึกก็เป็นได้
1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า
หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป
ที่พักที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้
สำหรับคนในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ชลบุรีคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมเมื่ออยากเที่ยวทะเลแต่ไม่อยากเดินทางไกล ๆ เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนที่อยากพาสัตว์ร่วมเดินทางและพักค้างแรมด้วย อาจจะเจอปัญหาในการหาที่พัก เพราะโรงแรมหรือสถานที่พักหลาย ๆ แห่ง ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปพัก เพราะปัญหาเสียงรบกวนจากสัตว์เลี้ยงและอาจเกิดความเสียหายของทรัพย์สิน
ในจังหวัดชลบุรี จะมีสถานที่พักที่เราสามารถเข้าพักได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสัตว์เลี้ยง และยังทำให้เราสามารถเที่ยวได้อย่างสนุกสนานและคลายเครียดไปพร้อม ๆ กับน้องหมาเพื่อนซี้สี่ขาของเราได้ด้วย โดยสถานที่แรกก็คือ
Bella Villa Cabana Pattaya เป็นที่พักที่มีบรรยากาศสุดชิล สามารถมองเห็นวิวทะเลสวย ๆ บริเวณรอบรอบได้ และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบครัน ใครที่ต้องการมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดก็สามารถมาได้ แถมสัตว์เลี้ยงสี่ขาก็เข้าพักกับเราได้ด้วย ไม่ต้องคอยอยู่บ้านเหงา ๆ มาพักผ่อนหย่อนใจ เล่นน้ำให้สุขใจกันทั้งครอบครัว โดยที่พักแห่งนี้
ที่ตั้ง หมู่ที่ 1 55/7 ถ.สุขุมวิท อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สถานที่ต่อไปเป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายรักสัตว์เลี้ยง นั้นก็คือ Bangsaen Heritage Hotel โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่อยู่ติดชายหาดบางแสน มีบรรยากาศโดยรอบที่สวยงามและโอบล้อมไปด้วยทะเล ที่นี่จะมีห้องพักให้บริการทั้งหมด 2 โซน โซนแรกเป็นโซนห้องพักแบบโรงแรม และอีกโซนจะเป็น สไตล์บ้านไทยๆ แบบโมเดิร์น โซนนี้สัตว์เลี้ยงของเราสามารถเข้าพักได้ อีกทั้งยังมีบรรยากาศโดยรอบที่ร่มรื่น มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง เหมาะแก่การเพาะเลี้ยงของเรามาพักผ่อนยามว่าง
เตรียมตัวอย่างไร เมื่ออยากเลี้ยงสัตว์ในบ้าน
การดูแลเลี้ยงสัตว์ ก็เปรียบเสมือนการดูแลคนในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับเลี้ยงสัตว์เข้ามาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต การเลี้ยงตามแฟชั่นหรือการเลี้ยงเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ จะนำมาซึ่งปัญหาของสังคมมากมายเมื่อไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงแล้วปล่อยให้เป็นสัตว์จรจัด ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด ควรศึกษาและเตรียมความพร้อมให้ดีเสียก่อน ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วจะมีปัจจัยพื้นฐานที่เราในฐานะเจ้าของและคนดูแลสัตว์ต้องเตรียมตัวอยู่ 3 ข้อ คือ
1. การเตรียมตัวในเรื่องสถานที่ สัตว์เลี้ยงไม่ต่างจากมนุษย์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยเป็นปัจจัยพื้นฐาน ก่อนรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด ควรศึกษาให้ดีเสียก่อนว่าสัตว์ที่เราจะเลือกเลี้ยง ต้องการสถานที่อยู่อาศัยแบบไหน พื้นที่มากน้อยเพียงใด เช่น ถ้าเลี้ยงสุนัขควรมีพื้นที่สำหรับวิ่งเล่น หรือการเลี้ยงหนูแฮมส์เตอร์อาจจะเลี้ยงในกรงเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก เป็นต้น นอกจากนี้ควรตรวจสอบด้วยว่าที่พักของเรามีกฎระเบียบหรือข้อห้ามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอย่างไร เช่น หอพักบางที่ห้ามเลี้ยงสุนัข หรือห้ามเลี้ยงแมว ไปจนถึงการสอบถามความคิดเห็นหรือขออนุญาตคนในครอบครัวด้วย เพราะหากคนที่อยู่ด้วยกันไม่ได้มีแนวคิดหรือสามารถอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้ แต่เรายังตัดสินใจรับสัตว์เลี้ยงมาดูแล อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้
2. เรื่องของเวลา เวลาเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจรับเลี้ยงสัตว์ด้วยเช่นกัน เพราะว่าการเลี้ยงสัตว์แต่ละชนิดล้วนต้องใช้เวลาในการดูแลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทางตรง เช่น การพาไปเดินเล่น การฝึกสอน การรักษาความสะอาด การอาบน้ำ การให้อาหารสัตว์ การพาไปฉีดวัคซีน การพาไปรักษาพยาบาล และทางอ้อม เช่น การซื้ออาหารสัตว์ การซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นถ้าเราไม่สามารถแบ่งเวลาให้สัตว์เลี้ยงได้ ก็ไม่ควรเลี้ยงเด็ดขาด
3. เรื่องค่าใช้จ่าย อาจจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด โดยเรื่องค่าใช้จ่ายนี้ เป็นปัจจัยเบอร์ 1 ของการเลี้ยงสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ไม่ได้มีแค่ค่าอาหารเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งค่าอุปกรณ์ ที่นอน เสื้อผ้า ของเล่น ค่ารับบริการ อาบน้ำสัตว์ ตัดแต่งขนสัตว์ ฝากเลี้ยงสัตว์ ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าวัคซีน ค่าสัตวแพทย์ ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงของแต่ละคน
การเลี้ยงสุนัขหลังหย่านมต้องทำอย่างไร
สำหรับคนรักสุนัขส่วนใหญ่จะนำสุนัขมาเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ๆ หรือยังไม่หย่านม โดยทั่วไปลูกสุนัขจะเริ่มหย่านมเมื่อมีอายุประมาณ 4-6 สัปดาห์ แต่ในระหว่างที่ยังไม่หย่านม ลูกสุนัขสามารถกินอาหารอื่นที่เป็นสูตรสำหรับลูกสุนัขได้เช่นกัน หากรับลูกสุนัขมาเลี้ยงตั้งแต่ยังไม่หย่านม คือ ในช่วงที่ลูกสุนัขอายุ 3-4 สัปดาห์หลังคลอด เจ้าของลูกสุนัขจะต้องเริ่มให้อาหารอื่น ๆ ตั้งแต่อยู่ในช่วงนี้ เพื่อให้ลูกสุนัขได้ปรับตัวและเรียนรู้รสชาติอาหารใหม่ ๆ การให้อาหารลูกสุนัข ผู้เลี้ยงจะต้องเตรียมพร้อมดังต่อไปนี้
เลือกอาหารให้เหมาะกับลูกสุนัข อาหารสำหรับลูกสุนัขมีหลายเกรดหลายราคา ก่อนที่จะให้ลูกสุนัขกินอาหารเม็ด คนเลี้ยงต้องศึกษาข้อมูลและเลือกอาหารเม็ดหรืออาหารสำเร็จรูปให้เหมาะกับลูกสุนัข โดยพิจารณาจากช่วงวัย สายพันธุ์ และสารอาหารที่มีอยู่ในอาหารนั้นๆ หลังจากเลือกอาหารที่ดีที่สุดให้กับลูกสุนัข
ปริมาณอาหารที่เหมาะสำหรับลูกสุนัข หากลูกสุนัขยังไม่หย่านมแต่อยู่ในช่วงที่สามารถกินอาหารเม็ดได้แล้ว ควรเริ่มให้อาหารเม็ดกับลูกสุนัขในปริมาณน้อย ๆ กินควบคู่ไปกับการกินนม หากอาหารเม็ดแข็งเกินไปอาจนำไปแช่น้ำให้นิ่มก่อนนำมาให้ลูกสุนัขกิน เมื่อลูกสุนัขคุ้นเคยกับการกินอาหารเม็ดค่อย ๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้นจนถึงช่วงหย่านม
สำหรับปริมาณอาหารของลูกสุนัขที่หย่านมแล้ว แนะนำให้อ่านรายละเอียดการให้อาหารตามที่เขียนแนะนำไว้ข้างกล่องหรือข้างถุงอาหารเม็ดที่เลือกซื้อมาให้สุนัข เพราะอาหารแต่ละแบรนด์อาจมีสารอาหารและปริมาณการให้ในจำนวนที่แตกต่างกัน
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง