ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน เมืองสมุทรสาคร, สมุทรสาคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน เมืองสมุทรสาคร, สมุทรสาคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศศิพิมล ยิ่งแจ่มจันทร์
ศศิพิมล ยิ่งแจ่มจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 24 ปี
อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
4 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
4 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
4 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
4 ปีที่แล้ว
โชคดีที่ได้มาเจอเว็บไซต์ของใส่ใจเพราะมีบริการคนดูแลสัตว์เลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ประทับใจมาก ๆ ครับ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีบริการฝึกสอนสัตว์เลี้ยง อาบน้ำตัดขน อีกทั้งยังมีบริการสัตว์แพทย์นอกสถานที่ บอกได้เลยว่าครบวงจรจริง ๆ
Saijai
ศราวุติ ชัยเกตุ
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างไร
สัตว์เลี้ยง (Pets) หมายถึง สัตว์ที่คนเรานำมาดูแล ตั้งแต่ การให้อาหาร ที่อยู่ รักษายามเจ็บป่วย และ การผสมพันธุ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้งาน เป็นอาหาร หรือเป็นเพื่อน คนจึงมีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงด้วยความรักและการเป็นมิตรต่อกัน ส่วนการเลี้ยงสัตว์ หมายถึง การบำรุงสัตว์เลี้ยงให้เจริญเติบโต ด้วยการให้ความรัก ให้อาหาร ให้ที่อยู่ และรักษายามเจ็บป่วย ด้วยกันนั้นสัตว์แต่ละชนิดมีพฤติกรรมและสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะทำให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุข เติบโต และใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง จึงสำคัญ เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีชีวิต มีหัวใจ และสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนสามารถสัมผัสได้ คือ ความรักที่แท้จริงที่เราได้จากสัตว์เลี้ยง เราจะมีความสำคัญสำหรับพวกเขาเสมอ

ดังนั้นเราและสัตว์เลี้ยงเลยมีคุณค่าทางจิตใจซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ สุนัข แมว และปลา บางคนเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้คำถึงประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์มากนัก เพราะคิดว่าการเลี้ยงสัตว์ทำให้เรามีความสุขเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสัตว์นั้นมีประโยชน์มากมายหลายข้อเลย มาดูกันค่ะ

1. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดได้
2. ช่วยลดปัญหาด้านจิตใจห่อเหี่ยวสำหรับผู้สูงอายุ
3. ช่วยทำให้มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี
4. การเลี้ยงสุนัขทำให้เจ้าของนั้นได้ออกกำลังกายมากขึ้นเนื่องจากเจ้าของหมั่นต้องพาน้องหมาไปเดินออกกำลังกายเป็นประจำ
5. ช่วยลดค่าความดันโลหิตสูง มีผลวิจัยมาว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยลดความเครียด คอเลสเตอรอลต่ำ และความดันโลหิตลดลงอีกด้วย
ทักษะสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ นี่คือลักษณะและทักษะที่สำคัญ 4 ประการที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
การใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงในยามที่คุณไม่ว่างนั้นจะช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้ แต่ก่อนจะทำการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณกำหนด ซึ่งข้อตกลงสำคัญมีดังนี้

1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป

ข้อควรรู้สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขพันธุ์ใหญ่-โรคข้อสะโพกเสื่อม

สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขพันธ์ใหญ่ ปัญหาสุขภาพประจำสุนัขเหล่านี้ เช่น โกลเด้น รีทรีฟเวอร์, ลาบราดอร์ รีทรีพเวอร์, เซนต์เบอร์นาร์ด และไซบีเรียน ฮัสกี้ เมื่อมีอายุมากขึ้น หรือน้ำหนักตัวมากเกินไป คือ โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติในการพัฒนากระดูกข้อสะโพก สะโพกตื้นกว่าปกติ กระดูกต้นขาไม่สามารถสวมเข้ากับเบ้าสะโพกได้พอดี ทำให้เกิดการอักเสบถาวร โรคข้อสะโพกเสื่อมเกิดจากหลายสายเหตุ ได้แก่

1. การถ่ายทอดทางพันธุกรรม มักพบในสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ที่เป็นสายพันธุ์แท้

2. สุนัขอายุมากขึ้น กระดูกเริ่มเสื่อมสภาพ และดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง

3. สุนัขมีน้ำหนักตัวมากเกินเกณฑ์มาตรฐาน

4. ความไม่สมดุลของมวลกล้ามเนื้อและการเจริญของระบบกระดูก

5. การเลี้ยงสุนัขบนพื้นลื่น

อาการของสุนัขที่เป็นโรคข้อสะโพกเสื่อมที่สามารถสังเกตได้คือ

1. ลุกนั่งลำบาก ทำให้สุนัขไม่ค่อยเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ

2. เดินขึ้นลงบันได หรือทางลาดชันไม่สะดวก

3. มีอาการขากะเผลก หรือวิ่งกระโดดเหมือนกระต่ายเพื่อลดอาการเจ็บปวด

4. เดินขาหลังปัดไปมา

5. ร้องเจ็บหรือแสดงอาการปวดเวลาลุกขึ้นนั่งหรือลงนอน

6. กล้ามเนื้อฝ่อลีบ

เมื่อสังเกตพบอาการดังกล่าว ควรนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัย x-ray กระดูก และรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งการรักษาโรคข้อสะโพกเสื่อมในสุนัขอาจจะต้องใช้เวลาและทำร่วมกันหลายวิธี คือ

1. ควบคุมน้ำหนัก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของโรค

2. ให้ยาแก้ปวด ลดอักเสบ ร่วมกับอาหารเสริมพวกกลูโคซาไมด์และคอนดรอยติน เพื่อช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อน

3. การผ่าตัด สุนัขบางตัวที่มีอาการอักเสบรุนแรงอาจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก และทำกายภาพบำบัดร่วมด้วยทั้งก่อนและหลังผ่าตัด

4. การทำกายภาพบำบัด เป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดีในการรักษา โดยใช้วิธีการใช้เลเซอร์ อัลตราซาวด์ หรือกระตุ้นไฟฟ้า เพื่อลดความเจ็บปวด และเป็นการช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อบริเวณรอบข้อ การทำกายภาพบำบัดอีกวิธีที่เป็นที่นิยมคือ การทำธาราบำบัด เช่นเดินสายพานน้ำ และการว่ายน้ำ เพราะจะเป็นการช่วยเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อขาหลัง ลดการเกร็งของข้อได้ดี ทำให้สุนัขกลับมาเดินได้ใกล้เคียงปกติที่สุด

หากเจ้าของสุนัขหมั่นสังเกตพฤติกรรมและอาการของสุนัข พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์แต่เนิ่นๆ เพื่อทำการป้องกันรักษาอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ สุนัขก็สามารถกลับมาเดินได้เกือบปกติและมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น



พระพุทธสิหิงค์ องค์ที่ 4 ของประเทศไทยอยู่ที่วัดโคกขาม สมุทรสาคร

วัดโคกขาม ตั้งอยู่ริมคลองโคกขาม บ้านโคกขาม ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร เป็นวัดเก่าแก่กว่า 300 ปี สร้างขึ้นราว พ.ศ.2222 สมัยกรุงศรีอยุธยา โบสถ์หลังเก่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบอยุธยา มีการแกะสลักลวดลายบนไม้ที่หน้าบันอย่างสวยงาม โบสถ์เก่าแห่งนี้เป็นโบสถ์มหาอุด คือโบสถ์ที่มีทางเข้าออกได้เพียงทางเดียว คือทางด้านประตูหน้า และไม่มีหน้าต่าง เพื่อทำให้ขลัง เชื่อว่าการเข้าโบสถ์มหาอุดสามารถช่วยแก้คุณไสยมนต์ดำ ขจัดเสนียดจัญไรได้ ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อสัมฤทธิ์” พระพุทธสิหิงค์ องค์ที่ 4 เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองชาวสมุทรสาคร (พระพุทธสิหิงค์อีก 3 องค์ อยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ และหอพระสิงห์ จังหวัดนครศรีธรรมราช) พระพุทธสิหิงค์ องค์ที่ 4 เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามมาก อิ่มเอิบ หน้าตกกว้าง 66 ซม. สูง 83 ซม. รอบฐาน 153 ซม. เนื้อเป็นทองสีดอกบวบ ทรวดทรงอวบอ้วน พระพักตร์กลม ท่านั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์วางในท่าปางมารวิชัย ลักษณะทั่วไปเป็นแบบเชียงแสนรุ่นแรก อายุเก่าแก่ประมาณ 300 ปี มีประวัติเล่าว่า ก่อนจะมาประดิษฐานที่วัดโคกขาม องค์พระเคยถูกลงรักปิดองค์จนดำตลอดทั้งตัวองค์พระ และนำไปซ่อนไว้ในสถานที่ลับเพื่อความปลอดภัย และรักที่ปิดองค์พระพุทธสิหิงค์ค่อยๆจางลงตามกาลเวลากว่า ทำให้เห็นเนื้อทองอย่างเด่นชัด พุทธศาสนิกชนชาวไทยจึงได้มีโอกาสสักการะพระพุทธสิหิงค์เพิ่มอีกหนึ่งองค์

นอกจากนี้วัดโคกขามยังเป็นที่เก็บโบราณวัตถุที่เกี่ยวพันกับพันท้ายนรสิงห์ไว้หลายอย่าง เช่น ชิ้นส่วนของเรือพระที่นั่งเอกชัย บุษบก และศาลเพียงตาเดิม การเดินทางมาที่วัดโคกขาม มีระยะทางจากตัวอำเภอเมือง 9 กิโลเมตร ตามถนนกิจมณี ข้ามคลองมหาชัย ไปทางวัดพันท้ายนรสิงห์ เลี้ยวซ้ายเข้าวัดพันท้ายนรสิงห์ไปประมาณ 3 กิโลเมตร หรือจะติดต่อเช่าเหมาเรือล่องคลองโคกขามจากท่าเรือตลาดสังวาล (ท่าเรือมหาชัย) หรือท่าเรือบ้านไร่ ก็ได้ ใช้เวลาล่องประมาณ 2-3 ชั่วโมง ราคาขึ้นอยู่กับขนาดเรือและสถานที่ที่ต้องการแวะชม



โรงเรียน “นาเกลือ” แหล่งเรียนรู้วิธีการทำนา

ระหว่างเส้นทางผ่านจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี เราจะเห็น นาเกลือขนาดกว้างใหญ่ไกลสุดตาไปถึงชายทะเล จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่มีการทำอาชีพนาเกลือมากที่สุดในประเทศไทย เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านและอาชีพดั้งเดิมที่สืบทอดกันมายาวนาน แต่ปัจจุบันเราจะเห็นผืนนาลดลงเพราะหนุ่มสาวสมัยใหม่ไม่ค่อยมีใครยึดอาชีพทำนาเกลือต่อจากรุ่นปู่ย่าตายายกันแล้ว อาจด้วยความเจริญทางอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ เพราะจังหวัดสมุทรสาครเป็นอีกจังหวัดที่มีโรงงานตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ๆ อีกทั้งปัจจุบันฝนไม่ตกตามฤดูกาล ทำให้คาดคะเนการทำนาเกลือได้ยากขึ้น เนื่องจากจะไม่มีการทำนาเกลือในฤดูฝน หากเกลือที่ตากไว้ถูกฝนหลงฤดูชะล้าง จะทำให้เกลือละลายและไม่สามารถตากซ้ำได้ จำเป็นต้องเริ่มต้นกรรมวิธีการทำใหม่ทั้งหมด

การทำนาเกลือแบบโบราณจะใช้เครื่องกังหันลมผันน้ำเข้านา ต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์สูบน้ำทะเลเข้านาเกลือแทนเพราะลมฟ้าอากาศไม่เอื้อต่อการใช้กังหัน แม้การใช้อุปกรณ์บางประเภทจะเปลี่ยนไป แต่กรรมวิธีการทำนาเกลือแบบโบราณยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ คือกรปล่อยน้ำทะเลในแปลงนา แล้วทิ้งให้น้ำระเหยจนกลายเป็นเม็ดเกลือ กรรมวิธีไม่ได้การผลิตเกลือสมุทรไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่มีอีกหลายขั้นตอน ใช้เวลา 1-2 เดือน ต่อการผลิตเกลือแต่ละครั้ง ทำวนไปจนกระทั่งเข้าฤดูฝนจึงหยุดการผลิต

สำหรับใครที่ต้องการศึกษาวิธีการทำนาเกลือแบบโบราณ สามารถชมการสาธิตการทำนาเกลือได้ที่ โรงเรียนนาเกลือ (ศูนย์การเรียนรู้การทำนาเกลือ) ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านสหกรณ์ เลขที่ 1 หมู่ที่ 3 ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เปิดทำการทุกวันและไม่เสียค่าใช้จ่าย โรงเรียนนาเกลือถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการทำนาเกลืออย่างละเอียดทุกขั้นตอน จัดแสดงเครื่องไม้เครื่องมือในแต่ละขั้นตอนการผลิต มีตัวอย่างเกลือแต่ละประเภท เช่น เกลือสมุทร 15 แดด เกลือสมุทร 10 แดด เกลือสมุทร 5 แดด เกลือตัวเมีย (เม็ดแบนเหลี่ยม) เกลือตัวผู้ (เม็ดยาวแหลม) ดอกเกลือ รวมไปถึงดินหนังหมา (ขี้แดดนาเกลือ) ซึ่งเป็นปุ๋ยธรรมชาติชั้นดีในการปลูกผลไม้ ทำให้ได้ผลผลิตสูงและเพิ่มรสหวานให้ผลไม้ มีป้ายเกร็ดความรู้ และมีเจ้าหน้าที่นำชม นอกจากนี้ยังสามารถทดลองลงมือปฏิบัติจริง ทดลองใช้อุปกรณ์ทำนาเกลือ หรือจะลองขับรถบดพื้นนาเพื่อเตรียมปรับหน้าดินก็ได้ ถ้ามาในช่วงเดือนมีนาคมสามารถขับต่อไปตามเส้นทาง Scenic Route จนถึง กม. 41 อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ชมเทศกาล Art of Salt ที่จัดขึ้นทุกปีได้อีกด้วย