ดูแลเด็ก ใน เชียงใหม่

ดูแลเด็ก ใน เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

นวพร ทัตตวุฒิคุณ
นวพร ทัตตวุฒิคุณ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

ดิฉันชื่อ นวพร ค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นแม่บ้านรายชั่วโมงค่ะ ด้วยความที่ต้องดูแลลูก ๆ 3 คนด้วยตนเองมาตลอดเลยทำให้ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับการดูแลบ้าน ดูแลลูก ๆ ค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าจะสามารถทำวามสะอาดบ้านของคุณได้อย่างดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยควรเลือกใช้บริการการเลี้ยงเด็กแบบใด พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว หรือเนอสเซอรี่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก วันนี้เรามาดูข้อดีขอเสียของพี่เลี้ยงเด็กกันค่ะ ทำไมต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก

1) พี่เลี้ยงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ หากคุณไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยเนื่องจากต้องทำงานนั้น พี่เลี้ยงเด็กคือทางออกของคุณค่ะ
2) หากคุณเลือกพี่เลี้ยงที่มีคุณสมบัติที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกของคุณได้ค่ะ
3) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณแบบใกล้ชิดมากกว่าส่งลูกเข้าศูนย์เลี้ยงเด็ก เพราะศูนย์เลี้ยงเด็กนั้นไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ แบบใกล้ชิดได้
4) พี่เลี้ยงสามารถยืดหยุ่นเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการทำงานของคุณได้
5) คุณไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่งลูกน้อยที่ศูนย์หากคุณจ้างพี่เลี้ยงมาที่บ้านเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณ
6) ลูกของคุณจะไม่ป่วยบ่อยเหมือนเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีเด็กมากกว่า20คน อาจจะเกิดความเสี่ยงติดโรคจากเพื่อน ๆ ได้
7) พี่เลี้ยงสามารถอยู่ดูแลลูกของคุณและเฝ้าบ้านของคุณได้หากในกรณีคุณกลับบ้านดึก
8) คุณสามารถบอกพี่เลี้ยงเด็กได้หากคุณต้องการให้พี่เลี้ยงมุ่งเน้นพัฒนาการของลูกคุณในด้านไหนเพราะพี่เลี้ยงของคุณจะดูแลเด็กแบบใกล้ชิด และมุ่งเน้นความสนใจให้ลูกของคุณ ต่างจากเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่ต้องเฉลี่ยดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียของพี่เลี้ยงเด็ก

1) ลูกของคุณอาจจะติดพี่เลี้ยงมากเกินไป
2) ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับศูนย์เลี้ยงเด็ก
3) คุณอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว

อย่างไรก็ดีข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กนั้นจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของคุณไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสักคน ใส่ใจมีบริการด้านนี้ค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

สะพานนวรัตน์ สะพานคู่เมืองเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติด้วยวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่งดงาม แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่ที่ขึ้นชื่อตามลำดับ (Bucket list) นอกจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดพระสิงห์ ถนนคนเดิน ถนนนิมมานเหมินทร์และประตูท่าแพแล้ว ยังมีชื่อของ สะพานนวรัฐ เป็นหนึ่งที่นักท่องเที่ยวรู้จักเพราะเป็นสะพานคู่เมืองเชียงใหม่ที่สร้างข้ามแม่น้ำปิงเป็นลำดับที่ 2

สะพานนวรัฐ เป็นสะพานสำคัญในการข้ามแม่น้ำปิงระหว่างฝั่งตะวันออกไปฝั่งตะวันตก และเป็นสถานที่ ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ (“งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ” จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี) ที่มีชื่อเสียง มีการประกวดพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ และมีขบวนรถบุปผชาติ ซึ่งได้ความร่วมมือจากทุก ๆ หน่วยงาน ทุกอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมกันจัดงาน

สะพานนวรัฐ ที่เห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นการสร้างครั้งที่ 3 สะพานนวรัฐอันแรกนั้น สร้างขึ้นมาในสมัยที่เมืองเชียงใหม่ยังใช้การคมนาคมทางน้ำ สะพานอันแรกสร้างขึ้นด้วยไม้สักล้วน (ประมาณปี พ.ศ.2440 – 2450) ซึ่งเป็นสะพานแบบมีคานยื่น โดยมีวิศวกรชาวอิตาเลียน ชื่อ เคานต์ โรเบอร์ตี้ นายปิแอร์ โอร์ต นักกฎหมายชาวเบลเยียมเดินทางมาเมืองเชียงใหม่และบันทึกเกี่ยวกับสะพานข้ามแม่น้ำปิงว่า "…เชียงใหม่ไม่ใช่เมืองเก่าแก่มากนัก (เมื่อเทียบกับเมืองในยุโรป) แบ่งออกเป็น 2 เขต แต่ละเขตมีกำแพงสูงราว 3-4 เมตร และมีป้อมสูงที่แต่ละมุมกำแพง ตัวเมืองตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ ส่วนบนฝั่งซ้ายก็มีอาคารสำคัญ ๆ ตั้งอยู่ มีสะพานไม้สวยงามทอดเชื่อมระหว่างสองฝั่งแม่น้ำ สะพานนี้มีเสา 14 ต้น ระหว่างที่ข้าพเจ้าพำนักอยู่ในเชียงใหม่สะพานนี้โยกคลอนเนื่องจากถูกท่อนไม้ซุงที่มากับกระแสน้ำดัน" สะพานนี้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำปิงที่เชียงใหม่แห่งแรกทำด้วยไม้สัก สร้างโดยนายชี้กหรือหมอชี้ก ราวปี พ.ศ. 2433 ใช้การต่อมาหลายสิบปีจนพังลง โดยชื่อ "นวรัฐ" ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์สุดท้ายโดยสร้างบนตอม่อไม้สัก 6 ตอม่อด้วยกัน โดยโครงส่วนบนสร้างด้วยไม้สักล้วนทำเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลมมีอยู่ 5 สมัยที่พระยาอนุบาลพายัพกิจ (พระยาอนุบาลพายัพกิจ (ปุ่น อาสนจินดา) เปลี่ยนสถานะจากปลัดมณฑลจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คนแรก) ได้รับแต่งตั้งไปรับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างทางต้องมาพักเตรียมตัวเดินทางในเมืองเชียงใหม่ได้บันทึกเกี่ยวกับสะพานนวรัฐ สะพานแห่งที่สองไว้ว่า "สะพานนวรัฐที่สร้างด้วยไม้นี้ ต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้สะพาน ทางราชการจึงสร้างสะพานเหล็กลำลองพอให้รถวิ่งข้าไปมาได้ เมื่อรถไฟมาถึงเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2464 จึงมีการรื้อสะพานไม้เดิมแล้วสร้างสะพานเหล็กขึ้นแทน" สะพานเหล็ก ถูกสร้างขึ้นทดแทนสะพานไม้สัก และเริ่มใช้งานในปี พ.ศ. 2466 จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2510 จึงรื้อสะพานเหล็กแล้วก่อสร้างเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขึ้นแทน โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2510 พร้อมกันกับสะพานเม็งรายอนุสรณ์ ส่วนโครงสร้างสะพานเหล็กที่ถูกรื้อไปแล้วนั้นภายหลังทางอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ขอชิ้นส่วนโครงสร้างสะพานทั้งหมดเพื่อนำมาประกอบใหม่ทดแทนสะพานแบบไม้เดิมที่เสียหายหนักจากเหตุการณ์อุทกภัย

สะพานนวรัฐ อยู่คู่เมืองเชียงใหม่เป็นเวลามายาวนานกว่า 100 ปี ด้วยคุณค่าของสะพานที่ใช้เป็นทางสัญจรของชาวเชียงใหม่ระหว่างฝั่งตะวันออกไปฝั่งตะวันตกได้สะดวกขึ้น



งาน “มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ”

เชียงใหม่ ดินแดนถิ่นไทยงาม ไม่เพียงแต่ด้านวัฒนธรรม วัดวาอารามที่สวยงาม ความสวยงามด้วยธรรมชาติ ความเขียวขจีของป่าเขาลำเนาไพร มวลดอกไม้นานาพันธุ์ ไปจนถึงน้ำตกที่ไม่เคยเหือดแห้ง และเป็นต้นน้ำลําธารของแม่น้ำสายสําคัญ และความงามตามธรรมชาติ จึงเกิดความคิดที่จะอนุรักษ์ความงามของธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ ชาวเชียงใหม่จึงได้ร่วมกันปลูกพันธุ์ไม้ในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อสร้างเชียงใหม่ให้เป็น “เมืองดอกไม้บานตลอดปี” เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีผลพลอยได้ไปถึงการส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกรได้อย่างสําคัญอีกอย่างหนึ่ง โดยได้กําหนดให้มีการจัดงาน “มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ” จนงานกลายเป็นงานประเพณีที่สําคัญอีกงานหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ และจัดต่อเนื่องสืบทอดทุกๆ ปี

โดยงานจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี บริเวณประตูสวนปรุงยาวไปถึงบริเวณสวนบวกหาด นอกจากมีการแสดงพันธุ์ไม้ ยังมีการประกวดพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ และมีขบวนรถบุปผชาติ ซึ่งทุก ๆ หน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่จะให้ความร่วมมือ โดยทุก ๆ อำเภอจะจัดขบวนรถบุปผชาติมาร่วมงาน แต่ละอำเภอก็จะเคลื่อนขบวนจากเชิงสะพานนวรัฐฝั่งทิศตะวันออก ผ่าน สะพานนวรัฐ เข้าสู่ถนนท่าแพ ต่อเนื่องไปยังถนนคชสาร ถนนราชเชียงแสน และถนนช่างหล่อ ก่อนจะไปสิ้นสุดขบวนที่สวนสาธารณะหนองบวกหาด

ยังมีกิจกรรมน่าสนใจอื่น ๆ ได้แก่ การประกวดนางงามบุปผชาติ และนางงามบุปผชาตินานาชาติในงานเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับ ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสจะได้เห็นถึงความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ ศิลปะและวัฒนธรรม รวมทั้งการแต่งกาย ไปจนถึงการละเล่นต่าง ๆ ของแต่ล่ะท้องถิ่น สร้างความตื่นตาตื่นใจ ในวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวเชียงใหม่ ซึ่งการจัดงานในทุก ๆ ครั้งจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวช่วงตรุษจีนจะเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก และก่อให้เกิดเงินรายได้สะพัดในจังหวัดเชียงใหม่หลายร้อยล้านบาทในทุก ๆ ปี

สำหรับการเดินทางมาที่จัดงานนั้น ใช้ถนนรอบคูเมืองเชียงใหม่ ขับมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือ แจ่งกู่เฮือง สวนสาธารณะหนองบวกหาดอยู่ตรงข้ามกับแจ่งกู่เฮือง ฝั่งด้านใน เพราะสวนสาธารณะไม่มีที่จอด

รถโดยสาร : จากกาดหลวง (ตลาดวโรรส) นั่งรถสาย B2 หรือ สาย 10 ลงหน้าสวน ค่ารถสาย B2 15 บาท และสาย 10 20 บาท หรือนั่งรถแดงจากตัวเมืองเชียงใหม่ ค่ารถคนละประมาณ 30 บาท



วิธีเลี้ยงลูกให้มีความสุข (อายุ 5 ถึง 8ขวบ)

อารมณ์ของเด็กอายุ 5 – 8 ขวบ จะซับซ้อนขึ้น แต่สัญญาณภายนอกที่บ่งบอกว่าเด็กมีความสุขหรือไม่มีความสุขก็อ่านได้ไม่ยาก โดยพ่อแม่ผู้ปกครองรวมถึงผู้ที่มีหน้าที่ดูแลเด็ก เช่น พี่เลี้ยงเด็กจะสามารถสังเกตได้ เช่น เด็กที่มีความสุขจะยิ้ม เล่น แสดงความอยากรู้อยากเห็น และเข้ากับเด็กคนอื่น ๆ ได้ ส่วนสัญญาณของเด็กที่ไม่มีความสุขนั้นก็ชัดเจน เช่น เงียบ เบื่ออาหาร ไม่เข้าไปพัวพันกับเด็กคนอื่น ไม่เล่น ไม่ถามคำถาม ไม่หัวเราะและยิ้ม แต่ถ้าเด็กเป็นคนขี้อายหรือชอบเก็บตัว ไม่หัวเราะหรือโต้ตอบมากนัก นั่นไม่ได้หมายความว่าเด็กไม่มีความสุข พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเข้าใจว่าความเขินอายไม่เหมือนกับความเศร้า

เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างเฉพาะตัว สิ่งที่จะช่วยให้พ่อแม่เข้าใจเด็ก คือการสังเกตพฤติกรรม หากเด็กมีความเปลี่ยนทางพฤติกรรมอย่างชัดเจนและรุนแรง เช่น รู้สึกโดดเดี่ยวหรือหวาดกลัวมากขึ้น นั้นเป็นสัญญาณที่พ่อแม่ต้องใส่ใจ เด็กที่ไม่มีความสุขจะขี้กลัวและโมโหง่าย เด็กบางคนเมื่อโกรธมาก ๆ จะแสดงออกด้วยความเศร้า นั้นหมายความว่าเด็กรู้สึกเป็นทุกข์เกินกว่าจะรับมือกับมันได้ เด็กจะมีวิธีการแสดงออกให้พ่อแม่เห็นและพ่อแม่ต้องเรียนรู้สัญญาณที่บ่งบอกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขา

ความสัมพันธ์ที่ดีของพ่อแม่กับเด็กเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสุขให้เด็กวัยนี้ เพราะพ่อแม่คือโลกทั้งใบของพวกเขา อย่าละเลยความรู้สึกของลูก เพื่อให้พวกเขาเติบโตด้วยความรัก ความเข้าใจ อย่างมีความสุข