ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ใน กะทู้, ภูเก็ต

ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ใน กะทู้, ภูเก็ต

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เจนจิรา  ชูเกิด
เจนจิรา ชูเกิด
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สามารถทำอาหารได้ทำอาหารเป็นปั่นได้ฟิตอาหารเป็นแซ็กชั่นได้

แสดงเพิ่มเติม
อติมา  สเล่ราษ
อติมา สเล่ราษ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

อายุ 30 ปีค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลค่ะ สามารถดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุได้ เป็นคนใจเย็น พูดเพราะ สุขภาพแข็งแรงดีค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ยุพาพร จันทศรี
ยุพาพร จันทศรี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ทำงานด้านนี้มามากกว่า5+++เคสธรรมดา+ติดเตียง+กายภาพเบื้องตนขับรถยนต์พาผู่ป่วยหาหมอ+เที่ยว

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

Saijai
ยังไม่มีข้อมูลการรีวิว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้

จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีคนเฝ้าไข้ผู้ป่วยตอนอยู่โรงพยาบาล
การที่ผู้ป่วยเข้ารับรักษาโรคในโรงพยาบาลและมีการเข้ารับรักษาเป็นผู้ป่วยใน (IPD : In Patient Department) แล้วนั้น การมีคนเฝ้าไข้ผู้ป่วยตอนอยู่โรงพยาบาลนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าสาเหตุการเข้ารับรักษาจะเกิดขึ้นเนื่องจากโรคประจำตัว เจ็บป่วยหนักจนต้องนอนโรงพยาบาล การเข้าผ่าตัด หรือการประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น แต่ละอาการอาจมีความรุนแรงแตกต่างกันไป ผู้ป่วยบางส่วนที่ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยหนักหรือร้ายแรงมากอาจยังพอสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง แต่สำหรับผู้ป่วยบางคนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากอาการข้างเคียงของยาที่ได้รับ หรือลักษณะความเจ็บป่วยของโรค การมีญาติหรือคนเฝ้า จะช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วยได้ เช่น พยุงไปห้องน้ำ ป้อนข้าว ซื้อของให้ และแจ้งแพทย์หรือพยาบาล หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติใด ๆ เพราะพยาบาลไม่ได้เฝ้าอยู่ดูอาการผู้ป่วยตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีคนเฝ้าไข้ที่คอยดูแล สังเกตอาการ เพื่อที่จะได้รักษาทันท่วงที

ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่มีญาติ ไม่มีผู้ที่สามารถเฝ้าไข้ตอนอยู่โรงพยาบาล หรือญาติจำเป็นต้องไปทำกิจธุระบางอย่างในช่วงเวลาหนึ่ง ทางเลือกที่น่าสนใจอีกทางหนึ่งคือ จ้างพยาบาลพิเศษเฝ้าไข้ผู้ป่วยนั้นเอง โดยในโรงพยาบาลทั่วไปมีบริการทางเลือกพิเศษนี้ให้แก่ผู้ป่วยในและญาติอยู่แล้ว แต่อัตราค่าบริการค่อนข้างสูง เพราะผู้ให้บริการเป็นพยาบาลวิชาชีพ แต่เนื่องจากผู้ป่วยยังอยู่ในโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ อาจไม่จำเป็นต้องจ้างพยาบาลวิชาชีพเสริม ตัวเลือกอีกแบบสำหรับการเฝ้าไข้ อาจเป็นบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรงและรักงาน อัตราค่าบริการจะถูกกว่าแบบแรก การใช้บริการทั้งสองแบบทำให้ครอบครัวของผู้ป่วยนั้นอุ่นใจว่าผู้ทำหน้าที่เฝ้าไข้และผู้ป่วยไม่ต้องอยู่ตามลำพัง
ก่อนทำการจ้างคนเฝ้าไข้ไม่ว่าจะเฝ้าที่บ้านหรือโรงพยาบาล คุณสมบัติของผู้เฝ้าไข้ถือเป็นสิ่งสำคัญ คุณสมบัติดังกล่าวมีอะไรบ้าง
ก่อนเลือกใครสักคนมาเป็นคนเฝ้าไข้ ให้กับคนในครอบครัวของเรา เราควรพิจารณาคุณสมบัติต่อไปนี้

1. ตรวจสอบหลักฐานไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชนหรือหลักฐานการผ่านงานต่าง ๆ เพื่อความมั่นใจว่าบุคคลที่เราจะจ้างมาเป็นคนเฝ้าไข้ไม่ว่าจะที่บ้านของเราเองหรือที่โรงพยาบาลมีความน่าเชื่อถือและไม่มีประวัติอาชญากรรมใด ๆ
2. ควรเป็นผู้ที่ไม่เสพสารเสพติดหรือของมึนเมาต่าง ๆ เพราะงานเฝ้าไข้นั้น นอกจากต้องคอยดูแลผู้ป่วยแล้วยังต้องคอยสังเกตอาการของผู้ป่วยอยู่ตลอดเวลา หากเป็นผู้ที่ไม่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนแล้วย่อมทำงานในลักษณะนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
3. เป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะและมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีความอดทนสูงและรักในงานบริการ เพราะต้องดูแลผู้ป่วยซึ่งอาจจะต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก
4. ควรผ่านการฝึกอบรมการดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น
5. เป็นคนรักสะอาด สามารถช่วยอาบน้ำเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนซักผ้าปูเตียง ปลอกหมอน ผ้าห่ม ให้คนไข้ได้
6. ควรเป็นผู้มีประสบการณ์ในการเฝ้าไข้มาก่อน เพื่อความคล่องตัวในการทำงานและผู้ว่าจ้างไม่ต้องเหนื่อยในการสอนงานมาก
7. เป็นบุคคลที่รู้จักการดูแลเอาใจใส่คนไข้ อารมณ์ดี ใจเย็น พูดคุยกับคนไข้ได้ดี และคอยหากิจกรรมต่าง ๆ ให้คนไข้ได้ทำอีกทั้งยังต้องช่วยสังเกตอาการเจ็บป่วยที่ผิดปกติเบื้องต้นของคนไข้ได้ โดยอาชีพนี้จะไม่เหมาะกับคนใจร้อน
อะไรคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่เป็นกังวลเมื่อต้องใช้บริการคนเฝ้าไข้ เราจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร
อะไรคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่เป็นกังวลเมื่อต้องใช้บริการคนเฝ้าไข้ คุณจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร

สิ่งที่กังวลอันดับแรกคือความเป็นมืออาชีพและประสบการณ์ แม้บางครั้งคนเฝ้าไข้อาจจะมีหน้าที่แค่อยู่เป็นเพื่อนคนไข้ขณะรักษาตัวในโรงพยาบาล ช่วยพยุงตัวเข้าห้องน้ำ หรือช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งดูเป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้ความชำนาญหรือประสบการณ์มากมาย แต่ในความเป็นจริงคนเฝ้าไข้ต้องตระหนักถึงหน้าที่ของตนและไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยคลาดสายตา เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดที่เป็นอันตรายกับผู้ป่วยได้ทุกขณะ ฉะนั้นการเลือกคนเฝ้าไข้ที่มีประสบการณ์ย่อมเข้าใจหน้าที่และรู้วิธีรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ จะทำให้ผู้ป่วยและครอบครัววางใจได้มากขึ้น
เมื่อต้องปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่กับคนเฝ้าไข้ตามลำพัง อาจทำให้กังวลใจเรื่องทรัพย์สินและความปลอดภัย กลัวว่าคนเฝ้าไข้จะลักขโมยของมีค่าหรือทำร้ายผู้ป่วย คนดูแลที่ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมถือเป็นตัวเลือกที่ทำให้คุณสบายใจได้ว่าคนดูแลไม่เคยทำผิดกฏหมาย หรือมีประวัติที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น

ความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ควบคุมไม่ได้ การจ้างงานโดยปากเปล่าหรือใช้สัญญาใจ ว่าจ้างผ่านคนใกล้ชิด คนรู้จัก หรือเพื่อนแนะนำมา อาจนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่ซ่อนไว้ เช่นเมื่อเจองานหนัก (ซึ่งจริงๆ แล้วอาจไม่หนัก) ขอเงินเพิ่ม ขอหยุดงาน เป็นต้น

การเลือกใช้ผู้บริการอยู่เป็นเพื่อนหรือรับจ้างอยู่บนเพื่อนผู้ป่วยบนแพลตฟอร์มใส่ใจ ท่านจะได้รับรู้ข้อมูลของผู้ให้บริการทั้งประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน และรีวิวความพอใจของผู้ใช้บริการก่อนหน้า และสามารถเลือกผู้ให้บริการที่ผ่านการตรวจสอบอาชญากรรม ระบุวันและเวลาทำงาน พร้อมคำนวณค่าบริการที่ชัดเจน ก่อนเริ่มงาน ใส่ใจยังมีฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ที่จะช่วยให้คำแนะนำในการที่เป็นประโยชน์ทั้งในการจองผ่านระบบและข้อมูลความรู้อื่น ๆ
ผู้ป่วยด้วยโรคประเภทใดที่ผู้ให้บริการบน Platform ของใส่ใจไม่รับดูแล
บน Platform ของใส่ใจ มีผู้ให้บริการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการป่วยต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดรวมไปถึงการดูแลเรื่องการช่วยทำกิจวัตรและอาหารการกินที่จัดเตรียมและปฏิบัติความคำแนะนำของแพทย์หรือความต้องการของตัวผู้จ้างอย่างเคร่งครัด ยกเว้นผู้ป่วยที่มีอาการเสี่ยงหรือมีอาการเป็นโรคติดต่อที่เสี่ยงมีอันตรายถึงแก่ชีวิต ดังต่อไปนี้

1. โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นตระกูลของไวรัสที่ก่อให้อาการป่วยตั้งแต่โรคไข้หวัดธรรมดาไปจนถึงโรคที่มีความรุนแรงมาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) และโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-CoV) เป็นต้น
2. โรคไข้ทรพิษ ไข้ทรพิษหรือฝีดาษเป็นโรคติดต่อร้ายแรง มีลักษณะเฉพาะคือมีผื่นขึ้นตามตัว ไข้สูง ปวดศีรษะ ชัก และอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน มีอัตราการเสียชีวิต 30% เกิดจากเชื้อไวรัส แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ ไข้ทรพิษชนิดร้ายแรง เกิดจากเชื้อ “วาริโอลา เมเจอร์” และไข้ทรพิษชนิดอ่อน ซึ่งมีความรุนแรงน้อยกว่าชนิดแรก เกิดจากเชื้อ “วาริโอลา ไมเนอร์”
3. โรควัณโรค เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมีหลายชนิด เชื้อที่พบบ่อยที่สุดและเป็นปัญหาในประเทศไทย คือ เชื้อ Mycobacterium tuberculosis วัณโรคเกิดได้ในทุกอวัยวะของร่างกาย ส่วนใหญ่มักเกิดที่ปอดพบร้อยละ 80 ส่วนวัณโรคนอกปอดเป็นผลมาจากการแพร่กระจายของการติดเชื้อไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้แก่ เยื่อหุ้มปอด ต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น

ผู้ให้บริการดูแลผู้ป่วยขอสงวนสิทธิ์ในการดูแลโรคข้างต้น รวมไปถึงโรคติดต่ออันตราย ทั้ง 12 โรคตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 คือ กาฬโรค ไข้ทรพิษ ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก ไข้เวสต์ไนล์ ไข้เหลือง ไข้ลาสซา โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส)อีกด้วย