ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ใน กำแพงแสน, นครปฐม

ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ใน กำแพงแสน, นครปฐม

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ใน กำแพงแสน, นครปฐม:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 35 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิดเลยค่ะ
Saijai
มารียา เสวตจนขจร
4 ปีที่แล้ว
ง่ายตั้งแต่ขั้นตอนการติดต่อหาคนดูแลเลยค่ะ ใส่ใจดูแลให้หมดทุกอย่างเลย แค่บอกว่าต้องการคนดูแลแบบไหนบ้าง ประทับใจมากค่ะ
Saijai
กมลชนก วิสุทธิสาร
4 ปีที่แล้ว
ผู้ดูแลคอยช่วยพูดให้กำลังใจ คอยดูแลเรื่องต่าง ๆ ให้ จนตอนนี้คุณพ่อกลับมายิ้มร่างเริงได้อีกครั้งแล้วค่ะ
Saijai
อนันตา ไวยากูล
4 ปีที่แล้ว
ความใส่ใจในรายละเอียดและเอาใจใส่ผู้ป่วย เป็นสิ่งที่เราประทับใจมากๆ ในช่วงที่ทุกคนในบ้านเป็นทุกข์ แต่เราได้ผู้ดูแลดูแลคุณพ่ออย่างดี ทำอาหาร ชำระร่างกาย ทำแผล และดูแลท่านตลอดเวลา ดูแลเหมือนญาติอีกคน
Saijai
เอนก วงศ์วาณิชย์
4 ปีที่แล้ว
เราว่าเว็บใส่ใจใช้งานง่าย ช่วยประหยัดเวลาในการนั่งส่งอีเมลหรือข้อความไปสอบถาม เพราะเราต้องการคนด่วนมาก ขอบคุณเว็บใส่ใจจริง ๆ ค่ะ ช่วยเราได้มากจริง ๆ
Saijai
วรรณา แก้วดี
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย

เราให้คำจำกัดความของผู้ป่วยระยะสุดท้ายว่าอย่างไรและมีจุดประสงค์อย่างไรในการดูแลผู้ป่วย
ผู้ป่วยระยะสุดท้าย มีความหมายครอบคลุมมากกว่าผู้ป่วยที่ใกล้จะเสียชีวิต ดังนี้

1. เป็นผู้ป่วยด้วยโรคที่รักษาไม่ได้หรือรักษาไม่หาย เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โดยผู้ป่วยบางคนจะต้องกินยาไปตลอดชีวิต
2. เป็นโรคที่ดำเนินมาถึงระยะท้ายของโรค เช่น โรคไต ที่รักษาโดยกินยาและคุมอาหารมาตลอด แต่เมื่อผ่านมาระยะหนึ่ง กินยาอย่างไรอาการก็ไม่ดีขึ้นจึงต้องเริ่มต้นทำการล้างไต แต่เมื่อมาถึงจุดที่ไม่สามารถล้างไตได้ จึงมาถึงจุดที่เข้าสู่การเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย
3. ผู้ป่วยที่มีเวลาเหลือไม่นาน เช่น ป่วยเป็นโรคมะเร็ง จากตอนแรกอาจพบมะเร็งที่สมอง เมื่อผ่านไปไม่นานกลับพบที่อวัยวะอื่น ๆ ตามมาด้วย อาจททำให้ผู้ป่วยมีชีวิตต่อไปอีกไม่นานเพราะโรคลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

ทางเลือกในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายมีดังนี้

• การดูแลผู้สูงอายุระยะสุดท้ายที่บ้าน ผู้ป่วยระยะสุดท้ายหลายคนเลือกใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านกับครอบครัว โดยให้แพทย์แนะนำขั้นตอนและวิธีการดูแลให้ นอกจากนี้ครอบครัวอาจจัดหาผู้ดูแลส่วนตัวมาช่วยดูแลผู้ป่วยเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างดีและถูกต้องเหมาะสม
• การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่สถานพยาบาล ผู้ป่วยบางรายอาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในช่วงสุดท้ายของชีวิตที่โรงพยาบาล เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่พิเศษเพื่อดูแลอาการป่วย จึงไม่สามารถรักษาตัวที่บ้านได้ แต่ถึงแม้ว่าจะต้องทำการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ครอบครัวญาติพี่น้องสามารถมาเยี่ยม ดูแล และให้กำลังใจผู้ป่วยได้ แต่อาจมีข้อจำกัดบ้าง เช่น ห้องผู้ป่วยวิกฤตหรือที่เรียกกันว่าห้องไอซียู ซึ่งผู้ที่มาเยี่ยมควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย
หากคุณกำลังมองหาผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย คุณสมบัติอะไรบ้างที่ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายควรมี
สําหรับ palliative care หรือ การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย จะเริ่มตั้งแต่ผู้ป่วยมีภาวะหรือโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยไม่ต้องคํานึงถึงว่าผู้ป่วยจะมีชีวิตเหลืออยู่อีกนานเท่าไหร่ นอกจากการดูแลรักษาทางกาย แล้วยังรวมถึงการดูแลรักษาทางจิตใจ สังคม และจิตวิญญาณเพื่อให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบ

คุณสมบัติของผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายมีอะไรบ้าง

ผู้ดูแลต้องเข้าใจถึงการดูแลเรื่องกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย ช่วยเหลือกิจกรรมทั่ว ๆ ไป สร้างแรงจูงใจให้ผู้ป่วย และช่วยเหลือด้านอารมณ์ไม่ให้เกิดความวิตกกังวลเกินไป ผู้ดูแลอาจใช้หลักความเชื่อของแต่ละศาสนา มาใช้ในการดูแลผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างสงบ
ผู้ที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายต้องเข้าใจ หลักการของ Palliative care ที่มีจุดมุ่งหมายคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว และแนวทางการดูแลผู้ป่วย มักมีความแตกต่างกันไปสําหรับผู้ป่วยแต่ละราย เปิดใจรับข้อมูลและการรับฟังและสื่อสารกับผู้ป่วยและครอบครัวของผู้ป่วย เรียนรู้ความต้องการหรือความปรารถนาที่แท้จริงของผู้ป่วยและครอบครัว
สำคัญที่สุด ผู้ที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายต้องได้รับการพัฒนาทักษะและความรู้ ในการดูแลผู้ป่วยในเรื่องที่จําเป็น มีความสามารถในการตัดสินใจ ติดต่อประสานงานได้ ไม่ตื่นตกใจ เพื่อแก้ปัญหาให้ถูกต้องเมื่อผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่ไม่สุขสบายหรือภาวะวิกฤติ และมีความสามารถดูแลสุขภาพกาย เพราะอาจต้องทำงานหนักและพักผ่อนน้อย ดูแลจิตใจของตนเองได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อทั้งตนเองและผู้ป่วย
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดที่เราจ้างมานั้นไว้ใจได้
การที่เราจะไว้ใจใครสักคนที่เราไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวหรือไม่ใช่คนในครอบครัวอาจเป็นเรื่องยาก ยิ่งถ้าต้องให้คนคนนั้น มาทำหน้าที่ดูแลใกล้ชิดสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย ยิ่งเป็นเรื่องที่ยากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเราต้องตัดสินใจว่าจ้างผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย เราต้องสอบถามประวัติส่วนตัว สอบถามถึงประวัติการทำงานที่ผ่านมา รวมถึงตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แต่นั่นยังไม่อาจยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าคนที่เราเลือกเป็นคนที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ ในส่วนของความซื่อสัตย์ที่ไม่ใช่แค่การไม่ลักขโมยหรือหยิบฉวยของมีค่า แต่รวมถึงการบอกกล่าวข้อมูลความจริงให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้รับรู้ สิ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติเบื้องต้นที่ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายพึงมี แต่ถ้าเราสามารถหา “บุคลากรวิชาชีพ” เช่น พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบําบัด นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักโภชนาการ มาดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้ถือเรื่องที่ดีและทำให้เราวางใจได้มากขึ้น เพราะบุคลากรเหล่านี้ผ่านการอบรมในการดูแลผู้ป่วย การใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เข้าใจถึงจิตบริการผู้ป่วยเป็นอย่างดี เช่น การสวนสายยางให้อาหาร หรือการให้ยาลดอาการเจ็บปวด เป็นต้น อีกทั้งบุคลากรเหล่านี้มีความเสามารถและทักษะเฉพาะด้าน ในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง สามารถเติมเต็มและตอบสนองต่อความต้องการความปรารถนาของผู้ป่วยและครอบครัวได้อย่างเหมาะสม การประสานบทบาทการดูแลผู้ป่วยร่วมกับผู้ดูแลที่เป็นญาติมิตรของผู้ป่วย และปรับเปลี่ยนตนเองให้ไปสู่บทบาทพี่เลี้ยงที่ต้องทำงานสองหน้าที่ควบคู่กันไป เพื่อสร้างความมั่นใจที่ จัดการกับสภาวะวิกฤติของผู้ป่วยได้
เรามีแนวทางสำหรับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายอย่างไร
เป้าหมายของการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายคือ ลดความทรมานของผู้ป่วย เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว และเมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ผู้ป่วยได้เสียชีวิตอย่างสงบ

แนวทางสำคัญในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายดังนี้

1. หลักการของ Palliative care ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว ให้การดูทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นการดูแลทั้งผู้ป่วยและครอบครัว หากคนใดคนหนึ่งในครอบครัวป่วยหนัก ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนอื่นๆ ในครอบครัวจะได้รับผลกระทบจากการเจ็บป่วยของผู้ป่วยไปด้วย
2. การรับฟังและสื่อสารกับผู้ป่วยและครอบครัวต้องเข้าใจความต้องการหรือความปรารถนาที่แท้จริงของผู้ป่วยและครอบครัว ผู้ป่วยและครอบครัวมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ข้อมูลของการเจ็บป่วย และให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องแนวทางการดูแล
3. ระลึกไว้เสมอว่าการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายนี้ ไม่ใช่เป็นการยื้อชีวิตของผู้ป่วยด้วยการใช้เครื่องมือและความรู้ทางการแพทย์ที่อาจทำให้ผู้ป่วยทรมานและบั่นทอนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ในขณะเดียวกันต้องไม่เป็นการเร่งหรือช่วยให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเร็วกว่าความเป็นไปของโรคตามธรรมชาติ การดูแลต้องให้ความสำคัญกับการสังเกตอาการของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอและจัดการบรรเทาอาการเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน