ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว

เมื่อเราจำเป็นต้องมีผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราวมาทำงานและอยู่ในบ้านเดียวกับเรา จะไว้ใจได้อย่างไรและควรใช้เกณฑ์อะไรในการคัดเลือก

1. คนดูแลผู้สูงอายุ ควรจะมีอายุอยู่ในวัยกลางคน คือ ไม่แก่ หรือ ไม่เด็กจนเกินไป หากเด็กเกินไป อาจจะมีวุฒิภาวะค่อนข้างต่ำ ไม่สามารถทนทำงานที่ต้องดูแลผู้สูงอายุที่เป็นงานละเอียดอ่อนและใช้ความอดทนค่อนข้างสูงได้ ถ้าอายุมากจนเกินไปจะไม่มีความคล่องตัวที่จะช่วยดูแลผู้สูงอายุเช่นกัน เช่น ช่วยพยุง ช่วยสวมใส่เสื้อผ้า หรือหากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นจะต้องช่วยพาไปโรงพยาบาลเป็นต้น
2. ตรวจสอบประวัติการทำงาน และประสบการณ์การทำงานก่อนที่จะตัดสินใจรับเข้าทำงาน เพื่อความไว้ใจและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแลในบางเวลา
3. หากเคยผ่านการอบรมการดูแลผู้สูงอายุมาโดยเฉพาะจะดีมากเพราะผู้สูงอายุบางท่านมีโรคประจำตัวที่ต้องดูแลเป็นพิเศษหากมีความรู้พื้นฐานเฉพาะทางมาก่อนจะดีมาก
4. มีใจรักในงานบริการและมีความอดทนสูง เพราะงานดูแลผู้สูงอายุเป็นงานที่ละเอียดอ่อนและต้องเข้าใจในตัวผู้สูงอายุเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือทางจิตใจ
5. ประเมินบุคลิกภาพของผู้ดูแลผู้สูงอายุ โดยพิจารณาจากการพูด ความสะอาดของการแต่งตัวและร่างกายโดยรวม เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลโดยรวมต่อผู้สูงอายุไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เนื่องจากต้องเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดผู้สูงอายุมากที่สุด

วัยที่สูงขึ้นผู้สูงอายุของทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ผู้สูงอายุทุกคนต้องการความรักความเอาใจใส่จากคนใกล้ชิด คนในครอบครัวโดยเฉพาะลูกหลานควรให้เวลาดูแลเพื่อให้ท่านไม่รู้สึกเหงาและซึมเศร้า แต่ด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านทำให้ไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง เลยต้องจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ โดยอัตราค่าจ้างผู้ดูแลจะแตกต่างกันไปตามความรู้และประสบการณ์ สำหรับอัตราค่าจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราวโดยทั่วไป สำหรับพยาบาลวิชาชีพมีอัตราค่าจ้างอยู่ที่ประมาณ 1,600 – 2,500 บาท ต่อเวร เวรของพยาบาล นับเป็น เช้า บ่าย ดึก เวรละ 8 ชั่วโมง 8.00-16.00., 16.00-24.00, 24.00-8.00. ส่วนผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ไม่ใช่พยาบาล แต่ผ่านการอบรมมีวุฒิบัตรรับรอง อัตราค่าจ้างสำหรับไป-กลับ ใช้เวลาทำงานประมาณ 12 ชั่วโมง จะอยู่ที่ วันละ 1,200-1,600 บาท (อัตราจ้างในกรุงเทพและต่างจังหวัดอาจมีราคาแตกต่างกัน) ซึ่งผู้ดูแลที่ผ่านการอบรมการดูแลผู้สูงอายุ มีความเข้าใจและมีจิตบริการ สามารถมาช่วยดูแลผู้สูงอายุได้ตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง เช่น ดูแลกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุ เช่น การรับประทานอาหาร การนอนหลับพักผ่อน การเคลื่อนย้าย การขับถ่าย ให้ถูกสุขลักษณะ อาบน้ำ เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า พูดคุยกับผู้สูงอายุ ให้ท่านเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมที่คุ้นเคย เป็นต้น อีกทั้งดูแลทางการแพทย์เบื้องต้น เช่น จัดยา ป้อนอาหาร ดูดเสมหะ พลิกตะแคงตัวเพื่อป้องกันแผลกดทับ นวดหรือทำกายภาพบำบัดเบื้องต้น ตามความจำเป็นของผู้สูงอายุแต่ละท่าน

จุดเริ่มต้นของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านและการจ้างพี่เลี้ยงหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุรายวันมาดูแลผู้สูงอายุ ต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นในการดูแลผู้สูงอายุไว้ในบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ โดยมีต้องอุปกรณ์ เช่น

• อุปกรณ์พยุงเดิน (walker) สำหรับผู้สูงอายุที่ยังพอเดินได้ หรือแม้แต่ยังเดินได้คล่องแคล่วแต่ไม่ควรประมาท เพราะความอ่อนล้าอาจเกิดขึ้นได้เสมอ
• หากเป็นผู้สูงอายุที่ติดเตียงหรือต้องบนเตียงเป็นส่วนใหญ่ เบาะที่นอนลมหรือที่นอนนุ่ม ๆ เพื่อช่วยลดปัญหาการกดทับ
• รถเข็นผู้ป่วย หากผู้สูงอายุไม่สะดวกที่จะเดินในระยะทางไกล ๆ รถเข็นเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุ รวมไปถึงให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุพา ผู้สูงอายุออกไปเดินเปลี่ยน บรรยากาศ
• ชุดทำความสะอาดแผล (หน้ากากทางการแพทย์ สำลีพันปลายไม้ ผ้าปิดแผล ยาที่ใช้ทาแผล ถุงมือเพื่อลดการสัมผัสตรงกับผิวหนัง) สิ่งเหล่านี้ครอบครัวสามารถจัดหาได้ไม่ยาก แต่หากเป็นอุปกรณ์ ทางการแพทย์ หรืออุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงอายุเป็นพิเศษ การจะต้องยืมจากโรงพยาบาล (ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลพิจารณา) หรือ ที่ทำการสาธารณสุข ญาติสามารถทำจดหมายยืมตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งอาจมีอุปกรณ์เช่น อุปกรณ์ออกซิเจนชนิดถัง เตียงนอนที่สามารถปรับระดับได้ หรือเครื่องดูดเสมหะถ้าจำเป็น
• อุปกรณ์ทำอาหาร แล้วแต่กรณีของผู้สูงอายุ ถ้าต้องให้อาหารทางสายยาง ต้องเตรียมเครื่องปั่นอาหารไว้ด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นแค่อุปกรณ์เบื้องต้นที่ครอบครัวต้องเตรียมไว้ให้ผู้ดูแลสำหรับการดูแลผู้สูงอายุในแต่ละวัน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้สูงอายุจะอยู่อย่างมีความสุขและปลอดภัย