พี่เลี้ยงสองภาษา ใน ชลบุรี

พี่เลี้ยงสองภาษา ใน ชลบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ผมกับสองคนภรรยาตกลงกันว่าจะปูพื้นฐานภาษาอังกฤษ ให้ลูกก่อนเข้าโรงเรียน เลยเริ่มหาข้อมูลเปรียบเทียบ ทำให้รู้ว่า ค่าใช้จ่ายในการจ้างพี่เลี้ยงสองภาษาไม่มากอย่างที่คิด จนเจอข้อมูลของใส่ใจ เลยเปลี่ยนพี่เลี้ยงมาเป็นพี่เลี้ยงฟิลิปินส์ ดีมากครับ ค่าใช้จ่ายพี่เลี้ยงไทย กับ ฟิลิปปินส์ พอพอ กัน
Saijai
ไกรวพันธุ์ สุขสถิตย์
อีก 26 ปี
ถ้าเทียบกับค่าจ้างพี่เลี้ยงสองภาษาที่อื่นแล้ว ใส่ใจมีหลากหลายราคาและหลากหลายตัวเลือกเลยค่ะ พี่เลี้ยงสองภาษาที่จ้างมาก็ถือว่าคุ้มค่ากับการจ้างด้วยค่ะ
Saijai
ฑิฆัมพร สุขโข
3 ปีที่แล้ว
มีสามีชาวต่างชาติ แต่ไม่มีเวลาดูแลลูกกันทั้งคู่ เราเลยมองหาพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ จะได้คุยกับสามีเรารู้เรื่องและคุยกับลูกเราเป็นภาษาอังกฤษด้วย ตอนแรกพยามหาพี่เลี้ยงผ่านคนรู้จักก็ยังหาคนไม่ได้ สุดท้ายหาเองผ่านอินเตอร์เน็ต เจอกับเว็บใส่ใจ สะดวกสบายมากรับรองว่าจะแนะนำให้เพื่อน ๆ มาใช้บริการด้วยแน่นอนค่ะ
Saijai
ชัชฏาพร ฮอฟฟอร์ด
3 ปีที่แล้ว
เพราะอยากให้ลูกได้ภาษา คุณพ่อบ้านนี้เลยพูดอังกฤษกับลูกๆ ค่ะ แถมจ้างพี่เลี้ยงที่พูดภาษาอังกฤษเป็นด้วย เน้นสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเป็นหลัก หาแนนนี่คุณสมบัติตามนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ในทีสุดเราก็เจอเพราะอยากให้ลูกได้ภาษาคนนี้ผ่านเว็บใส่ใจ ตรงใจ ถูกใจที่สุดค่ะ
Saijai
วันดี ดริ้งวอร์เตอร์
3 ปีที่แล้ว
เราเจอพี่เลี้ยงเด็กชาวฟิลิปปินส์ผ่านเว็บไซต์ใส่ใจค่ะ มีความรับผิดชอบในงานสูง ตอนนี้เราจ้างมาแล้ว 2 เดือน ลูกได้ซึมซับภาษาอังกฤษทุกวัน คุ้มค่ากับการจ้างมาก ๆ คุณแม่คนไหนสนใจก็ลองหาดูที่เว็บใส่ใจนะคะ
Saijai
ศรีรัตน์ พุ่มเงิน
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงสองภาษา

เหตุผลที่คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาหากต้องการให้ลูกพูดภาษาที่ 2 ได้
พ่อแม่ส่วนใหญ่ต้องการให้ลูกของตนเองมีพัฒนาการการเจริญเติบโตรอบด้านและสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งนอกจากพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และสังคมแล้ว พัฒนาการทางด้านภาษาถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นหากต้องการให้ลูกของคุณพูดภาษาที่ 2 ได้ การเลือกจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษานับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

เหตุผลที่คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกจ้างพี่เลี้ยงสองภาษานั้นมีดังต่อไปนี้

1. สามารถส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาให้กับลูกน้อยของคุณได้ตั้งแต่ยังเยาว์วัย โดยปกติแล้วเด็กในช่วงอายุ 2-5 ปี มีพัฒนาการทางด้านภาษาเร็วที่สุด เด็กสามารถจดจำคำศัพท์จากสิ่งรอบตัว และการพูดคุยกับคนใกล้ชิด หากมีพี่เลี้ยงสองภาษาสอนคำศัพท์และพยายามพูดคุยกับเด็กโดยการใช้ภาษาที่สองอยู่บ่อย ๆ เมื่อเด็กได้ยินซ้ำ ๆ จะจดจำ เข้าใจและพูดภาษาที่สองได้อย่างถูกต้อง
2. การที่เด็กอยู่กับพี่เลี้ยงสองภาษาถือเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านภาษาล่วงหน้าให้เด็กก่อนถึงวัยที่ต้องเข้าเรียนไปในตัว เนื่องจากพี่เลี้ยงที่พยายามสื่อสารกับเด็กโดยการใช้ภาษาที่สองในทุก ๆ วัน ทำให้เด็กเกิดความเคยชิน เมื่อถึงวัยที่ต้องเข้าเรียน แน่นอนว่าโรงเรียนมีหลักสูตรวิชาภาษาที่สอง เช่นภาษาอังกฤษ ดังนั้น เด็กที่เคยได้ซึมซับภาษาอังกฤษตอนอยู่กับพี่เลี้ยงจะสามารถทำความเข้าใจในคำศัพท์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีความเคยชินในการฟังและพูดคุยสื่อสารกับพี่เลี้ยงมาก่อนหน้านี้แล้ว
3. การจ้างพี่เลี้ยงต่างชาติทำให้ครอบครัวและเด็กได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แปลกใหม่ผ่านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน เช่น พี่เลี้ยงสามารถสอนเด็กเรื่องความหลากหลายของเชื้อชาติและวัฒนธรรม (Race & Culture Diversity) ที่มีมากมายในสังคมเพื่อให้เด็กได้เปิดโลกกว้างมากขึ้นและยอมรับในความแตกต่าง และจะช่วยสร้างความเคารพซึ่งกันและกันได้ดีขึ้นด้วย
ค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาสูงกว่าพี่เลี้ยงเด็กทั่วไปหรือไม่
ในยุคปัจจุบันที่อาชีพพี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาด ยิ่งเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่มีคุณสมบัติเป็นพี่เลี้ยงแบบสองภาษา ซึ่งถือว่าเป็นคุณสมบัติเพิ่มเติมพิเศษจากพี่เลี้ยงเด็กแบบธรรมดา ยังมีจำนวนไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับความต้องการ ทำให้อัตราค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาสูงกว่าพี่เลี้ยงเด็กโดยทั่วไป หากพี่เลี้ยงเด็กสามารถสื่อสารได้หลายภาษาหรือมากกว่าสองภาษายิ่งทำให้อัตราค่าจ้างเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย

พ่อแม่ผู้ปกครองที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะภาษาที่สองและมีความพร้อมด้านเศรษฐกิจ จึงยินดีที่จะจ่ายค่าตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษามาทำหน้าที่ดูแล เลี้ยงดูลูก เพราะวัยเด็กเป็นวัยที่สามารถเรียนรู้ภาษาได้เร็ว ยิ่งพ่อแม่เริ่มปลูกฝัง เลี้ยงดู หรือปูพื้นฐานให้มีวิธีการประมวลความคิดความเข้าใจแบบสองภาษาเร็วเท่าใด จะยิ่งเพิ่มพัฒนาการที่ดีในด้านภาษาให้ลูกได้เร็วขึ้นเท่านั้น

ภาษาบนโลกใบนี้มีหลากหลายและมีรูปแบบแตกต่างกันออกไป การที่เด็กสามารถคนหนึ่งสามารถสื่อสารได้หลากหลายภาษายิ่งเป็นประโยชน์และถือเป็นข้อได้เปรียบในการใช้ชีวิตในอนาคตของเด็กคนนั้น และผู้ที่จะมีอิทธิพลต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็กนอกเหนือจากพ่อแม่ ครอบครัว หรือโรงเรียนแล้ว พี่เลี้ยงเด็กที่ต้องอยู่กับเด็กแทบตลอดเวลาถือเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาของเด็ก
พี่เลี้ยงสองภาษาควรมีวิธีการอย่างไรเพื่อส่งเสริมเด็กให้พูดภาษาที่สองได้
คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการส่งเสริมเด็กให้พูดภาษาที่สองได้สำหรับพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาหรือสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองมีดังต่อไปนี้

1. พยายามเสริมสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ โดยหมั่นใช้ พูดคุยสื่อสารกับเด็กด้วยภาษาที่สองควบคู่ไปกับภาษาหลักอย่างเป็นประจำ และสม่ำเสมอ อาจชวนคุย เพื่อส่งเสริมให้เด็กคุ้นเคย และชินกับการสื่อสารสองภาษารวมทั้งรูปแบบการจัดรูปแบบประโยค การออกเสียง และสำเนียงในการพูด เด็กนั้นมีคุณลักษณะและความสามารถในการประมวลและแยกความแตกต่างของภาษาและเสียงได้เป็นอย่างดี ยิ่งพี่เลี้ยงพูดคุยหรือใช้ภาษาเหล่านั้นเป็นประจำจะยิ่งส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของเด็ก และเพิ่มความสามารถทางสติปัญญาของเด็ก
2. ด้วยความสะดวกสบายของเทคโนโลยีและนวัตกรรมการสื่อสาร พี่เลี้ยงควรสรรหารายการการ์ตูน หรือวิดีโอจากยูทูป (YouTube) ที่มีการพากย์เสียงเป็นภาษาต่าง ๆ เพลงกล่อมเด็ก หรือการ์ตูนอนิเมชั่น กิจกรรมเหล่านี้เป็นการเพิ่มความสนุกสนาน และทำให้เด็กเรียนรู้ และจดจำภาษาไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งหมดนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของพี่เลี้ยงเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เด็กใช้สื่อตามลำพังและเป็นเวลานานเกินไป เพราะส่งผลเสียต่อสายตาและสมาธิ
3. หากิจกรรมร้องเพลง หรือเต้นรำเพื่อเป็นการผ่อนคลายและ เรียนรู้ภาษาไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ชื่นชอบกิจกรรมนันทนาการแบบนี้อยู่แล้วจึงไม่เป็นการยากที่พี่เลี้ยงจะชักชวนให้เด็กทำกิจกรรม
4. เสริมสร้างทักษะ ด้วยสื่อการสอนทางภาษา กิจกรรม หรือเกมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น เกมต่อคำ (Scrabble หรือ Criss-Crosswords) อาจจะใช้บัตรคำ การ์ดเกมคำศัพท์ หรือหนังสือภาพสอนคำศัพท์ หรือหนังสือสอนภาษาสำหรับเด็ก โดยสื่อเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ เสริมสร้างทักษะทางภาษา และ สร้างความเพลิดเพลินให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็กกับพี่เลี้ยงด้วย
สิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กสองภาษามีอะไรบ้าง
สิ่งที่พ่อแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงสองภาษาในรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. รายละเอียดเรื่องวันทำงาน ระยะเวลาในการทำงานแต่ละวัน วันหยุดมีกี่วันต่อปี จำนวนเด็กที่ต้องดูแลในครอบครัวนั้น ระยะเวลาการจ้างงาน
2. ตกลงอัตราค่าจ้างในการทำงาน รวมถึงอัตราค่าจ้างในการทำงานล่วงเวลาหรือในวันพิเศษอื่น ๆ ถ้ามี
3. ตกลงและทำความเข้าใจเรื่องรายละเอียดงาน เวลานอน เวลาทานนมหรืออาหารของเด็ก เพราะในหลายกรณีคุณพ่อคุณแม่อาจมีกำหนดตารางเวลาของกิจวัตรประจำวันที่ต้องการรักษาไว้อยู่แล้ว รวมทั้งต้องตกลงเกี่ยวกับความรับผิดชอบในหน้าที่อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการเลี้ยงดูลูกของท่าน เช่นพ่อแม่บางท่านอาจต้องการให้พี่เลี้ยงดูแลรับผิดชอบการทำความสะอาดบ้าน การทำหรือปรุงอาหารด้วย เป็นต้น
4. ตกลงหรือแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบถึงพฤติกรรมที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องการ หรือไม่ต้องการให้พี่เลี้ยงปฏิบัติต่อลูกของท่าน ซึ่งแต่ละครอบครัวนั้นอาจมีพฤติกรรม หรือแนวทางการเลี้ยงที่แตกต่างกันไป เช่นบางครอบครัวอาจอนุญาตให้ลูกเล่นบนพื้นดิน หรือทรายนอกบ้านได้ แต่บางครอบครัวอาจไม่ บางครอบครัวอาจอนุญาตให้ลูกเล่นกับสัตว์เลี้ยงเช่นน้องหมาหรือแมวได้ เป็นต้น โดยพี่เลี้ยงจะต้องรับทราบถึงรสนิยม หรือลักษณะการเลี้ยงดูที่พึงประสงค์ของแต่ละครอบครัวที่แตกต่างกันออกไปนี้
5. แนวคิดการสอนหรือระดับภาษาที่พ่อแม่ผู้ปกครองคาดหวัง หรือต้องการให้พี่เลี้ยงสอนลูกได้ เช่น บางครอบครัวคุณอาจให้ลูกเรียกพ่อแม่ หรือคุณพ่อคุณแม่ บางครอบครัวใช้คำว่ากินข้าวแต่บางครอบครัวต้องใช้คำว่ารับประทานอาหาร จะต้องไม่มีการพูดคำหยาบคายให้ลูกคุณได้ยิน เป็นต้น
6. พ่อแม่ควรตกลงเรื่องการวัดผลการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ และมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดว่าเด็กมีพัฒนาการการเรียนรู้ทางภาษาแบบสองภาษาตามเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่

โดยข้อตกลงที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นเพียงข้อตกลงมาตรฐาน แต่ละครอบครัวอาจมีความแตกต่าง หรือมีส่วนอื่นเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละครอบครัว แต่สิ่งที่สำคัญและเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายข้อตกลงทั้งหมดนี้ควรทำกันเป็นสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร