วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมาบ้างค่ะ ปิดเทอมซัมเมอร์เลยอยากออกหาประสบการณ์เพราะโดยส่วนตัวรักเด็กค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง คณะภาษาจีนธุรกิจ อังกฤษ-จีน สมามารถฟังพูดอ่านเขียนได้ค่ะ
I have some Au pair experience. I want to gain more my Au pair experience in summer and personally I love children. Now I’m studying at Mae Fah Luang university in major of Business Chinese. In my English and Chinese language skills, able to listen, speak, read and write.
我有一些互惠生的经验。 我想在夏天获得更多我的互惠生经验,我个人喜欢孩子。 现在我在Mae Fah Luang大学学习商务中文专业。 在我的英语和汉语能力方面,能够听、说、读、写。
จบปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต เอกคอมพิวเตอร์
มีประสบการณ์การเลี้ยงเด็ก มีลูก 3 คน เลี้ยงลูกเอง
สามารถ ฟัง พูด อ่านเขียน ภาษาอังกฤษได้ดี
เคยทำงานโรงแรมแผนกกีฬาและสันทนาการ อยู่ห้องเด็ก นำเด็กทำกิจกรรมต่างๆ เคยทำงานโรงเรียนนานาชาติ เป็นผู้ช่วยครูบรรณารักษ์ ดูแลเด็กและอ่านนิทานให้เด็กฟัง ผ่านการอบรมการดูแลเด็ก และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นคนคล่องแคว่ง ว่องไว รักษาความสะอาด
สวัสดีค่ะ ดิฉันขื่อนางสาวภัทรวรรณ กลิ่นเพ็ชร อายุ 23 ปี ค่ะ มีประสบการณ์ในการเป็นพี่เลี้ยงติวเตอร์ให้แก่เด็ก 3,4 และ 9 ปีระยะเวลาในการทำงานเกือบจะ 2 ปีค่ะ โดยหน้าที่หลักๆแล้วจะช่วยซัพพอร์ทน้องๆในเรื่องการเรียนและทำกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการร่วมกับน้อง ไม่ว่าจะเป็น สอนการบ้านและมารยาททางสังคม วาดรูป ประดิษฐ์ ฝึกกล้ามเนื้อมือ และพาน้องออกไปทำกิจกรรมเรียนรู้ข้างนอกบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการดูแลความปลอดภัย เตรียมอาหาร เก็บของเล่น และพาอาบน้ำอีกด้วยค่ะ โดยนิสัยส่วนตัวของดิฉันนั้น เป็นคนใจเย็น สดใสร่าเริง ตรงต่อเวลา และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตัวเองสูงค่ะ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงสองภาษา
มีบทสัมภาษณ์ของคุณพ่อคุณแม่ที่มีประสบการณ์จ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษามาดูแลลูกได้กล่าวไว้ว่า “เดิมที่คุณแม่จะสื่อสารภาษาอังกฤษกับลูก แต่เมื่อคุณแม่ต้องไปทำงานจึงมองหาพี่เลี้ยงที่พูดภาษาอังกฤษมาดูแล พี่เลี้ยงมีวุฒิการศึกษาดีทีเดียว มีประสบการณ์ ใช้เวลาไม่นาน ลูกและพี่เลี้ยงปรับตัวเข้าหากันได้ เวลาเราสื่อสารจะใช้ภาษาอังกฤษกับพี่เลี้ยง ทำให้ทุกคนในบ้านได้ฝึกไปด้วย คราวนี้สนุกกันไปลูกมีพัฒนาการภาษาที่ดีมีความสุข พี่เลี้ยงทำงานบ้านได้นิดหน่อย ไม่ใช่ปัญหาเพราะเป้าหมายคือพัฒนาการทางภาษาของลูก ในค่าใช้จ่ายที่เกือบเท่ากันกับแม่บ้านไทยแต่ลูกและครอบครัวได้ภาษาเพิ่มขึ้น”
เราจะไม่รู้สึกว่าจ่ายแพงเลยถ้าสิ่งที่ได้มาคุ้มค่าตามที่ตั้งใจไว้
1. พยายามเสริมสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ โดยหมั่นใช้ พูดคุยสื่อสารกับเด็กด้วยภาษาที่สองควบคู่ไปกับภาษาหลักอย่างเป็นประจำ และสม่ำเสมอ อาจชวนคุย เพื่อส่งเสริมให้เด็กคุ้นเคย และชินกับการสื่อสารสองภาษารวมทั้งรูปแบบการจัดรูปแบบประโยค การออกเสียง และสำเนียงในการพูด เด็กนั้นมีคุณลักษณะและความสามารถในการประมวลและแยกความแตกต่างของภาษาและเสียงได้เป็นอย่างดี ยิ่งพี่เลี้ยงพูดคุยหรือใช้ภาษาเหล่านั้นเป็นประจำจะยิ่งส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของเด็ก และเพิ่มความสามารถทางสติปัญญาของเด็ก
2. ด้วยความสะดวกสบายของเทคโนโลยีและนวัตกรรมการสื่อสาร พี่เลี้ยงควรสรรหารายการการ์ตูน หรือวิดีโอจากยูทูป (YouTube) ที่มีการพากย์เสียงเป็นภาษาต่าง ๆ เพลงกล่อมเด็ก หรือการ์ตูนอนิเมชั่น กิจกรรมเหล่านี้เป็นการเพิ่มความสนุกสนาน และทำให้เด็กเรียนรู้ และจดจำภาษาไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งหมดนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของพี่เลี้ยงเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เด็กใช้สื่อตามลำพังและเป็นเวลานานเกินไป เพราะส่งผลเสียต่อสายตาและสมาธิ
3. หากิจกรรมร้องเพลง หรือเต้นรำเพื่อเป็นการผ่อนคลายและ เรียนรู้ภาษาไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ชื่นชอบกิจกรรมนันทนาการแบบนี้อยู่แล้วจึงไม่เป็นการยากที่พี่เลี้ยงจะชักชวนให้เด็กทำกิจกรรม
4. เสริมสร้างทักษะ ด้วยสื่อการสอนทางภาษา กิจกรรม หรือเกมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น เกมต่อคำ (Scrabble หรือ Criss-Crosswords) อาจจะใช้บัตรคำ การ์ดเกมคำศัพท์ หรือหนังสือภาพสอนคำศัพท์ หรือหนังสือสอนภาษาสำหรับเด็ก โดยสื่อเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ เสริมสร้างทักษะทางภาษา และ สร้างความเพลิดเพลินให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็กกับพี่เลี้ยงด้วย
คุณพ่อคุณแม่ควรทำการตกลงกับพี่เลี้ยงในเรื่องใดบ้าง
1. เด็กอยู่ในวัยลอกเลียนแบบซึมซับพฤติกรรม ดังนั้นบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยของพี่เลี้ยงสำคัญมากบางครั้งพี่เลี้ยงที่ต่างวัฒนธรรม อาจมีบุคลิกและการแสดงออกที่ต่างออกไป เราควรตกลงว่าพี่เลี้ยงควรแสดงพฤติกรรมกับลูกว่าอย่างไรบ้าง พี่เลี้ยงควรมีพื้นฐานเป็นคนอารมณ์ดี ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทน และมีความเข้าใจเรื่องเด็ก การใช้คำพูด คำศัพท์ที่เหมาะสมตามวัย
2.พูดคุยเรื่องการรักษาความสะอาด สุขอนามัย และระเบียบวินัยภายในบ้านกับพี่เลี้ยง เพื่อสุขอนามัยของลูกวัฒนธรรมที่แตกต่าง หรือประสบการณ์ที่แตกต่าง บางครั้งต้องคุยกับพี่เลี้ยงให้เข้าใจ เพื่อจะได้คอยดูแลสภาพแวดล้อมรอบตัวให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของเด็กอย่างปลอดภัย
3.แบ่งหน้าที่ทำงานให้ชัดเจน พี่เลี้ยงมาช่วยไม่ได้มารับผิดชอบทั้งหมดถ้างานหนักไปอาจทำให้การดูแลลูกไม่เต็มที่หรือทำงานภายใต้แรงกดดัน ดังนั้นตกลงเรื่องเงินเดือนและหน้าที่รับผิดชอบให้พี่เลี้ยงเข้าใจตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อลดปัญหาภายหน้า
4.กำหนดกติกาสิ่งที่ลูกทำได้หรือไม่ได้ให้พี่เลี้ยงทราบอย่างชัดเจน เช่น พี่เลี้ยงไม่ควรปล่อยเด็กให้ดูโทรทัศน์นาน ๆ เพราะมีผลต่อสมาธิและพัฒนาการของลูก พี่เลี้ยงไม่ควรตามใจให้เด็กรับประทานขนมหวานมากเกินไป เป็นต้น คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับพี่เรื่องให้เรื่องเหล่านี้กับพี่เลี้ยงก่อนเริ่มงาน
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง