พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ใน ดอยสะเก็ด, เชียงใหม่

พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ใน ดอยสะเก็ด, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เราต้องไปต่างจังหวัดหลายวัน แล้วนกแก้วมาคอว์ที่เลี้ยงไว้ดันมามีอาการแปลก ๆ ตอนเราไม่อยู่ โชคดีที่พี่เลี้ยงช่วยดูแลหายา และมาดูแลจนน้องกลับมาเป็นปกติเลยครับ อยากขอบคุณพี่เลี้ยงมาก ๆ ครับ
Saijai
ณัฐภัทร ดวงดี
3 ปีที่แล้ว
บริการดีมาก เคยใช้บริการให้ช่วยดูแลน้องหมาตอนเราไม่อยู่ ดูแลครบทุกอย่างเลยจริง ๆ ไม่นึกว่าจะดูแลให้ถึงขั้นอาบน้ำและตัดเล็บน้องให้ด้วย ชอบมาก ๆ เลยครับ
Saijai
ศุภสินทร์ จงวิภาส
4 ปีที่แล้ว
ประทับใจที่ดูแลน้องดี สะอาด มีของเล่น เล่นกับน้อง
Saijai
สุภัสสรา รัศมีงาม
4 ปีที่แล้ว
ติดต่อหาพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลเจ้าตูบจากเว็บใส่ใจโดยตรงเลยค่ะ ขั้นตอนง่ายและรวดเร็วมาก ๆ แค่กรอกข้อมูล กด ๆ เลือกตัวเลือกที่ต้องการ รอไม่นานก็ได้คนดูแลเจ้าตูบที่บ้านเลยค่า
Saijai
ชนิดา มิ่งขวัญ
4 ปีที่แล้ว
เคยจ้างพี่เลี้ยงจากที่อื่นมาแล้วก่อนหน้านี้ ค่าจ้างค่อนข้างแพง จนมาเจอตัวเลือกที่เว็บไซต์ใส่ใจ ราคาก็อยู่ในระดับพอดีไม่สูงเกินไป พี่เลี้ยงก็สามารถดูแลได้อย่างดีเลยครับ แถมพี่เลี้ยงยังมีความรู้เกี่ยวกับสุนัขพันธุ์ขนาดใหญ่เยอะมากช่วยให้คำแนะนำในการดูแลสุนัขกับผมได้มากเลยครับ
Saijai
สันติ คงภักดี
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรดูแลสัตว์เลี้ยงด้านใดบ้าง
รักสัตว์ ไม่อยากให้เขาต้องถูกกักขังหรือไม่อยากให้เขาต้องเปลี่ยนที่อยู่ ไปอยู่ในกรงแคบ ๆ หรืออยู่กับเพื่อนแปลกหน้า บางที่อาจจะรับฝากสัตว์หลายชนิด เช่น มีทั้งสุนัขและแมว อยู่ในที่เดียวกันแต่ขังกรงไว้แยกกัน ทำให้สัตว์เลี้ยงของเราเกิดความกังวลใจ รู้สึกไม่ปลอดภัย สุดท้ายคนที่รู้สึกแย่และรู้สึกไม่ดี ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่เจ้าของที่อาจจะทุกข์ใจมากกว่า คนที่มีสัตว์เลี้ยงจะเข้าใจถึงความรู้สึกนี้มากที่สุด ดังนั้น อาชีพพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจึงเกิดขึ้น

หน้าที่และบทบาทของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีอะไรกันบ้างมาดูกันค่ะ

1. พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถมาดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ถึงบ้าน เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเราได้อยู่ในบ้านโดยไม่ต้องขังกรง หรือว่าง่ายๆ ก็คือ อยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมที่คุ้นเคย ไม่ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า เพราะแค่ไม่มีเจ้าของอยู่ใกล้ๆ เขาก็เศร้ามากพอแล้ว อย่างน้อยหากสัตว์เลี้ยงยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม ย่อมดีต่อสัตว์เลี้ยงมากที่สุด
2. คอยส่งภาพถ่ายของสัตว์เลี้ยงแสนรักให้เจ้าของได้อัปเดตอยู่ตลอดเวลา เจ้าของมีความสบายใจไม่ต้องคอยกังวลว่าสัตว์เลี้ยงจะเป็นอย่างไร มีความสุขดีไหมเวลาที่เจ้าของไม่อยู่ดูแล
3. คนที่มาทำอาชีพพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงส่วนมากจะเป็นคนที่รักสัตว์อยู่แล้ว และส่วนมากจะมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสัตว์เป็นอย่างดี เจ้าของสามารถไว้วางใจได้ว่าหากสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติ พี่เลี้ยงจะสังเกตอาการได้ทันที ทำให้สัตว์ปลอดภัยเพราะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
บริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเชื่อถือได้หรือไม่
หากจะฝากสัตว์เลี้ยงแสนรักไว้กับใครสักคน เราจะไว้ใจเขาได้อย่างไร วันนี้มีคำแนะนำมาบอกค่ะ

1) คัดกรองคนก่อนรับเข้าทำงาน เราจะต้องทราบรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับคนที่เราจะเลือกมาทำหน้าที่ “พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง” ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน หรืออาจจะต้องตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่าว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงคนนี้มีการทำงานเป็นอย่างไร
2) ต้องทำการคุยและสัมภาษณ์พี่เลี้ยงก่อนทำการจ้างงาน ลองทดสอบโดยให้อยู่กับสัตว์เลี้ยงหรือสร้างสถานการณ์ขึ้นมาแล้วให้พี่เลี้ยงตอบว่าหากเจอเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้จะต้องทำอย่างไร รวมทั้งทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสัตว์ว่ามีเพียงพอหรือไม่ ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และการดูแลใส่ใจ การเลือกอาหารอีกทั้งการความสะอาดด้วย แม้ว่าการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีความรู้ และมีประสบการณ์อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการจ้างคนที่ไม่มีประสบการณ์ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าและลดความเสี่ยงที่สัตว์เลี้ยงจะไม่ปลอดภัยได้
3) นิสัยใจคอ ควรพิจารณานิสัยส่วนตัวของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ดี โดยทำการสังเกตไม่ว่าจะเป็นการพูด การแสดงออกเมื่ออยู่กับสัตว์ ที่สำคัญควรจะเป็นบุคคลที่ใจเย็น ไม่หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย เพราะการดูแลสัตว์หากไม่มีใจรักแล้วย่อมจะทำงานได้ยาก

จากคำแนะนำดังกล่าวข้างต้น เราจะไว้ใจพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้หรือไม่ เริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลือกคนเข้ามาทำงานนี้ อีกวิธีที่สามารถช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงวางใจได้ก็คือ การติดกล้องวงจรปิดไว้ในบ้าน เพื่อคอยหมั่นตรวจสอบพฤติกรรมของทั้งสัตว์เลี้ยงและพี่เลี้ยงไปในตัว
ค่าบริการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงครั้งละเท่าไหร่
การให้สัตว์เลี้ยงของคุณอยู่กับพี่เลี้ยงนั้น ไม่ว่าจะเป็นการฝากที่โรงพยาบาลสัตว์ หรือจ้างกับพี่เลี้ยงที่รับเลี้ยงโดยตรง สามารถช่วยคลายความกังวลของคุณได้ เพราะสัตว์เลี้ยงของคุณจะได้รับการดูแลอย่างดี และมีกิจกรรมคลายเหงาให้สัตว์เลี้ยงหลายอย่าง รวมถึงการได้กินอาหารอย่างแน่นอน

ปัจจัยที่่ส่งผลต่ออัตราค่าบริการดูแลสัตว์เลี้ยงมีดังนี้

1. ชนิดของสัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงมีหลายชนิดด้วยกัน ทั้งสุนัข แมว กระต่ายเป็นต้น ราคาในการจ้างดูแลก็จะแตกต่างกันออกไป และสัตว์บางสายพันธุ์ที่ต้องการ การดูแลเฉพาะ หรือสายพันธุ์ที่ราคาแพง ค่าจ้างก็จะแพงตามไปด้วย ทั้งนี้เกิดจากความต้องการของเจ้าของ ที่อยากให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดแสนแพง ได้รับการดูแลที่ดีที่สุด
2. อัตราการคิดค่าจ้างส่วนใหญ่คิดโดยน้ำหนัก โดยเฉพาะสัตว์ประเภทสุนัข และแมว เริ่มต้นที่น้ำหนักน้อยกว่า 4 กิโลกรัม ราคาจะอยู่ที่80-100 บาท ไปจนถึงน้ำหนัก 55-60 กิโลกรัม ราคาจะอยู่ที่ 500-550 บาท ทั้งนี้ราคาสามารถปรับขึ้นลงได้ตามความเหมาะสม
3. สุขภาพของสัตว์เลี้ยง หากสัตว์เลี้ยงของคุณเกิดอาการป่วย ขณะฝากเลี้ยง หรือก่อนทำการฝากเลี้ยง จะต้องจ่ายค่ายา ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้ค่าดูแลอาจคิดเพิ่มเติม ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงของคุณต้องการ การดูแลเฉพาะ หรือดูแลแยกจากสัตว์อื่น ๆ
4. ลักษณะการดูแล หากเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องการ ให้สัตว์เลี้ยงของตนได้รับการดูแลแบบส่วนตัว ด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น ป้องกันการติดเชื้อจากสัตว์ตัวอื่น หรือสัตว์เลี้ยงของตนเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงตัวอื่นหากเลี้ยงด้วยกัน ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้น เพราะต้องเตรียมสถานที่แยก และดูแลพิเศษกว่าสัตว์ตัวอื่น ๆ

ดังนั้นราคาที่ทางใส่ใจประเมินค่าจ้างพี่เลี้ยงรายชั่วโมงจะอยู่ที่ประมาณ 150-200 ต่อชั่วโมง หรือหากจ้างเป็นรายวันอาจจะอยู่ในราคา 250-400 บาทต่อวัน หรือหากต้องการเป็นรายเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 7,000-12,000 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดและความยากง่ายในการเลี้ยงดูของสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภทอีกด้วย
เราจะรู้ได้อย่างไรมาสัตว์เลี้ยงของเรานั้นมีน้ำหนักเกินเกณฑ์
หลาย ๆ คนที่เลี้ยงสัตว์อาจชอบซื้อขนมจุกจิกให้สัตว์เลี้ยงแสนรักกินเล่นอยู่บ่อย ๆ หรือบางครั้งอาจมานั่งมองเวลาที่เรากำลังกินอาหารอยู่ด้วยสายตาที่ต้องการกินอาหารเหล่านั้นด้วย จึงทำให้เราเกิดความสงสารและต้องแบ่งอาหารให้พวกมันกินในที่สุด แต่หากพวกมันกินเยอะจนน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ เพราะสัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ปกติอาจทำให้มีโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคกระดูกและข้อ โรคหัวใจและหลอดเลือด ฯลฯ ซึ่งคงไม่ดีแน่หากพวกมันเป็นโรคเหล่านี้ เพราะเจ้าของอาจจะต้องพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาอยู่บ่อย ๆ

สัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐานนั้นอาจเกิดจากสาเหตุที่พวกมันได้รับการเผาผลาญพลังงานในร่างกายไม่สมดุลกับสิ่งที่ได้กินไปในแต่ละครั้งนั่นเอง บางครั้งอาจเกิดจากพันธุกรรม อายุ หรือแม้กระทั่งสาเหตุจากการทำหมันด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงมีน้ำหนักที่เกินเกณฑ์ เจ้าของควรให้สัตว์เลี้ยงได้ออกกำลังกายเพื่อเป็นการเผาผลาญพลังงานด้วย พยายามหากิจกรรมง่าย ๆ ทำเช่น ฝึกให้สัตว์เลี้ยงวิ่งไปเก็บของเล่น หรืออาจพาไปเดินเล่นออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีก็ถือว่าช่วยได้มากเลยทีเดียว และที่สำคัญคือเจ้าของควรควบคุมอาหารที่ต้องให้สัตว์เลี้ยงกินในแต่ละวันในสัดส่วนที่เหมาะสมด้วย และหมั่นชั่งน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงอยู่บ่อย ๆ เพื่อตรวจสอบดูว่าพวกมันมีน้ำหนักที่เกินเกณฑ์หรือไม่ หากมีน้ำหนักที่เกินกว่ามาตรฐานก็ควรรีบหาวิธีแก้ไขโดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคที่จะส่งผลต่อสุขภาพและชีวิตของสัตว์เลี้ยงได้