พี่เลี้ยงเด็ก ใน ชลบุรี

พี่เลี้ยงเด็ก ใน ชลบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เราหาพี่เลี้ยงจากเว็บไซต์ใส่ใจ พี่เลี้ยงคนนี้น่าประทับใจมาก รู้งานดีทุกอย่าง เราแทบไม่ต้องบอกอะไรเลย
Saijai
สุดารัตน์ ไกรภพ
3 ปีที่แล้ว
ตอนแรกก็แอบกังวลว่าพี่เลี้ยงจะไว้ใจได้มั้ย แต่พอเข้าไปดูโปรไฟล์ของพี่เลี้ยงบนหน้าเว็บไซต์ใส่ใจ พี่เลี้ยงหลายคนมีประสบการณ์ในการดูแลเด็ก บางคนเคยผ่านการฝึกอบบรมการดูแลเด็กมาแล้ว ทำให้เรารู้สึกหายเป็นห่วงไปได้ในระดับหนึ่ง เพื่อความสบายใจเราเลือกคนที่ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชกรรมมาแล้ว หายห่วงเลยครับ และที่สำคัญขั้นตอนการใช้งานของเว็บไซต์ไม่ยุ่งยากครับ เพียงแค่มีมือถือเครื่องเดียวก็จ้างพี่เลี้ยงได้ครับ
Saijai
อนุชา ไตรรัตน์
3 ปีที่แล้ว
ทำงานแถวลาดกระบังค่ะ ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน เลยมองหาพี่เลี้ยงไว้ก่อนจากหลาย ๆ ที่ จนเจอพี่เลี้ยงบนใส่ใจ พี่เลี้ยงมีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กมาก่อนแล้ว ยังมีความรู้ด้านการพยาบาลเบี้องต้น ที่สำคัญคือราคาไม่เกินจากงบประมาณที่เราตั้งไว้ ถูกใจที่สุดเลยครับ
Saijai
สนั่นพงษ์ ทองสาริกา
3 ปีที่แล้ว
ตอนแรกนี่คิดว่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กจากที่ไหนก็เหมือน ๆ กัน แต่เว็บใส่ใจมีพี่เลี้ยงให้เลือกเยอะมาก ลองดูเปรรียบเทียบกันหลาย ๆ คน จนเลือกคนที่มีคะแนนรีวิวดี ไม่ผิดหวังค่ะ ทำงานดีอย่างที่รีวิวไว้จริง ๆ
Saijai
พิมพ์นารา หล่อกูล
3 ปีที่แล้ว
ย้ายที่ทำงานจากพระโขนงมาอยู่แถวบางแค นอกจากจะยุ่ง ๆ เรื่องย้ายที่อยู่แล้วยังวุ่นวายเรื่องหาพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่อีก นั่ง search หาใน google อยู่หลายวัน มาลงตัวที่เว็บใส่ใจ เพราะใช้งานง่าย มีตัวเลือกให้เยอะ ทั้งพี่เลี้ยงแบบรายวันและรายเดือน มีคุณสมบัติของพี่เลี้ยงให้เลือกตามที่เราต้องการด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ ครบจบในเว็บเดียวเลยจริง ๆ ค่ะ
Saijai
วราภรณ์ รังสรรค์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กมีหน้าที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้อย่างไรบ้าง
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า สมองของเด็กมีการเจริญเติบโตสูงสุดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จนถึง 3 ขวบ คิดเป็นร้อยละ 85 หรือ 85% ของกระบวนการพัฒนาทั้งหมด ดังนั้นการกระตุ้นสมองเด็กด้วยวิธีการที่เหมาะสมตั้งแต่เล็ก ๆ จึงสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้สมองของเด็กได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ

นอกจากคุณพ่อคุณแม่แล้ว เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพี่เลี้ยงเด็กที่มีความรู้และสามารถจะส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ ได้เพราะ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ เด็กต้องเรียนรู้และพัฒนาการกับพี่เลี้ยงเด็ก เด็ก ๆ รู้จักการเล่นตั้งแต่เล็กและพัฒนาการเล่นมากขึ้นตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน การเล่นจะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสอย่างต่อเนื่อง เป็นส่วนสำคัญของพัฒนาการด้านต่าง ๆ เด็ก ๆ ควรได้ทำกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยเพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ สร้างเสริมประสบการณ์ และช่วยพัฒนาสมองของพวกเขา พี่เลี้ยงเด็กมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ วันที่ใช้เวลาอยู่กับเด็ก

พี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์จะมีความเข้าใจในธรรมชาติของเด็กมากกว่า พี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถสื่อสาร รับรู้อารมณ์ มีความอ่อนอ่อนโยน ใจเย็น และมีมารยาทที่ดี เพราะสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กได้ เช่น พูดเพราะ ไม่ก้าวร้าว รักความสะอาด รู้จักความต้องการของเด็กและตอบสนองได้ถูกต้อง พี่เลี้ยงมีความช่างสังเกต สามารถรายงานพฤติกรรมของเด็กให้พ่อแม่ทราบ และหากเด็กมีอาการเจ็บป่วยพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถดูแลหรือแจ้งคุณแม่อย่างเร็วที่สุด ต้องไว้ใจได้ว่าลับหลังเราแล้ว เขาจะไม่ได้ทอดทิ้งหรือทำร้ายเด็กทั้งทางร่างกายหรือจิตใจ

ท้ายที่สุดความทรงจำความประทับใจแรก ๆ ที่เกิดกับบุคคลที่ไม่ใช่พ่อแม่ก็คือพี่เลี้ยงเด็ก ที่สามารถส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก เล่นกับเด็กตามพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงอายุได้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรให้ความสำคัญ ในการเลือกพี่เลี้ยงเด็กมาดูแล เป็นพัฒนาการควบคู่กับการดูแลของพ่อและแม่
วิธีการที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เลือกพี่เลี้ยงเด็กที่ไว้ใจได้มีอะไรบ้าง
ในปัจจุบันเราได้รับรู้ข่าวสารที่ไม่ดีเกี่ยวกับพี่เลี้ยงเด็กอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับพ่อแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กเพื่อมาดูแลลูกน้อยอยู่มากพอสมควร ใส่ใจขอนำเสนอวิธีการเลือกพี่เลี้ยงเด็กที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจให้ดูแลลูกน้อยของคุณได้ ดังนี้

1. ปรึกษาหารือกันระหว่างสมาชิกภายในบ้านก่อน ว่าอยากได้พี่เลี้ยงแบบไหน การเลือกพี่เลี้ยงที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคง และมีทักษะในการดูแลเด็กเล็กจะสามารถช่วยให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี
2. ลองสอบถามจากคนใกล้ชิดว่ารู้จักหรือพอจะแนะนำใครเพื่อมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้หรือไม่ เพราะการแนะนำโดยคนรู้จักย่อมมีความน่าเชื่อถือมากกว่าประกาศหาในสื่อออนไลน์อยู่แล้ว
3. ตรวจสอบประวัติของพี่เลี้ยงเด็กให้แน่ชัด ไม่ว่าจะเป็นประวัติทางด้านการศึกษา และประวัติการทำงาน ที่สำคัญพ่อแม่ควรตรวจสอบว่าพี่เลี้ยงที่จะจ้างมานั้นไม่ได้เป็นบุคคลที่เข้าข่ายเป็นผู้เคยกระทำความผิดทางกฎหมายใด ๆ มาก่อน เพื่อความปลอดภัยต่อลูกน้อยของคุณ
4. พ่อแม่ควรสัมภาษณ์และลองพูดคุยกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนทำการจ้าง เช่น อาจสอบถามถึงประสบการณ์ของพี่เลี้ยงเด็กว่ามีมากน้อยแค่ไหน หรือคุ้นเคยกับการดูแลเด็กในช่วงอายุใดบ้าง เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของพ่อแม่มากที่สุด
5. พ่อแม่ควรให้พี่เลี้ยงทดลองงานดูก่อน โดยให้พี่เลี้ยงลองปฏิบัติงานที่บ้าน แล้วดูว่าพี่เลี้ยงสามารถเข้ากับเด็กได้หรือไม่ มีวิธีการดูแลหรือแก้ไขปัญหาต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีแค่ไหน เพื่อให้มั่นใจว่าพี่เลี้ยงจะสามารถดูแลเด็กได้จริง ๆ

การเลือกพี่เลี้ยงเด็กนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะพี่เลี้ยงเด็กคือบุคคลที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเด็กตลอดเวลาในยามที่พ่อแม่ไม่อยู่ เพราะฉะนั้น การได้พี่เลี้ยงเด็กที่มีความน่าเชื่อถือจะสามารถช่วยคลายความกังวลให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้เยอะเลยทีเดียว
คุณพ่อคุณแม่ควรถามอะไรพี่เลี้ยงเด็กก่อนตัดสินใจเลือกพี่เลี้ยงให้กับลูกของคุณ
ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจเลือกพี่เลี้ยงเด็กให้กับลูกของคุณนั้น การนัดเจอพี่เลี้ยงเพื่อสัมภาษณ์และพูดคุยกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนจะยิ่งช่วยให้ทุกอย่างนั้นตรงต่อความต้องการของพ่อแม่มากยิ่งขึ้น โดยในระหว่างการสัมภาษณ์นั้นพ่อแม่ควรเลือกถามคำถามที่จะช่วยให้เข้าถึงตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กได้มากที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นผลดีในการคัดเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดให้ลูกน้อยของคุณนั่นเอง ใส่ใจขอแนะนำแนวคำถามที่คุณพ่อคุณแม่ควรถามขณะทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก ดังนี้

1. พ่อแม่ควรถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของพี่เลี้ยง เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ งานอดิเรก ไปจนถึงความสามารถในการดูแลกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ให้เด็ก เช่น การทำอาหาร การอาบน้ำให้เด็ก การพาเด็กเข้านอน เป็นต้น
2. ถามเกี่ยวกับประสบการณ์ในอดีต พ่อแม่อาจถามพี่เลี้ยงเด็กว่าเคยเป็นพี่เลี้ยงเด็กมานานกี่ปี เคยรับดูแลเด็กมาแล้วกี่ครอบครัว ในขณะเดียวกันพ่อแม่อาจขอให้พี่เลี้ยงเล่าถึงประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เคยพบเจอมากับการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก และถามว่าผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้อย่างไร
3. คำถามเกี่ยวกับการรับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉินของพี่เลี้ยงเด็ก เช่น ถามว่าพี่เลี้ยงเด็กเคยมีประสบการณ์ในการรับมือกับภาวะฉุกเฉินบ้างหรือไม่ เมื่อเกิดปัญหา หรือมีเหตุด่วนเหตุร้ายเกิดขึ้น พี่เลี้ยงจะสามารถติดต่อใครเพื่อขอความช่วยเหลือได้บ้าง เป็นต้น
4. ถามเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่พี่เลี้ยงเด็กสามารถทำร่วมกันกับเด็ก ได้ในยามว่าง พ่อแม่อาจลองยกตัวอย่างสถานการณ์มา เช่น หากอยากให้เด็กหลีกเลี่ยงการจับโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต พี่เลี้ยงจะชวนเด็กทำกิจกรรมใดแทน เป็นต้น ทั้งหมดนี้คือแนวคำถามที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปถามพี่เลี้ยงเด็กขณะทำการสัมภาษณ์ได้ โดยระหว่างการสัมภาษณ์นั้นควรทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่ายและไม่กดดันเกิดไป เพื่อให้พี่เลี้ยงเด็กรู้สึกผ่อนคลายและสามารถบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างเป็นตัวเองมากขึ้น ซึ่งโอกาสที่พ่อแม่จะเข้าถึงตัวตนของพี่เลี้ยงก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน
พี่เลี้ยงที่รับเลี้ยงเด็กที่บ้านควรมีกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กหรือไม่
ในกรณีที่พ่อแม่มีความจำเป็นต้องใช้บริการฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงเด็กถือเป็นอีกบุคคลที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก โดยเฉพาะวัยทารกและในช่วง 1-5 ปีแรก พ่อแม่ควรแน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยตามช่วงวัยที่เหมาะสมในทุก ๆ ด้านดังนี้

1. พัฒนาการทางด้านร่างกาย
2. พัฒนาการด้านสติปัญญา
3. พัฒนาการด้านภาษา
4. พัฒนาการด้านสังคม
5. พัฒนาการด้านอารมณ์

โดยส่วนใหญ่การรับเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยงจะมีเด็กที่อายุต่างกันอยู่ร่วมกัน พี่เลี้ยงต้องเข้าใจความแตกต่างของช่วงวัยไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย สติปัญญาและอารมณ์ พี่เลี้ยงต้องมีกิจกรรมที่เด็กต่างวัยสามารถทำร่วมกันได้ อาจจะเป็นไปในเชิงมอบหมายให้เด็กที่โตกว่ารับผิดชอบงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นเก็บของเล่นให้เป็นระเบียบ สอนให้รู้จักแบ่งปัน ดูแลเด็กที่เล็กกว่า ช่วยปลอบโยนเวลาที่น้องงอแง และสอนให้เด็กเล็กรู้จักเชื่อฟังและเคารพผู้อื่น โดยทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด พี่เลี้ยงสามารถสอนให้เด็กที่โตอ่านหนังสือนิทานง่ายๆ หรือให้เล่าเรื่องจากภาพ แล้วผลัดกันแสดงบทบาทตามเรื่องราวและให้เด็กทุกคนมีส่วนร่วมอย่างสมวัย เมื่อเป็นเช่นนั้นเด็กจะได้เรียนรู้การปรับตัวเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น เคารพกฎกติกา กล้าแสดงออก และมีน้ำใจต่อผู้อื่น ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการส่งเสริมพัฒนาให้เด็กแต่ละวัยได้เป็นอย่างดี