พี่เลี้ยงเด็ก ใน กำแพงแสน, นครปฐม

พี่เลี้ยงเด็ก ใน กำแพงแสน, นครปฐม

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการพี่เลี้ยงเด็ก ใน กำแพงแสน, นครปฐม:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เราหาพี่เลี้ยงจากเว็บไซต์ใส่ใจ พี่เลี้ยงคนนี้น่าประทับใจมาก รู้งานดีทุกอย่าง เราแทบไม่ต้องบอกอะไรเลย
Saijai
สุดารัตน์ ไกรภพ
4 ปีที่แล้ว
ประทับใจตรงที่บริการพี่เลี้ยงเด็กแต่ละประเภทมีหลากหลายราคาให้เปรียบเทียบและเลือกตัดสินใจเลยค่ะ ที่สำคัญไม่แพงด้วย
Saijai
กรรณิการ์ รัตนเดชานุวัฒน์
4 ปีที่แล้ว
หลังจากที่จ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน ช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่ไปได้เยอะเลย พี่เลี้ยงดูแลเด็กเป็นอย่างดี ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูก ๆ ตอนนี้ลูกของเราเริ่มท่อง ก-ฮ นับเลข ได้แล้ว
Saijai
กาญจนา ชัยบัณฑิต
4 ปีที่แล้ว
ตัวเว็บใช้งานง่ายมากครับ เป็นขั้นตอนเลยเริ่มตั้งแต่เลือกบริการ เช็คโปรไฟล์แม่บ้านพร้อมคุณสมบัติต่าง ๆ ไม่เข้าใจตรงไหนก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย รู้สึกสะดวกมากครับ
Saijai
ปฐวี เลิศศรีไชย
4 ปีที่แล้ว
ครอบครัวเราย้ายจากเชียงใหม่มาทำงานที่กรุงเทพ ต้องหาคนช่วยดูแลลูก เลยหาใน Google แล้วได้เจอเว็บไซต์ใส่ใจ เราลองโพสต์โพสต์ประกาศหาพี่เลี้ยงเด็ก ไม่นานก็ได้รับข้อมูลของคนที่สนใจทำงานนี้ ระบบนัดสัมภาษณ์ของใส่ใจใช้ง่าย เราได้คุยพี่เลี้ยงเด็กหลายคนจนเจอคนที่เราคิดว่าใช่ ตอนนี้ที่บ้านแฮปปี้มากค่ะ
Saijai
นิด้า ไชบรรจง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงเด็ก

หน้าที่ของพี่เลี้ยงเด็กมีอะไรบ้างเพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่สมวัย
สำหรับพ่อแม่นั้น พัฒนาการของเด็กเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงวัยทารกและช่วง 5-6 ปีแรก เนื่องจากในช่วงระยะเวลานี้เป็นช่วงที่เด็กจะเรียนรู้และซึมซับจากสภาพแวดล้อมรอบข้างได้รวดเร็วที่สุด แม้ว่าพ่อแม่ทุกคนจะอยากใช้เวลาในแต่ละวันอยู่กับลูก ๆ ของตนเองให้มากที่สุดก็ตาม แต่ด้วยภาระหน้าที่และเหตุจำเป็นบางอย่างที่ส่งผลให้ไม่สามารถทำแบบที่ต้องการได้ พ่อแม่ในสมัยนี้จึงเลือกฝากฝังความรับผิดชอบให้กับพี่เลี้ยงเด็กแทน

พี่เลี้ยงเด็กจึงถือว่าเป็นอีกบุคคลสำคัญต่อพัฒนาการการเจริญเติบโตของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และพัฒนาการทางด้านอื่น ๆ อีกมากมาย หนึ่งในหน้าที่สำคัญของพี่เลี้ยงเด็กคือต้องสามารถให้ความรัก ความอบอุ่นแทนพ่อแม่เด็กได้เป็นอย่างดี พี่เลี้ยงเด็กควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กโดยการพูดและปฏิบัติต่อเด็กอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน เด็กจะซึมซับและจดจำพฤติกรรมเหล่านี้ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเด็กเอง

ในขณะเดียวกัน พี่เลี้ยงเด็กควรคอยสังเกตและช่วยเหลือในการปฏิบัติกิจวัตรประจำต่าง ๆ ของเด็ก พร้อมกับเปิดโอกาสให้เด็กลองทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองเพื่อเป็นการเสริมสร้างทักษะในการช่วยเหลือตนเองของเด็กด้วยเช่นกัน เป็นที่ทราบกันว่าสมองของเด็กวัยแรกเกิดจนถึงหกปีจะมีการเจริญเติบโตมากที่สุด การทำกิจกรรมยามว่างร่วมกับเด็กถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่สมวัยของเด็กได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น พูดคุย ร้องเพลง เล่นเกม เล่านิทาน ฯลฯ กิจกรรมเหล่านี้สามารถช่วยส่งเสริมทักษะทางร่างกาย สติปัญญา และทางจิตใจให้กับเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้น พี่เลี้ยงเด็กควรให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้เพื่อช่วยส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่สมวัยนั่นเอง
วิธีการสังเกตว่าพี่เลี้ยงเด็กของคุณน่าเชื่อถือหรือไม่
พ่อแม่ผู้ปกครองจะมีวิธีสังเกตอย่างไรว่าพี่เลี้ยงที่เราเลือกมาดูแลบุตรหลานของเรานั้นเชื่อถือได้หรือไม่

1. เมื่อเราให้พี่เลี้ยงดูแลเด็ก เราต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมของเด็กว่ามีความเปลี่ยนแปลงจากที่เคยเป็นก่อนอยู่กับพี่เลี้ยงหรือไม่ หากเด็กมีอาการงอแงเมื่อเจอพี่เลี้ยง หรือมีความวิตกกังวลเมื่อพี่เลี้ยงเข้ามาใกล้ อาจจะมีสาเหตุมาจากการที่เด็กได้รับผลกระทบทางจิตใจ เพราะพี่เลี้ยงที่ดูแลตี ขู่ หรือใช้เสียงดังกับเด็ก
2. รอยแผลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นรอย ยุงกัด มดกัด ทำให้เกิดเป็นตุ่มตามตัว มาจากการละเลยที่จะดูแล เช่นมีนมหกบนที่นอนแล้วไม่ทำความสะอาด มดหรือแมลงเข้ามาทานแล้วกัดลูก เป็นต้น อุบัติเหตุแม้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อยอาจเป็นเพราะขาดความใส่ใจและขาดการระมัดระวัง
3. เรื่องสุขอนามัย การหมั่นดูแลเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือทำความสะอาดภาชนะที่ใช้ ขวดนมและจานชาม แม้เด็กจะมีภูมิคุ้มกันในระดับหนึ่งแต่ยังไม่เท่ากับผู้ใหญ่ หากพี่เลี้ยงผู้ดูแลละเลยเรื่องสุขอนามัย เช่น การทำความสะอาดขวดนมที่ควรมีขั้นตอนนึ่งหรือใช้ความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค หากพี่เลี้ยงเด็กข้ามขั้นตอนนี้ไปอาจทำให้เด็กป่วยจากการรับประทานจากภาชนะที่ไม่อาดได้ เป็นต้น
4. หมั่นตรวจสอบทรัพย์สินของมีค่า ว่าไม่มีการสูญหาย เสียหาย หรืออยู่ผิดที่ผิดทาง พ่อแม่ผู้ปกครองอาจลองใจพี่เลี้ยงด้วยการวางเงินหรือของมีค่า(ที่ราคาไม่สูงมาก) ไว้ในที่เปิดเผย หากทรัพย์สินดังกล่าวยังอยู่ดี นั้นถือว่าพี่เลี้ยงของคุณเป็นคนที่ไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง
5. หากมีอุบัติเหตเกิดขึ้นพี่เลี้ยงต้องสามารถรับมือและตัดสินใจได้ ไม่จงใจปกปิดเรื่องราวและรายงานให้พ่อแม่ผู้ปกครองทราบอย่างทันทวงที เพื่อช่วยกันแก้ปัญหา

พ่อแม่ผู้ปกครองต้องใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กเพื่อดูแลบุตรหลาน คงไม่มีใครอยากกังวลใจอยู่ตลอดเวลาจึงต้องตรวจสอบกันเพื่อความสบายใจและมั่นใจว่าบุตรหลานจะได้รับการดูแลอย่างดี
คุณพ่อคุณแม่ควรถามอะไรพี่เลี้ยงเด็กก่อนตัดสินใจเลือกพี่เลี้ยงให้กับลูกของคุณ
ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจเลือกพี่เลี้ยงเด็กให้กับลูกของคุณนั้น การนัดเจอพี่เลี้ยงเพื่อสัมภาษณ์และพูดคุยกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนจะยิ่งช่วยให้ทุกอย่างนั้นตรงต่อความต้องการของพ่อแม่มากยิ่งขึ้น โดยในระหว่างการสัมภาษณ์นั้นพ่อแม่ควรเลือกถามคำถามที่จะช่วยให้เข้าถึงตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กได้มากที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นผลดีในการคัดเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดให้ลูกน้อยของคุณนั่นเอง ใส่ใจขอแนะนำแนวคำถามที่คุณพ่อคุณแม่ควรถามขณะทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก ดังนี้

1. พ่อแม่ควรถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของพี่เลี้ยง เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ งานอดิเรก ไปจนถึงความสามารถในการดูแลกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ให้เด็ก เช่น การทำอาหาร การอาบน้ำให้เด็ก การพาเด็กเข้านอน เป็นต้น
2. ถามเกี่ยวกับประสบการณ์ในอดีต พ่อแม่อาจถามพี่เลี้ยงเด็กว่าเคยเป็นพี่เลี้ยงเด็กมานานกี่ปี เคยรับดูแลเด็กมาแล้วกี่ครอบครัว ในขณะเดียวกันพ่อแม่อาจขอให้พี่เลี้ยงเล่าถึงประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เคยพบเจอมากับการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก และถามว่าผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้อย่างไร
3. คำถามเกี่ยวกับการรับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉินของพี่เลี้ยงเด็ก เช่น ถามว่าพี่เลี้ยงเด็กเคยมีประสบการณ์ในการรับมือกับภาวะฉุกเฉินบ้างหรือไม่ เมื่อเกิดปัญหา หรือมีเหตุด่วนเหตุร้ายเกิดขึ้น พี่เลี้ยงจะสามารถติดต่อใครเพื่อขอความช่วยเหลือได้บ้าง เป็นต้น
4. ถามเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่พี่เลี้ยงเด็กสามารถทำร่วมกันกับเด็ก ได้ในยามว่าง พ่อแม่อาจลองยกตัวอย่างสถานการณ์มา เช่น หากอยากให้เด็กหลีกเลี่ยงการจับโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต พี่เลี้ยงจะชวนเด็กทำกิจกรรมใดแทน เป็นต้น ทั้งหมดนี้คือแนวคำถามที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปถามพี่เลี้ยงเด็กขณะทำการสัมภาษณ์ได้ โดยระหว่างการสัมภาษณ์นั้นควรทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่ายและไม่กดดันเกิดไป เพื่อให้พี่เลี้ยงเด็กรู้สึกผ่อนคลายและสามารถบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างเป็นตัวเองมากขึ้น ซึ่งโอกาสที่พ่อแม่จะเข้าถึงตัวตนของพี่เลี้ยงก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน
กิจกรรมที่พี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กที่บ้านควรทำเพื่อส่งเสริมพัฒนาการมีอะไรบ้าง
มาตรฐานของพี่เลี้ยงเด็กที่ดูแลลูกของเรามีความสำคัญมาก ๆ ต่อพัฒนาการของลูก ๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมพัฒนาการตามวัยอย่างเหมาะสมพี่เลี้ยงเด็กควรทำกิจกรรมใดกับเด็กบ้าง

1. แฝงการเรียนรู้กฎกติกาในกิจกรรม เพื่อให้เด็กเข้าใจหน้าที่ของตัวเอง เช่นเก็บของเล่นเมื่อเล่นเสร็จ หรือไม่เล่นขณะรับประทานอาหาร เพราะการฝึกวินัยผ่านการใช้กติกา จะช่วยให้เด็กสามารถควบคุมตนเอง (Self – Regulation) การควบคุมตนเองเป็นกระบวนการที่สมองของเด็กดำเนินการซึ่งทำให้พวกเขาสามารถควบคุมพฤติกรรมและอารมณ์เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะได้
2. ฝึกร้องเพลง สิ่งที่ได้จากกิจกรรมที่มีความสุขสนุกสนานอย่างการร้อง คือกิจกรรมการพัฒนา (Working memory) หน่วยความจำในการทำงานเป็นระบบความ ความจำในการทำงานมีความสำคัญต่อการใช้เหตุผลและแนวทางในการตัดสินใจและพฤติกรรม
3. กิจกรรมเข้าจังหวะ เต้นตามเพลงช้า เร็ว ตามจังหวะเพลง เมื่อเพลงจบเด็กต้องหยุดรอ ก่อนขึ้นเพลงต่อไป การรอ คือการควบคุมยับยั้งชั่งใจ (Self-Inhibition) ได้เป็นอย่างดี
4. ฝึกขว้างสิ่งของ เด็กเล็ก ๆ มักสนุกกับการขว้างสิ่งของ เปลี่ยนเป็นกิจกรรมรับส่งลูกบอล เช่น ขอให้เด็กส่งบอลสีฟ้ามาให้ หรือใช้ให้เด็กหยิบนิทานมาให้ เป็นการฝึกพัฒนาการประสาทมือประสาทสายตา การเข้าใจความหมายของสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัว
5. ฝึกเล่าเรื่อง เริ่มจากพี่เลี้ยงเล่านิทาน ที่เด็ก ๆ สนใจ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่แฝงพัฒนาการทางด้านภาษา อาจใช้ตุ๊กตาหรือของเล่นเป็นบทบาทสมมุติ เป็นการฝึกการคิดแก้ปัญหา เช่น ถ้าหนูเดินไปเจอหมาป่าตรงนั้นหนูจะทำอย่างไรคะ เด็กจะฉุกคิด คำตอบอาจเป็นให้วิ่งไปหาคุณพ่อคุณแม่ หรือกลับมาหาพี่เลี้ยง เป็นการฝึกให้คุ้นเคยกับการฉุกคิดแก้ปัญหา

กิจกรรมเหล่านี้เสริมพัฒนาการ ทางด้าน EQ (Emotional Quotient) และ IQ (Intelligence Quotient) ไปในตัว