รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ใน จอมทอง, เชียงใหม่

รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ใน จอมทอง, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

โรงงานส่งเราไปอยู่สระบุรี เลยต้องหาพี่เลี้ยงมาอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ ก็ได้บริการของใส่ใจ พนักงานที่นี่ไว้ใจได้ ใส่ใจดูแลคุณแม่เป็นอย่างดี ตื่นเช้าเตรียมอาหาร ใส่บาตร ช่วยดูแลคุณแม่ อยู่เป็นเพื่อน คุณแม่มีคนดูแลก็อุ่นใจ 5 วันที่เราไม่อยู่แต่เราก็สบายใจค่ะ
Saijai
ฤดี ภัทร์ปรีดากุล
3 ปีที่แล้ว
เทียบค่าใช้จ่ายกับการที่ได้พี่แป๋วมาอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่แล้วไม่เสียดายเงินเลย พี่เขาตื่นเช้า เตรียมอาหาร หลังจากมื้อเช้า ก็จัดการเรื่องเสื้อผ้าคุณแม่ คอยพูดคุยดูแลท่านไม่เหงา คุณแม่ดูมีสดชื่นขึ้น ลูกๆก็สบายใจ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป หมดห่วงคะ
Saijai
ธิดา เมธีวัชรโสภณ
3 ปีที่แล้ว
ย่าผมเพิ่งเสียไปไม่นานครับ เหลือแต่ปู่ต้องอยู่คนเดียว พ่อกับแม่ผมกลัวปู่เหงาเวลาคนในบ้านไปทำงาน เลยจ้างผู้ดูแลจากใส่ใจมาครับ ทางบ้านค่อนข้างมีข้อจำกัดเรื่องเงินด้วยครับ แต่พอตกลงราคากันแล้ว ก็ไม่แพงอย่างที่คิด รวมถึงพนักงานมีประสบการณ์อย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ทำหน้าที่ได้เป็นมืออาชีพมาก
Saijai
กรรชัย มีสุวรรณ
3 ปีที่แล้ว
ชอบตั้งแต่คนดูแลมาตรงเวลา ดูแลดี คุณยายผมบอกว่าชอบพี่คนนี้มากครับ มีแต่เรื่องสนุก ๆ เล่าให้แกฟัง คอยหากิจกรรมมาให้ทำไม่น่าเบื่อเลย คุ้มค่าน่าใช้บริการอีกมาก ๆ ครับ
Saijai
วราวุธ นาควานิตย์
3 ปีที่แล้ว
หลังจากเข้าไปหน้าเพจ บริการอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ เราสามารถเห็นรูป อ่านประวัติ ดูประสบการณ์ทำงาน ได้อย่างละเอียด ก่อนมีการพูดคุย รายละเอียด ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายและท้ายที่สุด เราดีใจ ที่ได้ใช้บริการของใส่ใจ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ได้ผู้ดูแลตรงตามที่เราต้องการ
Saijai
ปรียา อรรถจิรานนท์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ

ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้สูงอายุ หรือคนชราอยู่ตามลำพัง
ข้อมูลจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พบว่าสถิติประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าภาพรวมของประชากรในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2553-2573 จะอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่า “สังคมสูงวัย (Aged Society)” และอาจเข้าสูงสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ภายในอีก 10 ปีหลังจากนั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากสภาพการทำงานและสังคมก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน และอาจทำให้ผู้สูงอายุต้องอยู่บ้านตามลำพังมากขึ้น แม้ผู้สูงอายุบางคนจะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในสังคมได้ แต่ต้องยอมรับว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เองตามที่ใจต้องการ เนื่องด้วยสภาพร่างกายและสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เราจึงไม่ควรให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพัง เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างคล่องแคล่ว การต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านหรือทำอะไรตามลำพังอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ต่อตัวผู้สูงอายุได้ เช่น หากปล่อยให้ผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวลำบากต้องเดินขึ้น-ลงบันไดเองนั้น อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และหากไม่มีคนอยู่ในบ้าน ผู้สูงอายุเองก็ไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้เช่นกัน อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดจากการให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังคือปัญหาทางสภาพจิตใจนั่นเอง เมื่อไม่มีคนคอยอยู่เป็นเพื่อนหรือพูดคุยและรับฟัง ผู้สูงจะรู้สึกเหงา เกิดอาการเครียด และมีภาวะซึมเศร้าในที่สุด ดังนั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยอาจจะเป็นคนในครอบครัวเอง หรือจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพมาดูแลได้เช่นกัน


หากต้องการจะจ้างคนอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ คุณควรหาคนมีคุณสมบัติอย่างไร
การดูแลพ่อแม่หรือผู้สูงอายุภายในบ้านนับเป็นเรื่องที่ลูกหลานอย่างเราควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่ด้วยภาระและหน้าที่การทำงานต่าง ๆที่ค่อนข้างยุ่ง หากได้คนที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะคนเหล่านี้ต่างผ่านการฝึกอบรมในการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุมาแล้ว สามารถวางใจและหมดกังวลได้

คุณสมบัติของผู้ให้บริการอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุมีดังต่อไปนี้

1. ควรเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว มีความเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะเพียงพอ มีความอดทนและที่สำคัญมีใจรักในงานบริการ
2. เป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรงใด ๆ อีกทั้งไม่เสพสารเสพติดใด ๆที่มีผลต่อการทำงาน
3. สามารถดูแลเรื่องการรับประทานยา คนอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ สามารถช่วยดูแลเรื่องอาหารการกิน การทานยา ของผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพังและอาจหลงลืมเวลาในการทานยาได้
4. เป็นผู้ที่สามารถออกกำลังกายเป็นเพื่อนกับผู้สูงอายุได้ เพราะผู้สูงอายุย่อมต้องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
5. อ่านออก เขียนได้ สามารถอ่านหนังสือ หรือทำสันทนาการอื่น ๆกับผู้สูงอายุได้เช่น ทำอาหารหรือขนมเล็ก ๆ น้อย ๆให้กับลูกหลานในยามว่าง
6. สามารถช่วยดูแลรายละเอียดอื่น ๆได้ นอกเหนือจากการอยู่เป็นเพื่อน เช่น อาบน้ำ เช็ดตัว ป้อนข้าว โดยที่ไม่รังเกียจ
7. ช่วยทำหน้าที่แทนลูกหลานได้ ตัวอย่างเช่น การพาไปพบแพทย์ตามนัด หรือการพาไปเดินเล่นข้างนอก ตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุไม่เบื่อ ไม่เหงาที่ต้องนั่งอยู่บ้านทั้งวันโดยไม่ได้ออกไปไหน
ผู้ให้บริการดูแลแบบอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหนในประเทศไทย
เนื่องจากแนวโน้มผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจและอาชีพใหม่ ๆ เพื่อรองรับและตอบสนองความต้องการของผู้คนในสังคมที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) รูปแบบของธุรกิจที่ขยายตัวควบคู่ไปกับสังคมผู้สูงอายุเน้นไปในด้านการดูแลและอำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น ที่พักอาศัยที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพและสุขภาพของผู้สูงวัย อุปกรณ์เสริม เช่น ราวจับ พรมกันลื่น ฯลฯ และงานบริการดูแลผู้สูงอายุ เช่น เนอร์สซิ่งโฮม และผู้ดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น รูปแบบงานบริการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ได้เป็นแค่การดูแลผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ยังมีบริการที่แตกแขนงออกไปอีก เช่น พาผู้สูงอายุไปเที่ยว ไปทำธุระ และไปโรงพยาบาล โดยเฉพาะการไปโรงพยาบาลที่มีขั้นตอนมากมาย ผู้สูงอายุหลายคนต้องเตรียมตัวออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เมื่อถึงโรงพยาบาลต้องติดต่อแผนกที่ตนต้องการ ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ที่อาจทำให้ผู้สูงอายุเกิดความงุนงง มีความเบื่อหน่ายที่ต้องรอรับบริการ หากมีคนคอยช่วยเหลือดำเนินการในขั้นตอนเหล่านี้ ดูแลเมื่อผู้สูงอายุต้องเข้าห้องน้ำ พูดคุยเป็นเพื่อนระหว่างรอ จะทำให้ตัวผู้สูงอายุสบายใจและครอบครัวคลายความกังวลไปได้มาก
กิจกรรมสร้างสุขที่คนอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงควรทำมีอะไรบ้าง
วัยชราเป็นวัยที่มีความรู้สึกเปราะบางเป็นพิเศษการเพราะต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง ผู้สูงอายุบางคนเคยทำงานได้อย่างคล่องแคล่วกลับเชื่องช้าลง มีเวลาว่างมากขึ้นเนื่องจากเกษียณอายุจากงานประจำ ด้วยความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ผู้สูงอายุส่วนหนึ่งมีความวิตกกังวล รู้สึกกลัวว่าต้องพึ่งพาคนอื่น ขาดความมั่นใจ ขาดความสามารถ กลัวถูกทอดทิ้ง ครอบครัวของผู้สูงอายุรวมถึงผู้ดูแลควรเอาใจใส่และมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน กิจกรรมสร้างสุขที่เราควรทำมีอะไรบ้าง
ใช้เวลาพูดคุยและรับฟังเรื่องราว ควรเป็นผู้ฟังที่ดี โต้ตอบและซักถามบ้าง ชวนพูดคุยในมุมที่มีความสุข ชวนทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น ตกแต่งดูแลต้นไม้หรือทำในสิ่งที่ผู้สูงอายุถนัด ให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความภูมิใจและเห็นว่าตัวเองมีความสำคัญอยู่
ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันที่แม้ไม่ได้เจอกันแต่ยังสื่อสารกันได้ อาจตั้งกลุ่มสนทนากับคนในครอบครัวและผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุ สอนเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้แก่ผู้สูงอายุ เช่น การส่งข้อความทางไลน์ การใช้โซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้สูงอายุได้อัปเดตข่าวสาร รู้สึกสนุก ทันสมัยและก้าวทันเทคโนโลยี
การออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากสำหรับผู้สูงอายุ ควรเน้นออกกำลังกายเบา ๆ และต่อเนื่อง เช่น เดิน รำมวยจีน เต้นช้า ๆ ตามจังหวะเพลง การออกกำลังกายเป็นการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีแล้ว และยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยความเครียดเพราะผู้สูงอายุได้พบปะผู้คนและได้เข้าสังคม นอกจากจะทำให้ให้สุขภาพร่างกายดี ยังส่งผลให้สุขภาพจิตดีไปด้วย