รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ใน พร้าว, เชียงใหม่

รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ใน พร้าว, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

โรงงานส่งเราไปอยู่สระบุรี เลยต้องหาพี่เลี้ยงมาอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ ก็ได้บริการของใส่ใจ พนักงานที่นี่ไว้ใจได้ ใส่ใจดูแลคุณแม่เป็นอย่างดี ตื่นเช้าเตรียมอาหาร ใส่บาตร ช่วยดูแลคุณแม่ อยู่เป็นเพื่อน คุณแม่มีคนดูแลก็อุ่นใจ 5 วันที่เราไม่อยู่แต่เราก็สบายใจค่ะ
Saijai
ฤดี ภัทร์ปรีดากุล
3 ปีที่แล้ว
หาคนอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุนี่อาจจะยังไม่ค่อยฮิตในไทยเท่าไหร่ แต่สำหรับใครที่มีคนเฒ่าคนแก่อยู่บ้านคนเดียวตลอดลองใช้บริการนี้ของใส่ใจกันดูเถอะค่ะ เพราะคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปจริง ๆ
Saijai
วราภรณ์ บุตรธงไชย
4 ปีที่แล้ว
เห็นต่างประเทศมีบริการอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุเยอะมาก ๆ เลยลองหาดูว่าที่ไทยจะมีบ้างมั้ย เพราะอยากได้คนมาอยู่เป็นเพื่อนอาม่าตอนเราออกไปทำงานข้างนอก ไม่คิดว่าใส่ใจจะมีบริการนี้อยู่ด้วย น้องคนที่จ้างมาเป็นกันเองสุด ๆ ดูแลอาม่าดีมาก ๆ จนตอนนี้จะกลายเป็นลูกรักอาม่าอีกคนไปแล้วค่ะ ฮ่า ๆ
Saijai
อาภากรณ์ แซ่อิม
4 ปีที่แล้ว
โชคดีเจอพี่คนดูแลจากเว็บใส่ใจ บ้านเค้าอยู่แถวนี้ด้วย สามารถมาช่วยดูแลคุณตาให้ได้วันจันทร์-ศุกร์ พี่เค้าช่วยเราได้มากเพราะนอกจากจะช่วยอยู่เป็นเพื่อนคุณตาแล้ว ยังช่วยให้ท่านผ่อนคลายความเครียด ความกังวล ช่วยอ่านหนังสือและเล่นหมากรุกกับคุณตาด้วย คุณตาอารมณ์ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
Saijai
สุชลิตา จินดา
4 ปีที่แล้ว
ชอบตั้งแต่คนดูแลมาตรงเวลา ดูแลดี คุณยายผมบอกว่าชอบพี่คนนี้มากครับ มีแต่เรื่องสนุก ๆ เล่าให้แกฟัง คอยหากิจกรรมมาให้ทำไม่น่าเบื่อเลย คุ้มค่าน่าใช้บริการอีกมาก ๆ ครับ
Saijai
วราวุธ นาควานิตย์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ

ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้สูงอายุ หรือคนชราอยู่ตามลำพัง
ข้อมูลจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พบว่าสถิติประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าภาพรวมของประชากรในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2553-2573 จะอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่า “สังคมสูงวัย (Aged Society)” และอาจเข้าสูงสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ภายในอีก 10 ปีหลังจากนั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากสภาพการทำงานและสังคมก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน และอาจทำให้ผู้สูงอายุต้องอยู่บ้านตามลำพังมากขึ้น แม้ผู้สูงอายุบางคนจะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในสังคมได้ แต่ต้องยอมรับว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เองตามที่ใจต้องการ เนื่องด้วยสภาพร่างกายและสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เราจึงไม่ควรให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพัง เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างคล่องแคล่ว การต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านหรือทำอะไรตามลำพังอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ต่อตัวผู้สูงอายุได้ เช่น หากปล่อยให้ผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวลำบากต้องเดินขึ้น-ลงบันไดเองนั้น อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และหากไม่มีคนอยู่ในบ้าน ผู้สูงอายุเองก็ไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้เช่นกัน อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดจากการให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังคือปัญหาทางสภาพจิตใจนั่นเอง เมื่อไม่มีคนคอยอยู่เป็นเพื่อนหรือพูดคุยและรับฟัง ผู้สูงจะรู้สึกเหงา เกิดอาการเครียด และมีภาวะซึมเศร้าในที่สุด ดังนั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยอาจจะเป็นคนในครอบครัวเอง หรือจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพมาดูแลได้เช่นกัน


หากต้องการจะจ้างคนอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ คุณควรหาคนมีคุณสมบัติอย่างไร
การดูแลพ่อแม่หรือผู้สูงอายุภายในบ้านนับเป็นเรื่องที่ลูกหลานอย่างเราควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่ด้วยภาระและหน้าที่การทำงานต่าง ๆที่ค่อนข้างยุ่ง หากได้คนที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะคนเหล่านี้ต่างผ่านการฝึกอบรมในการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุมาแล้ว สามารถวางใจและหมดกังวลได้

คุณสมบัติของผู้ให้บริการอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุมีดังต่อไปนี้

1. ควรเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว มีความเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะเพียงพอ มีความอดทนและที่สำคัญมีใจรักในงานบริการ
2. เป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรงใด ๆ อีกทั้งไม่เสพสารเสพติดใด ๆที่มีผลต่อการทำงาน
3. สามารถดูแลเรื่องการรับประทานยา คนอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ สามารถช่วยดูแลเรื่องอาหารการกิน การทานยา ของผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพังและอาจหลงลืมเวลาในการทานยาได้
4. เป็นผู้ที่สามารถออกกำลังกายเป็นเพื่อนกับผู้สูงอายุได้ เพราะผู้สูงอายุย่อมต้องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
5. อ่านออก เขียนได้ สามารถอ่านหนังสือ หรือทำสันทนาการอื่น ๆกับผู้สูงอายุได้เช่น ทำอาหารหรือขนมเล็ก ๆ น้อย ๆให้กับลูกหลานในยามว่าง
6. สามารถช่วยดูแลรายละเอียดอื่น ๆได้ นอกเหนือจากการอยู่เป็นเพื่อน เช่น อาบน้ำ เช็ดตัว ป้อนข้าว โดยที่ไม่รังเกียจ
7. ช่วยทำหน้าที่แทนลูกหลานได้ ตัวอย่างเช่น การพาไปพบแพทย์ตามนัด หรือการพาไปเดินเล่นข้างนอก ตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุไม่เบื่อ ไม่เหงาที่ต้องนั่งอยู่บ้านทั้งวันโดยไม่ได้ออกไปไหน
อาชีพรับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุมีความนิยมมากน้อยแค่ไหนในประเทศไทย
เทรนด์งานบริการที่มาแรงเป็นอันดับต้น ๆ ของไทยในปัจจุบันนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องของผู้สูงอายุ เพราะประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ซึ่งเป็นผลมาจากโครงสร้างประชากรผู้สูงอายุที่มีเพิ่มขึ้น อัตราการเกิดที่น้อยลง และการแพทย์ที่พัฒนาส่งผลให้สุขภาพของคนในปัจจุบันอายุยืนขึ้น มีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่ต้องอยู่เพียงลำพัง หรืออาศัยรวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ แต่ด้วยภาระหน้าที่ของคนในครอบครัวที่ต้องทำงาน ทำให้ไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ โดยบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในวัยสูงอายุได้ดีคือ บริการอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ สำหรับประเทศไทย งานรับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุยังเป็นงานที่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร โดยบริการส่วนใหญ่เกี่ยวกับกลุ่มผู้สูงอายุ จะให้ส่วนสำคัญกับบริการดูแลผู้สูงอายุมากกว่า ทั้งผู้สูงอายุที่ป่วย ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่ทางญาติต้องทำงาน ไม่มีคนคอยดูแล โดยจะเน้นไปทางการบริการ อำนวยความสะดวก มากกว่า ซึ่งการรับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ เป็นอาชีพที่ต้องทำความเข้าใจพอสมควร การที่จะอยู่เป็นเพื่อนได้ ต้องทำให้ผู้รับบริการไว้ใจก่อน การที่จะยอมให้คนแปลกหน้ามาอยู่ด้วย พาไปไหนต่อไหน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่จะรู้สึกระแวงเป็นพิเศษ ผู้ทำอาชีพนี้จึงต้องสร้างความไว้ใจให้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
กิจกรรมสร้างสุขที่คนอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงควรทำมีอะไรบ้าง
วัยชราเป็นวัยที่มีความรู้สึกเปราะบางเป็นพิเศษการเพราะต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง ผู้สูงอายุบางคนเคยทำงานได้อย่างคล่องแคล่วกลับเชื่องช้าลง มีเวลาว่างมากขึ้นเนื่องจากเกษียณอายุจากงานประจำ ด้วยความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ผู้สูงอายุส่วนหนึ่งมีความวิตกกังวล รู้สึกกลัวว่าต้องพึ่งพาคนอื่น ขาดความมั่นใจ ขาดความสามารถ กลัวถูกทอดทิ้ง ครอบครัวของผู้สูงอายุรวมถึงผู้ดูแลควรเอาใจใส่และมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน กิจกรรมสร้างสุขที่เราควรทำมีอะไรบ้าง
ใช้เวลาพูดคุยและรับฟังเรื่องราว ควรเป็นผู้ฟังที่ดี โต้ตอบและซักถามบ้าง ชวนพูดคุยในมุมที่มีความสุข ชวนทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น ตกแต่งดูแลต้นไม้หรือทำในสิ่งที่ผู้สูงอายุถนัด ให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความภูมิใจและเห็นว่าตัวเองมีความสำคัญอยู่
ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันที่แม้ไม่ได้เจอกันแต่ยังสื่อสารกันได้ อาจตั้งกลุ่มสนทนากับคนในครอบครัวและผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุ สอนเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้แก่ผู้สูงอายุ เช่น การส่งข้อความทางไลน์ การใช้โซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้สูงอายุได้อัปเดตข่าวสาร รู้สึกสนุก ทันสมัยและก้าวทันเทคโนโลยี
การออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากสำหรับผู้สูงอายุ ควรเน้นออกกำลังกายเบา ๆ และต่อเนื่อง เช่น เดิน รำมวยจีน เต้นช้า ๆ ตามจังหวะเพลง การออกกำลังกายเป็นการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีแล้ว และยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยความเครียดเพราะผู้สูงอายุได้พบปะผู้คนและได้เข้าสังคม นอกจากจะทำให้ให้สุขภาพร่างกายดี ยังส่งผลให้สุขภาพจิตดีไปด้วย