วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
บริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันตอนนี้ทำงานขับรถผู้บริหารจนถึงปัจจุบัน9 ปี~นาย แสวง แสงยางใหญ่~Sawang sangyangyai~ อายุ 40 ปี~ส่วนสูง 168 หนัก 70~จบวุฒิการศึกษา ม.6~เป็นทหารมา 2 ปี ~ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่~รับวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว~รู้เส้นทางในกรุงเทพดี และต่างจังหวัด ~ขับได้ทั้งรถยุโรปและญี่ปุ่น~ใช้ google maps คล่อง~ภาษาอังกฤษพื้นฐานได้ และใช้แอพแปลภาษาคล่อง~ 🙏🙏🙏-รับงานเฉพาะวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ครับ
บริการขับรถในกรุงเทพฯ หรือไปตามต่างจังหวัด ประสบการณ์ขับรถตู้ตั้งแต่ปี 2558 ใจเย็น และรองรับแรงกดดันได้ดี สุภาพ มีความอดทนสูง สามารถขับรถยี่ปุ่นรถยุโรปได้ดี มีน้ำใจและเป็นมิตรต่อลูกค้า ไม่มีประวัติเฉี่ยวชน
ขับรถตู้รถเก๋งได้ รักเด็กและเอ็นดูผู้สูงอายุ สามารถบริการขับให้นั่งได้อย่างปลอดภัยค่ะ.....แล้วพบกันนะคะ
นันท์นภัส อินทรนัฎ ชื่อเล่นออยค่ะ
ทำงานประจำที่ศูนย์บริการสาธารณสุข30 วัดเจ้าอาม
จึงให้ความสำคัญกับป้องกันอย่างเคร่งครัดตามหลักของกรมควบคุมโรค ปลอดภัยตลอดการเดินทางค่ะ
สามารถแจ้งรายละเอียดตามความต้องการก่อนการเดินทางได้ หรือข้อควรระวังอื่นๆ เพื่อศึกษาข้อมูลและเตรรยมให้พร้อมก่อนการเดินทาง
เคยเป็นพนักงานขับรถ U Drink I Drive ขับรถให้กับลูกค้า VIP สามารถขับได้ทั้งรถยุโรป แล้วรถญี่ปุ่น ทั้งเกียร์ Auto และเกียร์ ธรรมดา สาเหตุที่ออกเนื่องจากสถานะการณ์ Covid 19 ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบ จึงลาออก มีประสบการณ์บริษัท 3 ปี มีประสบการ์ขับรถ 15 ปี มีใบขับขี่ สามารถดูแลและเช็คสภาพรถเบื้องต้นได้ รู้เส้นทางในกรุงเทพ และ ปริมณฑล สามารถเดินทางไปต่างจังหวัดได้ เสาร์-อาทิตย์ เก็บความลับของลูกค้า เป็นคนใจเย็น ไม่ขับรถเร็ว ปลอดภัย ขับรถถนุถนอม สามารถดูแลลูกค้าได้ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ตรงต่อเวลา พักอยู่ บางบัวทอง นนทบุรี สามารถตกลงรายละเอียดกันก่อนได้ ยืดหยุ่นได้เต็มที่ครับ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ
• คนขับรถควรมีใบขับขี่รถยนต์ และขับรถได้อย่างสุภาพ นุ่มนวล ถูกกฎจราจร คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเมื่อทำการขับขี่ เพราะคนขับรถต้องดูแลรับผิดชอบชีวิตของอีกหลายๆชีวิตภายในรถ รวมทั้งทรัพย์สินต่าง ๆของผู้โดยสารอีกด้วย อย่างเช่นตัวอย่างตามข่าวที่เราเห็นกันบ่อย ๆ อุบัติเหตุส่วนมากเกิดจากคนขับรถที่ประมาท
• มีความรอบรู้เรื่องเส้นทางต่าง ๆ เป็นอย่างดี
• เป็นคนตรงต่อเวลา กระตือรือร้น และพร้อมที่จะทำงานอยู่เสมอ
• มีบุคลิกที่ดี มนุษยสัมพันธ์ดี พูดจาไพเราะ มีความสุภาพ และมีมารยาทที่ดี สิ่งเหล่านี้ส่งผลกับผู้ที่นั่งโดยสารอยู่ในรถด้วย ในบางครั้งที่รถติดหากมีคนขับรถที่พูดคุยดีมีมารยาทก็ช่วยลดความเครียดได้ดีเลยทีเดียว
• คนขับรถควรมีทัศนคติดี เช่น ขับอย่างสุภาพ ไม่ขับฝ่าไฟเหลืองหรือไฟแดง ขับด้วยความเร็วและไม่มีมารยาทบนท้องถนน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
• เป็นคนขับรถที่มีน้ำใจบนท้องถนน ในช่วงเวลาเร่งด่วน ทุกคนต่างต้องการไปให้ถึงจุดหมายตามกำหนดเวลา การขับรถไม่เพียงแต่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ควรมีน้ำใจซึ่งกันและกันด้วย เช่น การจอดรถให้คนข้ามถนน การขับรถช้า ๆเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นใส่คนที่เดินอยู่ริมถนน หรือการชะลอความเร็วเพื่อให้รถคันอื่นไปก่อน
• คนขับรถควรมีสุขภาพที่แข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการในการขับรถ
• คนขับรถที่ดีต้องรู้เทคนิคการตรวจสอบความปลอดภัยของรถแต่ละรุ่น รู้จักการซ่อมบำรุงรถยนต์ขั้นพื้นฐานได้ เปลี่ยนยาง เช็คน้ำมันเครื่อง มีชำนาญในการล้างรถยนต์ และดูแลรถยนต์ให้สะอาดและอยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ
• รู้จักรักษาความลับของเจ้านายเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี
แตกต่างจากการใช้บริการรถสาธารณะ เช่น แท๊กซี่ ซึ่งค่าบริการเราไม่สามารถกำหนดได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามเส้นทางและระยะทาง หรือหากเราต้องการเดินทางไปต่างจังหวัด ก็สามารถนำรถส่วนตัวของเราไปใช้โดยมีคนขับรถที่เราไว้ใจได้ไปด้วย ซึ่งมีความปลอดภัยและน่าไว้ใจกว่าไปจ้างคนในพื้นที่ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ยิ่งถ้าเป็นนายจ้างผู้หญิงแล้วย่อมมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก หรือนายจ้างที่มีธุรกิจที่ต้องไปพบปะสังสรรค์กับกลุ่มลูกค้าต่าง ๆ ที่ต้องมีการดื่มแอลกอฮอล์และหากยังฝืนขับรถด้วยตัวเอง บอกเลยว่าเสี่ยงทั้งอุบัติเหตุและยังผิดกฎหมายอีก หากเกิดอุบัติเหตุหรือโดนตำรวจจับ คงไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่สูงแถมและยังเสียประวัติอีกด้วย
ปัจจุบันในการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวหรือเพื่อกิจกรรมทางธุรกิจ มีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อม รวมทั้งต้องการความสะดวกสบายและปลอดภัย บริการคนขับรถส่วนตัวเป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากมีความสะดวกสบายและมีความปลอดภัยในการเดินทาง และสามารถใช้เวลาระหว่างที่เดินทางในการทำภารกิจอื่น ๆ เช่น บริหาร สั่งงาน ตรวจสอบเอกสารสำคัญ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องการขับรถยนต์หรือเส้นทาง เพราะคนขับรถส่วนตัวเป็นผู้ทำหน้าที่ขับรถและเตรียมความพร้อมเรื่องเส้นทางไว้ให้ทั้งหมดแล้ว และมีค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าการเดินทางโดยวิธีอื่น เนื่องจากใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นพาหนะ
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยในสัญญาควรระบุว่าเป็นลักษณะการว่าจ้างแบบระยะยาวหรือระยะสั้น มีระยะเวลาตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน ที่สำคัญควรระบุอัตราค่าจ้างไว้อย่างชัดเจน
2. ผู้ว่าจ้างควรตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ เช่นเอกสารยืนยันผ่านการฝึกอบรม และใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะของคนขับรถที่ถูกจ้างมา เพื่อเป็นการยืนยันว่าคนขับรถคนนั้นได้รับอนุญาตให้ขับขี่ยานพาหนะอย่างถูกกฎหมายและมีความเป็นมืออาชีพสูงเนื่องจากผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว
3. ผู้ว่าจ้างควรตรวจสอบประวัติของคนขับรถอีกครั้งให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าคนขับรถที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมหรือเคยกระทำผิดร้ายแรงมาก่อน
4. แจกแจงเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ให้คนขับรถทราบ เช่น ประกันสังคม หรือสวัสดิการอื่น ๆ ที่ควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน
5. ข้อตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากค่าจ้างของคนขับรถ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าตรวจเช็คสภาพรถ บางครั้งนายจ้างอาจกำหนดค่าใช้จ่ายในการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ให้คนขับรถรับรู้และประเมินค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ในยามที่ต้องนำรถยนต์ไปเช็คสภาพ
6. ข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขอื่น ๆ ในการปฏิบัติงาน คนขับรถควรและไม่ควรทำอะไรบ้างในระหว่างการปฏิบัติงาน เช่น ไม่ควรดื่มสิ่งของมึนเมา ไม่ควรนำรถไปใช้ในการส่วนตัว ฯลฯ
ทั้งหมดนี้คือข้อตกลงหลัก ๆ ที่คุณและคนขับรถควรทำความเข้าใจร่วมกันก่อนเริ่มปฏิบัติงาน
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับบางพลัด
บางพลัด แต่เดิมมีฐานะเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี หลังจากการรวมกันของจังหวัดพระนครและจังหวัดธนบุรีทำให้ตำบลบางพลัดยกฐานะเป็นแขวงบางพลัด ส่วนอำเภอบางกอกน้อยยกฐานะเป็นเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งปี พ.ศ. 2532 บางพลัดได้แยกตัวออกมาเป็น เขตบางพลัด โดยมีแขวงการปกครองย่อยทั้งหมด 4 แขวงได้แก่ บางพลัด บางอ้อ บางบำหรุและบางยี่ขัน ถัดมาในปี พ.ศ. 2534 มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่แขวงและเขตใหม่ ระหว่างเขตบางพลัดและบางกอกน้อย โดยให้พื้นที่บางส่วนของแขวงบางบำหรุและแขวงบางยี่ขันเริ่มจากสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฝั่งซ้ายทั้งหมดให้ไปขึ้นกับเขตบางกอกน้อย มีพื้นที่ทั้งหมด 11.36 ตารางกิโลเมตร โดยทิศเหนือติดกับอำเภอบางกรวยจังหวัดนนทบุรี ทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศใต้และทิศตะวันตกติดกับเขตบางกอกน้อย พื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยลำคลองและสวนที่หนาแน่น ส่งผลให้ผู้คนที่เข้ามาในละแวกนี้เกิดการพลัดหลงเข้าออกไม่ถูกอยู่บ่อยครั้ง ชื่อนี้จึงมีความหมายในเชิงไม่เป็นมงคลในความเชื่อของคนท้องถิ่น ในปี พ.ศ. 2545 มีแนวคิดที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น บางภัทร์ แต่สุดท้ายไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
จากเดิมที่บางพลัดเป็นพื้นที่รอบนอก แต่ในปัจจุบันมีความเจริญเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก เป็นแหล่งการค้าขาย อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ตั้งอยู่มากมายให้เรียนรู้ มีการสร้างวัดจำนวนมากถึง 23 วัด เนื่องจากเป็นเขตที่เต็มไปด้วยพุทธศาสนิกชน เช่น วัดวิมุตยาราม วัดใหม่เทพนิมิต วัดบางพลัด เป็นต้น
ถนน 5 สาย ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยสุดในกรุงเทพ
อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้ทุกเวลา มาจากความประมาท เมาแล้วขับหรือความไม่ชำนาญของผู้ขับขี่ ถึงแม้เราจะระมัดระวังในการขับขี่รถของตัวเอง แต่ถ้าหากผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นไม่ระมัดระวัง ย่อมเกิดอุบัติเหตุและอาจส่งผลถึงตัวเราด้วย อาจจะพูดได้เลยว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับรถคือ สติ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ด้วยสภาพการจราจรที่หนาแน่นในกรุงเทพ บวกกับผังเมืองที่ซับซ้อน และเส้นทางที่ออกแบบมาหลายแยก หลายซอย อาจสร้างความสับสนให้กับผู้ขับขี่และก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หากผู้ขับขี่ไม่ชำนาญทาง ไม่รู้เส้นทางต่างๆ หรือด้วยความมักง่ายและประมาทของผู้ใช้รถใช้ถนนบางคน ล้วนเป็นปัจจัยที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งสิ้น มาดู 5 เส้นทางจราจรในกรุงเทพฯ ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
1. ถนนเพชรบุรี บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี จุดที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ บนถนนเส้นนี้คือ ช่วงแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีมักกะสัน เนื่องจากรถที่มุ่งหน้าออกจาก ถนนกำแพงเพชร 7 จะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนอโศกมนตรี และรถจากถนนอโศก-ดินแดง ทางตรง จะแย่งช่องจราจรทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการเฉี่ยวชนบ่อยครั้ง และบริเวณดังกล่าวยังมีคนขับบางคันที่ใช้วิธีการขับรถย้อนศรและขับตัดหน้าคนอื่น ทำให้บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรีเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด
2. ทางด่วนขั้น 2 บริเวณต่างระดับพญาไท อุบัติเหตุในบริเวณนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนเลนกะทันหันของรถที่อยู่เลนซ้ายสุด ตัดหน้ารถที่กำลังมุ่งลงทางต่างระดับยมราช ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งรถที่ลงจากทางต่างระดับพญาไทเลนขวาสุดที่จะมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะต้องแย่งกันเบียดเลนกับรถทางตรงบนถนนพหลโยธิน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุเช่นกัน ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากการเบียดแย่งเลนเพื่อเข้าช่องจราจร
3. ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 24อุบัติเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจากการตัดหน้าแบบกระชั้นชิดของรถจักรยานยนต์ ในขณะที่จอดรอไฟจราจร ทำให้เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจึงเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งรถที่ขับออกจากซอยย่อยเพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 24 มักจะแย่งช่องจราจรกับรถทางตรง จนเกิดอุบัติเหตุ
4. ถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 101 อุบัติเหตุบริเวณนี้ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการที่รถวิ่งสวนมาจากถนนโพธิ์แก้วมุ่งหน้าเข้าสู่วัดบึงทองหลาง และไม่สังเกตรถทางตรงจึงเกิดการชนในระยะกระชั้นชิด อีกทั้งยังมีการแย่งช่องจราจรกับรถทางตรงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
การใช้บริการรถสาธารณะให้ปลอดภัย
ปัจจุบันรถโดยสารสาธารณะมีให้บริการด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถตู้ รถสองแถว แท็กซี่และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งการใช้บริการเหล่านี้มักมีความเสี่ยงเกิดขึ้นตามมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ การปล้นจี้ การโกงค่าโดยสารเป็นต้น เอกสารรายงานจาก Global Report on Road Safety ได้ระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่อันตรายที่สุดในการขับขี่รถจักรยานยนต์ และมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่สูงมาก พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้บริการโดยสารสาธารณะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับผู้ใช้บริการที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากต้องการความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด จนทำให้บางครั้งละเลยความปลอดภัย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ การใช้บริการรถสาธารณะให้ปลอดภัยสามารถทำได้ทั้งนี้
1. ก่อนขึ้นรถหรือซื้อบัตรโดยสาร ควรจดจำชื่อผู้ประกอบการคนขับรถหรือบริษัททุกครั้งเพื่อเป็นประโยชน์ในการร้องเรียนเมื่อมีปัญหาและควรเก็บบัตรโดยสารไว้ทุกครั้ง เพื่อเป็นหลักฐานเอาผิดตามกฎหมาย เช็กป้ายทะเบียนขนส่งลักษณะของรถให้ดีด้วย อีกทั้งตรวจสอบให้ดีว่าเลขที่ระบุข้างรถ ตรงกับป้ายทะเบียนหรือไม่
2. ในกรณีนั่งรถตู้หรือแท็กซี่ควรนั่งหลังคนขับ เพื่อไม่ให้คนขับเอี้ยวตัวหันหลังมามองได้ง่าย และไม่ควรคุยเรื่องส่วนตัวกับคนขับรถ หากคนขับถามว่าจะไปเส้นทางไหนควรตอบว่าไปทางที่รถไม่ติด ไม่เข้าซอยเปลี่ยว ควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของคนขับรถ หากคนขับเลื่อนกระจกเพื่อมองหน้าอกหรือหน้าขาให้ระวังทันที ที่สำคัญหากรู้ว่าต้องเดินทางคนเดียวโดยใช้รถสาธารณะควรแต่งกายให้มิดชิดเพื่อความปลอดภัย
3. หาจุดจอดปลายทางให้ดี ตรวจสอบว่าลงที่ไหน สะดวกและปลอดภัยที่สุด ทำความเข้าใจกับสถานีจุดจอดของรถแต่ละประเภท ซึ่งจะต้องขึ้นและลง ณ จุดจอดเท่านั้นคือต้นทางและปลายทาง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและปัญหารถติดหากต้องจอดกลางถนนอีกทั้งการจอดในที่เปลี่ยวอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้โดยสารได้เช่นกัน
4. ในการใช้บริการรถสาธารณะทุกประเภทหากพบพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัยเช่น ความเร็วเกิน เมาสุรา หรือคุกคามผู้โดยสาร ควรโทรแจ้ง 1584 คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะหรือ 1508 ร้องทุกข์เกี่ยวกับผู้โดยสารของ บขส. และรถร่วมบริการหรือแจ้งหน่วยงานของผู้ให้บริการรถนั้นๆ
5.ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถโดยสารโดยการทำตามคำแนะนำของบริการแต่ละประเภท เช่นหากนั่งแท็กซี่ ควรคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย เมื่อใช้บริการรถเมล์ หากไม่มีที่นั่งและต้องยืน ควรหาที่จับและยืนในท่าทางที่ถนัด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตัวเราเอง
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง