ครูฝึกทักษะ ใน สะเดา, สงขลา

ครูฝึกทักษะ ใน สะเดา, สงขลา

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

สนใจอยากทำขนมไทย บนเว็บใส่ใจมีคนสอนด้านนี้หลายคน ราคามิตรภาพมาก ๆ สนใจเลยค่ะ เราจองเวลาเรียนตามที่เราสะดวก โอเคมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
วีณา กลิ่นขจร
3 ปีที่แล้ว
ได้ครูสอนกีตาร์จากเว็บใส่ใจ สอนดีครับ ราคาไม่แพงด้วย คอนเฟิร์ม
Saijai
ชยน ช่วยชัยชนะ
3 ปีที่แล้ว
ช่วงโควิดออกไปไหนไม่ได้ ว่างๆ เลยลองหาคอร์สเรียนเสริมทางอินเตอร์เน็ต เจอเว็บของใส่ใจ มีข้อมูลคนสอนพร้อมราคาให้เลือกเรียนเยอะมาก
Saijai
สารภี พินทองดี
4 ปีที่แล้ว
ส่งลูกไปเรียนว่ายน้ำกับครูกร น้องวินชอบมาก ตื้นเต้นทุกครั้งเวลาไปเรียน ครูกรก็น่ารัก ลูกสนุกใหญ่เลย
Saijai
มนัญชยา ภาภิลัย
4 ปีที่แล้ว
ว่างงานกะทันหัน มีเวลาว่างเยอะ เลยอยากเรียนทักษะเพิ่มเติม เราพอทำอาหารได้บ้าง ลองหาครูสอนทำขนมไทยจากเพจใส่ใจ หาง่ายมาก มีรายละเอียดข้อมูลชัดเจน จองคนสอนได้ไม่ซับซ้อน ตอนนี้ผ่านไป หนึ่งคอร์ส เตรียมตัวชิมกันได้เลยค่ะ อร่อยแน่นอน
Saijai
ณภัทร เจริญยิ่ง
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ครูฝึกทักษะ

ทักษะเสริมที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงาน มีอะไรบ้าง
ทักษะเสริมที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงาน มีอะไรบ้าง ด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วบวกกับวิกฤติไวรัส (COVID-19) เป็นตัวเร่งให้ความเปลี่ยนแปลงเกิดเร็วขึ้น คนทำงานจำเป็นต้องปรับตัวและสร้างหรือเพิ่มทักษะให้กับตนเอง เพื่อเพิ่มคุณค่าและความก้าวหน้าให้กับตัวเอง การมีทักษะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานอะไรบ้าง
1. ทักษะทางด้านกีฬา โค้ช/ผู้ฝึกสอนกีฬา คนทำงานหลายคนที่มีงานประจำเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่มีทักษะในการเล่นกีฬา เช่น กอล์ฟ ไตรกีฬา ว่ายน้ำ ฟุตบอล เป็นต้น การเล่นกีฬาที่นอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังถือว่าเป็นข้อได้เปรียบและเป็นการสร้างโอกาสทางสังคม เช่นการออกรอบตีกอล์ฟกับลูกค้าและเจรจาธุรกิจไปด้วย หรือการเป็นตัวแทนองค์กรเข้าแข่งขันไตรกีฬา ซึ่งถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรอีกทางหนึ่ง
2. ทักษะการทำอาหาร สมมุติว่ามีคุณแม่ท่านหนึ่งกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสำหรับดูแลลูก ๆ มีผู้สมัครสองคนที่มีคุณสมบัติ ความรู้และความสามารถพอ ๆ กัน แต่คนแรกมีทักษะให้การทำอาหารที่ทั้งอร่อยและสร้างสรรค์ ส่วนคนที่สองทำเป็นแต่ไข่ต้ม ไข่ดาว และไข่เจียว คุณคิดว่าใครจะได้งานนี้ไป
3. ทักษะการขับรถ ทักษะการขับรถเป็นอีกหนึ่งทักษะที่มักถูกระบุลงไปในคุณสมบัติที่นายจ้างต้องการนอกจากความรู้ ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับหน้าที่การงานโดยตรง เช่น นายจ้างต้องการพนักงานตลาดที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านการตลาด แต่ระบุเพิ่มเติมไว้ด้วยว่า หากขับรถเป็นจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะหน้าที่ของพนักงานการตลาดคือต้องพบปะลูกค้าทั้งในและนอกออฟฟิศ ฉะนั้นหากพนักงานคนนั้นขับรถเป็น จะช่วยส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้สะดวกมากขึ้น
คุณสามารถประกอบอาชีพได้จากทักษะอะไรบ้าง
ทักษะเสริมอะไรบ้างที่นอกจากจะเป็นประโยชน์แล้วยังอาจจะเอามาใช้ประกอบอาชีพได้

1. ทักษะด้านภาษา โดยพื้นฐานทั่วไปคือทักษะภาษาอังกฤษ แต่จะดีเข้าไปอีกหากคุณมีความสามารถด้านภาษาอื่น ๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ เพราะความสามารถด้านภาษาที่ 2 และ 3 นั้นเป็นที่ต้องการอย่างมากในยุคอาเซียน (ASEAN) และหากมีคะแนนหรือใบรับรองความสามารถด้านภาษาด้วยจะยิ่งดีมาก เพราะจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครงานหรือใช้ประกอบอาชีพติวเตอร์สอนภาษาได้อีกด้วย
2. ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ ทุกวันนี้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญของการทำงานในทุกสาขาอาชีพไปแล้ว ดังนั้นหากคุณสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้คล่อง โดยเฉพาะโปรแกรมพื้นฐานที่ใช้กันอย่างเช่น MS Word, MS Excel, Power Point จะช่วยให้คุณได้เปรียบผู้สมัครงานคนอื่นๆ
3. ทักษะด้านดนตรี เช่น ร้องเพลง เล่นเครื่องดนตรี กำกับดนตรี แต่งเพลง ฟัง แยกเสียงได้ดี วิเคราะห์วิจารณ์ดนตรี ความสามารถด้านนี้ สามารถนำมาใช้ประกอบอาชีพได้หลายๆ อาชีพ ตัวอย่างเช่น ผู้จัดรายการเพลงทางวิทยุ ช่างทำเครื่องดนตรี นักแต่งเพลง ผู้กำกับวงประสานเสียง วาทยากร นักร้อง ครูดนตรี
4. ทักษะด้านกีฬา สำหรับคนที่สนใจกีฬา อยากคลุกคลีกับวงการกีฬา สำหรับผู้ชื่นชอบกีฬาสามารถใช้ทักษะในส่วนนี้ประกอบอาชีพได้มากมาย อาทิเช่น
• ครู อาจารย์ ทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา
• วิทยากรผู้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย
• นักกายภาพบำบัด
• นักวิทยาศาสตร์ทางด้านกีฬาในกระทรวงหรือกรมกองต่างๆ
• โค้ชหรือผู้ฝึกสอนกีฬา
• เทรนเนอร์ในฟิตเนสต่าง ๆ
การเรียนในรูปแบบออนไลน์สามารถใช้กับการเรียนทักษะเสริมได้หรือไม่
เรียนออนไลน์หรือเรียนแบบตัวต่อตัว สนใจเรียนแบบไหน มีผู้ให้บริการทุกรูปแบบค่ะ

1. การเรียนแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ทำอาหาร ขับรถ หรือ ดนตรี ก็สามารถเลือกเรียนออนไลน์ได้ อาจจะมีการสอนออนไลน์แบบกลุ่ม หรือแบบเดี่ยวซึ่งราคาแตกต่างกันออกไป โดยในช่วงแรกที่ต้องเรียนเกี่ยวกับทฤษฎี กฎ กติกา มารยาทต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ทักษะ ต้องอาศัยการจดข้อมูลต่าง ๆ สามารถเรียนทางออนไลน์ได้โดยยังไม่ต้องเรียนแบบตัวต่อ อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียน หรือให้ติวเตอร์เข้ามาสอนซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
2. การเรียนแบบตัวต่อตัว เหมาะสำหรับผู้ที่เรียนรู้ช้าหรือยังไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการเรียนทักษะเสริมมากนัก หรืออาจจะเน้นสอนในส่วนของภาคปฏิบัติ หลังจากเรียนทฤษฎีไปแล้ว เพื่อให้สัมฤทธิผลมากขึ้นจึงควรเรียนแบบตัวต่อตัว เพราะการเรียนแบบตัวต่อตัวแบบมีบริการสอนถึงบ้าน หรือใกล้บ้านตามสถานที่ที่สะดวก ผู้สอนจะอยู่อย่างใกล้ชิดและสามารถสังเกตจุดอ่อนหรือจุดแข็งของผู้เรียนและสามารถแก้ไขได้ถูกจุด อีกทั้งทักษะบางอย่างต้องลงมือปฏิบัติจริงจึงจะรู้ว่าที่ทำอยู่ถูกต้องหรือไม่ ตัวอย่างเช่น
- กีฬาฟุตบอล ให้ลองลงสนามจริง ซ้อมวิ่ง ซ้อมรับ-ส่งลูก ซ้อมกันเป็นทีม และลองฝึกยิงลูกโทษ
- การทำอาหาร ต้องลองฝึกทำจริงๆ เพื่อที่จะได้ทดสอบว่าอาหารที่ทำออกมามีรสชาติอย่างไร
- ขับรถ แน่นอนว่าการขับรถต้องลองขับบนท้องถนน เริ่มแรกอาจฝึกขับบนถนนจำลองก่อนเพื่อให้คุ้นชินกับการขับรถ หลังจากนั้นจึงขับออกไปบนถนนจริงโดยมีผู้สอนนั่งในรถไปด้วย
- ดนตรี การเล่นดนตรีก็ต้องมีการทดสอบเล่นเครื่องดนตรีนั้นๆ ว่าเล่นได้ถูกต้องหรือไม่

ดังนั้นลองไตร่ตรองดูว่าคุณเลือกที่จะเรียนแบบออนไลน์หรือแบบตัวต่อตัว และจะยอมลงทุนจ่ายกับการเรียนของตัวคุณเองอย่างไรดี เพราะการลงทุนในการศึกษาทักษะต่างๆนั้น คุณจะได้ผลตอบแทนแบบไม่มีวันสิ้นสุด เพราะความรู้จะอยู่กับคุณไปตลอด
คุณสามารถคัดเลือกครูฝึกสอนทักษะได้อย่างไร
เพื่อให้การเรียนทักษะเสริมต่าง ๆ นั้นมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ใส่ใจจะมาแนะนำวิธีการคัดเลือกครูฝึกสอนทักษะที่จะช่วยรับประกันคุณภาพในการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนได้ดังนี้

1. พิจารณาจากคุณสมบัติเบื้องต้น ประวัติและข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ของครูผู้สอน เช่น ข้อมูลการศึกษาหรือข้อมูลการทำงาน เป็นต้น
2. การสัมภาษณ์จะยิ่งช่วยให้เราสามารถพิจารณาเลือกครูฝึกสอนที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อได้พูดคุยเราจะสามารถสังเกตได้ว่าทัศนคติของครูฝึกนั้นเป็นอย่างไรจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ ดังนั้นลองสัมภาษณ์ครูฝึกโดยการพูดคุยและยกตัวอย่างต่าง ๆ มา เช่น ครูฝึกมีความคิดเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์แบบนี้ และมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง เป็นต้น
3. พิจารณาเลือกครูฝึกที่มีประสบการณ์ ในการสอนทักษะเสริมนั้นจำเป็นต้องได้ผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เพราะความแม่นยำในการฝึกสอนจะยิ่งช่วยให้การเรียนทักษะเสริมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ครูฝึกสอนขับรถก็จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการฝึกสอนและขับรถมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี ทั้งยังต้องมีความรู้ในเรื่องกฎต่าง ๆ บนท้องถนนอย่างแม่นยำอีกด้วย
4. มีความเข้าใจในเนื้อหาที่จะต้องสอนเป็นอย่างดี เพราะเมื่อใดที่ผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วก็จะสามารถนำความรู้ความเข้าใจเหล่านั้นไปถ่ายทอดต่อให้กับผู้เรียนได้อย่างถูกต้องนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น การทำอาหาร ที่จำเป็นต้องมีขั้นตอน สูตร และวิธีในการทำหารที่ละเอียดและถูกต้อง เป็นต้น

หากเราเลือกครูฝึกสอนทักษะโดยพิจารณาจากคุณสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้แล้วก็จะทำให้การเรียนทักษะเสริมของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง