ช่างซ่อมบำรุง ใน วัฒนา, กรุงเทพมหานคร

ช่างซ่อมบำรุง ใน วัฒนา, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วันชนะ อับบัส
วันชนะ อับบัส

เป็นช่างแอร์ครับ

รับงานล้าง

ตรวจเช็ค

ซ่อมแก้ไข

ติดตั้งแอร์ใหม่ แอร์มือสอง

แสดงเพิ่มเติม

ประสบการณ์งานช่าง10ปี

ล้างแอร์ติดผนังเริมต้น 500บาท

ล้างแอร์แขวนแอร์ซ่อนฝ่า เริ่ม800

แสดงเพิ่มเติม

ช่างรับเหมาไฟฟ้า ระบบแอร์ บริการล้างแอร์ มีประสบการณ์และความชำนาญครับ

แสดงเพิ่มเติม
มนูญ   ปักกะมานัง
มนูญ ปักกะมานัง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ติดตั้งแอร์ ซ่อม ล้าง มากกว่า 10 ปี นิสัยร่าเริง ตั้งใจทำงาน มุ่งมั่นในงานที่ทำ ต้องออกมาดีเป็นที่พอใจของลูกค้า

แสดงเพิ่มเติม
อาจารย์เอผัวน้องปุ๋ม
อาจารย์เอผัวน้องปุ๋ม

ผมเชื่อว่างานด้านเซอร์วิส ทุกอย่างสามารถซ่อมและแก้ไขได้ครับ ซึ่งผมมีประสบการณ์ในด้านงานช่างมากว่า 11 ปีครับและรักในงานบริการมาก เป็นคนอัธยาศัยดีครับ สุภาพ

แสดงเพิ่มเติม

ผมเป็นคนรับผิดชอบงานครับ ซ่อมจริงได้ทุกอย่างภายในอาคาร

หน้าตาอาจจะดูไม่สุภาพแต่ตัวจริงเป็นคนสุภาพมากครับ มีมารยาท พูดน้อย รักงานบริการครับ

แสดงเพิ่มเติม
ภูวเมศวร์ สุวรรณสกนธ์
ภูวเมศวร์ สุวรรณสกนธ์

ช่างแอร์ ล้างแอร ์ ช่อมแอร์ทุกชนิด ทุกพี้นที่ใน กทม และปริมณฑล

แสดงเพิ่มเติม

ประวัติการทำงานเป็นช่างแอร์มาแล้ว2ปี ทำกับที่บริษัทและงานตัวเอง สะอาดปลอดภัยทุกขั้นตอนครับ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

รีโนเวทห้องเก็บของแล้วสภาพผนังห้องคือแย่มากก เคยได้ยินว่ามีบริการช่างทาสีจาก SAIJAI ผ่านๆ เลยลองติดต่อดู ผนังบ้านออกมาดูดีมาก ช่างเก่งจริง ๆ เก็บงานละเอียด
Saijai
ภูมินทร์ พฤกษ์
3 ปีที่แล้ว
แอร์พังกระทันหัน ติดติอช่างจากใส่ใจมาตรวจสอบรวดเร็วทันใจมาก
Saijai
จริณทร์ สมใจ
3 ปีที่แล้ว
บริการดีครับ พูดคุยสะดวกงานไว
Saijai
อนัส สิริ
3 ปีที่แล้ว
หาช่างแอร์ผ่าน SAIJAI ช่างบริการดี พูดจาดี แถมยังแนะนำการดูแลแอร์ให้อีก ใช้บริการซ้ำแน่นอน
Saijai
ดนัยนัฐ แซ่โจ
3 ปีที่แล้ว
ฝ้าเพดานเป็นเชื้อราและรั่วหนักมาก นี่คิดว่าคงต้องเปลี่ยนยกแผงเพื่อนเลยแนะนำว่าลองติดต่อผ่านใส่ใจดู เลยลองทักไปสอบถามแอดมิน บริการดีมาก ตอบคำถามไขข้อสงสัยนี่ได้หมดเลย เยียม
Saijai
สุเมธีร์ การณ์พิท
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

ทำไมการซ่อมบำรุงจึงมาความสำคัญ
ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสำคัญและความจำเป็นของ “การซ่อมบำรุง” หลายคนอาจจะมองว่า การซ่อมบำรุงเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ไม่อยากจ่าย หากอุปกรณ์เครื่องมือภายในบ้านหรือในออฟฟิศเกิดชำรุดหรือเสียหาย ก็แค่ซ่อม ในกรณีที่ซ่อมไม่ได้ก็แค่ซื้อใหม่ ไม่เห็นว่าจำเป็นต้องดูแลรักษา หรือซ่อมบำรุงกันอย่างสม่ำเสมอ
แต่ที่จริงแล้ว “การซ่อมบำรุง” หรือ บำรุงรักษา หมายถึง งานหรือกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นเพื่อให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงการรักษาอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องจักร ให้อยู่ในสภาพที่ดี และเป็นการทำสิ่งที่ชำรุดให้คืนดี
อันตรายที่เกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลและ บำรุงรักษา ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม เช่น การเกิดไฟฟ้ารั่วเนื่องจากการติดตั้งใช้เดินสายไฟที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน การขาดการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ตลอดไปจนถึงการเสื่อมสภาพของฉนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้มาเป็นเวลานาน เป็นต้น
การละเลยขาดความใส่ใจในการซ่อมบำรุงและปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดปัญหา อาจทำให้การทำงานหยุดชะงักลงหรืออาจทำให้เครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นเกิดความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่น้อยในตอนแรกนั้นมากขึ้นกว่าเดิม หรือเราอาจจะต้องเสียเงินซื้อเครื่องจักรและเครื่องมือใหม่เพราะอาจจะชำรุดจนไม่สามารถซ่อมบำรุงได้อีกต่อไป
เครื่องมือเครื่องจักรไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานใหญ่หน่วยงานเล็ก หรือแม้กระทั้งในบ้านของเรา ควรที่จะดูแลและบำรุงรักษา ให้พร้อมใช้งานเสมอในระยะยาว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องมืออุปกรณ์ที่ชำรุดจนถึงขั้นต้องรักษาพยาบาล และในบางกรณีอาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต
คุณสมบัติของช่างซ่อมบำรุง
การที่เราจะสามารถเป็นช่างที่ดีได้นั้นเราควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร ควรวางตัวแบบไหน ควรมีแนวคิดหรือวิธีการคิดแบบไหนที่จะเป็นการส่งเสริมให้เรานั้นได้รับโอกาสในเส้นทางอาชีพของเรามากขึ้น SAIJAI จึงได้รวบรวมคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ช่างซ่อมบำรุงหรือช่างอื่น ๆ นั้นพึงมี ดังต่อไปนี้
1.ช่างซ่อมบำรุงควรเป็นคนที่ช่างสังเกต และช่างจดจำ รู้จักการคิดปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์
2.ช่างจะต้องมีนิสัยรักในการทำงาน มีความรับผิดชอบ ทำงานด้วยความปลอดภัย ไม่ประมาท และระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ
3.ช่างจะต้องมีความรู้ความสามารถสูงในสาขาอาชีพของตนเอง และมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
4.ช่างนั้นจะต้องมีทักษะความสามารถทางช่าง มีความรู้ ความแม่นยำในเครื่องจักรเครื่องมือและอุปกรณ์ รู้จักวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานของเครื่องจักรเครื่องมือ และยังคงพัฒนาทักษะทางการช่างให้มีความเจริญกก้าวหน้า
5.ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นประโยชน์ต่อช่างซ่อมบำรุงมาก ความกล้าที่จะตัดสินใจและมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จ และจะต้องคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกด้วย
6.การมีบุคลิกภาพและมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับช่างซ่อมบำรุง มันจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวช่างและลูกค้าที่พบเจอ เพื่อทำให้การทำงานร่วมกันนั้นดำเนินการร่วมกันได้เป็นอย่างดี และจะทำให้การประกอบอาชีพมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำงานไม่ว่าจะเป็นช่างซ่อมบำรุงหรืออาชีพอื่น ๆ นั่นคือความซื่อสัตย์ ดังสำนวน “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ดังนั้นเราจึงจะต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า และมีมาตรฐานในการทำงานให้มีคุณภาพดีที่สุดเสมอต้นเสมอปลาย ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไว้วางใจให้เราทำงานในครั้งถัดไป
การเรียกช่างซ่อมบำรุงดีกว่าซ่อมเองอย่างไร
เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเสีย ใช้งานไม่ได้ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งซับซ้อนและเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับระบบการทำงานเฉพาะทาง ดังนั้นในการแก้ปัญหาให้ตรงจุดจึงต้องอาศัย "ความแม่นยำ" จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของสิ่งของเหล่านั้น นอกจากนี้ช่างซ่อมบำรุงที่มีความเชี่ยวชาญนั้นจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดแล้ว โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาในการลองทำเองหรือปล่อยให้พังแล้วค่อยซ่อมทีเดียว การปล่อยให้พังแล้วซ่อมทีเดียวนั้นอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ตัวเราได้ การให้ช่างซ่อมบำรุงมาดูให้นั้นจะเป็นผลดีต่อตัวเราเองในเรื่องความปลอดภัย ประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูกของเราที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ และช่างซ่อมบำรุงยังสามารถให้คำแนะนำแก่เราถึงวิธีการใช้ หรือวิธีการดูแลรักษาให้ของเหล่านั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวมากขึ้น และเพื่อป้องกันปัญหาเดิม ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
และการที่เราจะทำการซ่อมแซมสิ่งของเหล่านี้ด้วยตัวเองนั้นบางครั้งอาจเกิดความยากลำบาก เกิดความไม่สะดวกในการทำ อาจจะต้องการคนช่วยยก ช่วยดู และที่สำคัญเลยบางคนอาจจะไม่มีอุปกรณ์ในการซ่อมแซม และไม่ควรอย่างยิ่งที่เราจะนำอุปกรณ์ที่มีอยู่มาใช้แล้วคิดว่าก็แทน ๆ กันได้ สิ่งนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีกไม่จบไม่สิ้น
ดังนั้นการให้ผู้ที่มีความชำนาญในด้านนั้น ๆ มาจัดการตรวจสอบและซ่อมบำรุงให้จะเป็นการประหยัดเวลาให้ตัวเราเองได้อย่างมาก
บนแพลตฟอร์ม SAIJAI มีช่างซ่อมบำรุงด้านใดบ้าง
บนแพลตฟอร์มของ SAJAI มีบริการมากมายหลากหลายด้านให้ท่านได้เลือกใช้บริการ และหนึ่งในบริการที่ขาดไม่ได้ คือ งานบริการด้านซ่อมบำรุง ดูแล มีไรอะไรบ้างเราไปดูกันค่ะ
- ช่างทาสี การทาสีนั้นอาจจะดูเหมือนง่ายแต่ก็ไม่ง่ายไปซะทีเดียว การทาสีผนังบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จกับการทาสีผนังบ้านเก่านั้นมีการเตรียมพื้นผิวในการทาสีและมีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทาสีที่ต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นในการที่เราจะให้ผู้ที่มีประสบการณ์ในการทาสีเพื่อความสวยงามของบ้านที่เรารักและจะอาศัยอยู่ไปอีกนาน
- ช่างปูกระเบื้อง การใช้บริการช่างจากช่างปูกระเบื้องที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
- ช่างฝ้าเพดาน เพื่อป้องกัน ในแสงแดดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวของเราและ เพื่อเก็บโครงสร้างใต้หลังคาให้บ้านดูสวยงาม โดยฝ้าเพดานนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท มีความสวยงามเหมาะกับการแต่งบ้านแต่ละแบบต่างกันออกไป
- คนดูแลสวน การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน
- ช่างดูแลสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำของเราจะสะอาดได้นั้น ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เราอาจจะคิดว่าเราสามารถที่จะดูสระว่ายน้ำด้วยตัวเองได้ แต่ในความเป็นจริงมีรายละเอียดปลีกย่อยในการดูแลและบำรุงรักษาสระว่ายน้ำอีกมากพอสมควรที่เราอาจจะยังไม่รู้ ดังนั้นการเรียงช่างที่เป็นดูแลสระว่ายน้ำนั้นจะช่วยให้เราสะดวกในการดูแลมากกว่าเดิม เพราะสระว่ายน้ำเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถาวรเหมือนกับบ้านและตึกที่เราอาศัย การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

ผ่อนคลายมากขึ้นจากการทาสีห้องนอน

ทาห้องนอนด้วยสีเขียว การทาสีห้องนอนด้วยสีเขียวนั้นจะทำให้เรารู้สึกเหมือนได้นอนหลับพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ โทนสีที่ใช้ทาควรเป็นเขียวอ่อน ๆ เพราะจะได้มีความผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง สบายใจน่าดู

ทาห้องนอนด้วยสีฟ้า สีฟ้าเป็นหนึ่งในสีที่ได้รับความนิยมในการนำมาทาห้องนอนทำให้ห้องดูมีความสดชื่น อีกทั้งยังช่วยให้รู้สึกสงบในเวลาเดียวกัน

ทาห้องนอนด้วยสีม่วง เป็นสีที่ให้ความรู้สึกน่าค้นหา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อยู่อาศัยภายในห้อง ให้พลังและความคิดสร้างสรรค์ ควรเป็นสีม่วงโทนอ่อน ๆ เพื่อความสบายตา

ทาห้องนอนด้วยสีเหลือง สีเหลืองเป็นสีที่ให้ความสดชื่นและรู้สึกผ่อนคลาย แต่ในการนำมาทานั้นไม่ควรที่จะเป็นสีเหลืองล้วนเพราะอาจจะทำให้รู้สึกตื่นตัวจนนอนไม่หลับได้ในบางครั้ง ผนังบางด้านห้องควรเป็นสีขาวหรือสีเทาเพื่อช่วยแทรกความสงบเข้ามาให้ห้องนอนของเราด้วย

ทาห้องนอนด้วยน้ำตาล

ถึงแม้ว่าสีน้ำตาลอาจจะไม่ใช่ สีห้องนอนยอดนิยม เท่ากับสีอื่นนักเพราะดูมีความเป็นผู้ใหญ่ แต่การทาห้องนอนสีน้ำตาลนี้ จะให้ความรู้สึกอบอุ่น สุขุม ช่วยให้ห้องน่าอยู่ ดูน่านอนและหลับได้สนิทมากขึ้นนั่นเอง

ทาห้องนอนด้วยสีเทา

สีเทาเป็นสีที่ให้ความรู้สึกเย็น นิ่งสงบ เงียบ สบาย และผ่อนคลาย การทาสีห้องนอนสีเทาจะช่วยให้เราหลับได้สบาย รู้สึกปลอดภัย และช่วยให้หลับได้สนิท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสีที่เป็น สีห้องนอนยอดนิยม อีกเช่นกัน

ทาสีห้องนอนสีชมพู ให้ความรู้สึกสดชื่น สดใส อารมณ์ดีและยังเป็นอีกหนึ่งสีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ทาสีห้องนอนสีขาว ทำให้บรรยากาศดูสบาย ผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง และแน่นอนว่าสีขาวนั้นเป็นสีที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในการทาห้องนอน อีกทั้งยังทำให้ห้องดูกว้าง



จัดไฟห้องนอนช่วยให้หลับสบายขึ้นได้

แสงไฟส่องสว่างทั่วไป ไฟแอมเบี้ยนเป็นแสงไฟพื้นฐานสำหรับทุกห้อง ให้แสงสว่างสำหรับการมองเห็นและกิจกรรมทั่วไป ส่วนใหญ่จะเป็นโคมไฟติดเพดาน หรือไฟดาวน์ไลท์ ไฟแอมเบี้ยนควรมีความสว่างน้อยกว่าห้องอื่นๆ ส่วนตำแหน่งนั้น อาจติดตั้งบริเวณเหนือเตียงก็ได้ แต่ให้เลือกโคมไฟเพดานที่ให้แสงนวลตา

แสงไฟส่องใช้งาน ทำหน้าที่ให้แสงสว่างเฉพาะจุดเพื่อการใช้งานเฉพาะอย่าง สำหรับห้องนอนจะเป็นลักษณะของโคมไฟข้างหัวเตียงที่ใช้ส่องอ่านหนังสือ ทั้งแบบโคมไฟตั้งบนโต๊ะ ติดผนังและโคมไฟแขวน รวมไปถึงโคมไฟหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ตำแหน่งการติดตั้งโคมไฟส่องใช้งานนั้นควรดูให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงมุมที่แสงส่องเป็นเงารบกวนการใช้งาน

แสงไฟส่องเน้น เน้นเพื่อการตกแต่งโดยใช้แสงสว่าง สามารถใช้โคมไฟที่มีรูปแบบสวยงามแปลกตา โคมไฟที่เปล่งแสงเป็นรูปทรง หรือการติดตั้งซ่อนไฟบนฝ้าเพดานหรือในผนัง ให้ส่องแสงเป็นเส้นหรือเป็นทรงโค้ง เพื่อสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจนอกจากการใช้แสงไฟสีแบบทั่วไปอาจใช้ไฟสีอื่น ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศได้ด้วย

สวิตช์หรี่ไฟหรือดิมเมอร์ เป็นอุปกรณ์ควบคุมความสว่างที่เหมาะสำหรับคนที่อยากได้แสงสว่างมากๆ ในจังหวะที่ทำความสะอาดห้องหรือค้นหาสิ่งของ แต่ต้องการแสงสว่างแบบสลัว ๆ ในช่วงเวลาพักผ่อน การติดตั้งสวิตช์หรี่ไฟนั้น ต้องคำนึงถึงหลอดไฟที่ใช้งานร่วมด้วยจึงควรปรึกษาช่างไฟ ร้านตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ เพื่อจะได้เลือกใช้สวิตช์หรี่ไฟและหลอดที่ทำงานร่วมกันได้

สีของแสง สีของแสงสว่างมีผลต่อการรับรู้และอารมณ์ สีของแสงไฟมีหน่วยวัดเป็นองศาเคลวินหรือค่า K ที่เรามักจะเห็นบนฉลากหรือบนหลอดไฟ สำหรับแสงไฟในบ้านแล้วจะอยู่ในช่วง 2700K-6500K สำหรับห้องนอนแล้ว ควรเลือกสีของแสงที่สบายตาเหมาะกับการผ่อนคลาย ซึ่งเป็นแสงสีเหลือง ไปจนถึงขาวอมเหลือง หรือช่วง 2700K-4000K เป็นสีที่สร้างความอบอุ่นเป็นกันเอง แต่แสงสีอมเหลืองหรือส้มนี้อาจไม่เหมาะในกรณีค้นหาของหรือกวาดถูทำความสะอาดเมื่อเทียบกับแสงสีขาวในช่วง 4500K-6500K



เลือกที่นอนให้เหมาะกับตัวเองต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

เลือกที่นอนให้เหมาะกับวัย การเลือกที่นอนนั้นจะต้องเลือกให้เหมาะกับผู้ใช้งานเป็นหลัก เพราะพฤติกรรมการนอนของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันแน่นอน เด็กมักจะชอบที่นอนนุ่ม ๆ ซึ่งก็ไม่ควรให้นุ่มเกินไป เพราะอาจทำให้การจัดระเบียบร่างกายไม่ดีนัก ส่งผลต่อกระดูกสันหลังในระยะยาว ผู้ใหญ่นั้นมีปัจจัยเพิ่มเติมว่านอนเดี่ยวหรือนอนคู่ ถ้าคุณไม่ได้นอนคนเดียว ต้องจูงมือคู่ของคุณมาทดลองนอนพร้อมกันด้วย เพราะที่นอนสำหรับสองคนควรเป็นที่นอนแบบ Pocket Spring ที่ไม่มีแรงสั่นสะเทือนรบกวนคนข้าง ๆ เวลาพลิกตัวจะได้หลับสบายกันทั้งสองคน แต่ถ้านอนคนเดียวก็สามารถเลือกที่นอนได้ตามใจชอบ สำคัญที่ต้องสามารถรองรับสรีระได้ดี ไม่ทำให้เกิดการปวดหลังหรือไม่สบายตัวตามมา

ที่นอนผู้ใหญ่ต้องแน่นแต่ไม่นุ่ม การเลือกที่นอนต้องใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเลือกที่นอนที่ค่อนข้างแน่น ไม่นุ่มเกินไป เพราะจะทำให้กระดูกสันหลังโค้งงอ ปวดหลังเวลานอน เวลาลุกนั่งก็ยากลำบาก แต่หากที่นอนแข็งเกินไปก็จะทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ จึงควรเลือกที่มีความแน่นกำลังดี รวมทั้งเรื่องความสูงของเตียงที่เมื่อรวมกับที่นอนแล้วต้องให้สูงพอดีกับความสูงของผู้นอน โดยวัดจากด้านข้างเตียงแล้วมีความสูงไม่เกิน 45 ซม. หรือวางขาแล้วตั้งฉากกับพื้นพอดี จะช่วยให้ลุกนั่งได้สะดวก