วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ขอให้ลูกค้ามั่นใจได้ครับ ผมไม่เอาเปรียบลูกค้า ไม่โกง ไม่ทิ้งงาน ทำงานด้วยใจรัก ผมนรักที่จะทำอาชีพนี้งานให้บริการทางด้านเครื่องปรับอากาศ แล้วมีความรู้ทางนี้ด้วยประสบการณ์ทำงานมา 6 ปี กลับบริษัทเซทพ้อย ประเทศไทยจำกัด ผมเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิต จึงมีความรู้ทางด้านนี้ พร้อมที่จะให้บริการกลับลูกค้าด้วยความเต็มใจ และตรงไปตรงมา ให้โอกาสผมใด้รับใช้ลูกค้าสักครั้ง ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง
1.ช่างซ่อมบำรุงควรเป็นคนที่ช่างสังเกต และช่างจดจำ รู้จักการคิดปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์
2.ช่างจะต้องมีนิสัยรักในการทำงาน มีความรับผิดชอบ ทำงานด้วยความปลอดภัย ไม่ประมาท และระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ
3.ช่างจะต้องมีความรู้ความสามารถสูงในสาขาอาชีพของตนเอง และมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
4.ช่างนั้นจะต้องมีทักษะความสามารถทางช่าง มีความรู้ ความแม่นยำในเครื่องจักรเครื่องมือและอุปกรณ์ รู้จักวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานของเครื่องจักรเครื่องมือ และยังคงพัฒนาทักษะทางการช่างให้มีความเจริญกก้าวหน้า
5.ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นประโยชน์ต่อช่างซ่อมบำรุงมาก ความกล้าที่จะตัดสินใจและมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จ และจะต้องคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกด้วย
6.การมีบุคลิกภาพและมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับช่างซ่อมบำรุง มันจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวช่างและลูกค้าที่พบเจอ เพื่อทำให้การทำงานร่วมกันนั้นดำเนินการร่วมกันได้เป็นอย่างดี และจะทำให้การประกอบอาชีพมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำงานไม่ว่าจะเป็นช่างซ่อมบำรุงหรืออาชีพอื่น ๆ นั่นคือความซื่อสัตย์ ดังสำนวน “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ดังนั้นเราจึงจะต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า และมีมาตรฐานในการทำงานให้มีคุณภาพดีที่สุดเสมอต้นเสมอปลาย ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไว้วางใจให้เราทำงานในครั้งถัดไป
- ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ควรเรียกช่างซ่อมบำรุงผู้ชำนาญการมาทำจะปลอดภัยกว่า เพราะเราทำเองบางครั้งอาจเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต และสูญเสียทรัพย์สินได้
- บางครั้งปัญหาเล็กๆ อย่างหลอดไฟที่เคยสว่างอยู่ดีๆ เกิดกะพริบๆ มีเสียงดังขณะเปิด หรือกว่าจะสว่างก็ใช้เวลานาน หนักสุดคือ ดับไปเลย อาการเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นที่บัลลาสต์เสีย แกนหลวม หลอดไฟขาด หรือเสื่อมสภาพ หลอดไฟก็มีหลายแบบทั้งหลอดเกลียว แบบขาสปริง เราควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะนำมาใช้แล้ว ในกรณีที่หลอดไฟนั้นอยู่สูง ควรจะใช้บันไดไม่ควรใช้เก้าอี้ เพราะการใช้เก้าอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การยิงซิลิโคน การเจาะผนัง การทะลวงท่อน้ำนั้นต้องใช้เครื่องมือมากมายในการแก้ปัญหา
- ส่วนของช่องสำหรับการซ่อมบำรุงอาจเป็นสิ่งที่ถูกละเลยมากที่สุดในบ้าน โดยเฉพาะระบบสายไฟบนเพดานที่มีฝ้าปิดทึบทั้งหมด หากบ้านที่คุณอยู่ไม่มีช่องเปิดฝ้า แล้วมีหนูหาทางขึ้นฝ้าไปกัดสายไฟจนขาด ก็จะเป็นเรื่องลำบากมากในการแก้ไขสายไฟให้กลับมาเป็นปกติ ดังนั้น บ้านทุกหลังจำเป็นต้องมีช่องสำหรับซ่อมบำรุงสายไฟบนฝ้าเผื่อไว้ด้วย โดยเฉพาะชั้นล่างหรือชั้นที่ไม่ได้ติดหลังคา ส่วนชั้นที่ติดหลังคาจะมีช่องปีนขึ้นฝ้าอยู่ ถ้าไม่มั่นใจเราก็สามารถเรียกช่างซ่อมบำรุงมาตรวจดูได้
- ช่างทาสี การทาสีนั้นอาจจะดูเหมือนง่ายแต่ก็ไม่ง่ายไปซะทีเดียว การทาสีผนังบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จกับการทาสีผนังบ้านเก่านั้นมีการเตรียมพื้นผิวในการทาสีและมีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทาสีที่ต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นในการที่เราจะให้ผู้ที่มีประสบการณ์ในการทาสีเพื่อความสวยงามของบ้านที่เรารักและจะอาศัยอยู่ไปอีกนาน
- ช่างปูกระเบื้อง การใช้บริการช่างจากช่างปูกระเบื้องที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
- ช่างฝ้าเพดาน เพื่อป้องกัน ในแสงแดดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวของเราและ เพื่อเก็บโครงสร้างใต้หลังคาให้บ้านดูสวยงาม โดยฝ้าเพดานนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท มีความสวยงามเหมาะกับการแต่งบ้านแต่ละแบบต่างกันออกไป
- คนดูแลสวน การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน
- ช่างดูแลสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำของเราจะสะอาดได้นั้น ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เราอาจจะคิดว่าเราสามารถที่จะดูสระว่ายน้ำด้วยตัวเองได้ แต่ในความเป็นจริงมีรายละเอียดปลีกย่อยในการดูแลและบำรุงรักษาสระว่ายน้ำอีกมากพอสมควรที่เราอาจจะยังไม่รู้ ดังนั้นการเรียงช่างที่เป็นดูแลสระว่ายน้ำนั้นจะช่วยให้เราสะดวกในการดูแลมากกว่าเดิม เพราะสระว่ายน้ำเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถาวรเหมือนกับบ้านและตึกที่เราอาศัย การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
2 เคล็ดลับ กำแพงไม่สวย แก้ปัญหาอย่างไร
เคล็ดลับที่ 1 ปกปิดรูเล็ก ๆ บนผนังเบาให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม
ปัจจุบันผนังเบานิยมนำมาใช้ในการต่อเติมบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นผิวที่ติดตั้งง่าย ราคาไม่แพง แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งคือ มันจะได้รับความเสียหายค่อนข้างง่าย ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากการเปิดประตูและลูกบิด ไปกระแทกจนทำให้ผนังกลายเป็นรู สำหรับวิธีการซ่อมแซมก็ทำได้ไม่ยาก ตามขั้นตอนดังนี้
- ตกแต่งแผลผนังให้เรียบ ด้วยมีดอเนกประสงค์ และทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด จากนั้นใช้เกรียงตักปูนยิปซัมมาโป๊วให้ทั่วบริเวณบาดแผล
- ปิดรูด้วยเทปกระดาษ ติดแนวเฉียง 45 องศา โดยความยาวของเทปกระดาษ ควรมีมากกว่ารูอย่างน้อย 2 นิ้ว จากนั้นโป๊วปูนยิปซัมทับ
- ทำขั้นตอนที่ 2 ซ้ำอีกครั้ง โดยติดเทปกระดาษทับชิ้นแรกให้มีลักษณะเป็นรูปแบบกากบาท ทิ้งไว้จนแห้งสนิท ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- ขัดพื้นผิวให้เรียบเนียนด้วยกระดาษทราย ข้อควรระวังคือ อย่าขัดแรงจนเกินไป อาจทำให้เทปกระดาษหลุดออกได้
- โป๊วปูนยิปซัมทับบริเวณโดยรอบอีกครั้ง โดยโป๊วให้มีขนาดกว้างกว่าเดิม ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท จากนั้นขัดพื้นผิวให้เรียบเนียนด้วยกระดาษทราย
- เช็ดฝุ่นออก และตกแต่งงานซ่อมแซมให้เรียบร้อย ด้วยการทาสีให้สวยเสมอกัน
สำหรับเทคนิคนี้ มีไว้สำหรับซ่อมแซมผนังเบารูเล็ก ๆ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1-2 นิ้ว สำหรับรูที่มีขนาดใหญ่มากกว่านี้ ต้องใช้วิธีการซ่อมแซมที่ต่างออกไปเพื่อความคงทน
เคล็ดลับที่ 2 สีผนังภายนอกลอก แก้ไขได้ ไม่ยาก
ภายใต้แสงแดดที่แผดเผา การเปียกฝนและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ต่างมีส่วนทำให้สีของผนังลอก ซึ่งปัญหาสีลอกอันเกิดจากการยึดเกาะที่ไม่ดี จะมีลักษณะการลอกม้วนของชั้นสี หรือพื้นผิวก่อนหน้าอย่างชัดเจน สำหรับการซ่อมแซมทำได้โดยง่าย
- เริ่มต้นด้วยการเตรียมพื้นผิวผนังเสียก่อน โดยใช้เกรียงขูดสีที่ลอกเก่าออก ต่อด้วยใช้กระดาษทรายขัดผนังให้เรียบเนียน และใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดผนัง ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง
- ขั้นตอนถัดมาคือ ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ปูรองเพื่อไม่ให้พื้นเปรอะเปื้อน เลือกใช้สีที่มีคุณภาพพร้อมคุณสมบัติป้องกันความชื้นได้ดี ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ สำหรับการทาสีแนะนำให้ใช้แปรงทาสีแบบลูกกลิ้ง เพราะทาง่าย ให้สีสม่ำเสมอ ควรปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วทาซ้ำอย่างน้อย 2 รอบ เพื่อความเรียบเนียน
3 วิธี กำจัดคราบสกปรกบนผนัง
ทำความสะอาดบริเวณฝาผนังทาสี
สำหรับการทำความสะอาดผนังทาสี ควรใช้ความระมัดระวังในการเช็ด เพื่อป้องกันสีหลุดลอก เริ่มด้วยการปัดฝุ่นออก แล้วจึงตามด้วยการกำจัดคราบสกปรกจากนั้นนำผ้าไปชุบน้ำสบู่ที่ผสมเข้ากับน้ำอุ่น หรือถ้าอยากให้เข้มข้นขึ้นหน่อยก็ใช้เป็นน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเปล่า แล้วนำไปเช็ดที่บริเวณฝาผนัง ปล่อยทิ้งไว้สัก 5 นาที เสร็จแล้วก็นำผ้าชุบน้ำเปล่าไปเช็ดล้างน้ำยาออก แต่ถ้าหากพบว่ายังมีคราบสกปรกติดค้างอยู่ ก็ให้ผสมเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวง ลงไปในน้ำอุ่น ฉีดใส่ผ้าขนหนูแล้วเช็ดบริเวณที่มีคราบสกปรก จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด 1 รอบ ก่อนใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำ
ทำความสะอาดฝาผนังที่ติดวอลเปเปอร์
วิธีการทำความสะอาดผนังติดวอลเปเปอร์ ขั้นแรกคือ ต้องอ่านคู่มือและคำแนะนำต่าง ๆ ให้ละเอียดก่อน เนื่องจากวอลเปเปอร์แต่ละชนิดต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน จากนั้นก็ให้เริ่มลงมือทำความสะอาดด้วยการนำไม้กวาดคลุมผ้า ไม้ปัดขนไก่ หรือแปรงขนนุ่ม มาปัดเศษฝุ่นออก โดยถ้าหากเป็นวอลเปเปอร์แบบทั่วไปที่สามารถล้างน้ำได้ ก็ให้นำฟองน้ำไปชุบกับน้ำสบู่ หรือน้ำอุ่น ที่ผสมกับแอมโมเนียเล็กน้อย จากนั้นก็นำไปเช็ดตามฝาผนัง ส่วนถ้าเป็นวอลเปเปอร์เคลือบไวนิล ก็ให้แช่ผ้าสะอาดลงไปในถังที่ผสมน้ำอุ่น และน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกัน จากนั้นก็นำไปกด ๆ ซับ ๆ บริเวณฝาผนังให้สะอาด โดยต้องระวังอย่าใช้น้ำส้มสายชูกับผนังโดยตรงเด็ดขาด ส่วนถ้าวอลเปเปอร์ยังคงมีคราบสกปรกติดค้างอยู่ ก็ให้ทำการกำจัดคราบออกให้เรียบร้อย โดยค่อย ๆ ทำอย่างระมัดระวัง เสร็จแล้วก็นำผ้าชุบน้ำเปล่าไปเช็ด เพื่อล้างน้ำยาต่าง ๆ ออก พร้อมทั้งใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกที เพื่อทำให้ฝาผนังแห้งและสะอาดดีด้วย
ทำความสะอาดบริเวณผนังไม้
เริ่มแรกให้นำไม้กวาดไปปัดฝุ่น หรือสิ่งสกปรกออกจากผนังอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ผสมน้ำสบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ เข้ากับน้ำอุ่น แล้วนำฟองน้ำมาชุบ เพื่อใช้เช็ดบริเวณฝาผนัง เสร็จแล้วก็ให้ผสมน้ำอุ่นและน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง ลงไปในถังใหม่ แล้วนำผ้ามาชุบไปถูคราบฝังแน่นที่ติดอยู่กับผนังออกก่อน จากนั้นก็นำผ้าสะอาดไปชุบน้ำเปล่า แล้วนำไปเช็ดล้างคราบน้ำยาต่าง ๆ บนผนังให้สะอาดแบบปกติ และใช้ผ้าแห้งเช็ดตามอีกครั้งหลังทำความสะอาดเสร็จ
ทริคเล็ก ๆ แก้ปัญหาสีผนังบ้านพอง ปริบวม
วันนี้ SaiJai มีไอเดียดี ๆ มาแชร์ กับ วิธีแก้ปัญหาสีพอง ปริบวม เนื่องจากสีนอกตัวบ้านที่พอง ปริบวม ออกมา เพราะความชื้น ลองมาดูกันว่า จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร
วิธีแก้ปัญหาสีพอง ปริบวม สรุปขั้นตอนแก้ไขปัญหา มีดังนี้
- ให้ขัดฟิล์มสีช่วงชายล่างของกำแพง (1 เมตรแรก) ออกให้หมด (หรืออย่างน้อย 90%) แล้วทา “น้ำยารองพื้น” ป้องกันความชื้น ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชม. (แต่ไม่เกิน 7 วัน) สำหรับ “น้ำยารองพื้น” มีวางจำหน่ายราคาประมาณ 900 บาท 5 ลิตร จะได้ความสูง 1 เมตรยาวประมาณ 30-35 เมตร
- ด้านปัญหาฟิล์มสีปริบวม หรือหลุดล่อนของฟิล์มสีช่วงล่างของกำแพง (ความชื้นใต้ดิน ซึมซับขึ้นมาในผนัง) เป็นปัญหาที่พบอยู่ที่ใกล้แหล่งน้ำ หรือที่มีกิจกรรมการใช้น้ำและความชื้นมาก แม้ทำการทาใหม่แล้ว ก็จะกลับมาเป็นอีกในไม่ช้า จนทำให้หลาย ๆ คนคิดว่าเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แต่สิ่งที่น่าตลกคือ หากสีที่ทานั้นเป็นสีที่มีคุณภาพดี กลับมักพบปัญหามากกว่า และเร็วกว่าสีคุณภาพต่ำ เพราะฟิล์มสีในสีเกรดต่ำ จะมีเนื้อฟิล์มที่ไม่แน่น มีรูพรุนมากให้อากาศระบายออก จึงพอที่จะทำให้ความชื้นค่อย ๆ ซึมคายผ่านฟิล์มสี ก็จะเสียหายช้ากว่า โดยทั่วไปหากเป็นบ้านที่ซื้อจากโครงการ หรือสร้างโดยบริษัทรับ สร้างบ้าน เมื่อถูกร้อง claim หรือถูกระบุเป็น defect ไป ก็มักจะได้รับเพียงแค่การมาขัดขูดลอกฟิล์มสีที่มีปัญหาออก แล้วจึงทาสีให้ใหม่ ซึ่งพอผ่านไปอีกสักระยะ ปัญหาเดิมก็จะกลับมาเป็นอีก
หมายเหตุ น้ำยารองพื้นปูน ป้องกันความชื้น เป็นคนละประเภทกับ น้ำยากันเชื้อรา ตามที่บางคนเข้าใจผิดกัน อนึ่ง กรณีเป็นบ้านที่ทาสีไปแล้ว และมีปัญหาดังกล่าว จำเป็นต้องขัดลอกฟิล์มสีช่วง 1 เมตรแรกออกให้หมด หรืออย่างน้อย 90% เพื่อที่น้ำยาป้องกันความชื้นจะได้ซึมซับเข้าเนื้อปูนได้ดี จึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันความชื้นจากภายในผนังได้ ควรทาน้ำยารองพื้นปูน ป้องกันความชื้นบนผนัง
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง