ช่างซ่อมบำรุง ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ

ช่างซ่อมบำรุง ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วีรยุทธ รอดประดิษฐ์
วีรยุทธ รอดประดิษฐ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี

ขอให้ลูกค้ามั่นใจได้ครับ ผมไม่เอาเปรียบลูกค้า ไม่โกง ไม่ทิ้งงาน ทำงานด้วยใจรัก ผมนรักที่จะทำอาชีพนี้งานให้บริการทางด้านเครื่องปรับอากาศ แล้วมีความรู้ทางนี้ด้วยประสบการณ์ทำงานมา 6 ปี กลับบริษัทเซทพ้อย ประเทศไทยจำกัด ผมเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิต จึงมีความรู้ทางด้านนี้ พร้อมที่จะให้บริการกลับลูกค้าด้วยความเต็มใจ และตรงไปตรงมา ให้โอกาสผมใด้รับใช้ลูกค้าสักครั้ง ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ

แสดงเพิ่มเติม
อนุพงษ์ สัตยากุล
อนุพงษ์ สัตยากุล
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

รับติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ทำความสะอาด พิกัดสมุทรปราการ สามารถเรียกใช้บริการได้ครับ ให้บริการด้วยความประทับใจ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เห็นคลิป SAIJAI จากใน tiktok เลยถือโอกาสติดต่อสอบถามเรื่องช่างทาสี แอดมินตอบคำถามดีมากกก
Saijai
ลาน่า สะฟา
2 ปีที่แล้ว
บ้านค่อนข้างมีอายุพอสมควร เลยลองทักไปสอบถามเรื่องทาสีผนักนอกบ้าน แอดมินตอบดีมาก
Saijai
เบพิริน เหมสิรักษ์
2 ปีที่แล้ว
ที่บ้านปลูกต้นไทรเกาหลีอยู่ตรงริมรั้วหน้าบ้านไม่ได้ตัดนานแล้วต้นไม้รกมากเรียกช่างทำสวนจากใส่ใจมาจัดการให้ งานละเอียดมาก ไม่ต้องมาตามเก็บเศษใบไม้ที่ร่วงอยู่ทีหลัง ช่างสวนจัดการให้หมด
Saijai
อันลิน พนพพันธ์
2 ปีที่แล้ว
จ้างช่างจากใส่ใจมาติดตั้งเพดานใหม่ คุณภาพงานดีเยี่ยมเหมือนไม่เคยพังมาก่อน
Saijai
พิมพร พรพิพันธ์
2 ปีที่แล้ว
แอร์พังกระทันหัน ติดติอช่างจากใส่ใจมาตรวจสอบรวดเร็วทันใจมาก
Saijai
จริณทร์ สมใจ
2 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

การซ่อมบำรุงสำคัญอย่างไร
หลายคนอาจจะยังนึกไม่ถึงอันตรายที่อาจเกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลรักษาและการซ่อมบำรุง เช่น น๊อตบานประตูตู้เสื้อผ้าที่หลวมจากการเปิดปิดบ่อย ๆ หากเราไม่จัดการไขน๊อตให้แน่นตั้งแต่ตอนที่เราทราบแรก ๆ เวลาผ่านไปมันจะยิ่งหลวมกว่าเดิมเพราะมีการเปิดปิดตู้เสื้อผ้าอยู่เป็นประจำ และเพราะเราไม่จัดการมันตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นอาจส่งผลให้บานประตูของตู้เสื้อผ้านั้นหลุด และอาจจะหล่นมาทับตัวเรา หรืออาจจะให้เกิดการเลือดตกยางออกได้
เพราะเหตุนี้ “การซ่อมบำรุง” หรือ บำรุงรักษา จึงมีความจำเป็นต่อทุก ๆ คน เพราะสิ่งนี้จะยืดระยะเวลาการใช้งานเครื่องจักรเครื่องมือของเราได้มากขึ้น และยังเป็นการประหยัดทรัพยากร ประหยัดเงินที่จะต้องเสียไปหากเราปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดความเสียหายจนไม่สามารถแก้ไขได้ อีกทั้งยังลดการสร้างขยะได้อีกด้วย
“การซ่อมบำรุง” หรือ บำรุงรักษา คือการจัดการให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงการรักษาอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องจักร ให้อยู่ในสภาพที่ดี และเป็นการทำสิ่งที่ชำรุดให้กลับคืนสู่สภาพที่ดี
เราจึงควรที่จะใส่ใจในการดูแลและรักษาสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน หรือที่ทำงานเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย และเพื่อที่สิ่งของเครื่องใช้เหล่านี้จะสามารถใช้งานในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ จะเป็นประโยชน์มากขึ้นถ้าหากเราสามารถบำรุงรักษามันให้อยู่ในสภาพที่ดีจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องมืออุปกรณ์ที่ชำรุดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ



คุณสมบัติของช่างซ่อมบำรุง
การที่เราจะสามารถเป็นช่างที่ดีได้นั้นเราควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร ควรวางตัวแบบไหน ควรมีแนวคิดหรือวิธีการคิดแบบไหนที่จะเป็นการส่งเสริมให้เรานั้นได้รับโอกาสในเส้นทางอาชีพของเรามากขึ้น SAIJAI จึงได้รวบรวมคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ช่างซ่อมบำรุงหรือช่างอื่น ๆ นั้นพึงมี ดังต่อไปนี้
1.ช่างซ่อมบำรุงควรเป็นคนที่ช่างสังเกต และช่างจดจำ รู้จักการคิดปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์
2.ช่างจะต้องมีนิสัยรักในการทำงาน มีความรับผิดชอบ ทำงานด้วยความปลอดภัย ไม่ประมาท และระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ
3.ช่างจะต้องมีความรู้ความสามารถสูงในสาขาอาชีพของตนเอง และมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
4.ช่างนั้นจะต้องมีทักษะความสามารถทางช่าง มีความรู้ ความแม่นยำในเครื่องจักรเครื่องมือและอุปกรณ์ รู้จักวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานของเครื่องจักรเครื่องมือ และยังคงพัฒนาทักษะทางการช่างให้มีความเจริญกก้าวหน้า
5.ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นประโยชน์ต่อช่างซ่อมบำรุงมาก ความกล้าที่จะตัดสินใจและมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จ และจะต้องคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกด้วย
6.การมีบุคลิกภาพและมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับช่างซ่อมบำรุง มันจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวช่างและลูกค้าที่พบเจอ เพื่อทำให้การทำงานร่วมกันนั้นดำเนินการร่วมกันได้เป็นอย่างดี และจะทำให้การประกอบอาชีพมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำงานไม่ว่าจะเป็นช่างซ่อมบำรุงหรืออาชีพอื่น ๆ นั่นคือความซื่อสัตย์ ดังสำนวน “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ดังนั้นเราจึงจะต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า และมีมาตรฐานในการทำงานให้มีคุณภาพดีที่สุดเสมอต้นเสมอปลาย ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไว้วางใจให้เราทำงานในครั้งถัดไป
การเรียกช่างซ่อมบำรุงดีกว่าซ่อมเองอย่างไร
เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเสีย ใช้งานไม่ได้ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งซับซ้อนและเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับระบบการทำงานเฉพาะทาง ดังนั้นในการแก้ปัญหาให้ตรงจุดจึงต้องอาศัย "ความแม่นยำ" จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของสิ่งของเหล่านั้น นอกจากนี้ช่างซ่อมบำรุงที่มีความเชี่ยวชาญนั้นจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดแล้ว โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาในการลองทำเองหรือปล่อยให้พังแล้วค่อยซ่อมทีเดียว การปล่อยให้พังแล้วซ่อมทีเดียวนั้นอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ตัวเราได้ การให้ช่างซ่อมบำรุงมาดูให้นั้นจะเป็นผลดีต่อตัวเราเองในเรื่องความปลอดภัย ประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูกของเราที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ และช่างซ่อมบำรุงยังสามารถให้คำแนะนำแก่เราถึงวิธีการใช้ หรือวิธีการดูแลรักษาให้ของเหล่านั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวมากขึ้น และเพื่อป้องกันปัญหาเดิม ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
และการที่เราจะทำการซ่อมแซมสิ่งของเหล่านี้ด้วยตัวเองนั้นบางครั้งอาจเกิดความยากลำบาก เกิดความไม่สะดวกในการทำ อาจจะต้องการคนช่วยยก ช่วยดู และที่สำคัญเลยบางคนอาจจะไม่มีอุปกรณ์ในการซ่อมแซม และไม่ควรอย่างยิ่งที่เราจะนำอุปกรณ์ที่มีอยู่มาใช้แล้วคิดว่าก็แทน ๆ กันได้ สิ่งนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีกไม่จบไม่สิ้น
ดังนั้นการให้ผู้ที่มีความชำนาญในด้านนั้น ๆ มาจัดการตรวจสอบและซ่อมบำรุงให้จะเป็นการประหยัดเวลาให้ตัวเราเองได้อย่างมาก
คุณสามามารถหาช่างซ่อมบำรุงด้านใดได้บ้าง จากแพลตฟอร์ม SAIJAI
การบำรุงรักษาสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านของเรา นอกบ้าน หรือบริเวณพื้นที่ของบ้านนั้นจะทำให้บ้านของเราน่าอยู่มากขึ้น อีกทั้งยังสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอาศัยอยู่ให้ตัวเราเองอีกด้วย
เมื่อว่าด้วยเรื่องของการทาสีบ้านนั้น เป็นเรื่องที่ต้องยกให้มืออาชีพอย่าง “ช่างทาสี” โดยเฉพาะเพราะการทาสีบ้านนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด ความใส่ใจ รวมถึงการเลือกสีที่มีความคงทนติดอยู่ได้นานเพื่อสร้างความสวยงามให้กับบ้านของเรา
การใช้บริการช่างจาก “ช่างปูกระเบื้อง” ที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
สำหรับฝ้าเพดานที่หลายคนมองข้ามนั้นก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น การเลือกฝ้าเพดานจึงเป็นอีกอย่างหนึ่งสำคัญ การใช้บริการช่าง “ช่างฝ้าเพดาน” เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพื่อจะเลือกฝ้าเพดานที่เหมาะสมกับบ้านของเรา ให้มีความทนทาน และสามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน
การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องทำให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน การมี “คนดูแลสวน” จึงเป็นสิ่งที่เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาให้แก่ตัวเราขึ้นมาก ๆ
คุณภาพของสระว่ายน้ำจะดีได้นั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ การดูแลที่มีขั้นตอนมากมาย และยากลำบากสำหรับเจ้าของสระบางรายจึงทำให้ต้องมีการจ้าง “ช่างดูแลสระว่ายน้ำ” เพื่อการดูแลสระว่ายน้ำของเราที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2 เคล็ดลับ กำแพงไม่สวย แก้ปัญหาอย่างไร

เคล็ดลับที่ 1 ปกปิดรูเล็ก ๆ บนผนังเบาให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม

ปัจจุบันผนังเบานิยมนำมาใช้ในการต่อเติมบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นผิวที่ติดตั้งง่าย ราคาไม่แพง แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งคือ มันจะได้รับความเสียหายค่อนข้างง่าย ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากการเปิดประตูและลูกบิด ไปกระแทกจนทำให้ผนังกลายเป็นรู สำหรับวิธีการซ่อมแซมก็ทำได้ไม่ยาก ตามขั้นตอนดังนี้

- ตกแต่งแผลผนังให้เรียบ ด้วยมีดอเนกประสงค์ และทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด จากนั้นใช้เกรียงตักปูนยิปซัมมาโป๊วให้ทั่วบริเวณบาดแผล

- ปิดรูด้วยเทปกระดาษ ติดแนวเฉียง 45 องศา โดยความยาวของเทปกระดาษ ควรมีมากกว่ารูอย่างน้อย 2 นิ้ว จากนั้นโป๊วปูนยิปซัมทับ

- ทำขั้นตอนที่ 2 ซ้ำอีกครั้ง โดยติดเทปกระดาษทับชิ้นแรกให้มีลักษณะเป็นรูปแบบกากบาท ทิ้งไว้จนแห้งสนิท ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

- ขัดพื้นผิวให้เรียบเนียนด้วยกระดาษทราย ข้อควรระวังคือ อย่าขัดแรงจนเกินไป อาจทำให้เทปกระดาษหลุดออกได้

- โป๊วปูนยิปซัมทับบริเวณโดยรอบอีกครั้ง โดยโป๊วให้มีขนาดกว้างกว่าเดิม ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท จากนั้นขัดพื้นผิวให้เรียบเนียนด้วยกระดาษทราย

- เช็ดฝุ่นออก และตกแต่งงานซ่อมแซมให้เรียบร้อย ด้วยการทาสีให้สวยเสมอกัน

สำหรับเทคนิคนี้ มีไว้สำหรับซ่อมแซมผนังเบารูเล็ก ๆ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1-2 นิ้ว สำหรับรูที่มีขนาดใหญ่มากกว่านี้ ต้องใช้วิธีการซ่อมแซมที่ต่างออกไปเพื่อความคงทน

เคล็ดลับที่ 2 สีผนังภายนอกลอก แก้ไขได้ ไม่ยาก

ภายใต้แสงแดดที่แผดเผา การเปียกฝนและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ต่างมีส่วนทำให้สีของผนังลอก ซึ่งปัญหาสีลอกอันเกิดจากการยึดเกาะที่ไม่ดี จะมีลักษณะการลอกม้วนของชั้นสี หรือพื้นผิวก่อนหน้าอย่างชัดเจน สำหรับการซ่อมแซมทำได้โดยง่าย

- เริ่มต้นด้วยการเตรียมพื้นผิวผนังเสียก่อน โดยใช้เกรียงขูดสีที่ลอกเก่าออก ต่อด้วยใช้กระดาษทรายขัดผนังให้เรียบเนียน และใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดผนัง ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง

- ขั้นตอนถัดมาคือ ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ปูรองเพื่อไม่ให้พื้นเปรอะเปื้อน เลือกใช้สีที่มีคุณภาพพร้อมคุณสมบัติป้องกันความชื้นได้ดี ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ สำหรับการทาสีแนะนำให้ใช้แปรงทาสีแบบลูกกลิ้ง เพราะทาง่าย ให้สีสม่ำเสมอ ควรปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วทาซ้ำอย่างน้อย 2 รอบ เพื่อความเรียบเนียน



3 วิธี กำจัดคราบสกปรกบนผนัง

ทำความสะอาดบริเวณฝาผนังทาสี

สำหรับการทำความสะอาดผนังทาสี ควรใช้ความระมัดระวังในการเช็ด เพื่อป้องกันสีหลุดลอก เริ่มด้วยการปัดฝุ่นออก แล้วจึงตามด้วยการกำจัดคราบสกปรกจากนั้นนำผ้าไปชุบน้ำสบู่ที่ผสมเข้ากับน้ำอุ่น หรือถ้าอยากให้เข้มข้นขึ้นหน่อยก็ใช้เป็นน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเปล่า แล้วนำไปเช็ดที่บริเวณฝาผนัง ปล่อยทิ้งไว้สัก 5 นาที เสร็จแล้วก็นำผ้าชุบน้ำเปล่าไปเช็ดล้างน้ำยาออก แต่ถ้าหากพบว่ายังมีคราบสกปรกติดค้างอยู่ ก็ให้ผสมเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวง ลงไปในน้ำอุ่น ฉีดใส่ผ้าขนหนูแล้วเช็ดบริเวณที่มีคราบสกปรก จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด 1 รอบ ก่อนใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำ

ทำความสะอาดฝาผนังที่ติดวอลเปเปอร์

วิธีการทำความสะอาดผนังติดวอลเปเปอร์ ขั้นแรกคือ ต้องอ่านคู่มือและคำแนะนำต่าง ๆ ให้ละเอียดก่อน เนื่องจากวอลเปเปอร์แต่ละชนิดต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน จากนั้นก็ให้เริ่มลงมือทำความสะอาดด้วยการนำไม้กวาดคลุมผ้า ไม้ปัดขนไก่ หรือแปรงขนนุ่ม มาปัดเศษฝุ่นออก โดยถ้าหากเป็นวอลเปเปอร์แบบทั่วไปที่สามารถล้างน้ำได้ ก็ให้นำฟองน้ำไปชุบกับน้ำสบู่ หรือน้ำอุ่น ที่ผสมกับแอมโมเนียเล็กน้อย จากนั้นก็นำไปเช็ดตามฝาผนัง ส่วนถ้าเป็นวอลเปเปอร์เคลือบไวนิล ก็ให้แช่ผ้าสะอาดลงไปในถังที่ผสมน้ำอุ่น และน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกัน จากนั้นก็นำไปกด ๆ ซับ ๆ บริเวณฝาผนังให้สะอาด โดยต้องระวังอย่าใช้น้ำส้มสายชูกับผนังโดยตรงเด็ดขาด ส่วนถ้าวอลเปเปอร์ยังคงมีคราบสกปรกติดค้างอยู่ ก็ให้ทำการกำจัดคราบออกให้เรียบร้อย โดยค่อย ๆ ทำอย่างระมัดระวัง เสร็จแล้วก็นำผ้าชุบน้ำเปล่าไปเช็ด เพื่อล้างน้ำยาต่าง ๆ ออก พร้อมทั้งใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกที เพื่อทำให้ฝาผนังแห้งและสะอาดดีด้วย

ทำความสะอาดบริเวณผนังไม้

เริ่มแรกให้นำไม้กวาดไปปัดฝุ่น หรือสิ่งสกปรกออกจากผนังอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ผสมน้ำสบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ เข้ากับน้ำอุ่น แล้วนำฟองน้ำมาชุบ เพื่อใช้เช็ดบริเวณฝาผนัง เสร็จแล้วก็ให้ผสมน้ำอุ่นและน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง ลงไปในถังใหม่ แล้วนำผ้ามาชุบไปถูคราบฝังแน่นที่ติดอยู่กับผนังออกก่อน จากนั้นก็นำผ้าสะอาดไปชุบน้ำเปล่า แล้วนำไปเช็ดล้างคราบน้ำยาต่าง ๆ บนผนังให้สะอาดแบบปกติ และใช้ผ้าแห้งเช็ดตามอีกครั้งหลังทำความสะอาดเสร็จ



ทริคเล็ก ๆ แก้ปัญหาสีผนังบ้านพอง ปริบวม

วันนี้ SaiJai มีไอเดียดี ๆ มาแชร์ กับ วิธีแก้ปัญหาสีพอง ปริบวม เนื่องจากสีนอกตัวบ้านที่พอง ปริบวม ออกมา เพราะความชื้น ลองมาดูกันว่า จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร

วิธีแก้ปัญหาสีพอง ปริบวม สรุปขั้นตอนแก้ไขปัญหา มีดังนี้

- ให้ขัดฟิล์มสีช่วงชายล่างของกำแพง (1 เมตรแรก) ออกให้หมด (หรืออย่างน้อย 90%) แล้วทา “น้ำยารองพื้น” ป้องกันความชื้น ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชม. (แต่ไม่เกิน 7 วัน) สำหรับ “น้ำยารองพื้น” มีวางจำหน่ายราคาประมาณ 900 บาท 5 ลิตร จะได้ความสูง 1 เมตรยาวประมาณ 30-35 เมตร

- ด้านปัญหาฟิล์มสีปริบวม หรือหลุดล่อนของฟิล์มสีช่วงล่างของกำแพง (ความชื้นใต้ดิน ซึมซับขึ้นมาในผนัง) เป็นปัญหาที่พบอยู่ที่ใกล้แหล่งน้ำ หรือที่มีกิจกรรมการใช้น้ำและความชื้นมาก แม้ทำการทาใหม่แล้ว ก็จะกลับมาเป็นอีกในไม่ช้า จนทำให้หลาย ๆ คนคิดว่าเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แต่สิ่งที่น่าตลกคือ หากสีที่ทานั้นเป็นสีที่มีคุณภาพดี กลับมักพบปัญหามากกว่า และเร็วกว่าสีคุณภาพต่ำ เพราะฟิล์มสีในสีเกรดต่ำ จะมีเนื้อฟิล์มที่ไม่แน่น มีรูพรุนมากให้อากาศระบายออก จึงพอที่จะทำให้ความชื้นค่อย ๆ ซึมคายผ่านฟิล์มสี ก็จะเสียหายช้ากว่า โดยทั่วไปหากเป็นบ้านที่ซื้อจากโครงการ หรือสร้างโดยบริษัทรับ สร้างบ้าน เมื่อถูกร้อง claim หรือถูกระบุเป็น defect ไป ก็มักจะได้รับเพียงแค่การมาขัดขูดลอกฟิล์มสีที่มีปัญหาออก แล้วจึงทาสีให้ใหม่ ซึ่งพอผ่านไปอีกสักระยะ ปัญหาเดิมก็จะกลับมาเป็นอีก

หมายเหตุ น้ำยารองพื้นปูน ป้องกันความชื้น เป็นคนละประเภทกับ น้ำยากันเชื้อรา ตามที่บางคนเข้าใจผิดกัน อนึ่ง กรณีเป็นบ้านที่ทาสีไปแล้ว และมีปัญหาดังกล่าว จำเป็นต้องขัดลอกฟิล์มสีช่วง 1 เมตรแรกออกให้หมด หรืออย่างน้อย 90% เพื่อที่น้ำยาป้องกันความชื้นจะได้ซึมซับเข้าเนื้อปูนได้ดี จึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันความชื้นจากภายในผนังได้ ควรทาน้ำยารองพื้นปูน ป้องกันความชื้นบนผนัง