ดูแลผู้สูงอายุ ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ

ดูแลผู้สูงอายุ ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 35 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม
เมธาวี ธีระธัมปิยปัญญา
เมธาวี ธีระธัมปิยปัญญา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 40 ปี

ขยันทำงาน รับผิดชอบ มีจรรยาบรรณ ใส่ใจดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดีค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สถานภาพโสด ไม่มีครอบครัว อยู่กับพ่อและแม่มาตลอดคะ ตอนนี้ทั้งสองอายุ85และ86ปี จึงเข้าใจการดูแลผู้สูงอายุอย่างดี ทำอาหารให้ท่านทานดูแลการออกกำลังกายสำหรับคนสูงวัย คุยสนทนาอย่างสม่ำเสมอ มีเรื่องขำๆเล่าให้ฟัง อย่าให้ท่านเหงาคะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
4 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
4 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราที่บ้านมีข้อดีอย่างไรบ้าง ใส่ใจขออธิบายข้อดีต่าง ๆ ให้คุณได้ทำความเข้าใจดังนี้

1) การจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับลูกหลานที่มีเวลาไม่เพียงพอในการดูแลผู้สูงอายุของตน หลาย ๆ คนอาจมีงานหรือภารกิจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จนทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลผู้สูงอายุตลอดเวลา การจ้างคนดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพจึงเหมือนการได้ผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุในยามที่คุณไม่สะดวกด้วยเช่นกัน
2) ผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงการดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลที่ศูนย์ดูแล บ้านพักคนชราหรือ เนอสซิ่งโฮม(Nursing Home)แล้ว จำนวนผู้สูงอายุที่มีมากอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง ดังนั้น การจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจึงเป็นวิธีที่สะดวกกว่ามาก
3) ผู้ดูแลส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลด้านต่าง ๆ เพราะผ่านการฝึกอบรมการปฏิบัติงานโดยเฉพาะ และมีประสบการณ์โดยตรง ไม่ว่าจะการดูแลกิจวัตรประจำวัน เช่น ป้อนข้าว อาบน้ำ เช็ดตัว หรือความเชี่ยวชาญด้านเครื่องยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในกรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และยังสามารถพูดคุยและอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุเพื่อให้ไม่รู้สึกเหงาด้วยเช่นกัน
4) ผู้สูงอายุไม่รู้สึกแปลกสถานที่เนื่องจากความเคยชินเพราะได้อยู่ที่บ้าน และไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือห่างไกลจากลูกหลาน อีกทั้งยังคงได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวของตนเอง ที่สำคัญสภาพแวดล้อมภายในบ้านสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย และไม่วิตกกังวลจนเกินไป

เมื่อรับรู้ข้อดีของการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านตามข้อมูลข้างต้นแล้ว หากต้องการคนเพื่อมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของคุณ ทางใส่ใจมีบริการจัดหาผู้ดูแลผู้สูงอายุที่น่าไว้ใจให้คุณ

ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
อะไรที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชราอยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง
แม้ว่าคุณจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างอย่างครบถ้วนและได้ตัดสินใจจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติหากคุณจะยังคงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ สิ่งที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลหากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่กับผู้ดูแลตามลำพังที่บ้านมีดังนี้

1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

การดูแลผู้สูงอายุช่วงหน้าร้อน

ผู้สูงอายุอาจประสบปัญหาสุขภาพจากสภาพอากาศของประเทศไทยที่มีอากาศร้อนเกือบตลอดทั้งปี เรียกได้ว่าพอถึงหน้าร้อน อากาศร้อนมาก ๆ ร้อนจนแทบจะละลายเลยทีเดียว ผู้สูงอายุหลายคนมีโรคประจำตัว หรืออาการเจ็บป่วยต่างๆ ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน ทั้งนี้ผู้สูงอายุบางท่านต้องพึ่งพาผู้ดูแลในการทำกิจวัตรประจำวัน saijai มีวิธีดูแลผู้สูงอายุสำหรับหน้าร้อนเพื่อเป็นแนวทางให้แก่ผู้ดูแลผู้สูงอายุดังนี้

- ผู้ดูแลควรให้ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงต่ออาการท้องเสียหรือท้องร่วงได้มากกว่าปกติ ยิ่งถ้าหากผู้สูงอายุมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้และระบบขับถ่ายด้วยแล้ว จะทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับลำไส้และระบบขับถ่ายตามมาได้ง่ายกว่าปกติ

- ระวังอย่าให้ร่างกายของผู้สูงอายุอับชื้น ผู้ดูแลที่อาบน้ำหรือเช็ดตัวให้ผู้สูงอายุบ่อย ๆ เนื่องจากอากาศร้อนควรเช็ดตัวให้แห้งก่อนสวมเสื้อผ้า อย่าปล่อยให้แห่งเองหรือปล่อยให้ที่นอนอับชื้น เพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และทำให้ไม่สบายได้เช่นกัน

- ไม่ควรจะเปิดพัดลมจ่อหน้าอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้อากาศภายในบ้านและนอกบ้านจะร้อนแค่ไหน เพราะผู้สูงอายุมีภูมิต้านทานโรคต่ำอาจเป็นสาเหตุของการป่วยและไข้ได้ง่าย ผู้ดูแลควรเปิดพัดลมแบบลมเบาๆ และเปิดส่ายไปมา ไม่ควรเปิดจ่อไปที่ผู้สูงอายุโดยตรงเพื่อสุขภาพของผู้สูงอายุนั่นเอง

- ที่พักอาศัยต้องมีอากาศถ่ายเทสะดวก สำคัญต่อผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่นอนติดเตียง ช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากความร้อน ความอับชื้น และมลพิษได้



วัดอโศการาม

วัดอโศการาม วัดสวย ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมหานครมากนัก ที่นี่เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมทงดงามและศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของคนในพื้นที่และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่จะแวะมาสักการบูชาด้วยเช่นกัน จุดเด่นของ วัดอโศการาม ได้แก่ พระธุตังคเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ เป็นปูชนียสถานประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่มีพุทธศาสนิกชนมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย

วัดอโศการาม อยู่บนเส้นทางเดียวกันกับทางที่จะไปเมืองโบราณสมุทรปราการ ภายในวัดมีพื้นที่บริเวณกว้างขวาง เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง, ต้นไม้และยังมีป่าชายเลนติดทะเล เหมาะแก่การพักผ่อนรวมทั้งไหว้พระทำบุญ เมื่อเข้ามาภายใน วัดอโศการาม จะเห็นพระธุตังคเจดีย์ ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ภายในวัด เป็นพระเจดีย์หมู่รวม 13 องค์ แต่ละองค์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยภายในยังมีพระธาตุของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อาทิเช่น หลวงปู่แหวน, หลวงปู่ชา เป็นต้น

นอกจากนี้ภายใน วัดอโศการาม แล้ว ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่น่าไปสักการบูชาอีกมากมายในบริเวณวัด ได้แก่ วิหารวิสุทธิธรรมรังสี เป็นอาคารจตุรมุข 3 ชั้น ซึ่งชั้นบนเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และสรีระของพระอาจารย์ลี ยอดมณฑปปิดทองคำบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง รูปหล่อหลวงพ่อปู่มั่น ตามด้วยพระอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อศรีสมุทร พระพุทธรูปปางสมาธิเนื้อทองเหลืองปิดทองคำเรียกว่าเมื่อได้มาถึง วัดอโศการาม ก็สามารถสักการบูชาได้หลายองค์ในคราวเดียว

ที่ตั้ง เขตเทศบาลบางปูซอย 60 ถนนสุขุมวิทสายเก่า ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ



พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างจากแรงบันดาลใจ และความคิดของ คุณวิริยะพันธ์ ซึ่งเป็นผู้สร้างเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้เป็นสถานที่เก็บรักษาศิลปวัตถุมรดกทางวัฒนธรรมด้านต่างๆ และเพื่อสืบสานอนุรักษ์งานศิลปะไทยไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม

จุดเด่นของที่นี่คือ รูปช้างเอราวัณโลหะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นประติมากรรมลอยตัวรูปช้าง 3 เศียร ซึ่งเป็นประติมากรรมลอยตัวที่ถูกสร้างขึ้นโดยด้วยวิธีเคาะมือแห่งแรกของโลกอีก

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมอย่างเป็นทางการได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 สำหรับตัวช้างรวมทั้งอาคารรองรับเทียบเท่ากับตึก 14 ชั้นเลยทีเดียว ความกว้างของช้าง 12 เมตร ความยาวลำตัวช้าง 39 เมตร น้ำหนักของลำตัวช้าง 150 ตัน และน้ำหนักของเศียรช้าง 100 ตัน

ลักษณะของอาคาร พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ มี 5 ชั้น ได้แก่ ห้องนิทรรศการ, ห้องโถง, ชั้นพักบันได, ชั้นลอย และ ห้องท้องช้าง

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ

- ชั้นสุวรรณภูมิ ที่ไว้จัดแสดงโบราณวัตถุเครื่องกระเบื้อง ในชั้นนี้ต้องการสื่อความหมายทางวัฒนธรรมของคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

- ชั้นโลกมนุษย์ เป็นบริเวณตัวอาคารทรงกลมที่รองรับน้ำหนักของตัวช้าง เล่าถึงเรื่องราวสะท้อนแก่นพระศาสนาที่ค้ำจุนโลกมนุษย์ให้เกิดศานติผ่านเสาเคาะดุนโลหะภายในอาคารเป็นภาพเรื่องราวอันแฝงด้วยคติธรรมทางศาสนา

- ชั้นจักรวาล เป็นบริเวณภายในตัวอาคารรูปช้าง จัดแสดงโบราณวัตถุ คือ พระพุทธรูปโบราณสมัยต่างๆ

พื้นที่รอบพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เป็นอุทยานพรรณไม้ในวรรณคดี รวมทั้งพันธุ์ไม้หายาก และประดับงานประติมากรรมลอยตัวรูปสัตว์หิมพานต์ตามมุมต่างๆ

อาคารศาลาการตกแต่งเป็นการผสมผสานศิลปะหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้กระจกสีแบบศิลปะตะวันตก, เครื่องเบญจรงค์สลับลวดลายสอดสี,การดุนโลหะบนแผ่นดีบุกของช่างเมืองนครศรีธรรมราช และรูปปั้นโบราณชนิดต่างๆ อาทิ คนธรรพ์บรรเลงดนตรีและรูปพญานาค