วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง บริการรับจ้างพาสุนัขเดิน บริการรับจ้างฝึกสอนสัตว์เลี้ยง บริการอาบน้ำตัดขน บริการดูแลสัตว์เลี้ยงค้างคืน สัตวแพทย์นอกสถานที่บริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชัน ห้วยขวางแสดงผล 21 ถึง 26 จาก 26 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง
พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้
• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป
วิถีชีวิตชาวบ้านในเขตทุ่งครุ
เขตทุ่งครุ ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงเทพ ทิศเหนือติดกับเขตราษฎร์บูรณะ ทิศตะวันออกและทิศใต้ติดกับจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนทิศตะวันตกติดกับเขตจอมทองและเขตบางขุนเทียน
ชาวบ้านในชุมชนเขตทุ่งครุ เริ่มแรกเลยทำเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ ข้อดีข้อเขตทุ่งครุที่ได้เปรียบคือแหล่งแร่ธาตุที่อยู่ในดินมีความสมบูรณ์มาก เพราะดินที่ทำเกษตรนั้นเป็นดินที่จืด มีลักษณะพิเศษจากการตกตะกอนมาจากทางทะเลอ่าวไทย จึงเป็นแหล่งพื้นที่สำคัญมากที่สามารถเพราะปลูกข้าวได้ด้วย แต่หลังจากนั้นเรื่อยมา เวลาผ่านไปชุมชนชาวทุ่งครุประสบปัญหาใหญ่ขึ้นจนไม่สามารถทำอาชีพการเกษตรได้อีกเลย คือเกิดปัญหาน้ำท่วมในปี 2526 ทำให้วิถีของชาวทุ่งครุต้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หลังจากนั้นความเจริญที่เข้ามาและการขยายตัวในภาคอุตสาหกรรม และการคมนาคม เริ่มจะมีบทบาทมากขึ้น ทำให้ผู้คนจากต่างถิ่นย้ายเข้ามาในเขตทุ่งครุเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เขตทุ่งครุได้เปลี่ยนจากเขตเกษตรกรรมกลายเป็นเขตอุตสาหกรรมในที่สุด
คนในชุมชนทุ่งครุนั้นมีผสมผสานระหว่างไทยพุทธ อิสลาม และจีน ชุมชนจะแบ่งๆ ออกได้เกือบ 30 ชุมชน โดยมีการเป็นอยู่หนาแน่มาก เพราะส่วนใหญ่ชาวบ้านมีการตั้งถิ่นฐานดั้งเดิมมานาน ถึงแม้จะมีศาสนาที่ต่างกันแต่ไม่เป็นปัญหา หรือเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตของชาวทุ่งครุแต่อย่างใด
ปัจจุบันมีสถานที่สำคัญ ๆ อยู่มากมาย เช่น มหาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาลัยพณิชยการเชตุพน โรงเรียนวัดพุทธบูชา และโรงเรียนนาหลวง โรงเรียนราษฎร์บูรณะ (มูฮำหมัดอุทิศ) โรงเรียนวัดทุ่งครุ (พึ่งสายอนุสรณ์) วัดทุ่งครุ วัดบางมดโสธราราม (กลางนา) วัดพุทธบูชา วัดหลวงพ่อโอภาสี เป็นต้น
ยังมีอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดในเขตทุ่งครุ คือ ร้านอาหารเด็ด ๆ อร่อย ราคาถูก อาทิเช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น ฮอกไกโด เคอรี่ ที่อยู่ในซอย 47 ร้านครัวเจ๊ง้อ พระราม2 หรือปั้นลี่เบเกอรี่ ฯลฯ รับรองได้เลยว่าหากนักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสชุมชนแห่งนี้จะมีความประทับใจอย่างแน่นอน
คลองบางมดของทุ่งครุ
ทุ่งครุเป็นพื้นที่ทางเกษตรกรรม ตั้งอยู่ฝั่งธนบุรีของพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร มีคลองหลายคลองเป็นที่กั้นเขตที่ติดกับเขตทุ่งครุ หนึ่งในคลองเหล่านั้นคือ คลองบางมด เป็นคลองที่สำคัญต่อการคมนาคมและวิถีชีวิตของชาวบ้าน ซึ่งเป็นคลองที่กั้นเขตระหว่างเขตบางขุนเทียน และเขตทุ่งครุ ตัวคลองมีความยาว 5.67 กิโลเมตร ตลอดริมคลองมีการสร้างสถานที่สำคัญ ๆ และบ้านเรือนของชาวบ้าน วิถีชีวิตของชาวบ้านริมคลอง เป็นแบบศูนย์รวมวัฒนธรรมไทยจีนมุสลิม เนื่องด้วยบริเวณนี้ มีดินที่อุดมสมบูรณ์มาก เพราะมีระดับโพแทสเซียมสูงทำให้ผลไม้มีรสเปรี้ยวอมหวาน ส้มบางมดจึงเหมาะแก่การปลูกในพื้นที่นี้ และมีชื่อเสียงตั้งแต่มีการเริ่มค้าขายสินค้าทางการเกษตรกับต่างประเทศในสมัยรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากส้มบางมดที่มีชื่อเสียงแล้ว กล้วยไม้ และมะม่วงพันธุ์นวลจันทร์ เป็นพืชพันธุ์เศรษฐกิจ ที่สามารถทำรายได้ให้กับชาวบ้านในละแวกนี้เช่นกัน
สถานที่ริมคลองบางมดที่ มีความสำคัญสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมในอดีตของชุมชนนี้ ได้แก่
-ศาลเจ้าแม่ทับทิม : สถาปัตยกรรมจีนไหหลำ เป็นตัวแทนวัฒนธรรมจีน
-วัดพุทธบูชา : เป็นสถานที่เชื่อมคลองกับซอยและถนนหลายสาย ถือเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมไทย
-โซนมัสยิดสอนสมบูรณ์ (ดาริลหะซัน) มัสยิดนูรุลหุดา: ชาวมุสลิมเป็นผู้บุกเบิกพื้นที่ในการทำนา ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นการทำสวนส้มบางมด นับเป็นตัวแทนวัฒนธรรมของชาวมุสลิม
-บ้านริมคลอง หรือ ผู้คนมักรู้จักในนามของ ตลาดมดตะนอย เป็นพื้นที่ ที่มีสวนมะพร้าวของชาวมุสลิม ชาวบ้านใช้ประโยชน์จากมะพร้าวมาทำอาหาร ขนม และสิ่งของเครื่องใช้
ปัจจุบัน “ตลาดคลองบางมด” เป็นโครงการของทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดขึ้นเพื่อช่วยส่งเสริมวิสาหกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตรไทยในชุมชน เปิดเฉพาะ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 07.00-21.00 น. เพื่อรวบรวมผลิตผลทางการเกษตรและอาหารอร่อยในท้องถิ่น ราคาถูก ของชาวบ้านมานำเสนอขายนักท่องเที่ยว สะท้อนให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเกษตรกร อีกทั้งมีการจัดทริปปั่นจักรยาน “ปั่น ชม ชอป ชิม” โดยเริ่มเส้นทางจาก วัดพุทธบูชา เลียบคลองบางมด ชมสวนส้ม ไหว้ศาลเจ้าแม่ทับทิม ชมธรรมชาติ สวนมะพร้าว และการดำเนินชีวิตของชาวบ้านในย่านชุมชนนี้ ไปสิ้นสุดที่ตลาดคลองบางมด
นอกจากตลาดดังกล่าวแล้วยังมีการจัดงานประจำปี โดยคนรุ่นใหม่และผู้นำชุมชนซึ่งได้พัฒนาชุมชนแห่งนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเชิงวัฒนธรรม ให้เป็นจุดเช็กอินแห่งใหม่ มีการขุดเชื่อมคลองต่อกันหลายสาย ให้เรือสามารถสัญจรเชื่อมจุดต่าง ๆ และปรับปรุงเส้นทางปั่นจักรยานริมคลองให้เป็นตัวเลือกใหม่ของการเดินทาง รองจากการใช้เส้นทางบนถนน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเขตตัวเมืองของกรุงเทพ เมื่อได้มาท่องเที่ยว พักผ่อน สัมผัสธรรมชาติแห่งนี่ ต้องมีความประทับใจ หอบหิ้วพลังกลับไปทำงานในเมืองหลวงได้อย่างมากเลยทีเดียว
อาชีพผู้ฝึกสัตว์ มีดีอย่างไร
ยุคปัจจุบันมีคนรักสัตว์เกิดขึ้นสูงกว่าในอดีตเยอะมาก เนื่องจากสังคมในยุคนี้เป็นสังคมเชิงเดี่ยว ชาย หญิง รักอิสระ ไม่ต้องการผูกมัด ไม่ต้องการมีลูก เกิดความเหงาเมื่ออายุมากขึ้น การมีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วยจึงเป็นอีกหนึ่งหนทางเลือกเพื่อคลายความเหงา บางคนถึงขั้นหาคำตอบให้กับชีวิตได้ว่ามีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับสัตว์เลี้ยง เป็นที่มาของคำว่า ทาสสัตว์ บุคคลเหล่านี้มักมีความสุขยิ่งขึ้นเมื่อได้ทำสิ่งที่ชอบควบคู่กับการหารายได้ไปด้วย
ซึ่งงานที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในยุคนี้เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะมีตลาดลูกค้ารองรับเยอะมาก เช่น ผู้สูงอายุที่ต้องคลายความเหงาจากการที่ลูก หลานไม่มีเวลาให้ ผู้สูงอายุที่มีโรคซึมเศร้า หรือ อัลไซเมอร์ (โรคสมองเสื่อม) เพราะมีการค้นพบว่าสามารถบำบัด และบรรเทาอาการได้จากการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้จริง วัยกลางคนที่มีลูกยากหรือไม่ต้องการมีลูก และเด็กที่พ่อ แม่ ไม่มีเวลาให้ เด็กที่ไม่มีพี่น้องเพราะสังคมปัจจุบันไม่นิยมมีลูกเยอะ ฯลฯ
ฐานลูกค้าดังกล่าว ล้วนส่งเสริมให้เกิดอาชีพเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพที่สามารถทำได้ระยะยาว ขึ้นกับความฝันของคนรักสัตว์ที่ได้ทำงานและได้คลุกคลีกับสัตว์ไปด้วย เช่น ธุรกิจคาเฟ่สัตว์เลี้ยง ธุรกิจโรงแรมสำหรับสัตว์เลี้ยง งานรับจ้างดูแลสัตว์เลี้ยง ผู้ช่วยในโรงพยาบาล/คลินิกสัตว์เลี้ยง บริการถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง บริการทำของที่ระลึกเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
และอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามองคือ รับจ้างฝึกสัตว์ เป็นอาชีพที่ต้องสอนสัตว์ให้ตอบสนองกับสิ่งเร้า เพื่อความเป็นมิตรภาพ หรือความบันเทิง เช่น ชิมแปนซี สุนัขนกพิราบ โลมาปากขวด นกแก้วสีเทา หนูแอฟริกา และช้าง สัตว์ที่ทำรายได้สูงต้องเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ผู้ประกอบการทั้งโรงพยาบาล สวนสัตว์ คอกสัตว์ ที่พักพิงสัตว์ ร้านขายสัตว์เลี้ยง ร้านสัตวแพทย์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ค่าเฟ่สัตว์เลี้ยง ฯลฯ มักยอมลงทุนจ้างพนักงานมาดูแลด้านนี้ เพราะเห็นถึงความสำคัญและผลกำไรในอนาคต
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง