ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ธนบุรี, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ธนบุรี, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 25 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 43 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่แพง มีการบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้บริการมา 4ครั้งแล้วครับ บริการดีทุกครั้งเลยครับ
Saijai
ศิลา ใจอารีย์
4 ปีที่แล้ว
หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
4 ปีที่แล้ว
น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
5 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
5 ปีที่แล้ว
สะดวกมากเลยค่ะ นัดพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการมาดูแลน้องหมาที่บ้านได้เลย ไม่ยุ่งยาก ระบบใช้งานง่าย สะดวกสุด ๆ ค่ะ ชอบ ๆ
Saijai
ธีรศักดิ์ เหมศักดิ์
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
ทักษะสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ นี่คือลักษณะและทักษะที่สำคัญ 4 ประการที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร

อำเภอราชคฤห์ ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูนัก แต่นี่เป็นชื่อเดิมของ เขตธนบุรี ซึ่งเดิมมีฐานะเป็นอำเภอชั้นในขึ้นกับกรมนครบาล ตั้งที่ว่าการอำเภอในพื้นที่ของวัดราชคฤห์ (เกร็ดเล็กน้อย วัดราชคฤห์วรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ระหว่างริมคลองบางกอกใหญ่ฝั่งขวา บนถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 17 ไร่ วัดราชคฤห์ยังเคยเป็นที่ตั้งทัพของพระยาพิชัยดาบหัก ที่พระเจ้าตากสินให้มาดักซุ่มยิงโจมตีทัพพม่า พระปรางค์ด้านหน้าพระวิหารใหญ่ เป็นที่บรรจุอัฐิของ พระยาพิชัย มีพระบรมรูปของพระเจ้าตากสินอยู่ในวัด) จึงเรียกอำเภอนี้ อำเภอราชคฤห์

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2459 ได้มีพระบรมราชโองการเปลี่ยนชื่ออำเภอราชคฤห์เป็น อำเภอบางยี่เรือ จังหวัดธนบุรี เนื่องจากมีที่ตั้งอำเภออยู่ในเขตตำบลบางยี่เรือ และเหตุด้วย "ธนบุรี" ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงและเพื่อเฉลิมพระเกียรติของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ประกอบกับอำเภอบางยี่เรือนี้เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดธนบุรีด้วย จึงได้มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่ออำเภอบางยี่เรือเป็น อำเภอธนบุรี ขึ้นกับนครหลวงกรุงเทพธนบุรี และได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็น เขตธนบุรี ขึ้นกับกรุงเทพมหานครในเวลาต่อมา ครั้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 พณ.ท่าน สมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขณะนั้น ได้ลงนามในประกาศจัดตั้งแขวงสำเหร่และแขวงดาวคะนอง แยกจากพื้นที่แขวงบุคคโล แขวงบางยี่เรือ และแขวงตลาดพลู เขตธนบุรี ได้มีประกาศกรุงเทพมหานครเปลี่ยนแปลงพื้นที่แขวงและตั้งแขวงใหม่ในเขตธนบุรี เนื่องจากผู้บริหารกรุงเทพมหานครมีนโยบายให้แบ่งแขวงขนาดใหญ่ให้ย่อยลง เพื่อความชัดเจนในการให้บริการของสำนักงานเขต

เกร็ดเล็กน้อย ก่อนกรุงธนบุรี เป็นราชธานีไทย เมืองธนบุรีมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศเจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199 - 2231) และได้โปรดให้สร้างป้อมทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเพื่อป้องกันข้าศึกที่มาทางทะเล พระราชทานนามว่า "ป้อมวิไชยเยนทร์" แล้วให้ทหารโปรตุเกสและฝรั่งเศสมาประจำอยู่ที่ป้อมนี้ และเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินกอบกู้เอกสารได้สำเร็จ จึงโปรดฯ ให้บูรณะเมืองธนบุรีเป็นราชธานี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก็ได้ทรงสถาปนาราชธานีแห่งใหม่ขึ้น พระราชทานนามว่า "กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร" เมื่อจุลศักราช 1130 ปีชวด สัมฤทธิศก ตรงกับ พ.ศ. 2310 จวบจนถึง พ.ศ. 2325 นับเป็นเวลาแห่งราชธานีเพียง 15 ปีเท่านั้น



5 วิธีในการดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดีและอายุยืน

เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือผู้ดูแลสัตว์ทุกคนต่างต้องการให้สัตว์เลี้ยงของตนมีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาว ต่อไปนี้คือเคล็ดลับ 5 ข้อต่อไปนี้ในการดูแลสัตว์เลี้ยงที่เปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวของเราให้ดีขึ้น:

1. ชวนกันออกกำลังกาย เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือผู้ดูแลสัตว์ควรให้สัตว์เลี้ยงได้ออกกำลังกายเป็นประจำ(โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขและแมว) หากไม่มีการออกกำลังกายสัตว์เลี้ยงจะเสี่ยงมีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วน สุนัขอาจจำต้องออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยป้องกันปัญหาทางพฤติกรรมและสุขภาพ อาจแบ่งเวลาออกกำลังกายภายในแต่ละวันเป็นช่วงสั้น ๆ วันละ 3-4 ครั้ง เช่น เดินเล่นรอบ ๆ ที่พัก เป็นเวลา 15 นาทีในตอนเช้า โยนลูกบอลในสนามหลังบ้านหรือในบ้าน หลังอาหารเย็นพาช่วยกันออกกำลังกายทั้งครอบครัวเดินรอบ ๆ บริเวณใกล้เคียง 30 นาที สำหรับแมวควรจัดสภาพแวดล้อมที่น่าตื่นเต้นด้วยของเล่นหลายประเภทให้เขาได้เล่น

2. ทำกิจกรรมสร้างสมาธิและการปฏิบัติตามคำสั่ง เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือผู้ดูแลควรมีกิจกรรมที่ช่วยสร้างสมาธิหรือลับสมอง เช่น โยนอาหารจำนวนหนึ่งออกมาที่สนามและปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของคุณดมกลิ่นรอบ ๆ และค้นหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ ฝึกการเชื่อฟังขั้นพื้นฐาน (นั่งพักลง) วันละครั้งหรือสองครั้งครั้งละ 10 นาที

3. ดูแลสุขภาพฟันให้ดี โดยเฉพาะสุนัข เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือผู้ดูแลอาจจะพยายามแปรงฟันของสัตว์เลี้ยงวันละครั้ง อีกทางเลือกหนึ่งให้เคี้ยวด้วยเอนไซม์เพื่อช่วยป้องกันการสะสมของหินปูนโรคฟันและกลิ่นปาก

4. พาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำ หรืออย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง การพาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตวแพทย์ก็เพื่อตรวจสุขภาพทั่วไปและเจาะเลือดปีละครั้ง

5. มีความสัมพันธ์ที่ดี สุดท้ายทั้งเจ้าของสัตว์เลี้ยงเองหรือคนดูแลสัตว์เลี้ยง ควรดูแลสัตว์เลี้ยงด้วยความรัก สร้างความสุขเมื่อใช้เวลาอยู่ด้วยกัน สายสัมพันธ์ระหว่างน้องหมากับเจ้าของและสมาชิกอื่นๆ ในครอบครัวจึงมีผลต่อพวกเขามาก เจ้าตัวน้อยจะจดจำถึงความรักที่เจ้าของมอบให้ พวกเขาจะจดจำถึงช่วงเวลาดี ๆ ที่ได้ทำร่วมกับเจ้าของ จดจำกลิ่นสัมผัส จดจำเสียง จดจำพฤติกรรม เรื่องราวต่าง ๆ ของเจ้าของ ยิ่งนานวันก็ยิ่งทำให้เกิดความผูกพัน จนเจ้าของเป็นเหมือนโลกทั้งใบของพวกเขา ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้เจ้าตัวน้อยพร้อมที่จะมอบความรักและความซื่อสัตย์ให้เราอย่างไร้เงื่อนไขนั่นเอง



สุนัขแสดงความรักอย่างไร

การแสดงความรักของสุนัขต่อเจ้าของและผู้ดูแลสุนัข เป็นอย่างไร

1. สบตา ในโลกของสุนัขการสบตาอาจเป็นการกระทำที่ก้าวร้าว สุนัขที่สุภาพจะหลีกเลี่ยงการจ้องมองสุนัขตัวอื่นนาน ๆ เพราะการจ้องมองนาน ๆ และแข็งกร้าว ถือเป็นการข่มขู่หรือท้าทายสุนัขตัวอื่นได้ สุนัขจะไม่จ้องมองคนในลักษณะนั้นเช่นกัน แต่สุนัขจะพยายามสบตาและจ้องมองเจ้าของหรือผู้ดูแลเป็นพิเศษ ด้วยดวงตาที่เขาผ่อนคลายและมีขนาดปกติโดยมีสีขาวเล็กน้อย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับสุนัข เจ้าของสุนัขหรือผู้ดูแลสุนัข ควรสบตาสุนัขด้วยความอ่อนโยนและรอยยิ้ม

2. แสดงออกอย่างตื่นเต้นและดีใจเมื่อได้ยินเสียงเจ้าของ สุนัขจะตอบสนองอย่างมีความสุขกับเสียงของเจ้าของสุนัข เมื่อสุนัขได้ยินเสียงเจ้าของกลับเข้าบ้านหลังเลิกงาน สุนัขจะวิ่งมารับคุณด้วยความดีใจ

3.จากเสียงแล้วก็มาถึงเรื่องกลิ่น สุนัขรู้จักกลิ่นของเจ้าของและคนดูแลพวกมันได้

4. กระดิกหาง หลายคนคิดว่าการกระดิกหางของสุนัขเป็นแค่ท่าทางที่เป็นมิตรทั่วไป แต่ที่จริงแล้วการกระดิกหางของสุนัขอาจมีความหมายที่แตกต่างกันเมื่อแสดงออกต่อคนที่ต่างกัน เมื่อสุนัขกระดิกหางทั้งตัวโดยหางอยู่ที่ความสูงระดับกลาง เป็นการแสดงออกว่าพวกเขามีความสุขและตื่นเต้นที่ได้เห็นคนที่พวกเขารัก ลองดูใกล้ ๆ ในครั้งต่อไปที่คุณเห็นหนึ่งในความสุขเหล่านี้: หากหางสุนัขของคุณกระดิกไปทางด้านขวาของหลังมากขึ้นเมื่อเขาเห็นคุณนั่นเป็นสัญญาณว่าเขารู้สึกดีกับการปรากฏตัวของคุณ ข้อมูลที่น่าสนใจนี้ค้นพบโดยนักประสาทวิทยาชาวอิตาลีและสัตวแพทย์ 2 คนที่ใช้กล้องติดตามมุมกระดิกหางของสุนัขสัตว์เลี้ยง 30 ตัวขณะที่พวกเขาแสดงให้เจ้าของเห็นคนที่พวกเขาไม่รู้จักแมวและสุนัขที่ไม่คุ้นเคย เมื่อสุนัขเห็นเจ้าของหางของพวกมันจะกระดิกไปทางด้านขวาของร่างกายอย่างรุนแรงที่สุด