ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 23 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 25 ปี
พรพรรณ เชื้อสูง
พรพรรณ เชื้อสูง
Saijai อายุ 31 ปี
เทพทัต กะโปงทอง
เทพทัต กะโปงทอง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ มีความอดทนอดกลั้น เคยเลี้ยงสัตว์

แสดงเพิ่มเติม
ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
3 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เลือกใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะว่าไม่มีเวลาดูแลน้องหมาน้องแมวที่บ้านเลยจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาดูแลแทนเวลาเราไม่อยู่ อยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่ราคาไม่สูง ผู้ให้บริการบนเว็บไซต์ใส่ใจเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
Saijai
มัจฉา รุ่งอนันต์
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
3 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
3 ปีที่แล้ว
โชคดีที่ได้มาเจอเว็บไซต์ของใส่ใจเพราะมีบริการคนดูแลสัตว์เลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ประทับใจมาก ๆ ครับ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีบริการฝึกสอนสัตว์เลี้ยง อาบน้ำตัดขน อีกทั้งยังมีบริการสัตว์แพทย์นอกสถานที่ บอกได้เลยว่าครบวงจรจริง ๆ
Saijai
ศราวุติ ชัยเกตุ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
ทักษะสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ นี่คือลักษณะและทักษะที่สำคัญ 4 ประการที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
การใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงในยามที่คุณไม่ว่างนั้นจะช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้ แต่ก่อนจะทำการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณกำหนด ซึ่งข้อตกลงสำคัญมีดังนี้

1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป

เขตบางกอกน้อย

เขตบางกอกน้อย ที่มีพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ (จากทิศเหนือตามเข็มนาฬิกา) เขตบางพลัด เขตพระนคร (ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) เขตบางกอกใหญ่ เขตภาษีเจริญ และเขตตลิ่งชัน มีตราสัญลักษณ์ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ในวงกลม ล่องในคลองบางกอกน้อย ส่วนคำขวัญของเขตคือ สมเด็จโตวัดระฆัง วังหลังตั้งอยู่ อู่เรือพระราชพิธี สถานีรถไฟ คลองใหญ่มีชื่อ เลื่องลือเครื่องลงหิน นามระบิลช่างหล่อ งามลออวัดวา หากเอ่ยชื่อบางกอกน้อย สิ่งแรกที่คิดถึงก็คือคลอง คลองบางกอกน้อย ตั้งอยู่ในเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา จนกระทั่งรัชสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราชแห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2077 - 2089) ได้โปรดฯ ให้ขุดคลองลัดแม่น้ำขึ้นจากปากคลองบางกอกน้อยไปยังปากคลองบางกอกใหญ่ เพราะสภาพแม่น้ำเจ้าพระยาเดิมนั้นคดเคี้ยวเดินเรือไม่สะดวก ซึ่งการขุดคลองนั้น กล่าวกันว่าช่วยย่นระยะทางได้ถึง 1 วันต่อมากระแสน้ำส่วนใหญ่ได้ไหลเข้าสู่คลองลัดทำให้คลองกว้างขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายใหม่ ส่วนแม่น้ำสายเดิมแคบลงกลายเป็นคลองบางกอกน้อย คลองชักพระ และคลองบางกอกใหญ่แทน ปัจจุบัน คลองบางกอกน้อยใช้ในการคมนาคม สัญจร ทัศนาจร ท่องเที่ยว ใช้ขนส่งสินค้า ใช้เล่นกีฬาทางน้ำ ใช้อาบน้ำ ใช้ล้างภาชนะ ใช้ระบายน้ำ และยังเป็นเส้นทางชักพระของวัดนางชี ซึ่งมีขึ้นในวันแรม 2 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี เขตบางกอกน้อย ได้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่โดยกระทรวงมหาดไทยมีประกาศเปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตบางกอกน้อย จากแขวงบางพลัด เป็น “เขตบางพลัด” โดยตัดพื้นที่แขวงบางอ้อ แขวงบางพลัด แขวงบางบำหรุ และแขวงบางยี่ขัน ไปขึ้นกับเขตบางพลัดตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2532 พื้นที่เขตบางกอกน้อยเหลือ 5 แขวง แขวงศิริราช แขวงบ้านช่างหล่อ แขวงบางขุนนนท์ แขวงบางขุนศรี แขวงอรุณอมรินทร์ โดยแขวงศิริราชมีเนื้อที่ตั้งแต่บริเวณรอบ ๆ โรงพยาบาลศิริราช (เป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย สังกัดคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นโรงพยาบาลหลวงแห่งแรกของ ประเทศไทย ในระยะแรกคณะกรรมการจัดสร้างโรงพยาบาล ได้จัดสร้างเรือนพักผู้ป่วยขึ้น 6 หลัง และเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิด และพระราชทานนามว่า "โรงศิริราชพยาบาล"หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า "โรงพยาบาลวังหลัง" โดยทำการบำบัดรักษาผู้ป่วยไข้ทั้งแผนปัจจุบันและแผนโบราณของไทย)ครอบคลุมไปจนถึงฝั่งซ้ายของถนนวังหลังตั้งแต่บริเวณคลองบ้านขมิ้น และสองฝั่งถนนอรุณอมรินทร์ไปจนถึงสะพานอรุณอมรินทร์ซึ่งข้ามคลองบางกอกน้อย และอีกฝั่งของถนนผ่านแยกบ้านขมิ้นไปสิ้นสุดที่เชิงสะพานข้ามคลองมอญ



เสน่ห์ บางกอกน้อย

“จนนาวาคลาคล่องเข้าคลองกว้าง

ตำบลบางกอกน้อยละห้อยหวน

ตลาดแพแลตลอดเขาทอดพวน

แลแต่ล้วนเรือตลาดไม่ขาดคราว”

(นิราศพระประธม เมื่อ พ.ศ. 2385 โดย สุนทรภู่)

คลองบางกอกน้อยเริ่มต้นตั้งแต่แม่น้ำเจ้าพระยาทางเหนือของสถานีรถไฟธนบุรีไหลขึ้นไปบรรจบคลองชักพระ (คลองบางขุนศรี) และ คลองลัดบางกรวย ตรงข้าม วัดสุวรรณคีรี มีความกว้างมากถึง 40 เมตร และยาว 3.3 กิโลเมตร “เขตบางกอกน้อย” อยู่ฝั่งธนบุรีในปัจจุบันนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งที่ตั้งรกรากเก่าแก่ของผู้คนสืบอย่างน้อย ต้องย้อนไปตั้งแต่สมัยอยุธยา คลองบางกอกน้อยและคลองบางกอกใหญ่ซึ่งเคยเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิม แม่เจ้าพระยาสายเก่าอย่าง"คลองบางกอกน้อย" แม้จะผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านฝน และผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายชั่วอายุคน แต่กระนั้นคลองบางกอกน้อยก็ยังคงอบอวลไปด้วยเสน่ห์แห่งวิถีริมน้ำของชาวบางกอกฟากฝั่งธน ที่ผสานวิถีเก่ากับวิถีใหม่เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน เดิมนั้นคลองบางกอกน้อยคือแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิม จนในสมัยสมเด็จพระชัยราชาธิราชแห่งอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา สยามประเทศได้มีการติดต่อค้าขายกับต่างชาติอย่างสม่ำเสมอ พระองค์จึงโปรดเกล้าให้ขุดคลองลัดขึ้นที่ย่านบางกอกในปีพ.ศ. 2065 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปากคลองบางกอกน้อยผ่านโรงพยาบาลศิริราช(ในปัจจุบัน) จนถึงปากคลองบางกอกใหญ่ข้างวัดอรุณฯ เพื่อสะดวกต่อการคมนาคม ทำให้คลองลัดที่ขุดขึ้นใหม่นี้มีกระแสน้ำไหลเป็นร่องพุ่งแรงและคล่องกว่าเดิม สายน้ำกับชีวิตผู้คนริมแม่น้ำ ลำคลองผสมกลมกลืนอยู่ร่วมกันมาอย่างช้านาน น้ำคือชีวิต น้ำคือที่อยู่อาศัย แหล่งอาหารและเส้นทางคมนาคม ฯลฯ ผู้คนอยู่อาศัยจนฝังรากลึกกำเนิดศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ที่หลงเหลือเป็นหลักฐานที่ปรากฏชัดไม่พัดผ่านไปกับกระแสน้ำอันไหลเอื่อยของเจ้าพระยา ปัจจุบันคลองบางกอกน้อยใช้สัญจรและท่องเที่ยว เพราะตลอดสองฝั่งคลองเรียงรายอยู่ด้วยภาพวิถีชีวิตไทย เด็กเล่นน้ำยามเย็น ชาวบ้านนั่งรับลมที่ศาลาหน้าบ้าน ฉากหลังเป็นบ้านทรงไทย ล่องเรือผ่านชุมชนทิวทัศน์แปลกตาไปจนถึง ที่อู่เรือพระราชพิธี ชื่นชมความงดงามของเรือพระที่นั่ง แล้วแวะชมความวิจิตรของจิตกรรมฝาผนังที่วัดสุวรรณาราม วัดสุวรรณาราม เดิมชื่อว่า "วัดทอง" เป็นวัดโบราณ สันนิษฐานว่ามีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เมื่อถึงสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่แทบทั้งหมด จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดสุวรรณารามนี้ นับเป็นเพชรน้ำงามของจิตรกรรมไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีภาพเขียนที่เป็นฝีมือของจิตรกรเอกสมัยรัชกาลที่ 3 ได้แก่ หลวงวิจิตรเจษฎา(ครูทองอยู่) และหลวงเสนีบริรักษ์(ครูคงแป๊ะ) จากความรุ่งเรืองของชุมชนทางน้ำที่อุดมไปด้วยศิลปวัฒนธรรม สืบสายเล่าเรื่องมาได้ตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี สู่ธนบุรี รัตนโกสินทร์อย่างไม่เคยร้างผู้คน ถึงแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปความมีเสน่ห์ของเขตบางกอกน้อยยังคงมีให้ค้นหาไม่เสื่อมคลาย



เคล็ดลับห้าข้อในการดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ

1. ให้อาหารสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอและเหมาะสม คุณควรเลือกอาหารให้เหมาะสมกับชนิด สายพันธุ์ อายุ ลักษณะการเลี้ยง เช่น เลี้ยงในที่พักอาศัย หรือเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ และต้องคำนึงถึงสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก สัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขหรือแมวควรได้กินขนมหรืออาหารทานเล่นบ้าง แต่ต้องไม่มากจนทำให้เกิดปัญหาหรือโรคอ้วน วิธีการสังเกตว่าอาหารแต่ละชนิดเหมาะกับสัตว์เลี้ยงของคุณหรือไม่ อาจจะดูจาก ปริมาณการกิน กินเข้าไปแล้วทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น อาเจียน หรือซึมลง

2. สัตว์เลี้ยงต้องการการดูแลที่เหมาะสม เพื่อให้พวกเขามีความสุขและมีสุขภาพดี เราขอแนะนำให้คุณแปรงขนให้สัตว์เลี้ยงของคุณด้วยแปรงที่เหมาะสมเพื่อให้พวกมันดูสวยงาม หากคุณแปรงขนสัตว์เลี้ยงทุกวัน คุณจะป้องกันไม่ให้ผมมันพันกัน ซึ่งจะทำให้สัตว์เลี้ยงมีความสุขมาก หรือการพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์ตามนัด ไปตัดแต่งขนตามสมควร

3. ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมาก มองหาสัตว์เลี้ยงของคุณเสมอไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือเมื่อคุณพามันไปเดินเล่น ควรใช้สายจูงทุกครั้งเมื่อพาสัตว์เลี้ยงของคุณออกไปเดินเล่นข้างนอก

4. ดูแลที่อยู่ของสัตว์เลี้ยงให้เหมาะสม ควรจัดที่อยู่ให้สัตว์เลี้ยงของคุณเป็นสัดส่วน ไม่ปะปนกับคน เหมาะกับสภาพอากาศและสายพันธุ์ รักษาความสะอาดและกำจัดสิ่งปฏิกูลเป็นประจำและสม่ำเสมอ

5. เมื่อเดินทางกับสัตว์เลี้ยง บางครอบครัวนึกไม่ออกว่าจะพักร้อนอย่างไรหากต้องมีสัตว์เลี้ยงไปด้วย คุณควรแน่ใจว่าคุณมีกระเป๋าพกพาที่สามารถเก็บไว้ได้อย่างปลอดภัย สิ่งเหล่านี้สามารถหาซื้อได้จากร้านสัตว์เลี้ยงและราคาไม่แพง กระเป๋าพกพานี้เหมาะสำหรับการเดินทางไปพบสัตวแพทย์และพอดีกับท้ายรถของคุณ

พวกเรา ( Saijai.io) คิดว่าจะเป็นความคิดที่ดีที่จะแบ่งปันเคล็ดลับยอดนิยมที่พวกเรารวบรวมจากผู้เชี่ยวชาญในการดูแลสัตว์เลี้ยงในครอบครัวของคุณและทำให้พวกเขา (สัตว์เลี้ยง) มีความสุข