ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
5 ปีที่แล้ว
ชอบมากเลย บริการคือดีมาก ดูแลน้องหมาเราดี ปลื้มสุด
Saijai
อรอนงค์ วาร์ด
5 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เลือกใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะว่าไม่มีเวลาดูแลน้องหมาน้องแมวที่บ้านเลยจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาดูแลแทนเวลาเราไม่อยู่ อยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่ราคาไม่สูง ผู้ให้บริการบนเว็บไซต์ใส่ใจเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
Saijai
มัจฉา รุ่งอนันต์
5 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
5 ปีที่แล้ว
โชคดีที่ได้มาเจอเว็บไซต์ของใส่ใจเพราะมีบริการคนดูแลสัตว์เลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ประทับใจมาก ๆ ครับ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีบริการฝึกสอนสัตว์เลี้ยง อาบน้ำตัดขน อีกทั้งยังมีบริการสัตว์แพทย์นอกสถานที่ บอกได้เลยว่าครบวงจรจริง ๆ
Saijai
ศราวุติ ชัยเกตุ
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ความสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยง
การมีสัตว์เลี้ยงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของหลาย ๆ คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงกันก็มีมากมายหลายชนิด แน่นอนว่านั่นหมายถึงการที่เราต้องใช้เวลาไปกับการดูแลเอาใจใส่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย สุขภาพ รวมไปถึงสภาพจิตใจของสัตว์เหล่านี้ด้วย

การดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงในทุก ๆ ด้านที่กล่าวมาข้างต้นนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะมันส่งผลดีให้กับทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ในมุมมองของเจ้าของ การได้ให้อาหาร หรือการเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเสมือนความสุขอย่างหนึ่ง ในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน หากได้กลับมาเจอสัตว์เลี้ยงนั่งรออยู่ที่หน้าประตู เพียงเท่านี้ก็ช่วยคลายความเหนื่อยไปได้เยอะเลยทีเดียว กลับกันในมุมของสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างครบถ้วนนั้นจะส่งผลดีให้กับพวกเขาเช่นกัน สัตว์เลี้ยงสัมผัสได้ถึงความรักที่ได้รับจากเจ้าของ ในขณะเดียวกันพวกเขาจะมอบความรักกลับคืนให้เจ้าของเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านคือ สามารถเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เลี้ยงได้ ซึ่งการได้ใช้เวลาทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงช่วยลดอาการตึงเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ ทั้งยังช่วยให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย เช่นการพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นทำให้ผู้เลี้ยงเองได้ออกกำลังกายไปด้วย

เห็นได้ชัดว่าการมีสัตว์เลี้ยงนั้นมีประโยชน์ต่อคนมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้น ก่อนเลี้ยงต้องมั่นใจว่าคุณจะมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลเขา เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์เช่นกัน หากคุณอยากมีสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของคุณ การใช้บริการรับดูแลสัตว์เลี้ยงก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ก่อนจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผู้ว่าจ้างจะต้องทำข้อตกลงดังนี้?
ทุกคนที่มีสัตว์เลี้ยงย่อมเข้าใจถึงความห่วงใยเมื่อเราต้องอยู่ห่างไกลจากสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว ดังนั้น การเลือกพี่เลี้ยงสัตว์มาอยู่ที่บ้านจึงมีเงื่อนไขและข้อตกลงที่ต้องพูดคุยกันก่อนการจ้างงานดังนี้

• ค่าตอบแทนหรือค่าจ้าง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
• ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะมีตารางการทำงานที่ไม่แน่นอนทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่านายจ้างมีธุระหรือต้องการใช้บริการในตอนไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ดูแลสัตว์ขั้นพื้นฐานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การให้อาหารและน้ำ หรือขนมต่าง ๆ
• หากเป็นสัตว์ เช่น สุนัข หรือแมว พี่เลี้ยงต้องรู้จักการเช็ดตัว แปรงขน และแปรงฟันให้ได้
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปทำกิจกรรม หรือเดินออกกำลังกายได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องสนุกกับการใช้เวลาร่วมกับสัตว์และต้องรู้จักวิธีการทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เครียดเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเจ้าของ
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักวิธีทำความสะอาดเมื่อสัตว์เลี้ยงมีการขับถ่าย
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักรักษาความสะอาดของเล่น ที่นอน หรือบริเวณที่สัตว์อยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสามารถช่วยให้ยาสัตว์เลี้ยงได้ หากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วยหรือมีโรคประจำตัว
• หากมีเหตุฉุกเฉินที่สัตว์เลี้ยงป่วยกะทันหัน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถดูแลและพาไปพบแพทย์ได้ทันที
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อนและสามารถตรวจสอบประวัติก่อนทำการว่าจ้างได้

รู้จกบางพลัด

เขตบางพลัด มีพื้นที่ ทั้งหมด 11.360 ตารางกิโลเมตร มีประชากรอยู่ราว 8,900 คน เป็นย่านที่มีคนอาศัยอยู่จำนวนมาก เป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีองค์ประกอบในการอยู่อาศัยครบ ทั้งตลาดสด โรงเรียน โรงพยาบาล เขตบางพลัดยังเป็นบริเวณที่มีการเชื่อมต่อกับถนนสายหลักหลายสาย เช่น ถนนจรัญสนิทวงศ์ เชื่อมระหว่างสี่แยกบรมราชชนนีกับสะพานพระราม 7 ถนนสิรินธร เชื่อมระหว่างทางแยกต่างระดับสิรินธรกับสี่แยกบางพลัด และถนนราชวิถี เชื่อมระหว่างสี่แยกบางพลัดกับสะพานกรุงธน ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ทางขนานขาเข้า) ถนนอรุณอมรินทร์ เชื่อมระหว่างสี่แยกอรุณอมรินทร์กับสะพานพระราม 8 และทางพิเศษศรีรัช เชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก อีกทั้ง ยังมีถนนสายรอง ทางลัดที่เชื่อมไปยัง จ.นนทบุรีอีกด้วย ด้วยความเป็นชุมชนเก่าแก่ และพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาจนเต็มแล้ว แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยย่านนี้ยังมีต่อเนื่อง เพราะเดินทางสะดวก ย่านบางพลัดยังเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งมหาวิทยาลัย (ในเขตที่ใกล้เคียง) โรงพยาบาล (โรงพยาบาลยันฮี) อีกทั้งย่านนี้ยังใกล้กับโซนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อารีย์ สะพานควาย จตุจักร ประกอบกับการอยู่ในย่านที่มีอาหารการกินครบครัน จึงทำให้คนที่ต้องมาทำงานในพื้นที่ใกล้เคียง นิยมอยู่อาศัยย่านบางพลัด นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเขตบางพลัดคือ เขตบางพลัดไม่มีโครงการรถไฟฟ้าผ่าน แต่ด้วยความที่ล้อมรอบด้วยแหล่งงาน และแหล่งเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ในย่านปิ่นเกล้า ทำให้เขตบางพลัด เป็นเสมือนบ้านพัก จึงทำให้เกิดการลงทุนทำคอนโดมิเนียม และศูนย์การค้ามารองรับ ขึ้นมาก่อนแล้ว เพราะต้องการรองรับความต้องการกลุ่มคนที่ทำงานย่านนี้และเคยอยู่อพาร์ทเมนท์ให้ขยับมามีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง อนาคตอันใกล้นี้เมื่อมีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ที่เป็นส่วนต่อขยาย บางซื่อ-ท่าพระ ก็จะทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมย่านบางพลัดมีขยายตัวมากขึ้น นอกจากนี้ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ยังมีจุดเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ ได้แก่ รถไฟ รถไฟฟ้า รถโดยสาร และเรือโดยสาร เพื่อช่วยลดความแออัดของการจราจรบนถนนสายสำคัญ ๆ ในเขตเมืองได้เป็นอย่างดี



สะพานพระราม 8

ใครจะเชื่อว่าสะพานพระรามแปด สามารถเป็นสถานที่พักผ่อนให้ใจสงบเมื่อต้องการหนีจากความวุ่นวายที่มีอยู่แทบทุกพื้นที่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร เมืองที่ดูเหมือนเคลื่อนที่ตลอดเวลา ทุกอย่างดูเร่งรีบและไม่สามารถจะหยุดรอใครได้ หลายคนคิดว่าต้องออกจากพื้นที่กรุงเทพเท่านั้นถึงจะหลีกหนีบรรยากาศเหล่านี้ไปได้ โดยลืมมองไปว่ามีสถานที่ใกล้ตัวบางแห่งที่สามารถช่วยเยียวยาและเติมพลังชีวิตให้เราได้โดยที่ไม่ต้องไปไหนไกลเลย บางคนอาจคิดถึงสวนสาธารณะ แต่ยังมีที่แห่งหนึ่ง คือ สะพานพระราม 8 สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้ชื่อว่าเป็นสะพานขึงแบบอสมมาตร หมายความว่ามีเสาสะพานหลักเสาเดียวบนฝั่งธนบุรี และมีเสารับน้ำหนัก 1 ต้น บนฝั่งพระนคร ไม่มีเสารับน้ำหนักตั้งอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ไม่มีปัญหาต่อการสัญจรทางน้ำ ช่วยป้องกันน้ำท่วมและระบบนิเวศวิทยาในน้ำ รวมทั้งไม่กระทบต่อการจัดตั้งกระบวนพยุหยาตราชลมารค สะพานพระราม 8 เป็นสะพานขึงแบบอสมมาตรที่ยาวติดอันดับ 5 ของโลก ยาวรวม 475 เมตร สูงเท่าสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และความลาดชันไม่เกิน 3% เป็นสะพานหลักช่วงข้ามแม่น้ำ 300 เมตร สะพานยึดช่วงบนบก 100 เมตร และสะพานช่วงโครงสร้างยึดเสา 75 เมตร และในความยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งนี้เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เพราะมีสวนหลวงพระราม 8 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 35 ไร่ (0.056 ตร.กม.) สวนแห่งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับสะพานพระราม 8 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 ซึ่งรวมถึงพิพิธภัณฑ์ของรัชกาลที่ 8 พระราชกรณียกิจของกษัตริย์ไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ อาทิ ชุมชนบ้านปูน โรงงานสุราบางยี่ขัน ซึ่งให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกแบบรายละเอียด และเปิดให้ใช้งานในปี พ.ศ. 2545 อันเป็นโครงการในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรภายในพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์ ให้ระบายจากฝั่งพระนครออกสู่ฝั่งธนบุรีได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งการออกแบบสะพานที่มีความโดดเด่นสวยงามที่เกิดขึ้น ผสมผสานไปด้วยศิลปะแบบไทย จากแนวคิดในการสร้างเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร กรุงเทพมหานครจึงได้อัญเชิญ "พระราชลัญจกร" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ มาเป็นต้นแบบในการออกแบบทางสถาปัตยกรรม และสายเคเบิลของสะพานพระราม 8 มีสีเหลืองทองมีความหมายอยู่ว่าเป็นสีประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อถึงเวลากลางคืนจะสะท้อนกับแสงไฟเปล่งประกายสวยงาม



สัตว์เลี้ยงและเด็ก

เมื่อบุตรหลานของท่านต้องการมีสัตว์เลี้ยง ผู้ปกครองควรมีส่วนร่วม ในการให้คำชี้แนะและวางแผนในการดูแล เพื่อให้มั่นใจว่าการมีสัตว์เลี้ยงจะเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ที่ดีสำหรับทุกคน ให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะดูแลสัตว์และปฏิบัติต่อสัตว์ด้วยความกรุณาและอดทน เด็กได้รู้จักหน้าที่และมีความรับผิดชอบในฐานะที่ตัวเองเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ซึ่งการเรียนรู้เหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กสร้างกระบวนการคิด รู้จักสังเกตปรับตัวในสภาพแวดล้อมต่างๆ การดูแลสัตว์เลี้ยงสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการเข้าสังคมได้ และเรียนรู้ที่จะปฏิบัติต่อบุคคลรอบข้างด้วยความใส่ใจและอดทน

การเลือกสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสม

ในที่นี้หมายถึงการเลือกประเภทสัตว์เลี้ยงให้เหมาะสมกับผู้เลี้ยง ประการแรกต้องคำนึงถึงอายุของเด็ก เนื่องจากเด็กเล็กมาก (อายุต่ำกว่า 3-4 ปี) ยังไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะเข้าใจการดูแลสัตว์เลี้ยงและยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ พ่อ แม่ อาจจะคิดว่า ให้ลูกลองเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ หรือสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ อย่าง เต่าญี่ปุ่น เพราะดูไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก แต่เด็กวัยนี้ยังไม่เข้าใจว่าการอุ้มหรือการจับตามแรงของตัวเอง จะสร้างความบาดเจ็บให้แก่สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นได้ ฉะนั้นพ่อ แม่ ต้องตามดูอยู่ตลอดเวลา

เด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 10 ปี) ไม่สามารถดูแลสัตว์ใหญ่ แมว หรือสุนัขได้ด้วยตัวเอง ถึงแม้พ่อแม่จะเชื่อว่าลูกโตพอที่จะทำได้ แต่เด็กอาจจะเกิดการหลงลืมหรือละเลยไปในบางขั้นตอน ดังนั้นพ่อแม่ต้องคอยเตือน เช่น การให้อาหาร ให้น้ำ การเก็บอึ หรือการเปลี่ยนทรายในกระบะขับถ่าย พ่อแม่ควรทำเป็นตัวอย่าง และจัดตารางเพื่อเด็กเรียนรู้การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบ

ข้อดีของการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง

ข้อดีของการที่เด็กมีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเอง คือการพัฒนาความรู้สึกเชิงบวกเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงสามารถส่งผลต่อความนับถือตนเองและความมั่นใจในตนเองของเด็กได้ ความสัมพันธ์เชิงบวกกับสัตว์เลี้ยงสามารถช่วยในการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจกับผู้อื่นได้ ความสัมพันธ์ที่ดีกับสัตว์เลี้ยงยังช่วยในการพัฒนาการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูด ความเห็นอกเห็นใจ และการเอาใจใส่ สัตว์เลี้ยงสามารถให้บริการตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันสำหรับเด็ก: พวกเขาสามารถเป็นผู้รับความลับและความคิดส่วนตัวได้อย่างปลอดภัย เด็ก ๆ มักจะพูดคุยกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา