วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง บริการรับจ้างพาสุนัขเดิน บริการรับจ้างฝึกสอนสัตว์เลี้ยง บริการอาบน้ำตัดขน บริการดูแลสัตว์เลี้ยงค้างคืน สัตวแพทย์นอกสถานที่บริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชัน ห้วยขวางแสดงผล 21 ถึง 29 จาก 29 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง
พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้
• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า
หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป
ณ บางรัก
เขตบางรัก ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เลยคลองผดุงกรุงเกษมซึ่งเป็นเขตเมืองเก่า สืบเนื่องมาจากการตั้งถิ่นฐานริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สมัยก่อนการก่อตั้งเมือง เขตบางรักได้เติบโตจนเป็นเขตสำคัญทางเศรษฐกิจ เนื่องจากมีการสร้างถนนและคลองใหม่ผ่านพื้นที่ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ซึ่งดึงดูดชุมชนของชาวต่างชาติและพัฒนาเป็นย่านการค้าที่สำคัญ การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของกรุงเทพฯ ทำให้พื้นที่ริมถนนสีลมและถนนสาทรกลายเป็นหนึ่งในย่านธุรกิจหลักของเมือง เต็มไปด้วยตึกระฟ้า ครอบคลุมพื้นที่ 5.54 ตารางกิโลเมตรและมีประชากรจดทะเบียน 48,227 (ณ ปี พ.ศ.2562) ปัจจุบัน บางรักเป็นที่รู้จักจากกิจกรรมทางการเงินของสำนักงานการค้า เช่นเดียวกับสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวา โบราณสถานและศาสนสถานอันหลากหลาย ซึ่งตั้งกระจุกตัวอยู่ในตำบลบางรักริมน้ำ สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์หลากหลายวัฒนธรรมเฉพาะตัวของเขตนี้ ลักษณะเด่นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของเขตบางรัก ได้แก่ ตึกระฟ้าสีลมและสาทร ซึ่งบางส่วน ได้แก่ มหานคร สเตททาวเวอร์ และจิวเวลรี่เทรดเซ็นเตอร์ เป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศ สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2524 เป็นสัญลักษณ์ของการนำการออกแบบสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้กับอาคารสูงคอนกรีต เช่นเดียวกับอาคารโรงแรมดุสิตธานีเดิมซึ่งถูกรื้อถอนในปี 2562 ตรงข้ามกับประวัติศาสตร์ยุคอาณานิคม อาคารต่างๆ เช่น ห้องสมุดเนลสัน เฮส์ และสโมสรอังกฤษบนถนนสุรวงศ์ และคฤหาสน์สาทร ใกล้แยกสาทร-นราธิวาส อาคารประวัติศาสตร์อื่นๆ กระจุกตัวอยู่ที่ย่านเจริญกรุงริมน้ำ รวมถึงสถานทูตโปรตุเกส ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2363 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ทรงพระราชทานที่ดินผืนนี้ให้แก่พระราชินีมาเรียแห่งโปรตุเกส เพื่อสร้างโรงสินค้าและที่พำนักสำหรับกงสุลโปรตุเกสประจำประเทศไทยในสมัยนั้น ซึ่งตัวอาคารได้รับการออกแบบและก่อสร้างจนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2413 กรมศุลกากร อาคารเอเซียตะวันออก ย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 อาคารไปรษณีย์กลางบนถนนเจริญกรุงปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศไทย Creative & Design Center ผู้สนับสนุนโครงการ Creative District จากช่วงเวลาเดียวกัน พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกและพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเขตบางรัก ริมถนนเจริญกรุง ใกล้ถนนมหาเศรษฐี จัดแสดงบ้านของครอบครัวชนชั้นกลางในสมัยนั้น และมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเขตบางรัก
บางรัก ...บนความสัมพันธ์กว่า 150
“เขตบางรัก” ถือว่าเป็นย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์รวมหลายๆ สิ่ง ที่มีเรื่องราวมากมาย ด้วยทำเลที่ตั้งเป็นพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีความสะดวกคมนาคม และนำมาสู่ความหลากหลายทางวัฒนธรรม บางรักจึงกลายเป็นศูนย์รวมความเจริญตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน อาคารในเขตนี้เหมือนสมุดบันทึกที่เล่าเรื่องราว หรือมีประวัติศาสตร์ เล่าไว้ หนึ่งในนั้น มีประวัติยาวนาน สถานที่เคยเป็นโรงสินค้าและที่พำนักสำหรับกงสุลโปรตุเกสประจำประเทศไทยโดยเริ่มจาก ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) พระองค์ทรงพระราชทานที่ดินผืนนี้ให้แก่พระราชินีมาเรียแห่งโปรตุเกส และ ในปี พ.ศ. 2363 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระราชทานที่ดินในย่านบางรักเพื่อสร้างเป็นสถานกงสุลโปรตุเกสแห่งแรก ซึ่งตัวอาคารได้รับการออกแบบและก่อสร้างจนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2413 เป็นอาคารทรงโคโลเนียลแบบโปรตุเกสผสมกับความเป็นไทย เดิมทีวัสดุที่ใช้ก่อสร้างทั้งหมดส่งตรงมาจากโปรตุเกส แต่เรือที่ขนส่งล่มระหว่างทาง จึงเปลี่ยนมาใช้วัสดุท้องถิ่นแทน ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงอาคารหลังนี้หลายส่วน เช่น เพิ่มระบบไฟฟ้า และเครื่องปรับอากาศ และแม้จะมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงพื้นที่หลายครั้งแต่ยังคงรักษาตัวอาคารและภูมิทัศน์เหมือนในช่วงเริ่มก่อสร้าง ซึ่งกลายมาเป็นสถานทูตโปรตุเกสในทุกวันนี้ ลักษณะทางสถาปัตยกรรม สถานทูตโปรตุเกสเป็นอาคาร 2 ชั้น สถาปัตยกรรมโคโลเนียล หลังคาทรงปั้นหยา หน้าจั่วประดับตราแผ่นดินของประเทศโปรตุเกส และรอบๆ ก็ยังมีมีชุมชนชาวโปรตุเกสตั้งถิ่นฐานอยู่รอบๆ มีโบสถ์กาลหว่าร์ (ภาษาโปรตุเกสออกเสียงว่า กาลวาริอุ) ย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยและโปรตุเกสเกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2054 เมื่อชาวโปรตุเกสล่องเรือมาเจริญสัมพันธไมตรีทางการค้ากับสยามประเทศ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2088 สยามยอมรับโปรตุเกสเป็นพันธมิตร จากการที่โปรตุเกสช่วยสยามร่วมรบกับพม่าที่เชียงกราน ชาวโปรตุเกสจึงได้รับการจัดสรรที่ดินในอยุธยา โดยสมเด็จพระไชยราชาธิราชทรงให้ลงหลักปักฐาน สร้างบ้านและโบสถ์ได้ หลังจากนั้นด้วยช่วงเวลาแห่งการผสมผสานของทั้งสองวัฒนธรรม จนเกิดการก่อตั้ง “บ้านโปรตุเกส” ที่ริมแม่น้ำในกรุงศรีอยุธยา ถึงแม้ว่าอาณาจักรอยุธยาจะล่มสลายลงใน ชาวโปรตุเกสก็ยังเลือกที่จะตามชาวสยามมายังเมืองหลวงแห่งใหม่ที่กรุงเทพฯ พวกเขาตั้งถิ่นฐานใน ย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา และในปี 2561 ซึ่งครบรอบ 500 ปีสนธิสัญญาทางการค้าเเละไมตรีฉบับเเรกระหว่างโปรตุเกสเเละสยาม (ประเทศไทย) ด้วยความสัมพันธ์ที่ยาวนาน จนวัฒนธรรมบางอย่างได้กลมกลืนไป แต่ก็ยังมีการกล่างถึงบ้างเช่นภาษา คำศัพท์ภาษาไทยหลายคำเป็นคำยืมมาจากภาษาโปรตุเกส อย่างเช่น ศาลา มาจากคำว่า sala (สาลา) ซึ่งในภาษาโปรตุเกสหมายถึง ห้องนั่งเล่น คำว่า สบู่ ก็มาจากคำว่า sabão (ซาเบา) คำว่า ขนมปัง ก็มาจากคำว่า pão (เปา) มีอีกสิ่งหนึ่งที่สำหรับประเทศไทยแล้วโปรตุเกสทิ้งร่องรอยวัฒนธรรมไว้อย่างเด่นชัดนั่นคือขนมหวาน ทองหยิบที่มีชื่อในภาษาโปรตุเกสว่า “ตรูซูช ดาช กัลดัช” (Trouxas das caldas) หรือฝอยทอง ชาวโปรตุเกสก็เรียกขนมชนิดนี้ว่า “ฟีอูซ เดอ ออวูซ” (Fios de ovos) เรียนรู้ความสัมพันธ์คร่าวๆ แล้ว อีกทั้งสถานทูตแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่คือความสัมพันธ์ของสองประเทศ
วิธีพูดว่า 'ฉันรักคุณ' ในภาษาสุนัข
1. การพูดคุยกับสุนัขไม่ใช่เรื่องน่าอาย การศึกษาโดยใช้เทคโนโลยี MRI (แมกเนติกเรโซแนนซ์ อิมเมจิ้ง หรือ เครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ตรวจดูอวัยวะภายในโดยไม่มีการใส่ส่วนของอุปกรณ์ใด ๆ เข้าไปในร่างกาย) แสดงให้เห็นว่าสุนัขเข้าใจภาษามนุษย์ได้และชอบให้เจ้าของพูดคุยด้วย การพูดคุยและช่วยให้สุนัขรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นในมากขึ้น
2. เป็นผู้ฟังที่ดี เพราะสุนัขไม่สามารถสื่อสารกับคุณด้วยภาษาพูด คุณควรเช้าใจการแสดงออกทางกาย ซึ่งการแสดงภาษากายที่บ่งบอกถึงความสุขของสุนัข ได้แก่กระดิกหาง สบตา ยกคิ้วขึ้น ในทางกลับกัน ให้จับตาดูสัญญาณเตือนของสุนัขที่ไม่มีความสุข เครียด วิตก กังวล : หางซุก เลียปาก มีแววตาตื่นตระหนก
3. การแสดงออกทางสายตา สุนัขสามารถเข้าใจการสื่อสารที่คุณแสดงออกทางสายตา เมื่อคุณสบตาสุนัขด้วยความอ่อนโยน และสุนัขตอบกลับด้วยการสบตาคุณนานๆ นั้นเป็นการแสดงความรักของสุนัขที่มีต่อคุณ หากคุณจ้องมองสุนัขด้วยสายตาที่ดุดันเกรี้ยวกราด สุนัขจะเข้าใจว่าคุณกำลังโกรธ ซึ่งจะทำให้สุนัขหวาดกลัวและอาจจะไม่อยากเข้าใกล้คุณ
4. การแสดงออกทางสีหน้า การศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าสุนัขสามารถอ่านอารมณ์ของมนุษย์ได้ผ่านการแสดงออกทางสีหน้า คุณสามารถบอกสุนัขของคุณได้ว่าคุณกำลังรู้สึกอย่างไร ด้วยการแสดงอารมณ์บนใบหน้า นักวิทยาศาสตร์ด้านพฤติกรรมชาวญี่ปุ่นได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อสุนัขรู้สึกผูกพันกับใครสักคน พวกเขามักจะเลิกคิ้วทางซ้ายมากกว่าทางขวา ดังนั้นการทักทายสุนัขของคุณด้วยการเลิกคิ้วและรอยยิ้มที่ผ่อนคลายจะบอกสุนัขของคุณว่าคุณมีความสุขแค่ไหนที่ได้เห็นพวกเขา
5. การเอนตัว การเอนตัวเข้าหาสุนัขอย่างผ่อนคลายหรือเอนพิงกันเบาๆ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้สุนัขสัมผัสได้ถึงความรักที่คุณมีต่อพวกเขา แต่ต้องคำนึงถึงลักษณะรูปร่าง น้ำหนัก และขนาดของสุนัข เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ทับสุนัขจนพวกเขาได้รับความบาดเจ็บได้
6. กอดและงีบและพักผ่อนด้วยกัน การงีบหลับด้วยกันในยามบ่ายบนโซฟาหรือบนพื้นหญ้าจะทำให้สุนัขของคุณรู้สึกผูกพันกับคุณมากขึ้น
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง