ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บึงกุ่ม, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บึงกุ่ม, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
ไอรินทร์ เถรวงแก้ว
ไอรินทร์ เถรวงแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 36 ปี

เปนคนรักสัตว์มากค่ะ.ใครอยากให้ดูแลได้เรยค่ะจะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณเหมือนลูกของแอนค่

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 24 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม

รักสัตว์ ชอบสัตว์ เรียนรู้และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงได้บ้าง

เคยทำงานร้านอาบน้ำ-ตัดขนสัตว์ เป็นเด็กอาบน้ำ และผู้ช่วยช่างตัดขน สามารถตัดทรงพื้นฐานๆได้

เลี้ยงสุนัขและแมวเองมาตั้งแต่อายุ10ขวบ

สัตว์เลี้ยงexoticเช่น กระรอก กระต่าย ชูการ์

ทำงานเกี่ยวกับสัตว์ได้หลากหลาย เช่น พาเดินเล่น อาบน้ำ เล็มขน ตัดเล็บ เล่นกับน้องๆหรือฝึกน้องๆขั้นพื้นฐานได้ค่ะ

สังเกตอาการป่วยหรือดูแลช่วงที่สัตว์เจ็บป่วยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยดูแลเค้าที่บ้าน เจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและสามารถสอบถามราคาได้อย่างชัดเจน ก่อนที่เราจะตัดสินใจจ้าง แถมราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เยี่ยมไปเลยค่ะ
Saijai
ปัทมา เลิศชนะ
3 ปีที่แล้ว
น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
3 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
4 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
4 ปีที่แล้ว
สะดวกมากเลยค่ะ นัดพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการมาดูแลน้องหมาที่บ้านได้เลย ไม่ยุ่งยาก ระบบใช้งานง่าย สะดวกสุด ๆ ค่ะ ชอบ ๆ
Saijai
ธีรศักดิ์ เหมศักดิ์
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ความสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยง
การมีสัตว์เลี้ยงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของหลาย ๆ คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงกันก็มีมากมายหลายชนิด แน่นอนว่านั่นหมายถึงการที่เราต้องใช้เวลาไปกับการดูแลเอาใจใส่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย สุขภาพ รวมไปถึงสภาพจิตใจของสัตว์เหล่านี้ด้วย

การดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงในทุก ๆ ด้านที่กล่าวมาข้างต้นนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะมันส่งผลดีให้กับทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ในมุมมองของเจ้าของ การได้ให้อาหาร หรือการเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเสมือนความสุขอย่างหนึ่ง ในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน หากได้กลับมาเจอสัตว์เลี้ยงนั่งรออยู่ที่หน้าประตู เพียงเท่านี้ก็ช่วยคลายความเหนื่อยไปได้เยอะเลยทีเดียว กลับกันในมุมของสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างครบถ้วนนั้นจะส่งผลดีให้กับพวกเขาเช่นกัน สัตว์เลี้ยงสัมผัสได้ถึงความรักที่ได้รับจากเจ้าของ ในขณะเดียวกันพวกเขาจะมอบความรักกลับคืนให้เจ้าของเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านคือ สามารถเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เลี้ยงได้ ซึ่งการได้ใช้เวลาทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงช่วยลดอาการตึงเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ ทั้งยังช่วยให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย เช่นการพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นทำให้ผู้เลี้ยงเองได้ออกกำลังกายไปด้วย

เห็นได้ชัดว่าการมีสัตว์เลี้ยงนั้นมีประโยชน์ต่อคนมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้น ก่อนเลี้ยงต้องมั่นใจว่าคุณจะมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลเขา เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์เช่นกัน หากคุณอยากมีสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของคุณ การใช้บริการรับดูแลสัตว์เลี้ยงก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
การใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงในยามที่คุณไม่ว่างนั้นจะช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้ แต่ก่อนจะทำการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณกำหนด ซึ่งข้อตกลงสำคัญมีดังนี้

1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป

จากคลองกุ่มสู่บึงกุ่ม

กว่าจะมาเป็นบึงกุ่มในปัจจุบัน ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้มีคลองสายหนึ่งซึ่งแยกมาจากคลองแสนแสบ ไหลผ่านบึงเก่าแก่ขนาดใหญ่ ที่มีต้นกุ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงเรียกบริเวณแหล่งน้ำ 2 แห่งนี้ว่า คลองกุ่มและบึงกุ่ม ภายหลังต่อมาเมื่อมีคนอพยพเข้าไปอาศัยและทำมาหากินในบริเวณดังกล่าว ส่งผลให้ย่านคลองกุ่มและใกล้เคียง ได้รับการจัดตั้งเป็น “ตำบลคลองกุ่ม” ซึ่งเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอบางกะปิ จังหวัดพระนคร ต่อมาเมื่อจังหวัดพระนครถูกยุบรวมกับจังหวัดธนบุรี เป็นกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้มีการเรียกเขตการปกครองใหม่ ตำบลคลองกุ่มจึงได้เปลี่ยนฐานะเป็นแขวงคลองกุ่ม ในการปกครองของเขตบางกะปิ แต่เนื่องจากพื้นที่เขตบางกะปิมีขนาดกว้างมากและมีประชากรที่หนาแน่น เพื่อความสะดวกในการบริหารราชการ กระทรวงมหาดไทยจึงมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่การปกครองใหม่ โดยมีการแยกแขวงคลองกุ่ม แขวงคันนายาวและแขวงสะพานสูง จัดตั้งขึ้นเป็นเขตใหม่โดยใช้ชื่อว่า เขตบึงกุ่ม และยกฐานะแขวงคันนายาวรวมกับพื้นที่บางส่วนของแขวงคลองกุ่ม จัดตั้งเป็นเขตคันนายาวและยกฐานะแขวงสะพานสูงเป็นเขตสะพานสูง ปัจจุบันนี้เขตบึงกุ่มแบ่งการปกครองให้ออกเป็น 3 แขวงได้แก่ แขวงคลองกุ่ม แขวงนวมินทร์และแขวงนวลจันทร์ โดยเขตบึงกุ่มตั้งอยู่ตอนกลางของฝั่งพระนคร มีอาณาเขตทิศเหนือติดกับเขตบางเขนและเขตคันนายาว ทิศตะวันออกติดกับเขตคันนายาวทิศใต้ติดกับเขตสะพานสูง ทิศตะวันตกติดกับเขตบางกะปิและเขตลาดพร้าว จากสถิติประชากรตามทะเบียนราษฎรเขตบึงกุ่ม ปี พ.ศ. 2563 มีประชากรทั้งสิ้น 140,817 คน ซึ่งสภาพพื้นที่โดยทั่วไปถือ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย

ที่มา : รู้จักบึงกุ่ม



แนะนำสระว่ายน้ำ พาน้องหมาไปว่ายน้ำคลายร้อนในเขตบึงกุ่ม

เอาใจคนรักสุนัข สัตว์เลี้ยงสุดรักของหลายๆ คน ที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่นสำหรับคนในครอบครัวหรือเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เรามีสระว่ายน้ำย่านบึงกุ่มมาแนะนำ ที่จะช่วยให้น้องหมาได้ออกกำลังกายมีร่างกายที่ฟิต แข็งแรงอยู่กับเราไปนานๆ

1. World Pet Angel นวลจันทร์ ที่นี่เป็นโรงแรมสำหรับสุนัข มีบริการหลากหลายเพื่อน้องหมาที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นบริการสระว่ายน้ำสำหรับสุนัข ที่มีขนาด 3×5 เมตร และ 4×7 เมตร เหมาะสำหรับ ให้น้องหมาได้ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง ลดความเครียด สนุกสนานเพลิดเพลิน ในส่วนของบริการโรงแรมที่นี่ให้บริการรับฝากตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งสะอาดและปลอดภัย มีห้องพักปรับอากาศและห้องพัดลมให้เลือกตามใจชอบ ที่สำคัญที่นี่ยังมีบริการจัดพิธีศพสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหากรณีที่สัตว์เลี้ยงเสียชีวิตจากการติดเชื้อหรือการฝังไม่ถูกวิธี เพื่อเป็นการไว้อาลัยในความรักความผูกพันของเจ้าของและสัตว์เลี้ยงอย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการแสดงออกความรักแม้ในวันที่สัตว์เลี้ยงจากไป

ที่อยู่ : 40/736 หมู่10 ถนนนวลจันทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ

เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 20.00 น.

2. Dog Sport Club นวลจันทร์ 36 สโมสรกีฬาสุนัข ให้บริการเกี่ยวกับสุนัขอย่างหลากหลาย ทั้งห้องฝึกสอน ห้องพักสุนัข ห้องเป่าขนที่ถูกลักษณะอนามัย โดยให้บริการเป็นระบบปรับอากาศทั้งหมดและยังมีสวนน้ำสนุกครบวงจรสำหรับสุนัข ที่นี่ยังเป็นสถานที่ให้สุนัขได้ออกกำลังกายโดยเฉพาะการว่ายน้ำที่เป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับสุนัข ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ บำบัด ฟื้นฟู สมรรถภาพทางร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยสโมสรกีฬาสุนัขมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 2 สระด้วยกันสามารถพาน้องหมามาว่ายน้ำได้ตลอดทั้งวัน

ที่อยู่ : 777/1 ซอยนวลจันทร์ 36 อาคาร หลังสถานีตำรวจโคกคราม ถนนนวลจันทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ

เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.



4 วิธีเรียนรู้ภาษากายจากสุนัข

เจ้าของสุนัขหลายคนคงประสบปัญหาเช่นเดียวกัน คือไม่เข้าใจท่าทางที่สุนัขแสดงออกว่าต้องการจะสื่ออะไร สำหรับเจ้าของที่เพิ่งได้สุนัขตัวแรกมาหรือสุนัขตัวใหม่ที่คนละพันธุ์จากเดิมที่เคยเลี้ยง จำเป็นที่เจ้าของต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะท่าทาง การแสดงออกของสุนัขเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและสามารถป้องกันได้ทันเวลา ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่ายจากภาษากายที่เป็นช่องทางหลักที่สุนัขจะใช้สื่อสารกับคน การแสดงออกของสุนัขเกิดจากหลายๆ อารมณ์ หลายความรู้สึก ที่พวกเขามักแสดงผ่านท่าทางให้เราเห็น เพื่อบ่งบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการหรือความรู้สึกให้เราได้ทราบ วันนี้เรามีเทคนิคดีๆมาเป็นตัวช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจภาษากายที่สามารถบ่งบอกถึงความรู้สึก ของสุนัขมากขึ้น

1.ความรู้สึกมีความสุขและผ่อนคลาย หน้าตาของสุนัขจะดูผ่อนคลายและอ้าปากเล็กน้อย หันหัวไปในทิศทางที่สนใจ สายตาเป็นมิตร อ่อนโยนและดูเป็นธรรมชาติ หางอยู่ในระดับปกติ อาจจะนอนลงพื้นด้วยท่าทางผ่อนคลายสบายใจ ผ่อนลมหายใจออกมาเต็มที่ แสดงความสนใจในเสียงของผู้เล่นหรือผู้คน

2. ความรู้สึกตื่นเต้น ส่วนใหญ่ท่าทางเหล่านี้จะเห็นได้ในขณะที่เจ้าของกลับมาบ้านหรือพาสุนัขไปวิ่งเล่นนอกบ้าน จะแสดงท่าทางกระโดดโลดเต้นไปมา ขยับร่างกายทุกส่วนตลอดเวลาและแกว่งหางอย่างรวดเร็ว ก้มหัวถูลงกับพื้น เงยหน้าขึ้นมา หรือจะยกสองขาหน้าเพื่อทักทาย พยายามที่จะวิ่งเข้าไปชนเจ้าของหรือวิ่งชนสุนัขตัวอื่นๆ บางครั้งอาจส่งเสียงแห่งความสนุกสนานหรือเห่าออกมาเบาๆ

3. ลักษณะก้าวร้าว เมื่อเห็นสัญญาณเตือนต่อไปนี้ ต้องระวังตัวให้ดีและไม่ควรเข้าไปใกล้ เมื่อสุนัขยืนปักหลัก ยืดอกผาย หางตั้งตรงและแข็งชี้ขึ้นฟ้า อาจมีอาการเห่าหรือส่งเสียงขู่จะเห่าเสียงดัง และเปิดปากกว้าง สายตาจะแข็งกร้าว จ้องมายังเป้าหมาย เมื่อต้องการที่จะเข้าหาสุนัข ควรให้ความสนใจทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพราะสุนัขอาจทำร้ายคุณได้ บางครั้งการที่เจ้าของเฉยต่อสัญญาณอันตรายที่สุนัขส่งมาหา อาจทำให้โดนกัดได้เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาในการศึกษา สังเกตท่าทางเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง

4. ลักษณะท่าทางที่แสดงถึงการยินยอม ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะเห็นเมื่อเจ้าของดุด่าสุนัขหรือว่าสุนัขมีความวิตกกังวลในการประเชิญหน้ากับคนหรือสุนัขตัวอื่นๆ จะมีท่าทางก้มหัวลงต่ำ หูลู่ไปทางด้านหลัง ยกขาหน้าขึ้น กลิ้งไปกลิ้งมากับพื้น ซึ่งท่าทางก้มหัวลงต่ำไม่ใช่ท่าทางสำนึกผิดของสุนัขเป็นเพียงการแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน เพื่อทำให้ความโกรธที่มีอยู่ของเจ้าของลดลงนั่นเอง ฉะนั้นการทำทุกอย่างก็เพื่อให้เจ้าของกลับมาเล่นและแสดงความรักกับเขาเหมือนเดิม