วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง บริการรับจ้างพาสุนัขเดิน บริการรับจ้างฝึกสอนสัตว์เลี้ยง บริการอาบน้ำตัดขน บริการดูแลสัตว์เลี้ยงค้างคืน สัตวแพทย์นอกสถานที่บริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชัน ห้วยขวางแสดงผล 21 ถึง 25 จาก 25 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง
พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้
• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้
1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง
หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป
ส่องชีวิตสัตว์ที่ลำไทรฟาร์ม
ลำไทรฟาร์ม ตั้งอยู่ชานเมืองของเขตหนองจอก เป็นฟาร์มเพาะพันธ์ุสัตว์สวยงามและสัตว์ปีก รวมถึงนกสวยงามหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น นกเป็ดแมนดาริน เรดเฮด นกกระจอกชวา นกค๊อกกะเทล และยังเป็นฟาร์มที่มีหงส์ดำเป็นจำนวนมากแห่งหนึ่งของไทย นอกจากนี้ยังเปิดฟาร์มเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย โดยแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงแห่งนี้ แบ่งพื้นที่การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 คือ ปลูกข้าวร้อยละ 30 เลี้ยงสัตว์ร้อยละ 30 ปลูกผักและผลไม้ร้อยละ 30 ที่อยู่อาศัยร้อยละ 10 โดยแบ่งเป็นส่วนๆให้ได้เข้าชมและเรียนรู้ โดยส่วนแรกจะเป็นการเรียนรู้พื้นที่ไร่นาสวนผสม การปลูกข้าว ส่วนต่อไปจะเป็นที่อยู่ของสัตว์สวยงามและสัตว์เพื่อยังชีพ โดยมีการสร้างเล้าสัตว์ไว้บนบ่อปลา เพื่อให้มูลสัตว์กลายเป็นอาหารและลดความเหม็นของมูลสัตว์ซึ่งเป็นการสร้างระบบหมุนเวียนแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน โดยแหล่งเรียนรู้แห่งนี้มีหงส์เป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนและยังถือฟาร์มหงส์ดำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ส่วนต่อมาจะเป็นส่วนของฐาน บ้านกับต้นไม้ มีต้นสักทอง ต้นตะเคียน หวายแดงและยังมีโฮมสเตย์สำหรับผู้ที่อยากสัมผัสบรรยากาศดีๆเหมือนอยู่ต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานให้เช่า ปั่นชมพื้นที่ต่างๆอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจการดำรงชีวิตตามแนวพระราชดำริหรือหลักเศรษฐกิจพอเพียง แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเขตหนองจอก ถือเป็นสถานที่สำคัญที่จะทำให้ได้รู้ว่าการใช้ชีวิตตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงนั้นสามารถทำได้จริงเพื่อความเป็นอยู่ที่พอดี พอกิน พอใช้
ที่อยู่ : 717 ซอยเชื่อมสัมพันธ์ 14 แขวงโคกแฝดเขตหนองจอกกรุงเทพมหานคร 10530
Website : https://sites.google.com/site/lamsaifarm2010/
ของใช้จำเป็นสำหรับเจ้าของสุนัขมือใหม่
สำหรับคนที่เคยเลี้ยงสุนัขอยู่แล้วคงไม่มีปัญหาในเรื่องของการเตรียมอุปกรณ์ แต่สำหรับเจ้าของหรือผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงมือใหม่อาจจะยังไม่รู้ว่าต้องมีข้าวของเครื่องใช้อะไรบ้างที่จำเป็นในการเลี้ยงสุนัข วันนี้เราจะมาแนะนำของใช้ที่จำเป็นมีอะไรบ้างมาดูกัน
1. ที่นอน สามารถเลือกประเภทที่นอนได้ตามพันธุ์สุนัขที่เลี้ยง ซึ่งสุนัขขนหนายาวเช่น ไซบีเรียนฮัสกี้ อาจจะชอบนอนบนพื้นเย็นๆ มากกว่าขดตัวอยู่ในที่นอน ในขณะที่ชิวาวาอาจจะชอบขดตัวอยู่ในที่นอน เพราะต้องการความอบอุ่น ซึ่งที่นอนของสุนัขต้องมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะสามารถยืดตัว หมุนตัวได้ซึ่ง สุนัขส่วนใหญ่มักจะชอบขดตัวให้กลมหรือซุกใต้ที่นอนให้อุ่น ที่นอนควรจะมีความทนทานแต่ก็ย่อมมีโอกาสที่จะถูกลูกสุนัขทำให้พังอยู่แล้ว แนะนำให้มีที่นอนไว้หลายๆอัน ในบริเวณบ้านอาจจะวางใกล้เก้าอี้ที่เรานั่งเพื่อเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกันด้วย
2. ชามอาหารและน้ำ ชามข้าวของสุนัขมีทั้งแบบพลาสติกและสเตนเลสแนะนำให้ใช้เป็นสเตนเลสเพราะจะทนทานมากกว่าและทำความสะอาดง่ายด้วย ก่อนซื้อควรดูขนาดว่าสามารถใส่อาหารได้เพียงพอและความลึกเหมาะกับโครงหน้าของสุนัขหรือไม่ เพราะเมื่อสุนัขกินข้าวไม่ลำบากและควรมี 2 ใบ คือสำหรับใส่ข้าวและใส่น้ำ
3. อาหารเม็ด เป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจมากๆ ไม่ควรให้สุนัขกินอาหารคนเพราะไม่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก ปัจจุบันอาหารเม็ดมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ควรเลือกให้เหมาะสมกับสุนัขแต่ละช่วงวัย เพราะมีคุณประโยชน์ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายได้ มีหลากหลายรสชาติให้เลือก ก่อนจะนำสุนัขเข้าบ้านทั้งทีควรจะมีอาหารมีติดบ้านไว้เพื่อเตรียมรับมือเวลาสุนัขหิว
4. กรง เป็นอีกอุปกรณ์สำคัญที่ต้องมีไว้มี หลายประเภทให้เลือกซื้อและต้องมีขนาดใหญ่มากพอที่จะทำให้สุนัขอยู่ได้อย่างไม่อึดอัดและต้องไม่ใหญ่จนเกินไปที่สุนัขจะสามารถขับถ่ายในกรุงได้เพราะสุนัขจะไม่ชอบนอนบริเวณที่ตัวเองขับถ่าย
5. ของเล่น ปัจจุบันของเล่นสุนัขมีหลายประเภทมากๆ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ต้องคิดว่าสุนัขเป็นเหมือนเด็กชอบเล่นของชิ้นใดชิ้นหนึ่งมากกว่าการมีของเล่นเยอะๆ สุนัขจะมีนิสัยชอบเคี้ยว หากมีของเล่นที่สามารถเคี้ยวได้ทั้งวันก็คงจะดี อีกอย่างคือชอบของเล่นที่มีเสียงแหลม กลมๆ เด้งได้ เช่นลูกบอลดังนั้นของเล่นชิ้นเล็กๆควรจะเป็นสิ่งเหล่านี้
อาหารต้องห้ามสำหรับแมว
หลายคนที่เลี้ยงแมวและดูแลเรื่องอาหารการกินของแมว คงทราบดีอยู่แล้วว่าอาหารที่แมวชอบเป็นที่สุดคืออาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน โดยทำออกมาเป็นอาหารสำเร็จรูปในรูปแบบต่างๆ แต่สำหรับทาสแมวมือใหม่หลายคน อาจยังไม่รู้และคิดไม่ถึงว่าอาหารที่คนกินในชีวิตประจำวันหลายอย่าง อาจเป็นอาหารที่ห้ามให้แมวกินโดยเด็ดขาด เพราะจะเป็นอันตรายได้ เราได้รวบรวมของกินใกล้ตัว 4 อย่างที่ห้ามให้แมวกินโดยเด็ดขาดมาฝากกัน
1.ปลาดิบ เนื้อดิบ อาหารที่หลายๆคนชอบกิน แต่สำหรับแมวนั้นไม่สมควร เนื่องจากในปลาดิบและเนื้อดิบมีแบคทีเรียที่ชื่อว่า “salmonella” ที่ทำให้แมวเกิดอาการท้องเสียและอาเจียนได้ อีกทั้งยังมีเอนไซม์บางตัวที่ไปทำลายวิตามินบีที่จำเป็นต่อร่างกายของสัตว์
2. ยาพาราเซตามอลหรือยาแก้ปวด ยาสามัญประจำบ้านที่เรากินเวลาปวดหัวหรือเป็นไข้ แต่ยาตัวนี้เป็นอันตรายที่สุดสำหรับแมว หากแมวป่วยหรือเป็นไข้ ห้ามให้กินยาพาราโดยเด็ดขาด อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย เพราะจะทำให้เกิดความผิดปกติในระบบเลือด เป็นพิษต่อเม็ดเลือดแดง ทำให้การขนส่งออกซิเจนลดลง อาจทำให้เนื้อเยื่อขาดออกซิเจนได้
3. กระดูกต้ม การให้อาหารแมวควรให้อะไรที่แข็งกว่าฟันของแมว เนื่องจากหากแข็งเกินไปอาจทำให้ฟันหักได้และที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือ พวกเศษกระดูกจะไปติดหรือแทงระบบทางเดินอาหาร อาจทำให้ทะลุลำไส้ได้
4.ช็อกโกแลตขนมสุดโปรดของหลายคน แต่กับแมวนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะในช็อกโกแลตมีสาร “Theobromine” ที่ออกฤทธิ์คล้ายกับคาเฟอีน เป็นพิษทั้งแมวและหมาเพราะทำให้พวกเขาไม่มีเอนไซม์ในการย่อย หากได้รับเข้าไปจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ กล้ามเนื้อกระตุก ใจสั่น ท้องเสีย อาเจียนและอาจเสียชีวิตได้
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง