ดูแลเด็ก ใน คลองสามวา, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน คลองสามวา, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

หาโรงเรียนในเขตคลองสามวา

เขตคลองสามวา เป็นเขตพื้นที่ชานเมืองของกรุงเทพมหานคร มีคลองในเขตพื้นที่นี้ถึง 56 คลอง โดยคลองส่วนใหญ่ชาวบ้านใช้ทำการเกษตรกรรม ทำนา ทำสวนเป็นหลัก และใช้คลองสามวาในการขนส่งทางเรือ เป็นพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่มากเป็นอันดับ 2 รองจากเขตสายไหม และจัดเป็นเขตที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับต้น ๆ ของกรุงเทพ ฯอีกด้วย ประชากรที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่นี้มีความหลากหลายในด้านเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม มาตั้งแต่ในอดีต ทำให้เกิดการสร้างสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านั้นแตกต่างกันออกไป ซึ่งมีทั้งวัด มัสยิด ศาลเจ้า รวมถึงโรงเรียนก็เช่นกัน โดยโรงเรียนในเขตพื้นที่นี้เกิดขึ้นมากเมื่อเทียบกับในอดีต ด้วยเหตุที่มีการขยายพื้นที่เมืองจากกรุงเทพ ฯ เขตด้านใน มาถึงเขตนี้ รวมไปถึงเส้นทางคมนาคม ที่ในอดีตมีการใช้เส้นทางเรือเป็นหลัก แต่ปัจจุบันมีถนนเพิ่มขึ้นหลายสาย ทั้งสายหลัก สายรอง ทางพิเศษ ต่าง ๆ รวมถึงรถไฟฟ้า โดยสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้เขตนี้มากที่สุดคือ สถานีเลียบคลองสอง 11, ตรงข้ามเขตคลองสามวา อีกทั้งยังมีโครงการรถไฟฟ้าที่กำลังจะสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2565 คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู เส้นทางแคราย-ปากเกร็ด-คลองสามวา เกิดขึ้นอีกด้วย ปัจจุบันโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเขตคลองสามวา อาทิ

- โรงเรียนประชาราษฎร์อุปถัมภ์วิทยา ตั้งอยู่ที่ 1051 ถนน พระยาสุเรนทร์ แขวง บางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

- โรงเรียนโสมาภาพัฒนา ตั้งอยู่ที่ ถนน พระยาสุเรนทร์ แขวง บางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

- โรงเรียนบางชัน ปลื้มวิทยานุสรณ์ ตั้งอยู่ที่ 89 ถนน พระยาสุเรนทร์ แขวง บางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

- โรงเรียนวัดแป้นทอง สามวาวิทยา ตั้งอยู่ที่ ถนนหทัยราษฎร์ - ซอย หทัยราษฎร์39 แขวง สามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

- โรงเรียนวัดคู้บอน ตั้งอยู่ที่ 59 ซอย คู้บอน 35 แขวง บางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

- โรงเรียนขุมทองวิทยา ตั้งอยู่ที่ 10 ซอย หทัยราษฎร์ 39 ถ. หทัยราษฎร์ แขวง สามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

- โรงเรียน สุเหร่า สามวา ตั้งอยู่ที่ ซอย นิมิตใหม่ 57 แขวง สามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

- โรงเรียนสุเหร่าคลองสี่ ตั้งอยู่ที่ 20 ถนน ไมตรีจิต แขวง สามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510



โรงเรียนวัดแป้นทอง

โรงเรียนวัดแป้นท้อง จัดเป็นโรงเรียนที่สำคัญของเขตคลองสามวา โดยผู้บริจาคที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนนี้มาจากวัดแป้นทองโสภาราม และชาวมอญที่อยู่บริเวณใกล้วัดแป้นทอง โดยเริ่มจากการเปลี่ยนศาลาการเปรียญ วัดแป้นทอง เป็นโรงเรียนขึ้น เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล 1 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีหลักสูตรการเรียนการสอนตามนโยบายการจัดการศึกษาของประเทศ ตั้งอยู่ที่ ถนนหทัยราษฎร์ ซอย หทัยราษฎร์39 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร โรงเรียนตั้งอยู่ห่างจากสำนักงานเขตคลองสามวาประมาณ 4 กิโลเมตร มีพื้นที่ 6 ไร่ 62 ตารางวา โดยประกอบไปด้วย อาคารเรียน อาคารอเนกประสงค์ โรงอาหาร บ้านพักครู ห้องน้ำ ซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป ศาลาพักผู้ปกครอง ซุ้มกาแล สนามหญ้า สนามเด็กเล่น แปลงเกษตร สวนสมุนไพร และโรงเรือนประกอบกิจกรรมขยะรีไซเคิล หากต้องการมาโรงเรียนนี้ด้วยรถประจำทาง สามารถใช้สาย 197 เป็นรถธรรมดาสีครีม – แดง เปิดให้บริการช่วงเวลา 04:20 - 20:00 น. โดยสถานที่ใกล้เคียงโรงเรียนนี้ได้แก่ วัดแป้นทองโสภาราม, วัดพระยาสุเรนท์ และโครงการบ้านต่าง ๆ เช่น

-The Best หทัยราษฎร์-ไทยรามัญ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนน ไทรามัญ แขวง สามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

-หมู่บ้านเดอะเบสท์ หทัยราษฎร์-ไทยรามัญ ตั้งอยู่ที่ถนน ไทยรามัญ แขวง สามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร

-บ้านบุรีรมย์ รามอินทรา นวมินทร์ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 22/4 ถนน สามวา ตะวันตก, เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

-เค-ริซทาวน์ จตุโชติ-รามอินทรา ตั้งอยู่ที่ 323, 14 ถนน ไทยรามัญ แขวง สามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

-Grande Pleno รามอินทรา-วงแหวน | แกรนด์ พลีโน่ รามอินทรา-วงแหวน ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 239 ถ. กาญจนาภิเษก แขวง สามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510



โปรแกรมรีโมททางไกล ช่วยพ่อ แม่ ทำงานคลายกังวลได้

ปัจจุบันพ่อ แม่ ชาวไทยยุคใหม่ส่วนใหญ่ มักต้องทำงานนอกบ้านกันทั้งคู่ ส่งผลให้ช่วงปิดเทอมเด็กต้องอยู่บ้าน บ้างก็มีคนรอบข้าง ปู่ ย่า ตา ญาติสนิท เพื่อนบ้านต่าง ๆ คอยดูแล บ้างก็เลือกแม่บ้าน ผู้ดูแล หรือส่งลูกไปเรียนเสริมทักษะด้านต่าง ๆ กับสถาบันกวดวิชา แต่ในช่วงที่มีโรคระบาดเกิดขึ้นดังเช่น ช่วงปี พ.ศ. 2563-2564 ที่ประเทศไทยต้องประสบพบเจอวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคระบาดร้ายแรงชนิดหนึ่ง ที่สามารถติดต่อกันทางลมหายใจ ทางน้ำลาย เป็นต้น ทำให้ช่วงที่เกิดการระบาดหนัก ทางการแก้ไขโดยการให้ประชาชนอยู่กับบ้าน ดูแลตัวเอง รักษาระยะห่าง หมั่นล้างมือ เช็ดแอลกอฮอลล์ และให้สวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคนี้ ในระหว่างที่ทางการแพทย์ยังไม่สามารถหาวิธีกำจัดโรคระบาดนี้ออกไปได้ ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่าง ๆ ต้องพาตัวกันปิดกิจการกันชั่วคราว รวมถึงโรงเรียนซึ่งเป็นจุดรวมตัวของเด็กกลุ่มใหญ่ต้องทำการปิดโรงเรียนเพื่อทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และเปิดสอนการเรียนออนไลน์แทน

สำหรับครอบครัวที่ พ่อ แม่ต้องทำงานนอกบ้าน ไม่มีคนรอบข้างที่มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์การสื่อสาร เพื่อช่วยดูแลเด็กระหว่างเรียนออนไลน์ อาจทำให้เด็กไม่สามารถเข้าเรียนได้ หรือต้องหยุดเรียนเมื่อพบเจอกับปัญหาด้านเทคนิค เช่น ไม่รู้ว่าจะต้องเข้าโปรแกรมอะไรในการเรียน ต้องเปิด ปิด เสียงอย่างไรบ้าง โดยปัญหานี้มักพบกับเด็กเล็ก ที่ยังไม่เข้าใจการใช้อุปกรณ์สื่อสาร ทางเราขอแนะนำ “โปรแกรมรีโมททางไกล” ซึ่งโปรแกรมดังต่อไปนี้สามารถดูหน้าจอของเด็กว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ อีกทั้งสามารถเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ของเด็ก เพื่อช่วยให้เด็กได้เข้าเรียนออนไลน์ได้อีกด้วย โปรแกรมดังกล่าว เช่น

- โปรแกรม AnyDesk : เป็นโปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ ที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลก สามารถใช้งานได้ฟรีในระดับส่วนบุคคล และมีค่าใช้จ่ายในระดับบริษัทหรือองค์กร รองรับระบบปฏิบัติการทั้ง Windows, Mac, Linux, Raspberry Pi, Chrome OS, iOS และ Android ใช้งานง่าย สามารถรับส่งไฟล์ขนาดใหญ่ได้ มีความปลอดภัยสูงเช่นเดียวกับระบบของธนาคาร สามารถตรวจสอบและป้องกันการเชื่อมต่อจากต้นทางได้

- โปรแกรม TeamViewer : เป็นโปรแกรมรีโมททางไกล ที่สามารถใช้งานได้ฟรี สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล โดยไม่มีวันหมดอายุ ติดตั้งง่าย แต่ต้องเป็นเวอร์ชันที่ตรงกันระหว่างเครื่องต้นทางและปลายทาง สามารถรับส่งไฟล์ได้เช่นกัน แต่จะกินเวลาเมื่อเป็นไฟล์ขนาดใหญ่ มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงระดับองค์กรหรือบริษัท

ซึ่งทั้งสองโปรแกรมข้างต้นรองรับการเชื่อมต่อแบบข้ามแพลตฟอร์ม เช่น สามารถควบคุมผ่านมือถือเพื่อสั่งการคอมพิวเตอร์ที่เปิดไว้ ทำให้สามารถใช้งานได้แม้แต่ตัวเองทำธุระอยู่ข้างนอก แต่มีความจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ นับว่าเป็นโปรแกรมที่สามารถคลายความกังวลให้กับพ่อ แม่ ผู้ปกครองที่ต้องทำงานนอกบ้าน แต่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาด้านเทคนิคให้กับลูกได้ นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมลักษณะนี้อีก อาทิ RealVNC, LogMeIn, RemotePC, Zoho Assist, Chrome Remote Desktop และ Microsoft Remote Desktop