ดูแลเด็ก ใน เมืองนนทบุรี, นนทบุรี

ดูแลเด็ก ใน เมืองนนทบุรี, นนทบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลเด็ก ใน เมืองนนทบุรี, นนทบุรี:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

จุฑามาศ ล่าบ้านหลวง
จุฑามาศ ล่าบ้านหลวง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 29 ปี
นันทกานต์ ชำนาญกิจ
นันทกานต์ ชำนาญกิจ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ดูแลแบบไป-กลับนะคะ

แสดงเพิ่มเติม
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 30 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี
ประภัสสร สุขชาติ
ประภัสสร สุขชาติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

รักเด็ก ใจเย็น สามารถดูแลเด็กได้

แสดงเพิ่มเติม
วนิดา ชัยวร
วนิดา ชัยวร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 33 ปี
ญานุศา ศิริมงคล
ญานุศา ศิริมงคล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 23 ปี

ฝากไว้พิจารณาด้วยค่ะ อายุยังน้อยแต่ประสบการณ์เยอะพอสมควรค่ะ แล้วจะไม่ผิดหวังค่ะ ความอดทนสูงใจเย็นเล่นกับเด็กได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฉวี เสภา
ฉวี เสภา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 54 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กมากกว่า 30 ปี ค่าจ้างตามพิจารณาอะไรก็แล้วยินดี

แสดงเพิ่มเติม
ชารีฟา พงศ์ยุโสะ
ชารีฟา พงศ์ยุโสะ
Saijai อายุ 25 ปี
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พิณธนารัตน์ ดิษผล
พิณธนารัตน์ ดิษผล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

เป็นคนรักเด็ก เอาใจใส่เด็กทุกๆเรื่อง ใจเย็น ค่าจ้างเป็นเรทสำหรับทำงาน 8 ชั่วดมงต่อวัน

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
ศศิพิมล ยิ่งแจ่มจันทร์
ศศิพิมล ยิ่งแจ่มจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

มีลูก1ค่ะ อายุ5ขวบ เคยเลี้ยงหลานและเคยทำดูแลผู้สูงอายุ มีรอยสักที่แขน1ข้างค้ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
4 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

ตลาดนกฮูก ตลาดโต้รุ่งเมืองนนท์

ตลาดนกฮูก (Owl Market) เป็นตลาดนัดเลี่ยงเมืองนนท์ ที่เปิดโต้รุ่ง สามารถเดินชม ชิม ช็อปได้ข้ามวัน เดิมเป็นตลาดกรมชลประทาน ที่ย้ายมาตั้งอยู่หลังเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ถนนเลี่ยงเมือง ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เป็นทำเลค้าขายที่เปิดขายของในเวลากลางคืน มีร้านอาหารให้เลือกทานมากมาย ทั้งร้านธรรมดาและแบบฟู้ดทรัคเก๋ๆ เช่น อาหารจานเดียว ส้มตำไก่ย่าง สเต๊ก ก๋วยเตี๋ยว และร้านน้ำ ร้านกาแฟ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่นๆอีกมากมายทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นทั้งมือหนึ่งมือสอง เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้เบ็ดเตร็ด บรรยากาศคล้ายตลาดคลองถมผสมตลาดนัด และมีแสงส่องเรืองๆคล้ายตลาดไฟฉาย

ภายในตลาดแบ่งเป็น 5 โซน คือ โซนหน้าตลาด โซนในตลาด โซนคลองถม 2 และโซนตู้คอนเทนเนอร์อาหาร โดยโซนหน้าตลาด และโซนในตลาด จะขายสินค้าทั่วไป ข้าวของเครื่องใช้ และสินค้าแฟชั่น โซนคลองถม 2 เน้นสินค้าทั้งมือหนึ่งและมือสอง ส่วนโซนตู้คอนเทนเนอร์ เปิดขายอาหาร นอกจากนี้ ยังมีโซนสุดท้ายที่เป็นศูนย์อาหารภายในอาคารด้วย

ตลาดนกฮูก เปิดขายทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ 18:00 น. จนถึง 10:00 น. ของอีกวัน โซนโต้รุ่งและเทคโฮม เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 15:00 จนถึง 24:00 น. ตลาดมีที่จอดรถกว้างขวาง และด้วยการบริหารจัดการอาจยังไม่เป็นระบบระเบียบนัก หากขับรถยนต์ส่วนตัวมาเองอาจต้องใจเย็นสักนิด เพราะรถค่อนข้างติด แต่พอได้ที่จอดก็เดินกันเพลินๆยาวๆ ถึงเช้าได้เลย



อำเภอเมืองนนทบุรี แหล่งรวมพิพิธภัณฑ์

อำเภอเมืองนนทบุรี เดิมมีชื่อว่า อำเภอตลาดขวัญ ปรากฏชื่อในเอกสารที่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2445 ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอนนทบุรี ตามประการลงราชกิจจานุเบกษาปี พ.ศ. 2466 มีที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่ในอาคารศาลากลางเมืองนนทบุรี ข้างวัดท้ายเมือง ตำบลตลาดขวัญ ต่อมาในปี พ.ศ. 2481 มีการเปลี่ยนชื่ออำเภอนนทบุรีเป็น อำเภอเมืองนนทบุรี เนื่องจากทางราชการมีนโยบายในการเปลี่ยนชื่ออำเภอที่เป็นที่ตั้งจังหวัดเป็นอำเภอเมือง

อำเภอเมืองนนทบุรีมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง และที่น่าสนใจประการหนึ่งคือ มีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ถึง 5 แห่ง กระจายไปในตำบลต่างๆ คือ

1. พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี เป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดหลังเก่า อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าน้ำนนท์ ตำบลสวนใหญ่ เคยเป็นที่ตั้งโรงเรียนราชวิทยาลัยในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาเมื่อโรงเรียนถูกยุบ จึงใช้เป็นศาลากลางจังหวัดนนทบุรีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 จนถึง พ.ศ. 2535 ส่วนราชการทั้งหมดจึงย้ายไปตั้งที่ศูนย์ราชการจังหวัดแห่งใหม่ริมถนนรัตนาธิเบศร์ หลังจากนั้น กรมศิลปากรจึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน อาคารพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ทรงไทยประยุกต์ ทำจากไม้สักทั้งหลัง จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์จังหวัดนนทบุรี และวิถีชีวิตคนเมืองนนท์ เปิดให้เข้าชมวันอังคาร ถึง วันศุกร์ เวลา 09:00 – 17:00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

2. พิพิธภัณฑ์มนุษยชาติวิทยา ตั้งอยู่หลังศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ตำบลสวนใหญ่ ปัจจุบันใช้ชื่อว่า พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2504 เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งแรกของไทย อาคารเป็นตึก 2 ชั้น มีห้องขนาดใหญ่ 4 ห้อง จัดแสดงวิวัฒนาการของพืช สัตว์ และมนุษย์ รวมทั้งวิวัฒนาการของสัตว์โบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์นี้ถือเป็นตัวอย่างของพิพิธภัณฑ์ยุคดั้งเดิม บรรยากาศพิพิธภัณฑ์เป็นแนวเรโทร ยุค 40-50 ปีที่ผ่านมา ด้านข้างมีห้องประชาชนเปิดให้บริการด้วย พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมวันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 08:30 – 16:30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

3. พิพิธภัณฑ์บ้านดุริยางคศิลป์ (บ้านครูมนตรี ตราโมท) หรือที่เรียกกันว่า “บ้านโสมส่องแสง” ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 81 หมุ่ 11 ซอยพิชยนันท์ 2 ถนนติวานนท์ 3 ตำบลตลาดขวัญ เป็นบ้านพักของครูมนตรี ตราโมท ศิลปิน 5 แผ่นดิน และเป็นนักดนตรีคนแรกที่ได้ตีขิมในวงเครื่องหลวง บรรเลงถวายรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นยุคที่วงดนตรีไทยและโขนละครเจริญเฟื่องฟูมาก ครูมนตรี ตราโมท ได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาดุริยางคศิลป์ ดนตรีไทย ประจำปี พ.ศ. 2528 มีชีวิตอยู่ระหว่างสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 9 ทายาทของท่านจึงได้ทำการอนุรักษ์บ้านพักและเครื่องดนตรีต่างๆไว้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ มีการจัดแสดงชีวประวัติและผลงานเพลงต่างๆของครู รวมทั้งเพลงที่เป็นลายมือต้นฉบับตั้งแต่เพลงแรกจนถึงเพลงสุดท้าย และมีการสอนดนตรีไทยให้ผู้สนใจทั่วไปทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และในช่วงอาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดพิธีไหว้ครูดนตรีไทยด้วย พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:00 น. (ควรโทรนัดหมายล่วงหน้า) โดยไม่เก็บค่าเข้าชม

4. พิพิธภัณฑ์เขาสัตว์ เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน ที่รวบรวมเขาสัตว์และวัตถุโบราณไว้มากมาย อายุตั้งแต่ 100 ปี ถึง 16 ล้านปี ตั้งอยู่เลขที่ 27/8 หมู่ 6 ถนนประชาราษฎร์ ตำบลตลาดขวัญ นับเป็นพิพิธภัณฑ์เขาสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ก่อตั้งโดยคุณประเสริฐ ศรียรรยง ภายในจัดแสดงเขาสัตว์และส่วนกะโหลก ทั้งสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อ โดยเน้นสัตว์ที่อยู่ในประเทศไทย เขาสัตว์ทุกชิ้นมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และส่วนใหญ่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษในสมัยที่การล่าสัตว์ยังเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม เช่น เขากระทิง เขาวัวแดง วัวกูปรี งาช้างแมมมอธยาว 2 เมตรที่พบในภาคอีสาน และเขาเนื้อสมันซึ่งเป็นสัตว์ที่เขาสวยที่สุดในโลก พบในบริเวณภาคกลางของประเทศไทยแต่สูญพันธุ์ไปกว่า 150 ปีแล้ว พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมในวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 09:00 – 16;00 น. มีค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท

5. พิพิธภัณฑ์และศูนย์ฝึกอบรมการแพทย์แผนไทย ตั้งอยู่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข ซอยติวานนท์ 4 (โรงพยาบาลศรีธัญญา) ถนนติวานนท์ ตำบลบางเขน เป็นอาคารทรงไทย 3 ชั้น แบ่งออกเป็น 7 ห้อง คือ หอพระไภษัชยคุรุไวทยประภา หออบรมครูการแพทย์แผนไทย วิวัฒนาการการแพทย์แผนไทย ห้องภูมิปัญญาไทย ห้องการนวดไทย ห้องอาหารไทยเพื่อสุขภาพ และหอยา โดยภาพรวม ทั้ง 7 ห้องมีจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติและวิวัฒนาการของการแพทย์แผนไทย ปรัชญาการแพทย์แผนไทย และเครื่องยาแผนไทยต่างๆ เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30 – 16:30 น. มีค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท เด็ก 15 บาท นักเรียนนักศึกษา 10 บาท และชาวต่างชาติ 150 บาท



ฟันน้ำนมของลูกน้อยจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่

ฟันน้ำนมซี่แรกของลูกน้อย ส่วนใหญ่จะขึ้นเมื่อมีอายุ 4-7 เดือน โดยฟันที่ขึ้นก่อนมักจะเป็นฟันหน้าด้านล่าง 2 ซี่ แล้วหลังจากนั้นฟันซี่อื่นๆจะค่อยๆขึ้นตามมา ฟันหน้าด้านบนจะขึ้นเมื่อลูกอายุประมาณ 8-12 เดือน ฟันกรามใหญ่ทั้งบนและล่างจะขึ้นเมื่อลูกอายุประมาณ 12-20 เดือน และฟันกรามเล็กทั้งบนและล่างจะขึ้นเมื่อลูกอายุประมาณ 20-30 เดือน ส่วนเขี้ยวทั้งด้านบนและล่างจะขึ้นเมื่อลูกอายุประมาณ 16-20 เดือน และเด็กผู้หญิงจะมีฟันขึ้นเร็วกว่าเด็กผู้ชายประมาณ 2-10 เดือน โดยฟันจะขึ้นครบในช่วงอายุราวๆ 3 ขวบ และฟันน้ำนมจะอยู่กับลูกน้อยจนอายุครบ 6 ขวบ หลังจากนั้นฟันแท้ก็จะเริ่มขึ้นมาแทนที่

เด็กที่ฟันงอกช้า อาจจะต้องรอถึง 1 ขวบ ฟันน้ำนมซี่แรกจึงจะขึ้น ซึ่งแนะนำว่าหาก 10 เดือนแล้วฟันยังไม่ขึ้นเลย ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร หรือมีความผิดปกติอื่นๆหรือไม่ เช่น ฟันน้ำนมโผล่ขึ้นมาเหนือเหงือกไม่ได้ และการที่ฟันขึ้นช้าอาจส่งผลต่อพัฒนาการอื่นๆของลูกตามมา เช่น กินอาหารลำบาก พูดไม่ชัด

อาการที่จะสังเกตได้ว่าฟันกำลังจะขึ้น คือ

1. ลูกอาจกัด แทะ หรือเคี้ยวอะไรบางอย่างตลอดเวลา

2. มีน้ำลายไหลมากกว่าปกติ

3. เหงือกบวมแดง หากใช้นิ้วมือลูบเบาๆจะรู้สึกเหงือกแข็งขึ้น

4. ลูกอาจมีอาการหงุดหงิดที่เกิดจากความเจ็บ ปวด หรือคันเหงือก และมักจะเป็นมากในตอนกลางคืน ทำให้ลูกน้อยตื่นบ่อยในเวลากลางคืน

5. เบื่ออาหารเดิมๆ หรืออยากเปลี่ยนเป็นอาหารที่มีลักษณะแข็งขึ้น เพื่อจะได้เคี้ยว ซึ่งเกิดจากอาการคันเหงือก

เพื่อบรรเทาอาหารคันเหงือก คุณพ่อคุณแม่สามารถหาของเล่นที่ไม่มีสารอันตราย หรือผักที่มีลักษณะแข็ง เช่น แครอท หรือแตงกวาหั่นเป็นแท่งยาวแช่แข็งเอาไว้ให้ลูกกัดเล่น เพื่อลดอาการคันเหงือกได้