วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
แสดงผล 21 ถึง 34 จาก 34 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก
1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
ตลาดนกฮูก ตลาดโต้รุ่งเมืองนนท์
ตลาดนกฮูก (Owl Market) เป็นตลาดนัดเลี่ยงเมืองนนท์ ที่เปิดโต้รุ่ง สามารถเดินชม ชิม ช็อปได้ข้ามวัน เดิมเป็นตลาดกรมชลประทาน ที่ย้ายมาตั้งอยู่หลังเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ถนนเลี่ยงเมือง ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เป็นทำเลค้าขายที่เปิดขายของในเวลากลางคืน มีร้านอาหารให้เลือกทานมากมาย ทั้งร้านธรรมดาและแบบฟู้ดทรัคเก๋ๆ เช่น อาหารจานเดียว ส้มตำไก่ย่าง สเต๊ก ก๋วยเตี๋ยว และร้านน้ำ ร้านกาแฟ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่นๆอีกมากมายทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นทั้งมือหนึ่งมือสอง เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้เบ็ดเตร็ด บรรยากาศคล้ายตลาดคลองถมผสมตลาดนัด และมีแสงส่องเรืองๆคล้ายตลาดไฟฉาย
ภายในตลาดแบ่งเป็น 5 โซน คือ โซนหน้าตลาด โซนในตลาด โซนคลองถม 2 และโซนตู้คอนเทนเนอร์อาหาร โดยโซนหน้าตลาด และโซนในตลาด จะขายสินค้าทั่วไป ข้าวของเครื่องใช้ และสินค้าแฟชั่น โซนคลองถม 2 เน้นสินค้าทั้งมือหนึ่งและมือสอง ส่วนโซนตู้คอนเทนเนอร์ เปิดขายอาหาร นอกจากนี้ ยังมีโซนสุดท้ายที่เป็นศูนย์อาหารภายในอาคารด้วย
ตลาดนกฮูก เปิดขายทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ 18:00 น. จนถึง 10:00 น. ของอีกวัน โซนโต้รุ่งและเทคโฮม เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 15:00 จนถึง 24:00 น. ตลาดมีที่จอดรถกว้างขวาง และด้วยการบริหารจัดการอาจยังไม่เป็นระบบระเบียบนัก หากขับรถยนต์ส่วนตัวมาเองอาจต้องใจเย็นสักนิด เพราะรถค่อนข้างติด แต่พอได้ที่จอดก็เดินกันเพลินๆยาวๆ ถึงเช้าได้เลย
อำเภอเมืองนนทบุรี แหล่งรวมพิพิธภัณฑ์
อำเภอเมืองนนทบุรี เดิมมีชื่อว่า อำเภอตลาดขวัญ ปรากฏชื่อในเอกสารที่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2445 ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอนนทบุรี ตามประการลงราชกิจจานุเบกษาปี พ.ศ. 2466 มีที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่ในอาคารศาลากลางเมืองนนทบุรี ข้างวัดท้ายเมือง ตำบลตลาดขวัญ ต่อมาในปี พ.ศ. 2481 มีการเปลี่ยนชื่ออำเภอนนทบุรีเป็น อำเภอเมืองนนทบุรี เนื่องจากทางราชการมีนโยบายในการเปลี่ยนชื่ออำเภอที่เป็นที่ตั้งจังหวัดเป็นอำเภอเมือง
อำเภอเมืองนนทบุรีมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง และที่น่าสนใจประการหนึ่งคือ มีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ถึง 5 แห่ง กระจายไปในตำบลต่างๆ คือ
1. พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี เป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดหลังเก่า อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าน้ำนนท์ ตำบลสวนใหญ่ เคยเป็นที่ตั้งโรงเรียนราชวิทยาลัยในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาเมื่อโรงเรียนถูกยุบ จึงใช้เป็นศาลากลางจังหวัดนนทบุรีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 จนถึง พ.ศ. 2535 ส่วนราชการทั้งหมดจึงย้ายไปตั้งที่ศูนย์ราชการจังหวัดแห่งใหม่ริมถนนรัตนาธิเบศร์ หลังจากนั้น กรมศิลปากรจึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน อาคารพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ทรงไทยประยุกต์ ทำจากไม้สักทั้งหลัง จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์จังหวัดนนทบุรี และวิถีชีวิตคนเมืองนนท์ เปิดให้เข้าชมวันอังคาร ถึง วันศุกร์ เวลา 09:00 – 17:00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
2. พิพิธภัณฑ์มนุษยชาติวิทยา ตั้งอยู่หลังศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ตำบลสวนใหญ่ ปัจจุบันใช้ชื่อว่า พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2504 เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งแรกของไทย อาคารเป็นตึก 2 ชั้น มีห้องขนาดใหญ่ 4 ห้อง จัดแสดงวิวัฒนาการของพืช สัตว์ และมนุษย์ รวมทั้งวิวัฒนาการของสัตว์โบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์นี้ถือเป็นตัวอย่างของพิพิธภัณฑ์ยุคดั้งเดิม บรรยากาศพิพิธภัณฑ์เป็นแนวเรโทร ยุค 40-50 ปีที่ผ่านมา ด้านข้างมีห้องประชาชนเปิดให้บริการด้วย พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมวันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 08:30 – 16:30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
3. พิพิธภัณฑ์บ้านดุริยางคศิลป์ (บ้านครูมนตรี ตราโมท) หรือที่เรียกกันว่า “บ้านโสมส่องแสง” ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 81 หมุ่ 11 ซอยพิชยนันท์ 2 ถนนติวานนท์ 3 ตำบลตลาดขวัญ เป็นบ้านพักของครูมนตรี ตราโมท ศิลปิน 5 แผ่นดิน และเป็นนักดนตรีคนแรกที่ได้ตีขิมในวงเครื่องหลวง บรรเลงถวายรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นยุคที่วงดนตรีไทยและโขนละครเจริญเฟื่องฟูมาก ครูมนตรี ตราโมท ได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาดุริยางคศิลป์ ดนตรีไทย ประจำปี พ.ศ. 2528 มีชีวิตอยู่ระหว่างสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 9 ทายาทของท่านจึงได้ทำการอนุรักษ์บ้านพักและเครื่องดนตรีต่างๆไว้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ มีการจัดแสดงชีวประวัติและผลงานเพลงต่างๆของครู รวมทั้งเพลงที่เป็นลายมือต้นฉบับตั้งแต่เพลงแรกจนถึงเพลงสุดท้าย และมีการสอนดนตรีไทยให้ผู้สนใจทั่วไปทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และในช่วงอาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดพิธีไหว้ครูดนตรีไทยด้วย พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:00 น. (ควรโทรนัดหมายล่วงหน้า) โดยไม่เก็บค่าเข้าชม
4. พิพิธภัณฑ์เขาสัตว์ เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน ที่รวบรวมเขาสัตว์และวัตถุโบราณไว้มากมาย อายุตั้งแต่ 100 ปี ถึง 16 ล้านปี ตั้งอยู่เลขที่ 27/8 หมู่ 6 ถนนประชาราษฎร์ ตำบลตลาดขวัญ นับเป็นพิพิธภัณฑ์เขาสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ก่อตั้งโดยคุณประเสริฐ ศรียรรยง ภายในจัดแสดงเขาสัตว์และส่วนกะโหลก ทั้งสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อ โดยเน้นสัตว์ที่อยู่ในประเทศไทย เขาสัตว์ทุกชิ้นมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และส่วนใหญ่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษในสมัยที่การล่าสัตว์ยังเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม เช่น เขากระทิง เขาวัวแดง วัวกูปรี งาช้างแมมมอธยาว 2 เมตรที่พบในภาคอีสาน และเขาเนื้อสมันซึ่งเป็นสัตว์ที่เขาสวยที่สุดในโลก พบในบริเวณภาคกลางของประเทศไทยแต่สูญพันธุ์ไปกว่า 150 ปีแล้ว พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมในวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 09:00 – 16;00 น. มีค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
5. พิพิธภัณฑ์และศูนย์ฝึกอบรมการแพทย์แผนไทย ตั้งอยู่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข ซอยติวานนท์ 4 (โรงพยาบาลศรีธัญญา) ถนนติวานนท์ ตำบลบางเขน เป็นอาคารทรงไทย 3 ชั้น แบ่งออกเป็น 7 ห้อง คือ หอพระไภษัชยคุรุไวทยประภา หออบรมครูการแพทย์แผนไทย วิวัฒนาการการแพทย์แผนไทย ห้องภูมิปัญญาไทย ห้องการนวดไทย ห้องอาหารไทยเพื่อสุขภาพ และหอยา โดยภาพรวม ทั้ง 7 ห้องมีจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติและวิวัฒนาการของการแพทย์แผนไทย ปรัชญาการแพทย์แผนไทย และเครื่องยาแผนไทยต่างๆ เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30 – 16:30 น. มีค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท เด็ก 15 บาท นักเรียนนักศึกษา 10 บาท และชาวต่างชาติ 150 บาท
ฟันน้ำนมของลูกน้อยจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่
ฟันน้ำนมซี่แรกของลูกน้อย ส่วนใหญ่จะขึ้นเมื่อมีอายุ 4-7 เดือน โดยฟันที่ขึ้นก่อนมักจะเป็นฟันหน้าด้านล่าง 2 ซี่ แล้วหลังจากนั้นฟันซี่อื่นๆจะค่อยๆขึ้นตามมา ฟันหน้าด้านบนจะขึ้นเมื่อลูกอายุประมาณ 8-12 เดือน ฟันกรามใหญ่ทั้งบนและล่างจะขึ้นเมื่อลูกอายุประมาณ 12-20 เดือน และฟันกรามเล็กทั้งบนและล่างจะขึ้นเมื่อลูกอายุประมาณ 20-30 เดือน ส่วนเขี้ยวทั้งด้านบนและล่างจะขึ้นเมื่อลูกอายุประมาณ 16-20 เดือน และเด็กผู้หญิงจะมีฟันขึ้นเร็วกว่าเด็กผู้ชายประมาณ 2-10 เดือน โดยฟันจะขึ้นครบในช่วงอายุราวๆ 3 ขวบ และฟันน้ำนมจะอยู่กับลูกน้อยจนอายุครบ 6 ขวบ หลังจากนั้นฟันแท้ก็จะเริ่มขึ้นมาแทนที่
เด็กที่ฟันงอกช้า อาจจะต้องรอถึง 1 ขวบ ฟันน้ำนมซี่แรกจึงจะขึ้น ซึ่งแนะนำว่าหาก 10 เดือนแล้วฟันยังไม่ขึ้นเลย ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร หรือมีความผิดปกติอื่นๆหรือไม่ เช่น ฟันน้ำนมโผล่ขึ้นมาเหนือเหงือกไม่ได้ และการที่ฟันขึ้นช้าอาจส่งผลต่อพัฒนาการอื่นๆของลูกตามมา เช่น กินอาหารลำบาก พูดไม่ชัด
อาการที่จะสังเกตได้ว่าฟันกำลังจะขึ้น คือ
1. ลูกอาจกัด แทะ หรือเคี้ยวอะไรบางอย่างตลอดเวลา
2. มีน้ำลายไหลมากกว่าปกติ
3. เหงือกบวมแดง หากใช้นิ้วมือลูบเบาๆจะรู้สึกเหงือกแข็งขึ้น
4. ลูกอาจมีอาการหงุดหงิดที่เกิดจากความเจ็บ ปวด หรือคันเหงือก และมักจะเป็นมากในตอนกลางคืน ทำให้ลูกน้อยตื่นบ่อยในเวลากลางคืน
5. เบื่ออาหารเดิมๆ หรืออยากเปลี่ยนเป็นอาหารที่มีลักษณะแข็งขึ้น เพื่อจะได้เคี้ยว ซึ่งเกิดจากอาการคันเหงือก
เพื่อบรรเทาอาหารคันเหงือก คุณพ่อคุณแม่สามารถหาของเล่นที่ไม่มีสารอันตราย หรือผักที่มีลักษณะแข็ง เช่น แครอท หรือแตงกวาหั่นเป็นแท่งยาวแช่แข็งเอาไว้ให้ลูกกัดเล่น เพื่อลดอาการคันเหงือกได้
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง