ดูแลเด็ก ใน บางบ่อ, สมุทรปราการ

ดูแลเด็ก ใน บางบ่อ, สมุทรปราการ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐวิกา พุ่มมาก
ณัฐวิกา พุ่มมาก
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เป็นครูอนุบาล มีใบประกอบวิชาชีพค่ะ เรียนจบการศึกษาปฐมวัยผ่านสังเกตการสอน ฝึกสอน มีประสบการณ์ในการทำงานค่ะ รักเด็กชอบเด็กเลี้ยงเด็กเหมือนลูกตัวเองใส่ใจทุกรายละเอียดของเด็กค่ะ นิสัยร่าเริง ชอบร้องเพลง ชอบพาเด็กๆทำอาหาร ขนม และทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Khaimuk  Homberg
Khaimuk Homberg
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กและทำงานร่วมกับเด็กมากกว่า 5 ปี

รักเด็กค่ะ พูดได้ 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ สามารถสอนการบ้านน้องและช่วยเหลือในด้านอื่นๆได้

มีใบขับขี่ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐวรินทร์ ภานุโรจนรัศมี
ณัฐวรินทร์ ภานุโรจนรัศมี
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี

รักเด็ก, ใจเย็น, ละเอียด, รักสะอาด, ยืดหยุ่น, รับฟังและพร้อมเรียนรู้

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
ลัดดา เหล่าทา
ลัดดา เหล่าทา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมากกว่า 10 ปี

แสดงเพิ่มเติม
นันทิรา ระยับศรี
นันทิรา ระยับศรี
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ตอนนี้ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่โรงเรียนนานาชาติ เป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้ากับเด็กได้ดีสามารถสอนพื้นฐานให้เด็กวัยก่อนเข้าเรียนได้ ตามพัฒนาการของน้องค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ผ่านหลักสูตร คุรุศาสตร๋มหาบัณฑิตด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
4 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
4 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

บางบ่อ เมืองที่มีปรากฏในนิราศเมืองแกลง

อำเภอบางบ่อ เป็นหนึ่งในหกอำเภอของจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัด ทิศเหนือติดต่อกับเขตลาดกระบัง (กรุงเทพมหานคร) อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบ้านโพธิ์ (จังหวัดฉะเชิงเทรา) ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอบางปะกง (จังหวัดฉะเชิงเทรา) ทิศใต้จรดอ่าวไทยตอนใน และทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี และอำเภอบางเสาธง ชื่อ “บางบ่อ” มาจาก “บาง” ที่แปลว่า ทางน้ำเล็กๆ ที่ไหลตามระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองหรือทะเล ส่วนคำว่า “บ่อ” หมายถึง ช่องลึกลงไปในดินหรือในหิน ใช้เป็นที่ขังน้ำขังปลา รวมกันเป็น “บางบ่อ” คือ พื้นที่ที่ทางน้ำเล็กๆ อยู่ใกล้ทะเล และมีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ หรือขุดบ่อล่อปลา

เดิมที เมื่อปี พ.ศ. 2439 อำเภอบางบ่อตั้งอยู่ที่ว่าการอำเภอบ้านคอลาด (ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านทางตอนเหนือของตำบลบางบ่อ) ได้ชื่อว่า อำเภอคอลาด แต่เนื่องจากอยู่ห่างไกลจากตำบลอื่นมาก ทำให้การติดต่อราชการไม่สะดวก จึงมีการย้ายที่ว่าการอำเภอมาที่บริเวณปากคลองบางพลีในปี พ.ศ. 2443 และเปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอบางเหี้ย ได้ชื่อตามลำคลองสำคัญสายหนึ่ง เรียกอีกชื่อว่า “คลองด่าน” จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2472 มีการย้ายที่ว่าการอำเภอมาตั้งที่ หมู่ 1 ตำบลบางบ่อ และ ในปี พ.ศ. 2473 กระทรวงมหาดไทยจึงเปลี่ยนชื่ออำเภอเป็น อำเภอบางบ่อ ตามชื่อตำบล ส่วนตำบลบางเหี้ยถูกเปลี่ยนชื่อเป็นตำบลคลองด่านในภายหลัง เนื่องจากทางการมีความเห็นว่าเป็นชื่อที่ไม่สุภาพและไม่เป็นมงคล

อำเภอบางบ่อ แบ่งการปกครองย่อยออกเป็น 8 ตำบล 74 หมู่บ้าน และมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 10 แห่ง นอกจากมีถนนสายหลักและสายรองหลายสายแล้ว ด้วยพื้นที่อยู่ติดลำคลอง จึงมีคลองหลายสายด้วย ได้แก่ คลองสำโรง คลองประเวศบุรีรมย์ ลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต คลองด่าน คลองบ้านระกาศ คลองบางพลีน้อย และด้วยสมัยก่อนการจะเข้าออกมาในเขตพื้นที่นี้ต้องใช้การเดินทางทางน้ำ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2349 กวีเอกของไทย สุนทรภู่ ได้ใช้เส้นทางลำคลองสำโรงเพื่อล่องเรือไปหาบิดาที่บ้านกร่ำ (เขตอำเภอแกลง จังหวัดระยองในปัจจุบัน) ระหว่างทางได้บันทึกการเดินทางโดยแต่งเป็นนิราศเมืองแกลง และเมื่อมาถึงบางบ่อ สุนทรภู่ได้แต่งกลอนไว้ดังนี้

“ถึงบางบ่อพอจันทร์กระจ่างแจ้ง ทุกประเวศเขตแขวงนั้นกว้างขวาง

ดูดาวดาษกลาดฟ้านภาภางค์ วิเวกทางท้องทุ่งสะท้านใจ

ดูริ้วริ้วลมปลิวที่ปลายแฝก ทุกละแวกหวาดหวั่นอยู่ไหวไหว

รำลึกถึงขนิษฐายิ่งอาลัย เช่นนี้ได้เจ้ามาด้วยจะดิ้นโดย

เห็นทิวทุ่งวุ้งเวิ้งให้หวั่นหวาด กัมปนาทเสียงนกวิหคโหย

ไหนจะต้องละอองน้ำค้างโปรย เมื่อลมโชยชื่นนวลจะชวนเชย

โอ้นึกนึกแล้วก็น่าน้ำตาตก ด้วยแนบอกมิได้แนบแอบเขนย

ได้หมอนข้างต่างน้องประคองเชย เมื่อไรเลยจะได้คืนมาชื่นใจฯ”



มาถึงบางบ่อ ต้องซื้อปลาสลิด

ปลาสลิดที่ขึ้นว่าหอม เนื้ออร่อยที่สุด ต้อง ปลาสลิดบางบ่อ จัดเป็นของดีของเด็ดของอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นสินค้าที่ทำรายได้ให้ชาวบางบ่ออย่างมาก เดิมชาวบ้านในอำเภอบางบ่อมีอาชีพทำนาข้าว แต่เมื่อมีโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้นจนรุกล้ำที่นา และน้ำทะเลหนุนสูง น้ำจืดจึงกลายเป็นน้ำกร่อย ทำให้ทำนาไม่ได้ ชาวบ้านจึงหันมาขุดบ่อเลี้ยงปลาสลิดแทน โดยใช้น้ำกร่อยเลี้ยงปลา เนื่องจากน้ำกร่อยเป็นแหล่งไรแดงซึ่งเป็นอาหารของปลาสลิด ปลาสลิดที่นี่จึงมีความสมบูรณ์กว่าที่อื่น

สัญลักษณ์ของ “ปลาสลิดแห้งบางบ่อ” คือการสับหางปลาเป็นแฉก และจะมีการแปรรูปปลาสลิดอยู่ 2 แบบ คือ ปลาหอมและปลาน้ำแข็ง ต่างกันที่กรรมวิธีการทำเค็มและราคา โดย“ปลาหอม” จะมีราคาที่สูงกว่า เนื่องจากทำยากกว่า แต่รสชาติก็จะหอมอร่อยกว่าปลาน้ำแข็ง การทำปลาหอมจะต้องนำปลาใส่กะละมัง โรยเกลือ และฝัดให้ทั่ว ทิ้งไว้จนเกลือเข้าเนื้อปลา หลังจากนั้นนำไปใส่หลัว (ภาชนะสานรูปคล้ายทรงกระบอก ก้นสอบปากผาย มีหูจับที่ขอบปาก 2 ข้าง) วางทิ้งไว้จนน้ำปลาหยดลงข้างล่างจนหมด เนื้อปลาจะพองเต็มที่ จึงนำไปตากแดด จะได้เนื้อปลาที่หอม รสชาติดี เนื้อแน่น นุ่มอร่อย แต่จะมีน้ำหนักเบากว่าปลาน้ำแข็ง เพราะตัวจะบางและแบนกว่า ส่วน “ปลาน้ำแข็ง” จะนำปลาไปคลุกเคล้ากับเกลือก่อนจึงนำมาเรียงลงในลัง โรยด้วยน้ำแข็งเพื่ออัดตัวปลา แล้ววางปลาทับลงไปอีกที สลับด้วยน้ำแข็ง ทำไปจนเต็มลัง น้ำแข็งกับเกลือจะทำให้ปลามีเนื้อแข็งและแห้ง หลังจากนั้นก็เอามาตากแดดเพียงครึ่งแดด หรือแดดเดียว จะได้น้ำหนักมาก สามารถนำมาขายได้เลย

ปัจจุบันปลาสลิดมีขายในหลายจังหวัด และมีการสับหางปลาเป็นแฉกให้คล้ายปลาสลิดบางบ่อ ดังนั้น หากใครอยากทานปลาสลิดจากบางบ่อแท้ๆ ต้องลองสังเกตให้ดีๆ หรือขับรถตรงไปซื้อถึงที่ก็ได้ ปลาสลิดบางบ่อ มีวางขายตามแผงริมทาง ถ. บางนา-ตราด ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วง กม. 33 จนถึง กม. 27 และยังมีจำหน่ายตามตลาดทั่วไปในจังหวัดสมุทรปราการ ลองซื้อไปทอดกินสักครั้ง รับรองได้ว่าต้องติดใจ ขับรถกลับมาซื้ออีกแน่นอน



ลูกท้องเสีย เพราะเด็กกำลัง “ยืดตัว” จริงหรือ

เวลาที่ลูกวัยทารกเกิดอาการ “ท้องเสีย” เรามักได้ยินคนเฒ่าคนแก่ทักว่า ท้องเสียเพราะเด็กกำลัง “ยืดตัว” ตามพัฒนาการของร่างกายซึ่งจะหายได้เอง แต่จริงๆแล้วในทางการแพทย์ การที่เด็กเล็กโดยเฉพาะเด็กในวัยต่ำกว่า 1 ปี มีอาการท้องเสียนั้น เกิดจากการที่มีเชื้อโรคเข้าไปในร่างกาย โดยเชื้อโรคเหล่านั้นอาจปนเปื้อนมากับอาหาร น้ำดื่ม ของเล่น เมื่อเด็กเริ่มคลานและหยิบจับสิ่งของได้ เด็กอาจใช้มือหยิบสิ่งของ หรือของเล่นที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าปาก จึงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการท้องเสียเพราะเด็กยังมีภูมิต้านทานต่ำกว่าผู้ใหญ่

ทั้งนี้เด็กจะหายได้เองโดยใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน โดยระหว่างนี้พ่อแม่ควรหมั่นสังเกตอาการ พร้อมให้สารทดแทนการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในปริมาณที่เหมาะสม โดยผสมน้ำตาลเกลือแร่ 1 ซอง ต่อน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 แก้ว หรือใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่นครึ่งช้อนชา น้ำสะอาด 3 แก้ว ผสมกัน ตักป้อนทีละน้อย บ่อยๆ จนเด็กเริ่มอาการดีขึ้น และสามารถทานข้าวหรืออาหารอ่อน เช่น โจ๊ก ข้าวต้มได้ปกติ

หากเกิน 5 วันแล้วยังคงท้องเสียอยู่ หรือมีอาการอื่นเพิ่มขึ้น เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด ไข้สูงหรือมีอาการชัก อาเจียนบ่อย ท้องอืด หอบ เพลีย ซึม ไม่ยอมกินนมหรืออาหาร หรือถ่ายบ่อยมากกว่า 10 ครั้งต่อวัน ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการของการติดเชื้อในลำไส้