ติวเตอร์ภาษาไทย ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ

ติวเตอร์ภาษาไทย ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการติวเตอร์ภาษาไทย ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วรรณิภา กูหมัด
วรรณิภา กูหมัด
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

ถนัดภาษาอินโดอีกหนึ่งภาษาค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนใจเย็นค่ะ สามารถสอนเด็กเล็กได้ มีเทคนิคช่วยให้น้อง ๆ ตั้งใจเรียน ค่ะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่พูดคำหยาบ อัธยาศัยดี ตั้งใจทำงานที้ได้รับมอบหมาย ไม่ยุ่งอบายมุข สอนประจำได้

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะ ชื่อ อิสซาตี เรียกสั้นๆว่าตี้ได้ค่ะ ตี่เคยมีประสบการณ์การสอนการบ้าน และสอนพิเศษภาษาอะงกฤษให้กับน้องอนุบาลและประถมค่ะ ตี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่2 ที่มหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติมาเลเซีย ที่ประเทศมาเลเซีย

แสดงเพิ่มเติม
Khaimuk  Homberg
Khaimuk Homberg
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

รักเด็กและมีประสบการณ์ในการดูแลเด็กมากกว่า 10 ปี

สามารถติวน้องๆให้เข้าใจเนื้อหาให้เข้าใจง่ายๆ ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ ทำให้น้องๆไม่เบื่อที่จะเรียน

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

จ้างติวเตอร์วิชาภาษาไทยส่วนตัวให้ลูกจากสถาบันสอนภาษาไทย ราคาค่อนข้างแพง จนได้มาเจอติวเตอร์บนหน้าเว็บใส่ใจ ราคาก็อยู่ในระดับเดียวกับติวเตอร์ทั่วไปเลยค่ะ ตอนแรกแอบลังเลกลัวไม่คุ้มค่าจ้าง แต่ลูกบอกว่าสอนสนุกและทำให้เข้าใจบทเรียนได้ง่ายมาก
Saijai
ชลธร สุวรรณสว่าง
4 ปีที่แล้ว
ครอบครัวเราเพิ่งย้ายกลับจากสวีเดนมาไทยได้ไม่นาน อยากให้ลูกฝึกภาษาไทยเลยจ้างติวเตอร์มาสอน คนรู้จักแนะนำเว็บของใส่ใจให้เลยลองเข้าไปดู ตัวเว็บใช้งานสะดวกมากค่ะ บริการก็ดี แนะนำเลยค่ะ
Saijai
คีตา เวลส์
4 ปีที่แล้ว
คือว่าหนูอยากเข้าเรียนเอกภาษาไทยค่ะ เพราะว่าตัวเองพอมีทักษะทางด้านภาษาไทยอยู่บ้างคะ เคยแต่งคำประพันธ์ เขียนเรียงความ แล้วก็เคยแข่งอะไรที่เกี่ยวกับภาษาไทยอีกมากมาย การเลือกมาติวเพิ่ม เพื่อฝึกฝนทักษะเพิ่มเติม ทำความเข้าใจให้มากขึ้น ภาษาไทยเป็นภาษาที่สวยงาม ความฝันของหนูคือการเป็นนักเขียน ติวเตอร์ที่นี่ให้แนวทางดีมากๆ เลยคะ
Saijai
ณัชชา โสภณวัชรากุล
4 ปีที่แล้ว
จ้างติวเตอร์ภาษาไทย เรียนไปเรียนมาสนุกขึ้น พบความสละสลวย คำคล้องจอง ทำให้ เราเอาไปประยุกต์ใช้ในการเขียนรายงานได้มากขึ้น เรามีความกล้าที่จะพรีเซนต์รายงานหน้าห้องมากขึ้น
Saijai
ฑิมพิกา อภิวัชช์คุณากร
4 ปีที่แล้ว
เรทค่าจ้างติวเตอร์มีหลากหลายแล้วแต่ระยะเวลาที่เราต้องการให้สอนเลย มีให้เลือกตามความสะดวกเลยค่ะ ติวเตอร์ก็คุณภาพดีคุ้มค่าคุ้มราคาจริง ๆ
Saijai
เฮนน่า ก้องพิทักษ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาไทย

เมื่อภาษาไทยกลายเป็นจุดอ่อนของเด็กไทย เราสมารถทำอย่างไรได้บ้างเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเอกลักษณ์และเปรียบเสมือนวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับชาวไทยมาเนิ่นนาน ในปัจจุบันยุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งที่ตามมาคือความก้าวหน้าทางภาษา ซึ่งตัวแปรสำคัญของความก้าวหน้าเหล่านี้คือเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทำให้การสื่อสารของผู้คนนั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย จนบางครั้งอาจมีมากเกินไปและทำให้เกิดปัญหาตามมาในที่สุด

ปัญหาที่เห็นได้ชัดในผู้คนสมัยนี้คือการให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาไทยน้อยกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากมีภาษาอื่น ๆ อีกมากมายที่คนรุ่นใหม่สนใจศึกษาหาความรู้กันจนมองข้ามภาษาบ้านเกิดของตนเองไป ส่งผลให้ภาษาไทยกลายเป็นจุดอ่อนของคนรุ่นใหม่ บางคนไม่รู้วิธีการใช้ที่ถูกต้อง ประกอบกับการมองว่าการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ช่วยให้สะดวกและรวดเร็วในการสื่อสารมากกว่า ทำให้เกิดหลักการของภาษาและคำศัพท์ใหม่ ๆ ขึ้นมาแทนอีกมากมายโดยมองข้ามวิธีใช้ที่ถูกต้อง ยกตัวอย่างจุดอ่อนในการใช้ภาษาไทยของผู้คนสมัยนี้ที่เห็นได้บ่อย ๆ คือ ความสับสนในการใช้คำลงท้ายอย่าง ‘ค่ะ’ กับ ‘นะคะ’ เป็นต้น

การผันวรรณยุกต์ของคนไทยเป็นอีกสิ่งที่คนมักมองข้ามกัน อีกหนึ่งปัญหาคือ การใช้คำศัพท์ใหม่ ๆ มาแทนคำเดิมเพื่อความสะดวกสบายในการสื่อสาร จนทำให้เกิดเป็นภาษาใหม่ขึ้นในสังคม หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ภาษาวิบัติ’ นั่นเอง

แนวทางการแก้ปัญหาการใช้ภาษาไทยอย่างผิด ๆ ถูก ๆ คือการช่วยกันสอดส่องดูแลอย่างสม่ำเสมอ สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ ภายในครอบครัวของตนเอง โดยการปลูกฝังการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องตั้งแต่วัยเยาว์เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยในการใช้ภาษาตั้งแต่เด็ก ๆ ขณะเดียวกันในส่วนของสถาบันการศึกษาก็ควรให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาไทยของเยาวชนเช่นกัน โดยการสอนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทยที่ถูกต้อง เช่นการเขียน การอ่าน วรรณคดีไทยต่าง ๆ เพื่อฝึกฝนและพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยอย่างถูกวิธีของคนรุ่นใหม่หลาย ๆ คน เมื่อเราตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องแล้ว เราจะมีความภาคภูมิใจในภาษาบ้านเกิดซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับคนไทยสืบทอดกันมายาวนาน
อยากให้ผลการเรียนภาษาไทยดีขึ้น ควรจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวหรือไม่
เรียนเสริม เรียนพิเศษภาษาไทยสำคัญหรือไม่ เรามาดูกันค่ะ
ภาษาไทยไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด หลายคนมักคิดว่าภาษาไทยไม่ได้มีความสำคัญอะไรเพราะเป็นภาษาแม่ของเราอยู่แล้ว เราพูด อ่าน เขียน ภาษาไทยกันมาตั้งแต่เด็กจึงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติม แต่จริง ๆ แล้วภาษาไทยมีอะไรมากกว่าที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน ที่เป็นเพียงภาษาพูดทั่วไป แต่ภาษาไทยมีหลายระดับ ทั้งภาษาราชการ ราชาศัพท์ คำศัพท์ที่ใช้เฉพาะ เช่น คำศัพท์ที่ใช้กับพระสงฆ์ ด้วยความหลากหลายในการใช้ภาษาจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ควรให้เด็กเรียนภาษาไทยตั้งแต่เนิ่น ๆ ตามสุภาษิตไทยที่ว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก โดยเฉพาะการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวยิ่งทำให้ง่ายต่อการเรียนรู้และพัฒนา หลายคนคิดว่าวิชาภาษาไทยเป็นวิชาที่น่าเบื่อ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิชาสำคัญที่นักเรียนต้องเรียนและควรให้ความสนใจ เป็นอีกหนึ่งในวิชาหลักที่จะต้องมีการเอาไปคิดคะแนนและมันมีผลต่อคะแนนปลายภาคอย่างมากอีกด้วย

ตามที่เกริ่นไปแล้วข้างต้น ภาษาไทยสำหรับคนไทยดูเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เด็ก ๆ ไม่ให้ความสนใจสักเท่าที่ควร ดังนั้น หากเรามีครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่เก่งและมีเทคนิคดี ๆ มาสร้างความสนใจในการเรียนภาษาไทยของเด็กแล้ว วิชาภาษาไทยจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ยิ่งถ้าติวเตอร์เป็นผู้มีประสบการณ์ในการสอนเพื่อดึงดูดให้นักเรียนสนใจเรียนแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากขึ้นไปอีก ติวเตอร์ภาษาไทย จะมีความรู้เรื่องการอ่านและการเขียนภาษาไทย โดยเน้นการปูพื้นฐานให้แน่น จดจำสระ ประสมพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ออกเสียงคำศัพท์ที่มีวรรณยุกต์แตกต่างกันได้ชัดเจน และออกเสียงพยัญชนะตัวสะกดให้ถูกต้อง แล้วค่อย ๆ พัฒนาไปถึงการเขียนประโยค เมื่อพื้นฐานดี การพัฒนาจะดียิ่งขึ้นในอนาคต
หากชาวต่างชาติต้องการจ้างครูสอนภาษาไทย ใส่ใจมีบริการดังกล่าวหรือไม่
เมื่อภาษาไทยไม่ได้มีความสำคัญหรือจำเป็นเฉพาะต่อคนไทยเท่านั้น แต่ภาษาไทยยังเป็นที่สนใจและจำเป็นต่อชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยแบบระยะยาว ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และภาษาที่ใช่สื่อสารของคนส่วนใหญ่คือภาษาไทย ทำให้ชาวต่างชาติหลายคนสนใจที่จะเรียนรู้ภาษาไทยเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวัน

บนแพลตฟอร์มใส่ใจมีผู้ให้บริการสอนภาษาไทยหรือติวเตอร์ภาษาไทยโดยใช้หลักสูตรการเรียนการสอนที่เหมาะสมสำหรับชาวต่างชาติ เริ่มจากหลักสูตรพื้นฐานง่าย ๆ ที่ช่วยเสริมทักษะเบื้องต้นเพื่อให้สามารถใช้สื่อสารในชีวิตประจำวันได้ เช่น การสอนพยัญชนะ สระ ตัวเลขภาษาไทย และประโยคในการสื่อสารแบบง่าย ๆ ไปจนถึงหลักสูตรที่สอนแบบละเอียดมากยิ่งขึ้น เช่นการเรียนเกี่ยวกับไวยากรณ์ โครงสร้างการใช้ประโยค เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการหางานที่ไทยสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการทำงานในประเทศไทย

ผู้ให้บริการสอนภาษาไทยหรือติวเตอร์ภาษาไทยบนแพลตฟอร์มใส่ใจ เป็นผู้ที่มีทักษะการสอนภาษาไทยอย่างมืออาชีพ เป็นการเรียนการสอนแบบตัวต่อตัว ทำให้สามารถเข้าถึงผู้เรียนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถอธิบายให้จนกว่าผู้เรียนจะเข้าใจได้ในที่สุด

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้เรียนได้มากยิ่งขึ้น ครูสอนภาษาไทยไม่เพียงแค่สอนเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยในการสื่อสารเพียงอย่างเดียว แต่จะสอนเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่าง ๆ เพื่อให้ชาวต่างชาติได้เข้าใจภาษาไทยและประเทศไทยได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นด้วย
บทเรียนเริ่มต้นสำหรับชาวต่างชาติที่อยากเรียนภาษาไทย ควรเริ่มด้วยอะไร
อยากเรียนภาษาไทย ควรเริ่มต้นจากตรงไหนดี ? สำหรับชาวต่างชาติที่อยากเรียนภาษาไทยกับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาไทยควรเริ่มต้นอย่างไรมาดูกันค่ะ

1. ฝึดการฟัง ฟังคำง่ายๆ ประกอบท่าทาง เช่น สวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ หรือ มีภาพประกอบเป็นคำเกี่ยวกับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย สิ่งของรอบตัว สัตว์เลี้ยง โดยติวเตอร์จะพูดซ้ำ 3-5 ครั้ง ให้ผู้เรียนจดจำได้ และอาจจะมีการสอนการฟังสอดแทรกวันละ 15-20 นาที และวันแรกไม่เกิน 10 คำ เพราะถ้าสอนมากไปจะจำไม่ได้และสับสน ค่อย ๆ เพิ่มคำศัพท์ในวันต่อ ๆ ไป
2. ฝึกการพูด ให้ฝึกพูดเกี่ยวกับสิ่งใกล้ตัวผู้เรียนก่อน ได้แก่ คำทักทาย สวัสดี ขอโทษ ขอบคุณ ต่อมาให้รู้จักพูดชื่อครูและชื่อตนเอง พูดเกี่ยวกับอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้า ผม ตา จมูก มือ เท้า แขน ขา และอิริยาบถต่างๆ ของร่างกาย เช่น ยืน เดิน นั่ง นอน วิ่ง ต่อมาให้ผู้เรียนสามารถ เรียกชื่อวัตถุสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น สมุด ดินสอ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด หน้าต่าง ประตู โต๊ะ เก้าอี้ กระดาษ
3. ฝึกการอ่าน อาจฝึกอ่านได้หลายวิธี แล้วแต่ความพร้อมของผู้เรียน โดยฝึกอ่านจากตัวพยัญชนะ เริ่มจาก ก ไปจนถึง ฮ แต่ให้ติวเตอร์จะสอนอ่านวันละ 5-10 ตัว และอาจฝึกอ่านคำจากภาพ เช่น ไก่ ไข่ ขวด ควาย ระฆัง งู จนถึงนกฮูก ต่อมาฝึกอ่านประโยค และอ่านเรื่อง ตามลำดับ
4. เริ่มฝึกเขียนพยัญชนะ ก ถึง ฮ ซึ่งวิธีนี้มักนิยมกันอย่างแพร่หลาย หรืออาจลองฝึกหัดเขียนโดยเน้นเขียนตัวที่ฝึกง่ายก่อนก็ได้ หรือตัวที่เขียนคล้าย ๆ กันก่อน เพราะฝึกเขียนง่ายและเป็นมีรูปแบบใกล้เคียงกัน
5 ฝึกถาม-ตอบ คำถามง่าย ๆ ที่ใช้บ่อยและสามารถนำไปใช้ต่อไปในชีวิตประจำวันได้ด้วย

เริ่มต้นง่าย ๆ กับติวเตอร์ภาษาไทยบนแพลตฟอร์มใส่ใจ ทำให้คุณค้นหาผู้ให้บริการที่ตรงใจคุณที่สุด