ติวเตอร์ภาษาไทย ใน สันกำแพง, เชียงใหม่

ติวเตอร์ภาษาไทย ใน สันกำแพง, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิระประภา จีรพัฒนโภคิน
ศิระประภา จีรพัฒนโภคิน
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

ดิฉันเป็นนักศึกษาปีที่4 สาขาภาษาจีนธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ปัจจุบันนี้กำลังฝึกงานอยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เคยมีประสบการณ์เป็นครูผู้ช่วยที่สถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่ง มีผลสอบHSKระดับที่6 ส่วนภาษาอังกฤษอยู่ในระดับดี เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน จึงมีส่วนช่วยในการพัฒนาทักษะทางด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก นิสัยส่วนตัว เป็นคนเป็นกันเอง มีความมุ่งมั่นตั้งใจสูง หากได้ลงมือทำอะไรแล้ว จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Nantanat Kangwansong
Nantanat Kangwansong
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

หากคุณกำลังมองหาติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ มาเรียนกับดิฉันสิคะ

- จากประสบการณ์การทำงานกับชาวต่างชาติมากกว่า 13 ปี ให้กับแผนก Visiting Schools Program แคมปัสเดียวกับโรงเรียนนานาชาติเปรมติณสูลานนท์ ดิฉันได้เป็นติวเตอร์ใหกับนักเรียนหลายคน

- ดิฉันมีทักษะ ความรู้ในการสอนนักเรียนชาวไทยและชาวต่างชาติและ มีความอดทน มีความเข้าใจถึงความต้องการของนักเรียน

- ขณะนี้ดิฉันได้ทำการสอนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทยและคณิตศาสตร์ ทั้งแบบออนไลน์แบะแบบตัวต่อตัวให้กับนักเรียนและผู้ใหญ่ชาวไทยและชาวต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ผลการเรียนวิชาภาษาไทยของลูก ไม่ดีเลยค่ะยิ่งขึ้นชั้นม.ปลายผลการเรียนวิชาภาษาไทยลูกก็ยิ่งแย่ลง ได้ติวเตอร์ภาษาไทยผ่านเว็บใส่ใจ ให้มาลองสอนลูกเป็นการส่วนตัวมาระยะหนึ่ง ทางตัวติวเตอร์ได้มีการเตรียมสื่อการสอนและวิธีการสอนให้ง่ายต่อการเข้าใจของลูกด้วยค่ะ คะแนนวิชาภาษาไทยของลูกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
Saijai
สาธินี มณีกุล
3 ปีที่แล้ว
คนส่วนใหญ่คิดว่า ภาษาไทยก็พูดได้กันอยู่แล้ว จะเรียนไปทำไม จริงๆ ภาษาไทยมีความซับซ้อนมาก เขียนผิดนิดเดียว วรรคผิดนิดนึง ความหมายก็เปลี่ยนโดยเฉพาะลูกเราเป็นเด็ก 2 ภาษา พ่อพูดภาษาอังกฤษ แม่พูดภาษาไทย บางครั้งลูกค่อนข้างสับสน จะสอนเองก็ไม่เก่ง มองหาติวเตอร์ภาษาไทย คิดว่าจะหายาก แต่พอมาเจอเว็บใส่ใจ เปลี่ยนความคิดเลยค่ะ ได้ติวเตอร์คุณภาพ มีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ตรงตามความต้องการทุกอย่างเลยค่ะ
Saijai
ช่อลัดดา รัตนภูมิ
3 ปีที่แล้ว
ขั้นตอนการติดต่อและหาติวเตอร์สะดวกมาก ๆ เลยค่ะ แพลทฟอร์มใช้ง่าย ประทับใจมากค่ะ ไว้ครั้งหน้าจะมาใช้บริการอื่น ๆ อีกนะคะ
Saijai
อลิสา แย้มสมัย
4 ปีที่แล้ว
จ้างติวเตอร์ภาษาไทย เรียนไปเรียนมาสนุกขึ้น พบความสละสลวย คำคล้องจอง ทำให้ เราเอาไปประยุกต์ใช้ในการเขียนรายงานได้มากขึ้น เรามีความกล้าที่จะพรีเซนต์รายงานหน้าห้องมากขึ้น
Saijai
ฑิมพิกา อภิวัชช์คุณากร
4 ปีที่แล้ว
อ่อนภาษาไทยครับ บอกตรง ๆ เลย เรียนในห้องไม่ค่อยเข้าใจเลย ต้องหาติวเตอร์มาช่วยสอน จองติวเตอร์ผ่านเว็บใส่ใจ เพราะเว็บให้ข้อมูลไว้ละเอียด เจอติวเตอร์ตัวจริง สอนดีครับ จบเอกภาษาไทยมาโดยตรง
Saijai
ณฤดี วรกฤตติกา
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาไทย

เมื่อภาษาไทยกลายเป็นจุดอ่อนของเด็กไทย เราสมารถทำอย่างไรได้บ้างเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเอกลักษณ์และเปรียบเสมือนวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับชาวไทยมาเนิ่นนาน ในปัจจุบันยุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งที่ตามมาคือความก้าวหน้าทางภาษา ซึ่งตัวแปรสำคัญของความก้าวหน้าเหล่านี้คือเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทำให้การสื่อสารของผู้คนนั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย จนบางครั้งอาจมีมากเกินไปและทำให้เกิดปัญหาตามมาในที่สุด

ปัญหาที่เห็นได้ชัดในผู้คนสมัยนี้คือการให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาไทยน้อยกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากมีภาษาอื่น ๆ อีกมากมายที่คนรุ่นใหม่สนใจศึกษาหาความรู้กันจนมองข้ามภาษาบ้านเกิดของตนเองไป ส่งผลให้ภาษาไทยกลายเป็นจุดอ่อนของคนรุ่นใหม่ บางคนไม่รู้วิธีการใช้ที่ถูกต้อง ประกอบกับการมองว่าการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ช่วยให้สะดวกและรวดเร็วในการสื่อสารมากกว่า ทำให้เกิดหลักการของภาษาและคำศัพท์ใหม่ ๆ ขึ้นมาแทนอีกมากมายโดยมองข้ามวิธีใช้ที่ถูกต้อง ยกตัวอย่างจุดอ่อนในการใช้ภาษาไทยของผู้คนสมัยนี้ที่เห็นได้บ่อย ๆ คือ ความสับสนในการใช้คำลงท้ายอย่าง ‘ค่ะ’ กับ ‘นะคะ’ เป็นต้น

การผันวรรณยุกต์ของคนไทยเป็นอีกสิ่งที่คนมักมองข้ามกัน อีกหนึ่งปัญหาคือ การใช้คำศัพท์ใหม่ ๆ มาแทนคำเดิมเพื่อความสะดวกสบายในการสื่อสาร จนทำให้เกิดเป็นภาษาใหม่ขึ้นในสังคม หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ภาษาวิบัติ’ นั่นเอง

แนวทางการแก้ปัญหาการใช้ภาษาไทยอย่างผิด ๆ ถูก ๆ คือการช่วยกันสอดส่องดูแลอย่างสม่ำเสมอ สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ ภายในครอบครัวของตนเอง โดยการปลูกฝังการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องตั้งแต่วัยเยาว์เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยในการใช้ภาษาตั้งแต่เด็ก ๆ ขณะเดียวกันในส่วนของสถาบันการศึกษาก็ควรให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาไทยของเยาวชนเช่นกัน โดยการสอนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทยที่ถูกต้อง เช่นการเขียน การอ่าน วรรณคดีไทยต่าง ๆ เพื่อฝึกฝนและพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยอย่างถูกวิธีของคนรุ่นใหม่หลาย ๆ คน เมื่อเราตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องแล้ว เราจะมีความภาคภูมิใจในภาษาบ้านเกิดซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับคนไทยสืบทอดกันมายาวนาน
อยากให้ผลการเรียนภาษาไทยดีขึ้น ควรจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวหรือไม่
เรียนเสริม เรียนพิเศษภาษาไทยสำคัญหรือไม่ เรามาดูกันค่ะ
ภาษาไทยไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด หลายคนมักคิดว่าภาษาไทยไม่ได้มีความสำคัญอะไรเพราะเป็นภาษาแม่ของเราอยู่แล้ว เราพูด อ่าน เขียน ภาษาไทยกันมาตั้งแต่เด็กจึงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติม แต่จริง ๆ แล้วภาษาไทยมีอะไรมากกว่าที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน ที่เป็นเพียงภาษาพูดทั่วไป แต่ภาษาไทยมีหลายระดับ ทั้งภาษาราชการ ราชาศัพท์ คำศัพท์ที่ใช้เฉพาะ เช่น คำศัพท์ที่ใช้กับพระสงฆ์ ด้วยความหลากหลายในการใช้ภาษาจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ควรให้เด็กเรียนภาษาไทยตั้งแต่เนิ่น ๆ ตามสุภาษิตไทยที่ว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก โดยเฉพาะการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวยิ่งทำให้ง่ายต่อการเรียนรู้และพัฒนา หลายคนคิดว่าวิชาภาษาไทยเป็นวิชาที่น่าเบื่อ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิชาสำคัญที่นักเรียนต้องเรียนและควรให้ความสนใจ เป็นอีกหนึ่งในวิชาหลักที่จะต้องมีการเอาไปคิดคะแนนและมันมีผลต่อคะแนนปลายภาคอย่างมากอีกด้วย

ตามที่เกริ่นไปแล้วข้างต้น ภาษาไทยสำหรับคนไทยดูเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เด็ก ๆ ไม่ให้ความสนใจสักเท่าที่ควร ดังนั้น หากเรามีครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่เก่งและมีเทคนิคดี ๆ มาสร้างความสนใจในการเรียนภาษาไทยของเด็กแล้ว วิชาภาษาไทยจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ยิ่งถ้าติวเตอร์เป็นผู้มีประสบการณ์ในการสอนเพื่อดึงดูดให้นักเรียนสนใจเรียนแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากขึ้นไปอีก ติวเตอร์ภาษาไทย จะมีความรู้เรื่องการอ่านและการเขียนภาษาไทย โดยเน้นการปูพื้นฐานให้แน่น จดจำสระ ประสมพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ออกเสียงคำศัพท์ที่มีวรรณยุกต์แตกต่างกันได้ชัดเจน และออกเสียงพยัญชนะตัวสะกดให้ถูกต้อง แล้วค่อย ๆ พัฒนาไปถึงการเขียนประโยค เมื่อพื้นฐานดี การพัฒนาจะดียิ่งขึ้นในอนาคต
หากชาวต่างชาติต้องการจ้างครูสอนภาษาไทย ใส่ใจมีบริการดังกล่าวหรือไม่
เมื่อภาษาไทยไม่ได้มีความสำคัญหรือจำเป็นเฉพาะต่อคนไทยเท่านั้น แต่ภาษาไทยยังเป็นที่สนใจและจำเป็นต่อชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยแบบระยะยาว ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และภาษาที่ใช่สื่อสารของคนส่วนใหญ่คือภาษาไทย ทำให้ชาวต่างชาติหลายคนสนใจที่จะเรียนรู้ภาษาไทยเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวัน

บนแพลตฟอร์มใส่ใจมีผู้ให้บริการสอนภาษาไทยหรือติวเตอร์ภาษาไทยโดยใช้หลักสูตรการเรียนการสอนที่เหมาะสมสำหรับชาวต่างชาติ เริ่มจากหลักสูตรพื้นฐานง่าย ๆ ที่ช่วยเสริมทักษะเบื้องต้นเพื่อให้สามารถใช้สื่อสารในชีวิตประจำวันได้ เช่น การสอนพยัญชนะ สระ ตัวเลขภาษาไทย และประโยคในการสื่อสารแบบง่าย ๆ ไปจนถึงหลักสูตรที่สอนแบบละเอียดมากยิ่งขึ้น เช่นการเรียนเกี่ยวกับไวยากรณ์ โครงสร้างการใช้ประโยค เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการหางานที่ไทยสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการทำงานในประเทศไทย

ผู้ให้บริการสอนภาษาไทยหรือติวเตอร์ภาษาไทยบนแพลตฟอร์มใส่ใจ เป็นผู้ที่มีทักษะการสอนภาษาไทยอย่างมืออาชีพ เป็นการเรียนการสอนแบบตัวต่อตัว ทำให้สามารถเข้าถึงผู้เรียนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถอธิบายให้จนกว่าผู้เรียนจะเข้าใจได้ในที่สุด

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้เรียนได้มากยิ่งขึ้น ครูสอนภาษาไทยไม่เพียงแค่สอนเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยในการสื่อสารเพียงอย่างเดียว แต่จะสอนเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่าง ๆ เพื่อให้ชาวต่างชาติได้เข้าใจภาษาไทยและประเทศไทยได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นด้วย
บทเรียนเริ่มต้นสำหรับชาวต่างชาติที่อยากเรียนภาษาไทย ควรเริ่มด้วยอะไร
อยากเรียนภาษาไทย ควรเริ่มต้นจากตรงไหนดี ? สำหรับชาวต่างชาติที่อยากเรียนภาษาไทยกับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาไทยควรเริ่มต้นอย่างไรมาดูกันค่ะ

1. ฝึดการฟัง ฟังคำง่ายๆ ประกอบท่าทาง เช่น สวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ หรือ มีภาพประกอบเป็นคำเกี่ยวกับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย สิ่งของรอบตัว สัตว์เลี้ยง โดยติวเตอร์จะพูดซ้ำ 3-5 ครั้ง ให้ผู้เรียนจดจำได้ และอาจจะมีการสอนการฟังสอดแทรกวันละ 15-20 นาที และวันแรกไม่เกิน 10 คำ เพราะถ้าสอนมากไปจะจำไม่ได้และสับสน ค่อย ๆ เพิ่มคำศัพท์ในวันต่อ ๆ ไป
2. ฝึกการพูด ให้ฝึกพูดเกี่ยวกับสิ่งใกล้ตัวผู้เรียนก่อน ได้แก่ คำทักทาย สวัสดี ขอโทษ ขอบคุณ ต่อมาให้รู้จักพูดชื่อครูและชื่อตนเอง พูดเกี่ยวกับอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้า ผม ตา จมูก มือ เท้า แขน ขา และอิริยาบถต่างๆ ของร่างกาย เช่น ยืน เดิน นั่ง นอน วิ่ง ต่อมาให้ผู้เรียนสามารถ เรียกชื่อวัตถุสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น สมุด ดินสอ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด หน้าต่าง ประตู โต๊ะ เก้าอี้ กระดาษ
3. ฝึกการอ่าน อาจฝึกอ่านได้หลายวิธี แล้วแต่ความพร้อมของผู้เรียน โดยฝึกอ่านจากตัวพยัญชนะ เริ่มจาก ก ไปจนถึง ฮ แต่ให้ติวเตอร์จะสอนอ่านวันละ 5-10 ตัว และอาจฝึกอ่านคำจากภาพ เช่น ไก่ ไข่ ขวด ควาย ระฆัง งู จนถึงนกฮูก ต่อมาฝึกอ่านประโยค และอ่านเรื่อง ตามลำดับ
4. เริ่มฝึกเขียนพยัญชนะ ก ถึง ฮ ซึ่งวิธีนี้มักนิยมกันอย่างแพร่หลาย หรืออาจลองฝึกหัดเขียนโดยเน้นเขียนตัวที่ฝึกง่ายก่อนก็ได้ หรือตัวที่เขียนคล้าย ๆ กันก่อน เพราะฝึกเขียนง่ายและเป็นมีรูปแบบใกล้เคียงกัน
5 ฝึกถาม-ตอบ คำถามง่าย ๆ ที่ใช้บ่อยและสามารถนำไปใช้ต่อไปในชีวิตประจำวันได้ด้วย

เริ่มต้นง่าย ๆ กับติวเตอร์ภาษาไทยบนแพลตฟอร์มใส่ใจ ทำให้คุณค้นหาผู้ให้บริการที่ตรงใจคุณที่สุด