วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติว GAT
จากการสอบ GAT ข้อสอบภาษาอังกฤษในปี 2559 จากคนสอบทั่วประเทศ 173,018 คน มีนักเรียนเพียง 971 คน ที่ทำคะแนนวิชาภาษาอังกฤษได้ 120-150 คะแนน โดยผู้เข้าสอบส่วนใหญ่ทำคะแนนได้เพียง 30-60 คะแนนจากคะแนนเต็ม 150 คะแนน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งอาจมาจากคุณภาพของการเรียนการสอนที่แตกต่างกันในแต่ละโรงเรียน ทำให้นักเรียนต้องหาความรู้เพิ่มเติมจากความรู้ที่ได้จากห้องเรียน ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะการเสริมความรู้จากติวเตอร์ที่สอนเทคนิคการทำข้อสอบและการทบทวนที่สม่ำเสมอ ติวเตอร์จะมีเทคนิคการเดาคำศัพท์ การเดาบริบท หรือการอ่านจับใจความ ซึ่งทำให้นักเรียนสามารถทำข้อสอบได้เร็วขึ้นอีก นอกจากความรู้ในเนื้อหาวิชา ติวเตอร์ยังช่วยอธิบายลักษณะข้อสอบและกระดาษคำตอบที่อาจจะสร้างความสับสนให้ผู้สอบไม่น้อย เมื่อผู้สอบไม่ต้องเสียเวลากับการทำความเข้าใจกระดาษคำตอบ ทำให้มีเวลาทำข้อสอบมากขึ้น มีเวลาคิดมากขึ้นด้วย ติวเตอร์ส่วนใหญ่จะติว GAT โดยนักเรียนหัดทำข้อสอบปีก่อน ๆ เป็นการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบยิ่งหัดทำบ่อย ๆ เพิ่มทักษะในการทำโจทย์ ทบทวนสิ่งที่เรียนมา วิเคราะห์แนวโน้มแนวข้อสอบที่น่าจะเป็น จากติวเตอร์ ที่มีประสบการณ์ และเมื่อทำข้อสอบเก่าแล้ว ก็ต้องหมั่นทบทวนปัญหาของตนเอง หลังจากที่ทบทวนปัญหาของตัวเองแล้ว ให้สังเกตข้อที่ตัวเองพลาด พลาดคะแนนตรงไหน การติวก็จะช่วยแก้ไขเฉพาะจุดได้ รวมถึงเทคนิคในการทำข้อสอบเพื่อให้ได้คะแนนมากพอที่จะก้าวเข้าไปในมหาวิทยาลัยที่หวังไว้
1. หลายคนคิดว่า การเข้ามหาวิทยาลัยทุกคนต้องสอบ GAT/PAT ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว “ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องสอบ” วิธีตรวจสอบว่าเราต้องสอบหรือไม่ คือ การดูจากคณะที่เราเลือกเรียนและระเบียบการของคณะในแต่ละมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นตัวกำหนดเองว่าใช้คะแนนอะไรในการพิจารณา ถ้ามีระบุว่าใช้ GAT/PAT เราต้องสมัครสอบในวิชา GAT/PAT ด้วย
2. จากที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากไม่ต้องสอบ GAT/PAT ทุกคนแล้ว อีกหนึ่งเรื่องก็คือ “ไม่ต้องสอบ PAT ครบทุกวิชา” เลือกสอบเฉพาะวิชาที่ต้องใช้คะแนนยื่นในการพิจารณาเท่านั้น โดยดูจากการเลือกคณะแล้วอ่านระเบียบการ ถ้าระเบียบการกำหนดว่าใช้คะแนน GAT/PAT ต้องดูต่อไปอีกว่าคณะที่เราเลือกใช้คะแนน PAT อะไรบ้าง จากทั้งหมด 7 วิชา ไม่จำเป็นต้องสมัครทั้งหมด เพราะสอบไปคะแนนก็ไม่ได้นำมาใช้ และยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบอีก
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เด็กๆ ต้องเจอและทำความเข้าใจกับระบบ TCAS (Thai University Center Admission System) ซึ่งเป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยระบบใหม่ เพื่อใช้ในการวางแผนเข้าเรียนในคณะที่ต้องการได้สำเร็จ
ค่าใช้จ่าย GAT วิชาละ 140 บาท สอบ 2 วิชา GAT เชื่อมโยงและ GAT ENG เป็น 280 บาท นับว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากเพราะหลายคนยังเข้าใจผิด คิดว่าสามารถยื่นคะแนนได้แค่รอบที่ 4 แต่ความจริงแล้ว คะแนน GAT สามารถใช้ยื่นได้ 4 รอบ ระบบ TCAS มีทั้งหมด 5 รอบ กำหนดให้ยื่นได้ 4 รอบ คือ รอบที่ 2 – 5 โดยในรอบที่ 4 GAT/PAT เป็นคะแนนหลัก เพราะทุกคณะกำหนดใช้คะแนน GAT เป็นพื้นฐานหลักในการคัดเลือก ส่วน PAT ขึ้นอยู่กับแต่ละสาขาว่าต้องการ PAT วิชาใดบ้าง ถัดมาก็คือรอบที่ 3 ส่วนในรอบที่ 2 และ 5 สามารถยื่นได้เช่นกัน แต่รอบนี้มีเพียงบางคณะ และบางมหาวิทยาลัยที่กำหนดใช้ ต้องศึกษาระเบียบการของแต่ละมหาวิทยาลัยให้ละเอียด ฉะนั้นถ้าน้องๆ นักเรียนมั่นใจว่าจะทำคะแนน GAT/PAT ออกมาได้ดี สามารถวางแผนการเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้ง 4 รอบ นั่นจึงเป็นความคุ้มค่าที่เราเสียค่าสมัครสอบเพียง 280 บาทกับโอกาสที่จะเลือกเดินสู่รั้วมหาวิทยาลัย
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง