พี่เลี้ยงเด็ก ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

พี่เลี้ยงเด็ก ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ณิชชา อภิปาลกุล
ณิชชา อภิปาลกุล
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ทำงานบ้านนายเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกมามากกว่า 5 ปี สามารถขับรถได้ ดูแลเด็กได้ดี ใจเย็น ทำอาหารได้ สามารถทำงานตามที่นายสั่งได้

แสดงเพิ่มเติม
เบญญาภา โฉมแพ
เบญญาภา โฉมแพ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีคะ ชื่อเบญ จบป.ตรี มีประสบการณ์ครูพี่เลี้ยงเนอสซารี่ รร.นานาชาติ ครูพี่เลี้ยงตามบ้าน ไม่มีลูกคะ อยากมีลูกเลยมารับเลี้ยงเด็กแทน

แสดงเพิ่มเติม

ใจเย็น มีความรู้ด้านศิลปะ ช่วยเสิรมสร้างพัฒนาเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
นรีรัตน์  ฝอยทอง
นรีรัตน์ ฝอยทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สนใจงานพี่เลี้ยงเด็กค่ะ มีประสบการณ์บ้านนายจ้างมา8ปี เลี้ยงได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต ตอนนี้ว่างงานอยู่ค่ะ กำลังมองหางาน สามารถรับฟังและเรียนรุ้สิ่งใหม่ๆ ได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
	ปรีชญา ขัดเรือน
ปรีชญา ขัดเรือน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทนสูง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใจ เสริมสร้างพัฒนาการเด็กตามช่วงวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ทำงานแถวลาดกระบังค่ะ ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน เลยมองหาพี่เลี้ยงไว้ก่อนจากหลาย ๆ ที่ จนเจอพี่เลี้ยงบนใส่ใจ พี่เลี้ยงมีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กมาก่อนแล้ว ยังมีความรู้ด้านการพยาบาลเบี้องต้น ที่สำคัญคือราคาไม่เกินจากงบประมาณที่เราตั้งไว้ ถูกใจที่สุดเลยครับ
Saijai
สนั่นพงษ์ ทองสาริกา
3 ปีที่แล้ว
ประทับใจตรงที่บริการพี่เลี้ยงเด็กแต่ละประเภทมีหลากหลายราคาให้เปรียบเทียบและเลือกตัดสินใจเลยค่ะ ที่สำคัญไม่แพงด้วย
Saijai
กรรณิการ์ รัตนเดชานุวัฒน์
3 ปีที่แล้ว
หลังจากที่จ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน ช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่ไปได้เยอะเลย พี่เลี้ยงดูแลเด็กเป็นอย่างดี ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูก ๆ ตอนนี้ลูกของเราเริ่มท่อง ก-ฮ นับเลข ได้แล้ว
Saijai
กาญจนา ชัยบัณฑิต
3 ปีที่แล้ว
ราคาของพี่เลี้ยงเด็กโอเคมากค่ะ มีตัวเลือกให้เปรียบเทียบเยอะด้วย
Saijai
ฐิตารีย์ สารรัตน์
3 ปีที่แล้ว
พี่เลี้ยงดีมาก ประสบการณ์นอกจากดูแลลูกเราแล้ว ยังช่วยแนะนำเราได้ดีอีกด้วย แนะนำเลยค่ะ ใส่ใจ หาง่าย มีพี่เลี้ยงให้เลือกหลายคน
Saijai
นิชาภา การจนวารีย์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงเด็ก

บทบาทและหน้าที่ของพี่เลี้ยงมีความสำคัญอย่างไรต่อพัฒนาการของเด็ก
คำกล่าวที่ว่าเด็กเปรียบเสมือนผ้าขาวนั้นถือเป็นคำกล่าวที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเด็กในช่วงวัย 1-10 ขวบ เป็นวัยที่เรียนรู้โดยการซึมซับ จดจำ และปฏิบัติตามสิ่งที่เด็กได้พบเจอหรือถูกปฏิบัติต่อ อีกทั้งเป็นช่วงระยะเวลาที่สมองส่วน ความจำมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว และพร้อมที่จะซึมซับและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่พบเห็น ซึ่งเปรียบเสมือนกับแก้วเปล่าใบหนึ่งที่มีพื้นที่พร้อมที่จะรองรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกรินหรือเทใส่แก้วนั้น

พี่เลี้ยงถือเป็นอีกคนหนึ่งนอกเหนือจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็ก พี่เลี้ยงมีส่วนสำคัญมากต่อพัฒนาการ พฤติกรรมการแสดงออก การเรียนรู้ หรือวามเข้าใจของเด็ก โดยเฉพาะพี่เลี้ยงที่ต้องอยู่กับเด็กแบบตลอดเวลา โอกาสที่เด็กจะเรียนรู้และจดจำพฤติกรรม การแสดงออกของพี่เลี้ยงนั้นเป็นไปได้สูงมาก อีกทั้งช่วงวัยเด็กยังเป็นช่วงวัยที่เด็กยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องเหตุและผล ไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรปฏิบัติ ยังแยกแยะความถูกผิดไม่ได้ บทบาทหน้าที่ของพี่เลี้ยงจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในบางกรณีอาจเทียบเท่าหรือสำคัญมากกว่าผู้ปกครองไปเสียด้วย

ดังนั้นผู้ที่จะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก จึงจำเป็นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจต่อพฤติกรรมของเด็กในแต่ละช่วงวัยเป็นอย่างดี ต้องเป็นผู้ที่มีความใส่ใจต่อเด็กเป็นอย่างมาก คอยสังเกตสิ่งต่าง ๆ และต้องคอยชี้แนะว่าอะไรทำได้หรือไม่ สิ่งใดถูกหรือผิด และสิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือจะต้องมีใจรักในงานนี้จริง ๆ เพราะพี่เลี้ยงเด็กเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของเด็ก ดังนั้นผู้ที่เป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ที่สามารถตรวจสอบได้ และมีพฤติกรรมที่ดีที่คุณจะสามารถไว้วางใจให้พี่เลี้ยงนั้นดูแลลูกของคุณ
วิธีการสังเกตว่าพี่เลี้ยงเด็กของคุณน่าเชื่อถือหรือไม่
พ่อแม่ผู้ปกครองจะมีวิธีสังเกตอย่างไรว่าพี่เลี้ยงที่เราเลือกมาดูแลบุตรหลานของเรานั้นเชื่อถือได้หรือไม่

1. เมื่อเราให้พี่เลี้ยงดูแลเด็ก เราต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมของเด็กว่ามีความเปลี่ยนแปลงจากที่เคยเป็นก่อนอยู่กับพี่เลี้ยงหรือไม่ หากเด็กมีอาการงอแงเมื่อเจอพี่เลี้ยง หรือมีความวิตกกังวลเมื่อพี่เลี้ยงเข้ามาใกล้ อาจจะมีสาเหตุมาจากการที่เด็กได้รับผลกระทบทางจิตใจ เพราะพี่เลี้ยงที่ดูแลตี ขู่ หรือใช้เสียงดังกับเด็ก
2. รอยแผลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นรอย ยุงกัด มดกัด ทำให้เกิดเป็นตุ่มตามตัว มาจากการละเลยที่จะดูแล เช่นมีนมหกบนที่นอนแล้วไม่ทำความสะอาด มดหรือแมลงเข้ามาทานแล้วกัดลูก เป็นต้น อุบัติเหตุแม้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อยอาจเป็นเพราะขาดความใส่ใจและขาดการระมัดระวัง
3. เรื่องสุขอนามัย การหมั่นดูแลเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือทำความสะอาดภาชนะที่ใช้ ขวดนมและจานชาม แม้เด็กจะมีภูมิคุ้มกันในระดับหนึ่งแต่ยังไม่เท่ากับผู้ใหญ่ หากพี่เลี้ยงผู้ดูแลละเลยเรื่องสุขอนามัย เช่น การทำความสะอาดขวดนมที่ควรมีขั้นตอนนึ่งหรือใช้ความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค หากพี่เลี้ยงเด็กข้ามขั้นตอนนี้ไปอาจทำให้เด็กป่วยจากการรับประทานจากภาชนะที่ไม่อาดได้ เป็นต้น
4. หมั่นตรวจสอบทรัพย์สินของมีค่า ว่าไม่มีการสูญหาย เสียหาย หรืออยู่ผิดที่ผิดทาง พ่อแม่ผู้ปกครองอาจลองใจพี่เลี้ยงด้วยการวางเงินหรือของมีค่า(ที่ราคาไม่สูงมาก) ไว้ในที่เปิดเผย หากทรัพย์สินดังกล่าวยังอยู่ดี นั้นถือว่าพี่เลี้ยงของคุณเป็นคนที่ไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง
5. หากมีอุบัติเหตเกิดขึ้นพี่เลี้ยงต้องสามารถรับมือและตัดสินใจได้ ไม่จงใจปกปิดเรื่องราวและรายงานให้พ่อแม่ผู้ปกครองทราบอย่างทันทวงที เพื่อช่วยกันแก้ปัญหา

พ่อแม่ผู้ปกครองต้องใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กเพื่อดูแลบุตรหลาน คงไม่มีใครอยากกังวลใจอยู่ตลอดเวลาจึงต้องตรวจสอบกันเพื่อความสบายใจและมั่นใจว่าบุตรหลานจะได้รับการดูแลอย่างดี
คำถามอะไรที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น
ในยุคที่พ่อแม่และครอบครัวต้องช่วยกันทำงานนอกบ้าน สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก “การจ้างพี่เลี้ยงเด็ก” จึงเป็นคำที่ผุดขึ้นมาในความคิด โดยเฉพาะวัยของลูก ๆ ก่อนที่จะไปโรงเรียน พ่อแม่อาจเป็นกังวลอยู่ว่า หากให้ลูกอยู่ภายใต้การดูแลของพี่เลี้ยงนั้นจะดีจริงหรือไม่ และเราคำถามอะไรที่ช่วยให้ คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น มาดูกันคะว่า หากจะเลือกพี่เลี้ยงสักคน คุณพ่อคุณแม่ควรถามอะไรบ้าง

1. ความรู้ในการดูแลเด็ก ตัวพ่อแม่ผู้ปกครองควรหาความรู้เรื่องการดูแลเด็ก เพื่อให้สามารถคอยตรวจสอบว่าพี่เลี้ยงที่เลี้ยงลูกของเราทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะการเลี้ยงเด็กเล็กเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนที่เราเลือกมาดูแลลูกของเราตอนเราไม่อยู่ ควรเป็นคนที่มีความรู้ด้านการดูแลเด็กจริง ๆ พ่อแม่อาจให้พี่เลี้ยงเล่าถึงประสบการณ์การเลี้ยงเด็กที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง อะไรคือความยากลำบากหรืออุปสรรคในการดูแลเด็กคนหนึ่ง ๆ หากพี่เลี้ยงเป็นคนที่มีความรู้หรือมีประสบการณ์ต้องสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้
2. การดูแลสุขอนามัย พี่เลี้ยงเด็กสามารถดูแลอาหารและความสะอาดทั่วไปได้หรือไม่ แม้ว่าการจ้างพี่เลี้ยงเด็กที่มีความรู้เข้าใจรายละเอียดอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ถือว่าคุ้มค่าเพราะหากเด็กได้รับการดูแลที่ไม่ดี รับประทานอาหารไม่ถูกต้องจากผู้เลี้ยงขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพกายของลูกในอนาคตได้
3. ความน่าไว้ใจ พ่อแม่ผู้ปกครองควรซักถามประวัติส่วนตัว ที่พักอาศัย หรือขอให้พี่เลี้ยงทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเพื่อให้แน่ใจว่า พี่เลี้ยงไม่มีประวัติการทำผิดกฎหมาย การพูดคุยกับพี่เลี้ยงทำให้พ่อแม่ได้รับรู้ถึงทัศนคติของพี่เลี้ยงอีกด้วย
4. สุขภาพ สอบถามเรื่องปัญหาสุขภาพ แน่นอนที่สุดความใกล้ชิดอาจนำมาซึ่งโรคติดต่อได้ คำถามนี้เราอาจเรียนรู้ไปถึงสุขอนามัยของพี่เลี้ยงด้วย เพราะเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในการดูแลลูก
5. อุปนิสัยใจคอของพี่เลี้ยง บุตรหลานของเราอาจต้องอยู่กับพี่เลี้ยงมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน เด็กจะซึมซับนิสัยจากผู้ใหญ่ใกล้ตัว พี่เลี้ยงจึงต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้อยของเราได้ คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณานิสัยส่วนตัวของพี่เลี้ยงให้ดี ว่าเป็นคนมีระเบียบมีวินัยหรือไม่ อารมณ์ฉุนเฉียวง่ายหรือไม่
กิจกรรมที่พี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กที่บ้านควรทำเพื่อส่งเสริมพัฒนาการมีอะไรบ้าง
มาตรฐานของพี่เลี้ยงเด็กที่ดูแลลูกของเรามีความสำคัญมาก ๆ ต่อพัฒนาการของลูก ๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมพัฒนาการตามวัยอย่างเหมาะสมพี่เลี้ยงเด็กควรทำกิจกรรมใดกับเด็กบ้าง

1. แฝงการเรียนรู้กฎกติกาในกิจกรรม เพื่อให้เด็กเข้าใจหน้าที่ของตัวเอง เช่นเก็บของเล่นเมื่อเล่นเสร็จ หรือไม่เล่นขณะรับประทานอาหาร เพราะการฝึกวินัยผ่านการใช้กติกา จะช่วยให้เด็กสามารถควบคุมตนเอง (Self – Regulation) การควบคุมตนเองเป็นกระบวนการที่สมองของเด็กดำเนินการซึ่งทำให้พวกเขาสามารถควบคุมพฤติกรรมและอารมณ์เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะได้
2. ฝึกร้องเพลง สิ่งที่ได้จากกิจกรรมที่มีความสุขสนุกสนานอย่างการร้อง คือกิจกรรมการพัฒนา (Working memory) หน่วยความจำในการทำงานเป็นระบบความ ความจำในการทำงานมีความสำคัญต่อการใช้เหตุผลและแนวทางในการตัดสินใจและพฤติกรรม
3. กิจกรรมเข้าจังหวะ เต้นตามเพลงช้า เร็ว ตามจังหวะเพลง เมื่อเพลงจบเด็กต้องหยุดรอ ก่อนขึ้นเพลงต่อไป การรอ คือการควบคุมยับยั้งชั่งใจ (Self-Inhibition) ได้เป็นอย่างดี
4. ฝึกขว้างสิ่งของ เด็กเล็ก ๆ มักสนุกกับการขว้างสิ่งของ เปลี่ยนเป็นกิจกรรมรับส่งลูกบอล เช่น ขอให้เด็กส่งบอลสีฟ้ามาให้ หรือใช้ให้เด็กหยิบนิทานมาให้ เป็นการฝึกพัฒนาการประสาทมือประสาทสายตา การเข้าใจความหมายของสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัว
5. ฝึกเล่าเรื่อง เริ่มจากพี่เลี้ยงเล่านิทาน ที่เด็ก ๆ สนใจ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่แฝงพัฒนาการทางด้านภาษา อาจใช้ตุ๊กตาหรือของเล่นเป็นบทบาทสมมุติ เป็นการฝึกการคิดแก้ปัญหา เช่น ถ้าหนูเดินไปเจอหมาป่าตรงนั้นหนูจะทำอย่างไรคะ เด็กจะฉุกคิด คำตอบอาจเป็นให้วิ่งไปหาคุณพ่อคุณแม่ หรือกลับมาหาพี่เลี้ยง เป็นการฝึกให้คุ้นเคยกับการฉุกคิดแก้ปัญหา

กิจกรรมเหล่านี้เสริมพัฒนาการ ทางด้าน EQ (Emotional Quotient) และ IQ (Intelligence Quotient) ไปในตัว