วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
สอนหลักสูตรการศึกษา เรียนออนไลน์ ติวเตอร์คณิตศาสตร์ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ติวเตอร์ภาษาไทย ติวเตอร์วิทยาศาสตร์ เรียนภาษาต่างประเทศ ติว GAT ติว PAT ครูฝึกทักษะบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันมีประสบการณ์ล่ามและแปลตั้งแต่อยู่ในมหาวิทยาลัย เคยไปอยู่ที่ประเทศแคนาดาและประเทศญี่ปุ่น ทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษอยู่ในระดับ advance ค่ะ ส่วนตัวชอบภาษาและพูดได้มากกว่า 4 ภาษา แต่ก็สามารถสอนวิชาอื่นๆได้เช่นกัน เพราะเคยสอนทั้งคนไทยและคนต่างชาติค่ะ ไม่จำกัดแค่วิชาภาษาต่างประเทศเท่านั้น ใครที่ชอบเรียนและพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้โดยเฉพาะเกี่ยวกับต่างประเทศ ติดต่อได้เลยค่า
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เรียนภาษาต่างประเทศ
1. เรียนกับครูเจ้าของภาษา หรือ Native Speaker ซึ่งเป็นที่นิยมเพราะผู้เรียนจะได้เรียนรู้สำเนียงเจ้าของภาษาด้วย อัตราค่าเรียนกับติวเตอร์เจ้าของภาษาโดยเฉพาะเป็นติวเตอร์ที่มีประสบการณ์และคุณวุฒิด้านการสอนจะมีราคาค่อนข้างสูง ยิ่งเรียนแบบตัวต่อตัว (Private) ที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาภาษาได้อย่างรวดเร็ว ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 500 บาทขึ้นไปต่อคน ต่อชั่วโมง หากเรียนแบบกลุ่มราคาอาจจะลดลงตามขนาดกลุ่มของผู้เรียนคือยิ่งเรียนกลุ่มใหญ่ราคายิ่งลดลง
2. เรียนกับครู Non-Native Speaker อาจจะเป็นครูชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่มีความรู้ในภาษานั้น ๆ อัตราค่าเรียนในกรณีที่เรียนแบบตัวต่อตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 450 บาทขึ้นไปต่อคน ค่าเรียนจะลดลงเมื่อเรียนแบบกลุ่ม
3. การเรียนแบบเรียนตามระดับชั้นรียน เช่น
- ระดับอนุบาล
- ระดับประถม
- ระดับมัธยมต้น
- ระดับมัธยมปลาย
- ระดับมหาวิทยาลัย
- บุคคลทั่วไป
ราคาเริ่มต้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200 บาทขึ้นไปต่อคน ซึ่งค่าเรียนขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเนื้อหา ยิ่งเรียนในระดับสูงที่มีความซับซ้อนด้านไวยากรณ์และคำศัพท์ค่าเรียนจะยิ่งสูงขึ้นด้วย
4. รูปแบบและสื่อที่ใช้ในการเรียนการสอน เช่นการเรียนแบบออนไลน์หรือต้องการให้ครูผู้สอนไปสอนที่บ้าน ซึ่งหากให้ผู้สอนไปสอนนอกสถานที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของค่าเดินทางเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย
อยากเก่งภาษาคงไม่สามารถทำได้ภายในหนึ่งหรือสองวัน ต้องอาศัยความพยายามและการฝึกฝนอย่าง ตราบใดที่มีความพยายามและวิธีการเรียนรู้ที่ถูกต้อง เชื่อว่าคุณจะประสบความสำเร็จด้านภาษาอย่างแน่นอน
1. สะสมคำศัพท์ ยิ่งเรารู้ศัพท์มากเท่าไร เรายิ่งมาเรียงเป็นประโยคได้มากเท่านั้น ท่องคำศัพท์ เขียนคำศัพท์และคำแปล เมื่อเวลาผ่านไปจำนวนคำศัพท์มากขึ้นทำให้เราเข้าใจภาษามากขึ้น
2. ใช้เวลากับภาษาที่เราอยากเรียนรู้ ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปในระยะเริ่มต้น ใช้เวลาว่างทบทวนคำศัพท์ ลองหาบทความในภาษานั้น ๆ มาอ่าน โดยหาเรื่องที่เราที่เราสนใจจะทำให้เราสนุกไปกับการอ่าน เข้าใจง่ายและจำได้มากขึ้น
3. ฝึกอย่างจริงจังและทบทวน อ่านออกเสียงเพื่อให้ได้ยินเสียงของตัวเอง ฝึกเขียนจะได้ใช้ศัพท์ที่เราท่องจำมา ทำซ้ำบ่อย ๆ เปิดพจนานุกรม (Dictionary) ในภาษานั้นๆเพื่อหาความหมายหากไม่เข้าใจ
4. เรียนเพิ่มเติม การลงทุนเรียนที่สถาบันสอนภาษาหรือเรียนกับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ ทำให้เราได้มีโอกาสฝึกทักษะและใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องปรับวิธีการใช้ภาษาให้ถูกต้องเหมือนเจ้าของภาษา
5. หาจุดอ่อน คุณควรหาจุดอ่อนในการเรียนของตัวเองให้เจอ เพื่อที่เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ อย่างเช่น ถ้าเราเป็นคนไม่กล้าพูด ไม่กล้าสื่อสาร ซึ่งเป็นปัญหาในการพัฒนาทางด้านภาษาเราต้องหาโอกาสสร้างโอกาส ในการพูด อาจเริ่มจากให้ห้องเรียน เพื่อนในชั้นเรียนด้วยกัน
6. หาโอกาสใช้ภาษาบ่อย ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับภาษานั้น ๆ ให้ได้มากที่สุด การพูดคุยกับเจ้าของภาษา หาบทความที่เราสนใจ ฟังเพลง หรือดูหนังเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับสำเนียงเจ้าของภาษา
การได้เรียนรู้ในทุก ๆ ทักษะ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน และทักษะการเขียน หากได้เรียนกับเจ้าของภาษาโดยตรง เจะทำให้มีพื้นฐานทางด้านภาษาที่แข็งแรงกว่า เพราะเราจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำกว่า โดยเฉพาะในเรื่องสำเนียงจากเจ้าของภาษา
1. อ่านหนังสือหรือบทความภาษาอังกฤษ เริ่มอ่านอย่างไรให้น่าสนใจให้เข้าใจง่าย ให้อ่านในสิ่งที่เราสนใจที่เราชอบ อย่างน้อยเราเมื่อมีพื้นฐานในเรื่องนั้น ๆ เมื่ออ่านภาษาต่างประเทศ เราพยายามแปลคำศัพท์ทำให้เราเข้าใจบทความง่ายขึ้น เมื่อเป็นเรื่องง่ายเราไม่เบื่อที่จะทำ เมื่อทำบ่อย ๆ เราก็จะซึมซับและได้คำศัพท์ไปในตัว
2. ยิ่งอ่านมากยิ่งทำให้เราเจอคำศัพท์ใหม่ ๆ ให้จดบันทึกและหาความหมาย ลองหาบทความที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเพื่อพัฒนาการอ่าน
3. การอ่านอ่อนออกเสียงทำให้เราคุ้นเคยกับการใช้ภาษาและเป็นการฝึกสำเนียงไปด้วย คราวนี้เราลองหาเรื่องราวที่เราสนใจฟังอาจเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ ซึ่งมีอยู่มากมายบนโลกออนไลน์
4. ฝึกทุกที่ที่มีโอกาส การพบเพื่อนใหม่ผ่านสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่มีหลากหลายช่องทาง เราสามารถอ่านความเห็นและแสดงความเห็นได้ด้วย ไปถึงการหาโอกาสพูดคุย กับคุณครูในโรงเรียน หรือในกลุ่มที่สนใจเรื่องเดียวกัน
5. สำคัญที่สุดอย่ากลัวที่จะใช้ เพราะถ้าเราไม่ใช้ภาษาออกไปเราไม่รู้ว่ามันผิดหรือถูก ถ้าเราใช้ออกไปแล้วมีผู้สื่อสารทักมาว่าผิดเราได้แก้ไขให้ถูกต้องได้ ค่อยๆปรับไปไม่นานเราก็สามารถใช้ภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
6. ศูนย์การเรียนรู้ เรียนพิเศษ การที่ได้รับการแนะนำจากคุณครู ติวเตอร์เจ้าของภาษาโดยตรงทำให้เรามีความมั่นใจในการใช้ภาษามากขึ้น ที่สำคัญติวเตอร์สามารถจัดวิธีการเรียนที่เหมาะสมกับพัฒนาการทางภาษาของเรา
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง