วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
- ปริญญาโท จิตวิทยาเด็ก วัยรุ่น และครอบครัว มหิดล
- MBA, Lancaster University, UK
- มีประสบการณ์สอน Creative Movement เด็ก 1-6 ปี ใน รร นานาชาติหลายแห่ง
- มีประสบการณ์สอน พัฒนาทักษะ เด็กเล็ก 1.5-6 ปี ด้าน Logic , creativities, ความรู้รอบตัว
- มีประการณ์พัฒนาหลักสูตรสำหรับเด็กเล็ก
- มีประสบการณ์เป็นผู้จัดการโรงเรียนพัฒนาทักษะการคิดและการเรียนรู้สำหรับเด็กเล็ก
- มีประสบการณ์สอนเด็กๆผ่าน Board Game
- มีประสบการณ์ดูแลเด็กพิเศษ กลุ่มอาการออทิสติก, แอสเพอเกอร์, ดาวน์ซินโดรม, สมาธิสั้น เป็นต้น
สวัสดีค่ะ ชื่อรภัทร เมธินรัตน์ หรือแอมมี่นะคะ ตอนนี้อายุ 27 ค่ะ จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มีความสนใจเกี่ยวกับจิตวิทยาจึงได้มีการศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของจิตวิทยาเด็ก จนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าทักษะที่ได้เรียนรู้มา สามารถนำมาทำงานด้านนี้ หรือที่เกี่ยวข้องได้อย่างดี นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีความสามารถด้านอื่นเพิ่มเติม เช่น ความสามารถด้านศิลปะ (สามารถเป็นติวเตอร์ หรือให้ความรู้ด้านศิลปะได้), ความสามารถเกี่ยวกับภาษาไทย (ติวเตอร์วิชาภาษาไทย), ความสามารถด้านการให้คำปรึกษา (เรื่องเรียน, บุคลิกภาพ), ความสามารถด้านนาฏศิลป์ไทย, และอื่นๆ เป็นคนมีความสามารถที่หลากหลาย สามารถทำงานได้ multi skills มีความอดทน เข้ากับผู้อื่นได้งาน มีความตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบ
Hello, I am Vicky. Being student of master's at chula university, I pass from a lot of stages and at each stage I gain lot of knowledge. Being good in communication, I prefer to transfer this knowledge to students that have desire to know. As a student of science, I have good knowledge of all science subjects but I have speciality in biology. I will like to have students that have the thirst of knowledge. Thanks
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เรียนออนไลน์
1. ช่วยจัดเตรียมสถานที่สำหรับการเรียนออนไลน์ที่เหมาะสมให้กับลูกของคุณ และต้องมั่นใจว่าสถานที่นั้นไม่มีสิ่งรบกวนอื่น ๆ ที่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของลูกคุณในระหว่างเรียน เช่น ให้ลูกของคุณเรียนในห้องหรือสถานที่สงบ หลีกเลี่ยงการเรียนหน้าทีวีเพราะทำให้ลูกของคุณไม่มีสมาธิในการเรียนได้
2. พ่อแม่ควรให้ความส่วนตัวแก่ลูก และไม่ควรรบกวนในขณะที่กำลังเรียนออนไลน์อยู่ เพราะจะทำให้เด็กไม่สามารถโฟกัสกับการเรียนออนไลน์ได้อย่างเต็มที่ และจะทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนลดลงในที่สุด
3. ตรวจสอบและจัดเตรียมอุปกรณ์ตัวช่วยต่าง ๆ สำหรับการเรียนออนไลน์ให้พร้อม ก่อนเริ่มเรียน เช่น สัญญาณการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาดทางเทคนิคต่าง ๆ ในระหว่างเรียนออนไลน์
4. พ่อแม่ผู้ปกครองควรแนะนำตารางเวลาในการเรียนออนไลน์ที่เหมาะสมให้กับเด็ก โดยมีการแบ่งเวลาเรียนและเวลาพักที่สมดุลกัน เพื่อไม่ให้เด็กเครียดจนเกินไป
5. จัดเตรียมอาหารว่างที่มีประโยชน์ให้กับเด็กในขณะพัก เพื่อเป็นการเติมพลังงานในการเรียนออนไลน์ของเด็ก
6. หมั่นสอบถามเด็กถึงความเข้าใจในบทเรียน และปัญหาต่าง ๆ ระหว่างเรียน คอยให้คำแนะนำต่าง ๆ และควรนำปัญหาเหล่านั้นไปปรึกษากับคุณครูที่สอนพิเศษด้วยเช่นกัน เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนแบบยุคใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ทั้งหมดนี้คือวิธีการง่าย ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากมีส่วนช่วยให้การเรียนพิเศษแบบออนไลน์ของลูกเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
1. มีการสอบประเมินผลก่อนการเริ่มเรียนออนไลน์ เพื่อวัดระดับความรู้เบื้องต้นของผู้เรียน และสอบประเมินผลหลังจากจบคลาสเรียนออนไลน์ เพื่อนำมาเปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อนและหลังการเรียนว่าผู้เรียนนั้นมีความเข้าใจในบทเรียนมากขึ้นแค่ไหน
2. คุณครูหรือติวเตอร์ผู้สอนควรช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยการช่วยอธิบายเทคนิคเพิ่มเติมต่าง ๆ และที่สำคัญควรมีการประเมินผลตลอดระยะเวลาของการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นการสอบประเมินต่าง ๆ ทำข้อสอบย่อย ทำรายงาน ฯลฯ เพื่อดูว่าผู้เรียนมีความเข้าใจในบทเรียนมากน้อยแค่ไหน
3. ผู้ปกครองควรสอบถามเด็กทุกครั้งหลังเรียนออนไลน์เสร็จ เกี่ยวกับเนื้อหาบทเรียนที่เรียนไป บางครั้งอาจขอให้เด็กเล่าถึงเนื้อหาคร่าว ๆ ในบทเรียน เพื่อเป็นการสังเกตว่าเด็กนั้นโฟกัสกับเนื้อหาระหว่างที่เรียนได้หรือไม่
4. ผู้ปกครองสามารถทำการประเมินผลได้ด้วยตนเอง โดยการให้เด็กทำแบบฝึกหัดหลังผ่านการเรียนไปได้ระยะหนึ่ง เพื่อดูว่าเด็กยังจดจำเนื้อหาที่เคยเรียนไปได้อยู่หรือไม่ อีกทั้งยังเป็นการช่วยทบทวนความรู้ให้แก่เด็กอีกด้วย
5. สอบถามจากครูผู้สอน เกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ของเด็กระหว่างเรียนออนไลน์ เพื่อนำมาพัฒนาและหาวิธีแก้ไขเพื่อให้การเรียนออนไลน์ครั้งต่อ ๆ ไปของเด็กมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการประเมินผลง่าย ๆ ที่จะทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถรับรู้ได้ว่าการเรียนออนไลน์นั้นส่งผลให้กับลูก ๆ ของคุณได้มากน้อยแค่ไหน
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง