ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน คันนายาว, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน คันนายาว, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 23 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 25 ปี
ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม
เทพทัต กะโปงทอง
เทพทัต กะโปงทอง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ มีความอดทนอดกลั้น เคยเลี้ยงสัตว์

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยดูแลเค้าที่บ้าน เจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและสามารถสอบถามราคาได้อย่างชัดเจน ก่อนที่เราจะตัดสินใจจ้าง แถมราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เยี่ยมไปเลยค่ะ
Saijai
ปัทมา เลิศชนะ
3 ปีที่แล้ว
หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เลือกใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะว่าไม่มีเวลาดูแลน้องหมาน้องแมวที่บ้านเลยจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาดูแลแทนเวลาเราไม่อยู่ อยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่ราคาไม่สูง ผู้ให้บริการบนเว็บไซต์ใส่ใจเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
Saijai
มัจฉา รุ่งอนันต์
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
3 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ความสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยง
การมีสัตว์เลี้ยงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของหลาย ๆ คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงกันก็มีมากมายหลายชนิด แน่นอนว่านั่นหมายถึงการที่เราต้องใช้เวลาไปกับการดูแลเอาใจใส่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย สุขภาพ รวมไปถึงสภาพจิตใจของสัตว์เหล่านี้ด้วย

การดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงในทุก ๆ ด้านที่กล่าวมาข้างต้นนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะมันส่งผลดีให้กับทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ในมุมมองของเจ้าของ การได้ให้อาหาร หรือการเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเสมือนความสุขอย่างหนึ่ง ในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน หากได้กลับมาเจอสัตว์เลี้ยงนั่งรออยู่ที่หน้าประตู เพียงเท่านี้ก็ช่วยคลายความเหนื่อยไปได้เยอะเลยทีเดียว กลับกันในมุมของสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างครบถ้วนนั้นจะส่งผลดีให้กับพวกเขาเช่นกัน สัตว์เลี้ยงสัมผัสได้ถึงความรักที่ได้รับจากเจ้าของ ในขณะเดียวกันพวกเขาจะมอบความรักกลับคืนให้เจ้าของเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านคือ สามารถเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เลี้ยงได้ ซึ่งการได้ใช้เวลาทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงช่วยลดอาการตึงเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ ทั้งยังช่วยให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย เช่นการพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นทำให้ผู้เลี้ยงเองได้ออกกำลังกายไปด้วย

เห็นได้ชัดว่าการมีสัตว์เลี้ยงนั้นมีประโยชน์ต่อคนมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้น ก่อนเลี้ยงต้องมั่นใจว่าคุณจะมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลเขา เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์เช่นกัน หากคุณอยากมีสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของคุณ การใช้บริการรับดูแลสัตว์เลี้ยงก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ก่อนจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผู้ว่าจ้างจะต้องทำข้อตกลงดังนี้?
ทุกคนที่มีสัตว์เลี้ยงย่อมเข้าใจถึงความห่วงใยเมื่อเราต้องอยู่ห่างไกลจากสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว ดังนั้น การเลือกพี่เลี้ยงสัตว์มาอยู่ที่บ้านจึงมีเงื่อนไขและข้อตกลงที่ต้องพูดคุยกันก่อนการจ้างงานดังนี้

• ค่าตอบแทนหรือค่าจ้าง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
• ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะมีตารางการทำงานที่ไม่แน่นอนทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่านายจ้างมีธุระหรือต้องการใช้บริการในตอนไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ดูแลสัตว์ขั้นพื้นฐานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การให้อาหารและน้ำ หรือขนมต่าง ๆ
• หากเป็นสัตว์ เช่น สุนัข หรือแมว พี่เลี้ยงต้องรู้จักการเช็ดตัว แปรงขน และแปรงฟันให้ได้
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปทำกิจกรรม หรือเดินออกกำลังกายได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องสนุกกับการใช้เวลาร่วมกับสัตว์และต้องรู้จักวิธีการทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เครียดเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเจ้าของ
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักวิธีทำความสะอาดเมื่อสัตว์เลี้ยงมีการขับถ่าย
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักรักษาความสะอาดของเล่น ที่นอน หรือบริเวณที่สัตว์อยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสามารถช่วยให้ยาสัตว์เลี้ยงได้ หากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วยหรือมีโรคประจำตัว
• หากมีเหตุฉุกเฉินที่สัตว์เลี้ยงป่วยกะทันหัน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถดูแลและพาไปพบแพทย์ได้ทันที
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อนและสามารถตรวจสอบประวัติก่อนทำการว่าจ้างได้

คันนายาว ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร

คันนายาว สมัยก่อนในเขตนี้เป็นพื้นที่นาจำนวนมาก ในการทำนาจะมีการปั้นคันนาขึ้นมาหรือแบ่งนาเป็นแหล่ง ๆ โดยจะยกสูงขึ้นจากพื้นนาเรียกว่า "คันนา" ซึ่งชาวนายังใช้เป็นถนนสำหรับเดินทางเข้าออกท้องนาอีกด้วย และในบรรดานาทั้งหมดนั้น มีที่นาอยู่ผืนหนึ่งที่มีอาณาเขตยาวมาก ๆ โดยมีพื้นที่ตั้งแต่บริเวณท้ายหมู่บ้านสุเหร่าแดง หรือบริเวณถนนเสรีไทยในปัจจุบัน ยาวไปจนถึงปลายคันนา ซึ่งแต่ก่อนเรียกบริเวณนั้นว่า โรงแดง เพราะเป็นที่ตั้งของบ้านหลังหนึ่ง มุงหลังคาสังกะสีที่เป็นสนิมมองเห็นเป็นสีแดงมาแต่ไกล ปัจจุบันบริเวณนี้คือถนนรามอินทรา เรียกได้ว่าเป็นนาที่มีคันนาที่ยาวที่สุด จึงเป็นที่มาของชื่อ >คันนายาว ในปัจจุบัน

วิถีชีวิตของชาวคันนายาวถ้าจะเดาจากชื่อ อาชีพดั้งเดิมของคนที่นี่คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากการทำนา สมัยที่มีการทำนากันมากในช่วงเวลาที่ข้าวเริ่มตั้งท้อง ชาวบ้านจะนำอาหารใส่ชะลอมไปประกอบพิธีทำขวัญข้าวขอขมาพระแม่โพสพ โดยแม่หมอเป็นผู้สวดขอขมา ชาวบ้านจะเกี่ยวข้าวบางส่วนมาทำขนมข้าวกระยาคู โดยนำเอาเมล็ดข้าวที่มีน้ำนมอยู่มาโขลกแล้วกรองเอาแต่น้ำ นำน้ำไปต้มกับน้ำตาลได้รสชาติหอมหวานอร่อยและขนมข้าวเม่าใส่กระทงใบตองขนาดใหญ่มาถวาย เพื่อเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวนาที่รอผลผลิตจากที่ได้ลงแรงไป



ลักษณะนิสัยระหว่างหมาและแมว แตกต่างกันอย่างไร

ปกติสัตว์เลี้ยงที่ใกล้ชิดกับคนมากจนสามารถอยู่ร่วมบ้าน ร่วมเตียงกับมนุษย์ได้ คือ สุนัขและแมว ทั้งที่สัตว์ทั้งสองชนิดมีนิสัยและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ผู้เลี้ยงสามารถคาดหวังการตอบสนองที่แตกต่างกันจากการเลี้ยงสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ได้ ความแตกต่างระหว่างสุนัขและแมวอาจจะมีให้พิจารณาอยู่ในอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้ประโยชน์ อย่างการเลี้ยงแมว แมวสามารถใช้ประโยชน์ในการกำจัดหนู นก แมลง หรือสัตว์เล็ก ๆ ที่ล่วงล้ำเข้ามาอยู่ในบ้าน ในขณะเดียวกันสุนัขสามารถทำหน้าที่ได้มากมายขึ้นกับสายพันธุ์ เช่น การเฝ้าบ้าน การล่าสัตว์ การป้องกันภัยอันตรายจากการถูกทำร้ายโดยมนุษย์ หรือสัตว์ร้ายอื่นๆ เช่น งู ตะขาบ

โดยการให้อิสระของสัตว์ 2 ชนิดนี้ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ลักษณะของแมวนั้นเป็นสัตว์ที่มีความรักอิสระแม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงก็ตาม แมวจะมีลักษณะนิสัยของสัตว์ป่า คือชอบเที่ยวตามลำพังและทำทุกอย่างตามที่มันพอใจ ดังนั้นการออกไปเดินเล่นกับเจ้าของจึงไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยในแมว การฝึกให้แมวทำตามคำสั่งจึงเป็นไปได้ยาก ในขณะที่สุนัขจะเชื่อฟังและจงรักภักดีต่อเจ้าของ สามารถฝึกและสั่งให้ทำตามคำสั่งได้ โดยลักษณะความเป็นอยู่ของสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างมาก โดยแมวเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดเดียวที่ไม่ชอบอยู่เป็นฝูง แมวมักจะชอบอยู่ตามลำพัง ไม่ชอบให้คนไปวุ่นวาย ในขณะที่สุนัขจะชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง มีการจัดลำดับภายในฝูงว่าตัวใดเป็นจ่าฝูง ตัวใดเป็นลูกน้อง เมื่อคนนำสุนัขมาเลี้ยง สุนัขจะนับคนเป็นสมาชิกในฝูง และจะคอยดูแลป้องกันคุ้มครองและเห่าเตือนเมื่อมีคนแปลกหน้าที่มันเข้าใจว่าเป็นศัตรูเข้ามายังในบ้าน



เทคนิคการอาบน้ำให้แมว

สำหรับเจ้าของแมวการดูแลสุขอนามัยของแมวนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด จะเสริมสวยตัวเองโดยใช้ลิ้นเลียทั่วร่างกายจนสะอาด แต่ก็ไม่สะอาดไปทั้งหมด อาจยังมีความสกปรกแฝงอยู่ เจ้าของจึงต้องช่วยดูแลสุขอนามัยให้แมวด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อาบน้ำ การแปรงขน ตัดเล็บ ขัดหู อื่นๆ

การอาบน้ำให้แมวนั้น ควรฝึกอาบตั้งแต่ยังเป็นลูกแมวจะทำได้ง่ายกว่า โดยเริ่มได้ตั้งแต่แมวมีอายุ 14 สัปดาห์ขึ้นไป หากลูกแมวสกปรกมากจำเป็นต้องอาบน้ำก่อน 14 สัปดาห์ก็ทำได้ แต่ต้องระวังเรื่องความหนาวเย็น ให้ใช้สำลีอุดหูแมวกันน้ำเข้าหู และใช้ยาป้ายตาชนิดน้ำมันป้ายใต้ตาไว้ เพื่อป้องกันสบู่หรือแชมพูเข้าตา เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองในแมวและทำให้แมวดิ้นทุรนทุรายจนเป็นอันตรายได้

หากแมวดุมากเวลาอาบน้ำ อาจจะใช้วิธีจับแมวใส่ถุงผ้า ให้เหลือแต่ส่วนหัวโผล่ออกมา เวลาอาบน้ำให้จุ่มลงไปทั้งถุงโดยเหลือแต่ส่วนหัว อาบน้ำตามปกติเทแชมพูลงในถุง และถูภายนอก หลังจากนั้นให้ล้างแชมพูด้วยน้ำเปล่าให้เกลี้ยง โดยเช็ดและทำความสะอาดส่วนหัวในภายหลัง

ปกติแมวจะมีน้ำมันจากต่อมไขมันใต้รูขุมขนออกมาหล่อเลี้ยงให้ความชุ่มชื่นและขนเป็นเงา จึงไม่ควรอาบน้ำแมวบ่อยเกินไปเพราะเป็นการล้างไขมันจนทำให้ขนแห้งหลุดร่วงง่าย นอกจากนี้การอาบน้ำบ่อย ๆ อาจทำให้แมวเป็นหวัดง่ายอีกด้วย ความถี่ในการอาบน้ำให้แมวอย่างมากที่สุด เพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอ สำหรับสบู่หรือแชมพูที่ใช้ต้องระวังเป็นอย่างมาก แมวบางตัวอาจมีอาการแพ้แชมพูที่ใช้ ต้องเปลี่ยนแชมพูตัวใหม่และทดลองเลือกดูว่าแชมพูยี่ห้อไหนที่ทำให้แมวของเราไม่เกิดอาการแพ้