คนขับรถ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

คนขับรถ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการคนขับรถ ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วันชัย มธุรพจน์โสภณ
วันชัย มธุรพจน์โสภณ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 61 ปี

ไม่สูบบุหรี่, ไม่ดื่มเหล้า, สุขุมใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ปภัสร์ญาณ์ ตรองพาณิชย์
ปภัสร์ญาณ์ ตรองพาณิชย์
Saijai อายุ 32 ปี
ศศิธร ศรีบุญคง
ศศิธร ศรีบุญคง
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

นิสัยใจเย็น..สามารถรอลค.ได้..ไม่เลือกงานค่ะ..พูดจาสุภาพกับลคเสมอค่ะ ถ่าใช้รถ+คนขับคิดตามระยะทาง/ใช้คนขับอย่างเดียวชม.ละ250ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พงษ์เทพ พลอยพานิช
พงษ์เทพ พลอยพานิช
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี
จักรพล หวานคำ
จักรพล หวานคำ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 32 ปี

รักในการบริการครับผม ค่าจ้างตามตกลง

แสดงเพิ่มเติม
ขวัญชัย จงชนะ
ขวัญชัย จงชนะ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

รักการทำงาน ใจเย็น เน้นความปลอดภัย

แสดงเพิ่มเติม
ธัญนิสิษฐ์ บุตรภักดีธรรม
ธัญนิสิษฐ์ บุตรภักดีธรรม
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

ใจเย้น ขับรถตามกฏ หรือ ตาม คำสั่ง 9ชม. คิด 1500 บาท

แสดงเพิ่มเติม
ชาญณรงค์ ตัดสุนทร
ชาญณรงค์ ตัดสุนทร
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

ค่าจ้างรายวัน ตั้งแต่08.00-17.00 หลัง17.00เป็นโอทีจะให้ผมพาไปต่างจังหวัดหรือกลับดึกไปใด้หมดทุกสถานะกสรคับเคยขับรถโรงเรียนนานาชาติฟรั่งเศษ ขับรถส่วนกลาวที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นิสัยชอบคุยใด้ทุกเรื่องเก็บความลับของเจ้านายอยู่เป็นคนเขาใด้กับทุกคนคุยเล่นสนกสนานเป็นกันเอง

แสดงเพิ่มเติม
ฐิติพันธ์ จิตร์ถาวรมณี
ฐิติพันธ์ จิตร์ถาวรมณี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 52 ปี

ประสบการณ์ขับรถนายและส่วนกลาง ไม่่ดื่มเหล้า ไม่สูบ ไม่สัก

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 29 ปี
ทศพร เจริญบุญณะ
ทศพร เจริญบุญณะ
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ผมขับรถตามทีลูกค้าต้องการ

แสดงเพิ่มเติม
อรรถพล  เชื่อมเป็น
อรรถพล เชื่อมเป็น
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ประสบการณ์ ขับรถได้ทุกอย่าง (ยกเว้นสิบล้อ+พ่วง)ขับรถนายมา 5 ปี เป็นรถ Benz Alphard Porsche ให้บริการขับรถตู้เที่ยวทั่วไทยครับ

แสดงเพิ่มเติม
อภิเดช เบญจพงศาพันธุ์
อภิเดช เบญจพงศาพันธุ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 55 ปี

ตรงเวลา ซื่อสัตย์ เป็นคนตรงๆและมีความรับผิดชอบทำงานจริงจัง

แสดงเพิ่มเติม
ชัยวัฒน์ จิตพุทธิ
ชัยวัฒน์ จิตพุทธิ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 40 ปี

มนุษย์สัมพันธ์ดี ค่าจ้างแร้วแต่ผู้จ้างงานจะเสนอให้คับ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ใช้บริการคนขับรถชั่วคราวของทางใส่ใจอยู่บ่อยครั้ง เพราะเบื่อกับการโดนปฏิเสธอยู่บ่อยครั้งเวลาเรียกรถแท็กซี่ ขั้นตอนการจองนั้นง่ายมาก ๆ สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งคนขับรถยังมาตรงเวลาอีกด้วย พึงพอใจกับการให้บริการของใส่ใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
แพรวา ทุ่งสะกาว
4 ปีที่แล้ว
ประทับใจมาก ๆเลยครับ บริการดีและคุ้มค่าเกินกว่าราคามาก ๆ ขอบคุณเว็บไซต์ใส่ใจที่ทำให้เจอพี่คนขับรถ
Saijai
กฤษติณ ฉลอม
4 ปีที่แล้ว
หาคนขับไว้ขับรถรับส่งพนักงาน จนมาเจอกับคนขับรถผ่านเว็บใส่ใจ ค่าจ้างไม่แพง ใช้บริการมาได้ 3 สัปดาห์แล้วค่ะ คนขับรถมีมารยาทดีมาก ขับรถปลอดภัย ตรงเวลา ประทับใจมากค่ะ
Saijai
กาญจนาถ บัวใส
4 ปีที่แล้ว
เราใช้บริการคนขับรถบนหน้าเว็บไซต์ใส่ใจ คนขับรถมารับเราตรงเวลามาก ๆ ขับรถสุภาพ ใจเย็น ไม่รู้สึกถึงความกังวลเลยค่ะ คนขับรถชำนาญทางในกรุงเทพมาก ๆ เราเสร็จธุระแล้วมีงานต่ออีกที่หนึ่ง พี่คนขับพาเราไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย โดยรวมชื่นชมการให้บริการของพี่คนขับมาก ๆค่ะ
Saijai
ลินดา ทองศรี
4 ปีที่แล้ว
ต้องขอบคุณทางเว็บไซต์ของใส่ใจที่มีข้อมูลและรายละเอียดต่างๆครบมาก รับส่งได้ตรงเวลาเป๊ะๆ ขอบคุณใส่ใจที่มีบริการและมีพนักงานดีๆน่ารักแบบนี้มากนะคะ
Saijai
สุทธิดา อุดมพานิชย์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ

ข้อดีของการมีคนขับรถส่วนตัว
ข้อดีของการมีคนขับรถส่วนตัว

1. เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ให้เสร็จได้ในขณะเดินทาง การขับรถต้องใช้เวลามาก เมื่อเรามีคนขับรถคุณส่วนตัว เราสามารถทำงานให้เสร็จได้ในขณะที่เราอยู่ในรถ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล โทรศัพท์หรืออ่านหนังสือ เราสามารถติดตามงานได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องกังวล กับการจดจ่ออยู่กับท้องถนน
2. ลดความเครียดความหงุดหงิดและอันตรายให้น้อยที่สุด เป็นที่ยอมรับว่าการขับรถอาจทำให้เกิดความเครียดได้ ความเครียดทำให้หงุดหงิดและความโกรธบนท้องถนนจะเพิ่มโอกาสที่จะเกิดอันตราย การมีคนขับรถส่วนตัวที่อยู่หลังพวงมาลัยเราสามารถนั่งและผ่อนคลาย หากเราเหนื่อยจากงาน เรายังสามารถนอนหลับได้ตลอดเส้นทาง
3. บอกลาปัญหาที่จอดรถ ที่จอดรถอาจเป็นฝันร้ายโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ บางครั้งเราต้องจอดรถไกลจนต้องใช้เวลากว่า 20 นาที ในการเดินไปยังจุดหมาย เมื่อเรามีคนขับรถส่วนตัวเราสามารถลงรถและนัดไปรับได้ในที่ที่เราต้องการ โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการจอดรถโดยสิ้นเชิง
4. ความตรงต่อเวลา เป็นส่วนหนึ่งของงานของคนขับรถในการวางแผนเส้นทางที่เร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อให้เราไปถึงที่ที่คุณต้องตรงเวลา โดยจะคำนึงถึงช่วงเวลาของวันสภาพอากาศและปัญหาทางถนนที่อาจเกิดขึ้นเพื่อให้เราทำได้อย่างง่ายดาย เมื่อพนักงานขับรถมืออาชีพดูแลรายละเอียดเหล่านี้ให้เรา เราจะไม่สายสำหรับเที่ยวบิน ตรงเวลาต่อการนัดหมาย
5. การทำงานอย่างมืออาชีพ คนขับรถส่วนตัว มีความภาคภูมิใจในรูปลักษณ์ของตนเองและแต่งกายอย่างสุภาพอยู่เสมอ คนขับรถส่วนตัว ที่ได้รับการอบรมหลายคนสามารถ ขับรถไปรับ ส่งลูกค้า หรือผู้ร่วมงานทางธุรกิจ แทนเรา เป็นการสร้างความประทับใจเบื้องต้นได้
6. อีกหน้าที่ คนขับรถส่วนตัวเหล่านี้ยังดูแลยานพาหนะของเราอย่างดีเยี่ยมและบำรุงรักษาตลอดเวลา ทำให้เราสบายใจในการใช้ยานพาหนะไม่กังวลว่าเสียกลางทาง หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นถ้าเราดูแลยานพาหนะไม่ดีพอ
คนขับรถควรมีทักษะอะไรบ้าง
1. ขับขี่ปลอดภัย เป็นทักษะแรกที่ต้องมี ผ่านการฝึกอบรมให้เป็นพนักงานขับรถที่ดี ไม่ใช่แค่ต้องไปรับไปส่งเจ้านาย หรือรับส่งพนักงานในองค์กรในแต่ละวันเท่านั้น แต่มีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารบนรถให้ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
2. มารยาทดี พนักงานขับรถเกือบจะเป็นคนแรกๆ ที่เจ้านายหรือพนักงานคนอื่นๆ ในองค์กรได้เจอในแต่ละวัน พนักงานขับรถที่ดีควรมีจิตใจรักในงานบริการ บางครั้งต้องไปรับบุคคลสำคัญ ลูกค้าคนสำคัญ สิ่งที่คนขับรถแสดงออกจะส่งผลไปถึงองค์กรได้ด้วย
3. เตรียมยานพาหนะให้พร้อมใช้งาน รู้เทคนิคการตรวจสอบและเช็คความปลอดภัย รวมถึงความสะอาด และตัวพนักงานขับรถที่ดีสามารถเตรียมความพร้อมก่อนขับขี่รถ ตัวพนักงานเองก็ต้องมีสุขภาพแข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการ
4. ทัศนคติดี ทัศนคติที่ดีของพนักงานขับรถในขณะปฏิบัติหน้าที่คือ ขับรถตามกฎจราจร มีมารยาทที่ดีต่อผู้ร่วมทาง หากพบผู้ร่วมทางที่มีพฤติกรรมที่ทำให้ไม่พอใจ ก็สามารถควบคุมได้ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของทุกฝ่าย และยังมีทัศนคติในการขับขี่ที่ได้มาตรฐานสากล
5. Defensive Driving หรือ ปลอดภัยไว้ก่อน การฝึกใช้กลยุทธ์การขับขี่ที่ลดความเสี่ยงและช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ เช่นเดียวกับการคาดการณ์อันตรายบนท้องถนน (มักใช้ในเชิงเหตุผล) ด้วยการขับขี่เชิงป้องกัน เพราะการขับขี่เชิงป้องกันหรือ ไม่เพียงแต่ให้พนักงานขับขี่ปลอดภัย แต่เป็นทักษะที่ให้ความปลอดภัยขั้นกว่ากับผู้ใช้บริการ พนักงานขับรถที่ดีจะไม่เพียงแค่รู้กฎจราจรขั้นพื้นฐาน แต่ยังมีการฝึกสมาธิระหว่างขับ มีความเข้าใจในการขับขี่ สาเหตุและปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ สามารถประเมินสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างละเอียด เรียกได้ว่าเป็นความปลอดภัยขั้นสูงที่พนักงานขับรถที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้นเพื่องานคุณภาพ
จ้างคนขับรถค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัว ต่างกับการใช้บริการรถสาธารณะที่มีเวลาเดินทางไม่แน่นอนและอาจต้องต่อรถหลายครั้งกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ยิ่งถ้าในวันหนึ่งๆนั้น เราต้องเดินทางไปหลาย ๆ สถานที่ ยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นและความสะดวกสบายลดลง

อย่างไรก็ตามสำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ การมีคนขับรถส่วนตัวช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นอีกมาก จึงเกิดคำถามว่าการจ้างคนขับรถส่วนตัวค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่ หากเราใช้บริการจากบริษัทจัดหาคนขับรถ ที่มีบริการคนขับรถประจำสำนักงานที่มีประสบการณ์ขับรถ (แน่นอน เพราะคนขับรถส่วนตัวต้องใช้ความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์สูง อย่างน้อยต้องมีประสบการณ์ในการขับรถหลายปีขึ้นไป) ชำนาญเส้นทางในที่เราทำงานอยู่หรือสามารถพาเราไปในจังหวัดหรือพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยได้

และหากใครที่ต้องการพนักงานขับรถให้เจ้านายชาวต่างชาติ หรือบริการลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง การได้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และภาษาของเจ้านายหรือลูกค้าบ้างนิด ๆ หน่อยๆ เป็นรอง จะอำนวยความสะดวกมากขึ้นเพราะเจ้านายหรือลูกค้าที่ใช้บริการเหล่านี้ไม่ชำนาญเส้นทางในที่ที่เราทำงานอยู่ หากเรามีพนักงานขับรถที่ไว้ใจได้ ได้มาตรฐานสากลและด้วยในอัตราค่าบริการแบบเหมา "รายเดือน" เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ได้กลับมาย่อมคุ้มค่ามาก ๆ เพราะลูกค้าที่ใช้บริการได้พักผ่อนระหว่างเดินทาง หรือเตรียมงาน เตรียมตัวบนรถระหว่างเดินทางไปทำธุระ สามารถเดินทางไปได้ทันเวลาไม่ว่าจะไปสนามบิน หรือที่ทำงาน หรือสถานที่ไกลๆ สุดท้ายถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายจ้างพนักงานขับรถไปบ้าง แต่ก็คุ้มค่าที่สุด กับสิ่งที่ได้รับกลับมา “เราได้ซื้อเวลา สุขภาพ ความปลอดภัยในการเดินทางและความสำเร็จทางธุรกิจ”
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับคนขับรถก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
ข้อตกลงระหว่างนายจ้างกับคนขับรถส่วนตัวควรมีอะไรบ้าง ก่อนตัดสินใจว่าจ้างคนขับรถสักคนลองมาดูกันเลยค่ะ

• มีสัญญาจ้างงานเป็นลายลักษณ์อักษร และแจกแจงสวัสดิการต่าง ๆ ที่จะได้รับนอกเหนือจากเงินเดือน เช่น ประกันสังคม เครื่องแบบ หรือเงินโบนัส
• คนขับรถต้องอนุญาตให้นายจ้างตรวจสอบประวัติการทำงานและประวัติอาชญากรรมได้
• อายุของคนขับรถ นายจ้างมักเลือกอายุตั้งแต่ 25 ปี ขึ้นไป จนถึง 50 ปี ซึ่งเป็นวัยที่มีวุฒิภาวะแล้ว
• คนขับรถต้องมีใบขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
• คนขับรถควรมีประสบการณ์ในการขับรถมาก่อน เพราะต้องใช้ความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์ในการทำงานสูง
• คนขับรถมีความชำนาญในด้านเส้นทางสามารถใช้ Google Map หรือ GPS ได้ดี
• มีการตกลงเรื่องวันทำงาน ระยะเวลาที่ทำงาน วันหยุดต่าง ๆ และหากมีการทำงานนอกเวลา หรือเกินจากเวลาปกติจะมีเงินพิเศษให้หรือไม่ ค่าแรงอยู่ที่เท่าไหร่ มีอาหารให้กี่มื้อ
• มีช่วงระยะทดลองงานเป็นระยะเวลากี่วัน และหากผ่านการทดลองงานจะมีการปรับเพิ่มเงินเดือนตามความเหมาะสมหรือไม่
• การลากิจ ลาป่วยต่าง ๆ ต้องแจ้งกับนายจ้างล่วงหน้า
• มีการตรวจสอบสภาพของรถยนต์ของนายจ้างก่อนที่จะให้คนขับรถส่วนตัวเริ่มงาน เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่ายว่ารถยนต์ที่จะนำมาใช้ขับอยู่ในสภาพอย่างไร มีความปลอดภัยหรือไม่
• ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ ค่าน้ำมัน นายจ้างจะรับผิดชอบในส่วนนี้
• ในขณะที่ปฏิบัติงานคนขับรถจะไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มอื่น ๆที่มีผลต่อการขับขี่รถ
• หากเกิดอุบัติเหตุในขณะที่คนขับรถทำงาน ทางนายจ้างจะดูแลและมีสวัสดิการการรักษาอย่างไร

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับบางพลัด

บางพลัด แต่เดิมมีฐานะเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี หลังจากการรวมกันของจังหวัดพระนครและจังหวัดธนบุรีทำให้ตำบลบางพลัดยกฐานะเป็นแขวงบางพลัด ส่วนอำเภอบางกอกน้อยยกฐานะเป็นเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งปี พ.ศ. 2532 บางพลัดได้แยกตัวออกมาเป็น เขตบางพลัด โดยมีแขวงการปกครองย่อยทั้งหมด 4 แขวงได้แก่ บางพลัด บางอ้อ บางบำหรุและบางยี่ขัน ถัดมาในปี พ.ศ. 2534 มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่แขวงและเขตใหม่ ระหว่างเขตบางพลัดและบางกอกน้อย โดยให้พื้นที่บางส่วนของแขวงบางบำหรุและแขวงบางยี่ขันเริ่มจากสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฝั่งซ้ายทั้งหมดให้ไปขึ้นกับเขตบางกอกน้อย มีพื้นที่ทั้งหมด 11.36 ตารางกิโลเมตร โดยทิศเหนือติดกับอำเภอบางกรวยจังหวัดนนทบุรี ทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศใต้และทิศตะวันตกติดกับเขตบางกอกน้อย พื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยลำคลองและสวนที่หนาแน่น ส่งผลให้ผู้คนที่เข้ามาในละแวกนี้เกิดการพลัดหลงเข้าออกไม่ถูกอยู่บ่อยครั้ง ชื่อนี้จึงมีความหมายในเชิงไม่เป็นมงคลในความเชื่อของคนท้องถิ่น ในปี พ.ศ. 2545 มีแนวคิดที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น บางภัทร์ แต่สุดท้ายไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

จากเดิมที่บางพลัดเป็นพื้นที่รอบนอก แต่ในปัจจุบันมีความเจริญเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก เป็นแหล่งการค้าขาย อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ตั้งอยู่มากมายให้เรียนรู้ มีการสร้างวัดจำนวนมากถึง 23 วัด เนื่องจากเป็นเขตที่เต็มไปด้วยพุทธศาสนิกชน เช่น วัดวิมุตยาราม วัดใหม่เทพนิมิต วัดบางพลัด เป็นต้น



ถนน 5 สาย ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยสุดในกรุงเทพ

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้ทุกเวลา มาจากความประมาท เมาแล้วขับหรือความไม่ชำนาญของผู้ขับขี่ ถึงแม้เราจะระมัดระวังในการขับขี่รถของตัวเอง แต่ถ้าหากผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นไม่ระมัดระวัง ย่อมเกิดอุบัติเหตุและอาจส่งผลถึงตัวเราด้วย อาจจะพูดได้เลยว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับรถคือ สติ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ด้วยสภาพการจราจรที่หนาแน่นในกรุงเทพ บวกกับผังเมืองที่ซับซ้อน และเส้นทางที่ออกแบบมาหลายแยก หลายซอย อาจสร้างความสับสนให้กับผู้ขับขี่และก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หากผู้ขับขี่ไม่ชำนาญทาง ไม่รู้เส้นทางต่างๆ หรือด้วยความมักง่ายและประมาทของผู้ใช้รถใช้ถนนบางคน ล้วนเป็นปัจจัยที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งสิ้น มาดู 5 เส้นทางจราจรในกรุงเทพฯ ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

1. ถนนเพชรบุรี บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี จุดที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ บนถนนเส้นนี้คือ ช่วงแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีมักกะสัน เนื่องจากรถที่มุ่งหน้าออกจาก ถนนกำแพงเพชร 7 จะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนอโศกมนตรี และรถจากถนนอโศก-ดินแดง ทางตรง จะแย่งช่องจราจรทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการเฉี่ยวชนบ่อยครั้ง และบริเวณดังกล่าวยังมีคนขับบางคันที่ใช้วิธีการขับรถย้อนศรและขับตัดหน้าคนอื่น ทำให้บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรีเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด

2. ทางด่วนขั้น 2 บริเวณต่างระดับพญาไท อุบัติเหตุในบริเวณนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนเลนกะทันหันของรถที่อยู่เลนซ้ายสุด ตัดหน้ารถที่กำลังมุ่งลงทางต่างระดับยมราช ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งรถที่ลงจากทางต่างระดับพญาไทเลนขวาสุดที่จะมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะต้องแย่งกันเบียดเลนกับรถทางตรงบนถนนพหลโยธิน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุเช่นกัน ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากการเบียดแย่งเลนเพื่อเข้าช่องจราจร

3. ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 24อุบัติเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจากการตัดหน้าแบบกระชั้นชิดของรถจักรยานยนต์ ในขณะที่จอดรอไฟจราจร ทำให้เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจึงเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งรถที่ขับออกจากซอยย่อยเพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 24 มักจะแย่งช่องจราจรกับรถทางตรง จนเกิดอุบัติเหตุ

4. ถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 101 อุบัติเหตุบริเวณนี้ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการที่รถวิ่งสวนมาจากถนนโพธิ์แก้วมุ่งหน้าเข้าสู่วัดบึงทองหลาง และไม่สังเกตรถทางตรงจึงเกิดการชนในระยะกระชั้นชิด อีกทั้งยังมีการแย่งช่องจราจรกับรถทางตรงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

ที่มา : ถนนในกรุงเทพที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ



การใช้บริการรถสาธารณะให้ปลอดภัย

ปัจจุบันรถโดยสารสาธารณะมีให้บริการด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถตู้ รถสองแถว แท็กซี่และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งการใช้บริการเหล่านี้มักมีความเสี่ยงเกิดขึ้นตามมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ การปล้นจี้ การโกงค่าโดยสารเป็นต้น เอกสารรายงานจาก Global Report on Road Safety ได้ระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่อันตรายที่สุดในการขับขี่รถจักรยานยนต์ และมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่สูงมาก พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้บริการโดยสารสาธารณะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับผู้ใช้บริการที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากต้องการความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด จนทำให้บางครั้งละเลยความปลอดภัย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ การใช้บริการรถสาธารณะให้ปลอดภัยสามารถทำได้ทั้งนี้

1. ก่อนขึ้นรถหรือซื้อบัตรโดยสาร ควรจดจำชื่อผู้ประกอบการคนขับรถหรือบริษัททุกครั้งเพื่อเป็นประโยชน์ในการร้องเรียนเมื่อมีปัญหาและควรเก็บบัตรโดยสารไว้ทุกครั้ง เพื่อเป็นหลักฐานเอาผิดตามกฎหมาย เช็กป้ายทะเบียนขนส่งลักษณะของรถให้ดีด้วย อีกทั้งตรวจสอบให้ดีว่าเลขที่ระบุข้างรถ ตรงกับป้ายทะเบียนหรือไม่

2. ในกรณีนั่งรถตู้หรือแท็กซี่ควรนั่งหลังคนขับ เพื่อไม่ให้คนขับเอี้ยวตัวหันหลังมามองได้ง่าย และไม่ควรคุยเรื่องส่วนตัวกับคนขับรถ หากคนขับถามว่าจะไปเส้นทางไหนควรตอบว่าไปทางที่รถไม่ติด ไม่เข้าซอยเปลี่ยว ควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของคนขับรถ หากคนขับเลื่อนกระจกเพื่อมองหน้าอกหรือหน้าขาให้ระวังทันที ที่สำคัญหากรู้ว่าต้องเดินทางคนเดียวโดยใช้รถสาธารณะควรแต่งกายให้มิดชิดเพื่อความปลอดภัย

3. หาจุดจอดปลายทางให้ดี ตรวจสอบว่าลงที่ไหน สะดวกและปลอดภัยที่สุด ทำความเข้าใจกับสถานีจุดจอดของรถแต่ละประเภท ซึ่งจะต้องขึ้นและลง ณ จุดจอดเท่านั้นคือต้นทางและปลายทาง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและปัญหารถติดหากต้องจอดกลางถนนอีกทั้งการจอดในที่เปลี่ยวอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้โดยสารได้เช่นกัน

4. ในการใช้บริการรถสาธารณะทุกประเภทหากพบพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัยเช่น ความเร็วเกิน เมาสุรา หรือคุกคามผู้โดยสาร ควรโทรแจ้ง 1584 คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะหรือ 1508 ร้องทุกข์เกี่ยวกับผู้โดยสารของ บขส. และรถร่วมบริการหรือแจ้งหน่วยงานของผู้ให้บริการรถนั้นๆ

5.ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถโดยสารโดยการทำตามคำแนะนำของบริการแต่ละประเภท เช่นหากนั่งแท็กซี่ ควรคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย เมื่อใช้บริการรถเมล์ หากไม่มีที่นั่งและต้องยืน ควรหาที่จับและยืนในท่าทางที่ถนัด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตัวเราเอง