ครูฝึกทักษะ ใน สงขลา

ครูฝึกทักษะ ใน สงขลา

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการครูฝึกทักษะ ใน สงขลา:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ได้ครูสอนต่อยมวยใกล้บ้าน ไปเรียนสะดวก ชอบมาก
Saijai
วรพล อันประเสริฐ
4 ปีที่แล้ว
สอบแอดมิชชั่นติดแล้วมีเวลาว่างหลายเดือนเลยกว่ามหาลัยจะเปิด เลยไปเรียนขับรถกับครูฝึกที่จองบนเว็บใส่ใจ ครูสอนดีมากทั้งทฤษฎีและปฏบัติ หลังเรียนเสร็จ ครูพาไปสอบใบขับขี่ด้วย ประทับใจมาก ๆ ครับ
Saijai
พิธา ฤทธิ์เจริญ
4 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายมากเลยครับ ตั้งแต่ขั้นตอนติดต่อหาครูสอน กรอกข้อมูล เช็คราคาและเงื่อนไขต่าง ๆ ผมได้ครูสอนว่ายน้ำที่มีประสบการณ์ ใจเย็นมาก ๆ ด้วยครับ
Saijai
ชลธี พัฒนวงศ์สันต์
4 ปีที่แล้ว
ลงเรียนทำของหวานค่ะ ชอบมาก ๆ ครูสอนสอนดีคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป เชฟบอกสูตรหมดเลยวิธีการทำ ขั้นตอน เคล็ดลับต่าง ๆ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ ตอนนี้เปิดร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ในย่านสุขุมวิท ได้นำสิ่งที่เรียนมา มาต่อยอดได้ดีเลยค่ะ
Saijai
นรีกุล วงศ์นารี
4 ปีที่แล้ว
ช่วงโควิดออกไปไหนไม่ได้ ว่างๆ เลยลองหาคอร์สเรียนเสริมทางอินเตอร์เน็ต เจอเว็บของใส่ใจ มีข้อมูลคนสอนพร้อมราคาให้เลือกเรียนเยอะมาก
Saijai
สารภี พินทองดี
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ครูฝึกทักษะ

ทักษะเสริมที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงาน มีอะไรบ้าง
ทักษะเสริมที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงาน มีอะไรบ้าง ด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วบวกกับวิกฤติไวรัส (COVID-19) เป็นตัวเร่งให้ความเปลี่ยนแปลงเกิดเร็วขึ้น คนทำงานจำเป็นต้องปรับตัวและสร้างหรือเพิ่มทักษะให้กับตนเอง เพื่อเพิ่มคุณค่าและความก้าวหน้าให้กับตัวเอง การมีทักษะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานอะไรบ้าง
1. ทักษะทางด้านกีฬา โค้ช/ผู้ฝึกสอนกีฬา คนทำงานหลายคนที่มีงานประจำเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่มีทักษะในการเล่นกีฬา เช่น กอล์ฟ ไตรกีฬา ว่ายน้ำ ฟุตบอล เป็นต้น การเล่นกีฬาที่นอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังถือว่าเป็นข้อได้เปรียบและเป็นการสร้างโอกาสทางสังคม เช่นการออกรอบตีกอล์ฟกับลูกค้าและเจรจาธุรกิจไปด้วย หรือการเป็นตัวแทนองค์กรเข้าแข่งขันไตรกีฬา ซึ่งถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรอีกทางหนึ่ง
2. ทักษะการทำอาหาร สมมุติว่ามีคุณแม่ท่านหนึ่งกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสำหรับดูแลลูก ๆ มีผู้สมัครสองคนที่มีคุณสมบัติ ความรู้และความสามารถพอ ๆ กัน แต่คนแรกมีทักษะให้การทำอาหารที่ทั้งอร่อยและสร้างสรรค์ ส่วนคนที่สองทำเป็นแต่ไข่ต้ม ไข่ดาว และไข่เจียว คุณคิดว่าใครจะได้งานนี้ไป
3. ทักษะการขับรถ ทักษะการขับรถเป็นอีกหนึ่งทักษะที่มักถูกระบุลงไปในคุณสมบัติที่นายจ้างต้องการนอกจากความรู้ ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับหน้าที่การงานโดยตรง เช่น นายจ้างต้องการพนักงานตลาดที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านการตลาด แต่ระบุเพิ่มเติมไว้ด้วยว่า หากขับรถเป็นจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะหน้าที่ของพนักงานการตลาดคือต้องพบปะลูกค้าทั้งในและนอกออฟฟิศ ฉะนั้นหากพนักงานคนนั้นขับรถเป็น จะช่วยส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้สะดวกมากขึ้น
ทักษะที่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้มีอะไรบ้าง
ยุคสมัยนี้การแข่งขันในด้านต่าง ๆ ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านการเรียน หรือการทำธุรกิจก็ตาม ดังนั้นความถนัดและทักษะในสิ่ง ๆ เดียวอาจไม่เพียงพอเสียแล้ว เราจึงจำเป็นต้องขวนขวายและเรียนรู้ทักษะเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวอย่างทักษะเสริมที่สามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้นั้นมีดังต่อไปนี้

1. ทักษะด้านกีฬา สำหรับคนที่มีใจรักและชื่นชอบในการเล่นกีฬาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล เทนนิส ว่ายน้ำ ฯลฯ หากคุณมีทักษะความสามารถในด้านนี้ ก็อาจช่วยให้คุณทำอาชีพเกี่ยวกับกีฬาได้เช่นกัน เช่น โค้ชหรือผู้ฝึกสอนกีฬา เทรนเนอร์ในฟิตเนส ครูสอนวิชาพละศึกษา วิทยากรที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย นักกายภาพบำบัด เป็นต้น
2. ทักษะด้านการทำอาหาร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ผู้คนให้ความสนใจกันเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ เพราะการมีทักษะในการทำอาหารที่ดีนั้นจะช่วยต่อยอดเกี่ยวกับการประกอบอาชีพของเราในอนาคตได้ โดยส่วนใหญ่คนที่เรียนการทำอาหารจากสถาบันชื่อดังต่าง ๆ ก็มีจุดประสงค์ที่จะเปิดธุรกิจร้านอาหารของตัวเอง หรือบางคนที่ชื่นชอบในการทำอาหารจนมีฝีมือการทำอาหารที่ดีเยี่ยมก็สามารถประกอบอาชีพเชฟได้เช่นกัน
3. ทักษะด้านการขับรถ สำหรับบางคนที่ขับรถเป็น รู้กฎจราจรเป็นอย่างดี สามารถเปิดโรงเรียนสอนขับรถเองได้เลย และหากบางคนที่มีใจรักในงานบริการด้วยนั้นก็สามารถทำอาชีพพนักงานขับรถเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองได้เช่นกัน
4. ทักษะด้านดนตรี บางคนอาจมีใจรักในการร้องเพลงและการเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก หากหมั่นฝึกฝนและพัฒนาทักษะไปเรื่อย ๆ ก็อาจทำให้เรากลายเป็นคุณครูสอนร้องเพลง หรือนักดนตรีมืออาชีพเลยก็ว่าได้
การเรียนในรูปแบบออนไลน์สามารถใช้กับการเรียนทักษะเสริมได้หรือไม่
เรียนออนไลน์หรือเรียนแบบตัวต่อตัว สนใจเรียนแบบไหน มีผู้ให้บริการทุกรูปแบบค่ะ

1. การเรียนแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ทำอาหาร ขับรถ หรือ ดนตรี ก็สามารถเลือกเรียนออนไลน์ได้ อาจจะมีการสอนออนไลน์แบบกลุ่ม หรือแบบเดี่ยวซึ่งราคาแตกต่างกันออกไป โดยในช่วงแรกที่ต้องเรียนเกี่ยวกับทฤษฎี กฎ กติกา มารยาทต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ทักษะ ต้องอาศัยการจดข้อมูลต่าง ๆ สามารถเรียนทางออนไลน์ได้โดยยังไม่ต้องเรียนแบบตัวต่อ อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียน หรือให้ติวเตอร์เข้ามาสอนซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
2. การเรียนแบบตัวต่อตัว เหมาะสำหรับผู้ที่เรียนรู้ช้าหรือยังไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการเรียนทักษะเสริมมากนัก หรืออาจจะเน้นสอนในส่วนของภาคปฏิบัติ หลังจากเรียนทฤษฎีไปแล้ว เพื่อให้สัมฤทธิผลมากขึ้นจึงควรเรียนแบบตัวต่อตัว เพราะการเรียนแบบตัวต่อตัวแบบมีบริการสอนถึงบ้าน หรือใกล้บ้านตามสถานที่ที่สะดวก ผู้สอนจะอยู่อย่างใกล้ชิดและสามารถสังเกตจุดอ่อนหรือจุดแข็งของผู้เรียนและสามารถแก้ไขได้ถูกจุด อีกทั้งทักษะบางอย่างต้องลงมือปฏิบัติจริงจึงจะรู้ว่าที่ทำอยู่ถูกต้องหรือไม่ ตัวอย่างเช่น
- กีฬาฟุตบอล ให้ลองลงสนามจริง ซ้อมวิ่ง ซ้อมรับ-ส่งลูก ซ้อมกันเป็นทีม และลองฝึกยิงลูกโทษ
- การทำอาหาร ต้องลองฝึกทำจริงๆ เพื่อที่จะได้ทดสอบว่าอาหารที่ทำออกมามีรสชาติอย่างไร
- ขับรถ แน่นอนว่าการขับรถต้องลองขับบนท้องถนน เริ่มแรกอาจฝึกขับบนถนนจำลองก่อนเพื่อให้คุ้นชินกับการขับรถ หลังจากนั้นจึงขับออกไปบนถนนจริงโดยมีผู้สอนนั่งในรถไปด้วย
- ดนตรี การเล่นดนตรีก็ต้องมีการทดสอบเล่นเครื่องดนตรีนั้นๆ ว่าเล่นได้ถูกต้องหรือไม่

ดังนั้นลองไตร่ตรองดูว่าคุณเลือกที่จะเรียนแบบออนไลน์หรือแบบตัวต่อตัว และจะยอมลงทุนจ่ายกับการเรียนของตัวคุณเองอย่างไรดี เพราะการลงทุนในการศึกษาทักษะต่างๆนั้น คุณจะได้ผลตอบแทนแบบไม่มีวันสิ้นสุด เพราะความรู้จะอยู่กับคุณไปตลอด
วิธีการคัดเลือกครูฝึกทักษะมีการคัดเลือกอย่างไร
คุณควรมีเกณฑ์การคัดเลือกครูฝึกสอนทักษะอย่างไร? เพื่อความมั่นใจของผู้เรียนมา

1. คัดเลือกจากคุณสมบัติเบื้องต้น เช่น การศึกษา ความรู้ การฝึกอบรม และประสบการณ์ในการสอน
2. มีการสัมภาษณ์ เพื่อให้ได้ครูฝึกสอนทักษะที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง
3. มีจิตวิญญาณความเป็นครู รักในการสอน มีความอดทน มีความเข้าใจผู้เรียน มีความรับผิดชอบสูง และตรงต่อเวลา ทั้งหมดเพื่อที่จะให้ผู้เรียน ได้เรียนอย่างมีความสุข เราจึงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกครูฝึกสอนทักษะเป็นอย่างมาก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญอันดับ 1 ที่ส่งผลต่อผู้เรียน
4. ต้องมีประสบการณ์ในการสอนมาก่อน เพราะจะทำให้เข้าใจเนื้อหาและแนวทางการสอนมากขึ้น ประสบการณ์การสอนจะช่วยให้ครูฝึกสอนทักษะเข้าใจลักษณะของผู้เรียนแต่ละคน เห็นจุดแข็งจุดอ่อน จุดที่ต้องพัฒนา ปรับปรุง และแก้ไขได้ตรงจุด
5. มีความเข้าใจเนื้อหาที่จะทำการสอน โดยครูฝึกสอนทักษะจะต้องเข้าใจเนื้อหา ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะหากผู้สอนยังไม่เข้าใจในสิ่งที่จะสอนอย่างถ่องแท้แล้วย่อมไม่สามารถถ่ายทอดไปยังผู้เรียนได้ดีแน่นอน
6. ให้ทดลองทำการสอน เพื่อให้ครูผู้สอนได้เข้าใจขั้นตอนการเรียนการสอนอย่างแท้จริง อีกทั้งเพื่อให้แน่ใจได้ว่าครูผู้สอนสามารถถ่ายทอดและสื่อสารกับผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากนั้นจะมีการประเมินผลทักษะการสอนเพื่อให้ได้ผู้สอนที่มีประสิทธิภาพ และเมื่อการเรียนการสอนเสร็จสิ้น ผู้เรียนสามารถแสดงความคิดเห็นต่อการสอนได้ เพื่อนำไปพัฒนาคุณภาพการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น