วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
บริการล้างแอร์บ้าน แอร์โรงงานเปิดบริการทุกวันตรวจเช็คแอร์เสีย แอร์ไม่เย็น ล้างแอร์ราคาถูก รื้อล้างใหญ่ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง ตรวจเช็คสภาพพร้อมใช้งานของมอเตอร์,รีโมท,อะไหล่ทุกชิ้น,ตรวจเช็คความเย็น,น้ำยาแอร์,การทำงานของคอมเพรสเซอร์ ราคาล้างแอร์ สำหรับเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง ( 9,000 - 13,000 บีทียู ) ( 15,000 - 20,000 บีทียู ) ( 21,000 - 36,000 บีทียู ) ( 37,000 - 60,000 บีทียู )แอร์แบบติดผนังล้างแอร์แบบติดผนังราคาล้างแอร์ สำหรับเครื่องปรับอากาศแบบตั้ง-แขวน,คอยล์เปลือย,ตู้ตั้งพื้น ( 9,000 - 13,000 บีทียู ) ( 15,000 - 20,000 บีทียู ) ( 21,000 - 36,000 บีทียู ) ( 38,000 - 60,000 บีทียู ) ( 70,000 - 100,000 บีทียู )มากกว่า 100,000 บีทียู
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง
ในการประกอบอาชีพช่างทุกสาขานั้น หัวใจสำคัญของการทำงานคือ ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่เราอาจจะลืมไปว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือคนที่จะทำงานนั้น ๆ จะต้องมีความรอบรู้ในงานที่ตัวเองทำ ช่างซ่อมบำรุงที่ดีก็เช่นกัน จะต้องมีความรู้ มีความเข้าใจ
ในงานของตนเป็นอย่างดี ต้องมีทักษะและมีไหวพริบในการทำงาน มีทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดี มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า ยอมรับการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดในการผลิตหรือการบริการด้วยความเต็มใจ มีบุคลิกภาพและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีอัธยาศัยที่เป็นมิตรไมตรีกับทุกคน สิ่งนี้จะทำให้เพื่อนร่วมงานเต็มใจทำงานด้วย และทำให้การดำเนินการธุรกิจร่วมกันได้เป็นอย่างดี ทำให้การประกอบอาชีพมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญเลยคือผู้ใช้บริการก็จะประทับใจและจะกลับมาใช้บริการซ้ำในครั้งถัดไป
การนำความรู้ความสามารถไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่พบ ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง ถูกวิธี ประหยัด และปลอดภัย
- ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ควรเรียกช่างซ่อมบำรุงผู้ชำนาญการมาทำจะปลอดภัยกว่า เพราะเราทำเองบางครั้งอาจเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต และสูญเสียทรัพย์สินได้
- บางครั้งปัญหาเล็กๆ อย่างหลอดไฟที่เคยสว่างอยู่ดีๆ เกิดกะพริบๆ มีเสียงดังขณะเปิด หรือกว่าจะสว่างก็ใช้เวลานาน หนักสุดคือ ดับไปเลย อาการเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นที่บัลลาสต์เสีย แกนหลวม หลอดไฟขาด หรือเสื่อมสภาพ หลอดไฟก็มีหลายแบบทั้งหลอดเกลียว แบบขาสปริง เราควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะนำมาใช้แล้ว ในกรณีที่หลอดไฟนั้นอยู่สูง ควรจะใช้บันไดไม่ควรใช้เก้าอี้ เพราะการใช้เก้าอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การยิงซิลิโคน การเจาะผนัง การทะลวงท่อน้ำนั้นต้องใช้เครื่องมือมากมายในการแก้ปัญหา
- ส่วนของช่องสำหรับการซ่อมบำรุงอาจเป็นสิ่งที่ถูกละเลยมากที่สุดในบ้าน โดยเฉพาะระบบสายไฟบนเพดานที่มีฝ้าปิดทึบทั้งหมด หากบ้านที่คุณอยู่ไม่มีช่องเปิดฝ้า แล้วมีหนูหาทางขึ้นฝ้าไปกัดสายไฟจนขาด ก็จะเป็นเรื่องลำบากมากในการแก้ไขสายไฟให้กลับมาเป็นปกติ ดังนั้น บ้านทุกหลังจำเป็นต้องมีช่องสำหรับซ่อมบำรุงสายไฟบนฝ้าเผื่อไว้ด้วย โดยเฉพาะชั้นล่างหรือชั้นที่ไม่ได้ติดหลังคา ส่วนชั้นที่ติดหลังคาจะมีช่องปีนขึ้นฝ้าอยู่ ถ้าไม่มั่นใจเราก็สามารถเรียกช่างซ่อมบำรุงมาตรวจดูได้
เมื่อว่าด้วยเรื่องของการทาสีบ้านนั้น เป็นเรื่องที่ต้องยกให้มืออาชีพอย่าง “ช่างทาสี” โดยเฉพาะเพราะการทาสีบ้านนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด ความใส่ใจ รวมถึงการเลือกสีที่มีความคงทนติดอยู่ได้นานเพื่อสร้างความสวยงามให้กับบ้านของเรา
การใช้บริการช่างจาก “ช่างปูกระเบื้อง” ที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
สำหรับฝ้าเพดานที่หลายคนมองข้ามนั้นก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น การเลือกฝ้าเพดานจึงเป็นอีกอย่างหนึ่งสำคัญ การใช้บริการช่าง “ช่างฝ้าเพดาน” เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพื่อจะเลือกฝ้าเพดานที่เหมาะสมกับบ้านของเรา ให้มีความทนทาน และสามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน
การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องทำให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน การมี “คนดูแลสวน” จึงเป็นสิ่งที่เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาให้แก่ตัวเราขึ้นมาก ๆ
คุณภาพของสระว่ายน้ำจะดีได้นั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ การดูแลที่มีขั้นตอนมากมาย และยากลำบากสำหรับเจ้าของสระบางรายจึงทำให้ต้องมีการจ้าง “ช่างดูแลสระว่ายน้ำ” เพื่อการดูแลสระว่ายน้ำของเราที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4 วิธีดูแล สนามหญ้า ให้สวยทนเหมือนปลูกใหม่ทุกวัน
สนามหญ้าหน้าบ้านของทุกคนยังเขียวเหมือนวันแรกที่ปลูกอยู่ไหม เป็นคำถามที่คนรักสวนทุกคนต้องเคยโดนถาม เพราะสนามหญ้าหน้าบ้านของคนส่วนใหญ่ ก็มักจะสวยอยู่ไม่นาน นั่นเพราะขาดการดูแลที่ถูกต้อง ทำให้สนามหญ้าที่ควรจะเขียวขจีสวยงามจะต้องแห้งเหี่ยว หรือตายเป็นหย่อม ๆ ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับสนามหญ้าของคุณแน่ ๆ ถ้าทำตาม 4 วิธีดูแลสนามหญ้าที่ SaiJai แนะนำ ไปดูกันเลย
1.เลือกหญ้าให้เหมาะกับพื้นที่
ก่อนจะเริ่มปลูกหญ้า เราต้องศึกษาพื้นที่ของเราก่อนว่า “เหมาะจะปลูกหญ้าชนิดไหน” โดยเลือกจากหญ้าทั้งหมด 3 สายพันธุ์ ที่คนนิยมปลูก
หญ้ามาเลเซีย : ชอบแดดรำไรถึงแดดจัด ถ้าจะให้เติบโตได้ดี ควรเลือกปลูกใต้ต้นไม้ใหญ่ และหมั่นรดน้ำสม่ำเสมอทุกวัน แต่ไม่ควรให้มีน้ำขัง และการถูกเหยียบบ่อย ๆ จะทำให้หญ้าช้ำและตายเร็ว
หญ้าญี่ปุ่น : เป็นหญ้าที่มีใบเล็ก เติบโตช้า แต่ขึ้นหนาแน่น ทนต่อแรงเหยียบย่ำได้ดี ต้องปลูกในพื้นที่แสงแดดรำไร และต้องการน้ำมาก เหมาะจะปลูกในช่วงฤดูหนาว
หญ้าเบอร์มิวด้า (หญ้าแพรก) : เป็นหญ้าที่ทนแล้งได้ดีที่สุด ชอบแสงแดดจ้า เหมาะสำหรับการปลูกกลางแจ้ง แต่ขึ้นเร็ว จึงต้องตัดบ่อย เป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่มีเวลาตัดหญ้า
2.รดน้ำให้เพียงพอและถูกวิธี
หลักการรดน้ำมี 2 อย่าง นั่นคือ “ช่วงเวลา” และ “วิธีรดน้ำ” ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรดน้ำ คือ ช่วงเช้าตรู่ที่แดดไม่จัด เพราะหญ้าจะนำสารอาหารที่ได้จากการรดน้ำ มาเสริมสร้างให้หญ้าเจริญเติบโต ส่วนวิธีรดน้ำ ควรเลือกรดน้ำให้เพียงพอในแต่ละครั้ง และไม่รดน้อย แต่รดบ่อย ๆ เพราะจะทำให้รากของหญ้า เติบโตแค่บนผิวดิน และตายง่าย
3.ใส่ปุ๋ย และหมั่นกำจัดวัชพืช
ปลูกหญ้า ก็เหมือนกับปลูกต้นไม้ชนิดอื่น ที่ต้องการอาหารบำรุงดิน เพื่อการเจริญเติบโตที่สวยงาม ในแต่ละเดือนเราจึงควรใส่ปุ๋ยหญ้าเดือนละ 1 ครั้ง โดยหลังใส่ปุ๋ยทุกครั้ง จะต้องรดน้ำตามให้ชุ่มทุกครั้ง และเมื่อสนามหญ้าสวยแล้ว มักจะมีวัชพืชขึ้นแซมตามมาด้วย วิธีกำจัดก็ไม่ยาก เพียงหมั่นถอนออก หรือใช้อุปกรณ์ทำสวนที่มีปลายแหลมแซะออกก็ได้
4.ตัดหญ้าสม่ำเสมอ
ควรตัดหญ้าตอนสนามหญ้าแห้ง ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือช่วงบ่าย 3 โมง เพราะเป็นช่วงที่น้ำระเหย และสนามหญ้าแห้งสนิทดีแล้ว ในการตัดแต่ละครั้ง ควรตัดให้เหลือความสูงประมาณ 1 นิ้ว โดยเลือกตัดหญ้าในทิศทางที่สลับกันบ้าง สลับอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง จะทำให้หญ้าสวย และเติบโตได้ดี สุดท้ายนี้คือ ต้องตัดหญ้าเป็นประจำทุก ๆ อาทิตย์ เพื่อให้หญ้าไม่สูงจนเกินไป ไม่เป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ร้าย และยังคงความเขียวขจีสวยงามดั้งเดิม
เคล็ดลับ วิธีตัดหญ้าสนาม ทำอย่างไรให้ดูมืออาชีพ
การตัดหญ้านั้น ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เลี่ยงไปไม่ได้ หากบ้านของคุณมีสวนสนามหญ้าอยู่บริเวณบ้าน ดันงั้น คุณจึงควรหาวิธีที่จะช่วยให้สนามหญ้าคงความสวยงาม และมีสีเขียวขจีอยู่เสมอ
วันนี้ SaiJai ขอเสนอแนะวิธีการตัดหญ้าง่าย ๆ เป็นวิธีที่ถูกต้อง ทุก ๆ บ้านสามารถนำไปทำตามได้ เพื่อความสวยงามของสนามหญ้าในบ้านคุณ แถมยังดูดีเหมือนจ้างช่างมาตัดเอง ไปดูกันเลย
อุปกรณ์ที่จำเป็น
อุปกรณ์ที่จำเป็น และเป็นที่นิยมที่ใช้สำหรับการตัดหญ้า ได้แก่ เครื่องตัดหญ้าแบบน้ำมัน และไฟฟ้ากรรไกรสำหรับเล็มขอบหญ้าข้างสนาม
ทิศทางการตัดหญ้า
ควรไล่ตัดหญ้าไปเป็นแถบ ๆ เพื่อความสะดวกในการที่คุณจะต้องตามเก็บเศษหญ้า ดังนั้น หลังจากที่ตัดหญ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ควรที่จะเก็บเศษให้หมด เพื่อไม่ให้ทับถมอยู่บนหญ้า ซึ่งเศษพวกนั้น มันจะเป็นตัวที่บังแสงแดด ทำให้หญ้าของคุณตายเป็นหย่อม ๆ และดูไม่สวยงามอย่างมาก
ความสูงต่ำในการตัดหญ้า
หญ้าในแต่ละแบบ แต่ละชนิด จะมีความสูงในการตัดที่แตกต่างกันออกไป เช่น หญ้าญี่ปุ่น หญ้าเบอร์มิวดาทิฟกรีน จะตัดที่ความสูงประมาณ 0.2-0.5 นิ้ว หญ้านวลน้อย จะตัดที่ความสูงประมาณ 0.5-1.0 นิ้ว และหญ้ามาเลเซีย จะตัดที่ความสูงประมาณ 1.0-2.0 นิ้ว
ระยะเวลาในการตัด
สำหรับระยะเวลาในการตัดหญ้า หากเป็นหญ้าคนละชนิด ก็จะมีระยะเวลาในการตัดต่างกันเช่นกัน เช่น หญ้าญี่ปุ่น หญ้าเบอร์มิวดาทิฟกรีน จะตัดหญ้าในทุก ๆ 7-10 วัน หญ้านวลน้อย จะตัดหญ้าในทุก ๆ 7-14 วัน และหญ้ามาเลเซีย จะตัดหญ้าในทุก ๆ 7-14วัน
ข้อเสนอแนะไม่ควรปล่อยหญ้าทิ้งไว้เกินกำหนดที่ต้องตัดหลาย ๆ วัน เพราะจะทำให้หญ้าของคุณนั้นยาวเกินไป และเมื่อตัดใบออกหมด ต้นหญ้าจะเป็นสีน้ำตาล ทำให้สนามนั้นดูไม่สวยงาม
จัดสวนต้องใช้งบเท่าไหร่
1.ราคาต้นไม้
อันดับแรกคือต้นไม้ เพราะถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ ควรเลือกสไตล์สวนให้ชัดเจน และศึกษาว่าต้นไม้ประเภทไหนเหมาะสมกับสไตล์สวนที่เลือกมา ไม่ว่าจะเป็นไม้ต้น ไม้พุ่ม ไม้คลุมดิน ไม้เลื้อย เพื่อความเข้าใจง่าย นักออกแบบจะแยกประเภทต้นไม้อย่างละเอียด และวาดแบบคร่าว ๆ แล้วใช้สัญลักษณ์วงกลมลงตำแหน่งในจุดที่ต้องการปลูก หลังจากนั้นนับจำนวนต้นไม้ทั้งหมดในแต่ละประเภท และนำมาคูณกับราคาต่อต้น ก็จะได้ราคาประเมินออกมา
2.วัสดุและอุปกรณ์
ความสวยงามภายในสวน จำเป็นต้องใช้เครื่องมือและของตกแต่ง วัสดุอุปกรณ์จึงเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินราคา โดยแบ่งเป็นสองประเภท อันแรกเป็นวัสดุส่วนโครงสร้างเช่น ดินและทรายถม ดินผสม ยาฆ่าหญ้า ปุ๋ย และประเภทที่สองเป็นวัสดุตกแต่ง เก้าอี้สนาม น้ำพุ หิน แผ่นทางเท้า ตอไม้แห้ง ไม้ วิธีการประเมินราคาของวัสดุและอุปกรณ์นักออกแบบตกแต่งสวน จะยึดราคาจากตลาด และคำนวณผ่านพื้นที่สวนจริงที่ต้องนำมาใช้อย่างเหมาะสม
3.ราคาค่าแรงงาน ค่าแบบ ค่าดำเนินการ
การลงแรงทำสวนมีราคาที่ต้องประเมินเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับงบตามกำลังของผู้อยู่อาศัยด้วย เพราะการจ้างพนักงานมาช่วยจัดสวนมีตั้งแต่เริ่มจัดไปถึงการดูแลหลังจัดสวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากสามารถดูแลรักษาสวนต่อเองได้ ต้องการให้จัดสวนเท่านั้น วิธีการคำนวณค่าแรงของคนงานจะอยู่ 300-500 บาทต่อวัน/คน ทำงาน 8-9 ชั่วโมงต่อวัน โดยมีพักกลางวัน 1 ชั่วโมง การจะจ้างพนักงานจัดสวนควรประเมินจำนวนคนตามพื้นที่หน้างานและระยะเวลาเป็นหลัก สำหรับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการมีนักออกแบบสวน นักออกแบบจะคิดค่าออกแบบโดยประเมินราคาอยู่ที่ 5-10% จากการรวมค่าต้นไม้ ค่าวัสดุและอุปกรณ์และค่าแรงงาน และมีค่าดำเนินการอีก 20-25% คำนวณเช่นเดิมคือนำราคาทั้งหมดมาหักเปอร์เซ็นต์
4.เสนอราคา
มาถึงจุดสุดท้ายคือ การรวมราคาทั้งหมดตั้งแต่ค่าต้นไม้ ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าแรง ค่าแบบ ค่าดำเนินการ และเสนอให้กับผู้อยู่อาศัย หากราคาทั้งหมดสูงเกินงบที่ผู้อยู่อาศัยตั้งไว้ อาจลดราคาลงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบบ เพียงแค่ลดจำนวนต้นไม้ในแต่ละตารางเมตรลง โดยปลูกให้ห่างขึ้น หรือเลือกซื้อต้นไม้ในขนาดที่เล็กลง หรือไม่ก็เปลี่ยนชนิดของต้นไม้
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง