ช่างซ่อมบำรุง ใน ปทุมธานี

ช่างซ่อมบำรุง ใน ปทุมธานี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เอกนรินทร์ สิทธิแก้ว
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

บริการล้างแอร์ซ้อมแอร์ทุกชนิด

แสดงเพิ่มเติม

รับซ้อมล้างติดตั้งแอร์

รับประกันงาน

บริการด้วยใจใส่ใจทุกงาน

แสดงเพิ่มเติม
สุทธศักดิ์ ทองหนู
สุทธศักดิ์ ทองหนู
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

บริการด้วยใจ ใส่ใจลูกค้า เพราะเรารักงานที่ทำ

ด้วยประสบการณ์มากกว่า20กว่าปี คุยง่ายเป็นกันเอง

ไมทิ้งงาน ไมหนีงาน ไมเลือกงาน ทำด้วยใจเต็ม100%

ปรึกษาฟรีได้24ซม. พร้อมให้บริการ24ซม. ให้บริการทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม

รักงานบริการ เป็นช่างแอร์บ้าน มา10 ปี

แสดงเพิ่มเติม
ดำรงค์ ทักวงษ์ศรี
ดำรงค์ ทักวงษ์ศรี

ช่างรับเหมาไฟฟ้า ระบบแอร์ บริการล้างแอร์ มีประสบการณ์และความชำนาญครับ

แสดงเพิ่มเติม
ชัยรัตน์ คณฑา
ชัยรัตน์ คณฑา

ผมเป็นคนรับผิดชอบงานครับ ซ่อมจริงได้ทุกอย่างภายในอาคาร

หน้าตาอาจจะดูไม่สุภาพแต่ตัวจริงเป็นคนสุภาพมากครับ มีมารยาท พูดน้อย รักงานบริการครับ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ติดต่อจ้างช่างล้างแอร์เพราะเพื่อนแอบกระซิบมาว่าบริการดี ช่างมีความชำนาญ ประทับใจค่ะ โอกาสหน้าจะมาใช้บริการอีกนะคะ
Saijai
อลีน่า เชติพัน
2 ปีที่แล้ว
รีโนเวทห้องเก็บของแล้วสภาพผนังห้องคือแย่มากก เคยได้ยินว่ามีบริการช่างทาสีจาก SAIJAI ผ่านๆ เลยลองติดต่อดู ผนังบ้านออกมาดูดีมาก ช่างเก่งจริง ๆ เก็บงานละเอียด
Saijai
ภูมินทร์ พฤกษ์
2 ปีที่แล้ว
จ้างช่างจากใส่ใจมาติดตั้งเพดานใหม่ คุณภาพงานดีเยี่ยมเหมือนไม่เคยพังมาก่อน
Saijai
พิมพร พรพิพันธ์
2 ปีที่แล้ว
สนามหน้าบ้านหญ้าขึ้นจนรกไปหมด ได้ช่างทำสวนจากใส่ใจ งานเร็วงานดีมาก หญ้ารกรอบหน้ากลับมาใช้บริการอีกแน่นอน
Saijai
ลดาวรรณ พิมพัณ
3 ปีที่แล้ว
พื้นบ้านเดิมสภาพแย่มากได้ช่างจากใส่ใจมาปูกระเบื้องใหม่ให้ ช่างปูกระเบื้องทำงานไวมาก แถมงานออกมาดีมาก
Saijai
กนก พิชัยกุล
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

ความสำคัญของการซ่อมบำรุง
การซ่อมบำรุง มาจากคำว่า ‘การซ่อม + การบำรุง’ ซึ่งหมายถึงการทำสิ่งที่ชำรุดให้คืนดีและการรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดี ในทางการบริหารการผลิต การซ่อมบำรุง หมายถึง งานหรือกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นเพื่อให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา
เราอาจจะมองว่า การซ่อมบำรุงนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่อยากจ่าย แต่ถ้าหากละเลยการซ่อมบำรุงและปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดปัญหาขึ้น อาจทำให้การทำงานหยุดชะงักลงหรืออาจทำให้เครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นเกิดความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่เราไม่อยากจ่ายในตอนแรกนั้นมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเราคงต้องเสียเงินค่าซ่อมบำรุงที่มากกว่าเดิมหรืออาจจะต้องซื้อเครื่องจักรเครื่องมือใหม่เพราะไม่สามารถซ่อมได้แล้ว
อันตรายที่เกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลและ บำรุงรักษา ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามได้แก่ ไฟฟ้าช็อตเนื่องจากการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ได้รับการดูแลและการซ่อมบำรุง และ การที่พัดลมเริ่มหมุนช้าเพราะมีเศษสายต่าง ๆ เข้าไปติดในตัวบูชหรือลูกปืน(บอลแบร์ริ่ง) ของพัดลมทำให้ตัวหมุนของพัดลมฝืด ไม่หมุนหรือหมุนช้ากว่าปกติ ใบพัดระบายความร้อนของมอเตอร์ไม่สามารถระบายได้ทำให้เกิดความร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดประกายไฟที่ตัวโครง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติก พีวีชี และเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นได้
ดังนั้นการดูแลรักษาเครื่องมือเครื่องจักรไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานขนาดใหญ่ เช่น ในโรงงานหรือเครื่องมือที่ใช้ในชีวิตประจำวันภายในบ้านของเราให้พร้อมใช้งานเสมอในระยะยาว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องจักร เครื่องมือที่ชำรุดจนถึงขั้นต้องรักษาพยาบาล ในบางกรณีอาจร้ายแรงถึงชีวิต

คุณสมบัติข้อใดที่ช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมี
งานซ่อมบำรุง คือ การซ่อมแซม บำรุงรักษาสิ่งของ เครื่องจักรเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ดีขึ้น สามารถยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และสิ่งของนั้น ๆ ให้ยาวนานขึ้น การนำความรู้ความสามารถไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่พบ ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง ถูกวิธี ประหยัด และปลอดภัย การที่จะประสบความสำเร็จในงานช่าง นอกจากจะต้องมีคุณธรรมในการประกอบอาชีพงานช่างแล้ว ยังต้องยึดหลักความปลอดภัยในการปฏิบัติตน เช่น ในขณะปฏิบัติงานไม่ดื่มของมึนเมา แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เหมาะสม รักษาความปลอดภัยและความเป็นระเบียบในขณะปฏิบัติงานด้วย
ในการประกอบอาชีพช่างทุกสาขานั้น หัวใจสำคัญของการทำงานคือ ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่เราอาจจะลืมไปว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือคนที่จะทำงานนั้น ๆ จะต้องมีความรอบรู้ในงานที่ตัวเองทำ ช่างซ่อมบำรุงที่ดีก็เช่นกัน จะต้องมีความรู้ มีความเข้าใจ
ในงานของตนเป็นอย่างดี ต้องมีทักษะและมีไหวพริบในการทำงาน มีทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดี มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า ยอมรับการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดในการผลิตหรือการบริการด้วยความเต็มใจ มีบุคลิกภาพและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีอัธยาศัยที่เป็นมิตรไมตรีกับทุกคน สิ่งนี้จะทำให้เพื่อนร่วมงานเต็มใจทำงานด้วย และทำให้การดำเนินการธุรกิจร่วมกันได้เป็นอย่างดี ทำให้การประกอบอาชีพมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญเลยคือผู้ใช้บริการก็จะประทับใจและจะกลับมาใช้บริการซ้ำในครั้งถัดไป
การนำความรู้ความสามารถไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่พบ ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง ถูกวิธี ประหยัด และปลอดภัย
ซ่อมเองหรือเรียกช่าง แบบไหนจะดีกว่ากัน
งานติดตั้ง หรืองานซ่อมบำรุงบางอย่างอาจหาข้อมูล และทำความเข้าใจได้ แต่เราต้องการให้งานนั้นถูกต้องและเรียบร้อยที่สุด เราคงต้องใช้คนที่มีทักษะ หรือความชำนาญในการทำงานเฉพาะทาง และอุปกรณ์ที่เราอาจไม่มีด้วย สิ่งนี้จะทำให้งานของเรานั้นดีขึ้นอย่างมากแน่นอน งานซ่อมแซมบางอย่างอาจมีความเสี่ยงก่อให้เกิดอันตราย เช่น
- ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ควรเรียกช่างซ่อมบำรุงผู้ชำนาญการมาทำจะปลอดภัยกว่า เพราะเราทำเองบางครั้งอาจเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต และสูญเสียทรัพย์สินได้
- บางครั้งปัญหาเล็กๆ อย่างหลอดไฟที่เคยสว่างอยู่ดีๆ เกิดกะพริบๆ มีเสียงดังขณะเปิด หรือกว่าจะสว่างก็ใช้เวลานาน หนักสุดคือ ดับไปเลย อาการเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นที่บัลลาสต์เสีย แกนหลวม หลอดไฟขาด หรือเสื่อมสภาพ หลอดไฟก็มีหลายแบบทั้งหลอดเกลียว แบบขาสปริง เราควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะนำมาใช้แล้ว ในกรณีที่หลอดไฟนั้นอยู่สูง ควรจะใช้บันไดไม่ควรใช้เก้าอี้ เพราะการใช้เก้าอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การยิงซิลิโคน การเจาะผนัง การทะลวงท่อน้ำนั้นต้องใช้เครื่องมือมากมายในการแก้ปัญหา
- ส่วนของช่องสำหรับการซ่อมบำรุงอาจเป็นสิ่งที่ถูกละเลยมากที่สุดในบ้าน โดยเฉพาะระบบสายไฟบนเพดานที่มีฝ้าปิดทึบทั้งหมด หากบ้านที่คุณอยู่ไม่มีช่องเปิดฝ้า แล้วมีหนูหาทางขึ้นฝ้าไปกัดสายไฟจนขาด ก็จะเป็นเรื่องลำบากมากในการแก้ไขสายไฟให้กลับมาเป็นปกติ ดังนั้น บ้านทุกหลังจำเป็นต้องมีช่องสำหรับซ่อมบำรุงสายไฟบนฝ้าเผื่อไว้ด้วย โดยเฉพาะชั้นล่างหรือชั้นที่ไม่ได้ติดหลังคา ส่วนชั้นที่ติดหลังคาจะมีช่องปีนขึ้นฝ้าอยู่ ถ้าไม่มั่นใจเราก็สามารถเรียกช่างซ่อมบำรุงมาตรวจดูได้
คุณสามามารถหาช่างซ่อมบำรุงด้านใดได้บ้าง จากแพลตฟอร์ม SAIJAI
การบำรุงรักษาสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านของเรา นอกบ้าน หรือบริเวณพื้นที่ของบ้านนั้นจะทำให้บ้านของเราน่าอยู่มากขึ้น อีกทั้งยังสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอาศัยอยู่ให้ตัวเราเองอีกด้วย
เมื่อว่าด้วยเรื่องของการทาสีบ้านนั้น เป็นเรื่องที่ต้องยกให้มืออาชีพอย่าง “ช่างทาสี” โดยเฉพาะเพราะการทาสีบ้านนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด ความใส่ใจ รวมถึงการเลือกสีที่มีความคงทนติดอยู่ได้นานเพื่อสร้างความสวยงามให้กับบ้านของเรา
การใช้บริการช่างจาก “ช่างปูกระเบื้อง” ที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
สำหรับฝ้าเพดานที่หลายคนมองข้ามนั้นก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น การเลือกฝ้าเพดานจึงเป็นอีกอย่างหนึ่งสำคัญ การใช้บริการช่าง “ช่างฝ้าเพดาน” เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพื่อจะเลือกฝ้าเพดานที่เหมาะสมกับบ้านของเรา ให้มีความทนทาน และสามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน
การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องทำให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน การมี “คนดูแลสวน” จึงเป็นสิ่งที่เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาให้แก่ตัวเราขึ้นมาก ๆ
คุณภาพของสระว่ายน้ำจะดีได้นั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ การดูแลที่มีขั้นตอนมากมาย และยากลำบากสำหรับเจ้าของสระบางรายจึงทำให้ต้องมีการจ้าง “ช่างดูแลสระว่ายน้ำ” เพื่อการดูแลสระว่ายน้ำของเราที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

4 ขั้นตอน ซ่อมที่นอนส่งเสียงดังรบกวนทำตามง่าย ๆ

ขั้นตอนที่ 1

ขั้นตอนแรกเราจะต้องหาที่มาของเสียงจากเตียงนอนของเรานั้นว่ามาจากที่ไหน มันอาจจะมาจากตัวที่นอน ฐานเตียงนอน หรือขอบเตียงนอน วิธีการที่จะรู้ให้แน่ชัดที่สุดคือต้องแยกชิ้นส่วนออกมาเป็นชิ้น ๆ และลองทดสอบทีละชิ้น ถ้าหากห้องนอนของเพื่อน ๆ ค่อนข้างเล็กเกินไปที่จะแยกชิ้นส่วนเตียงนอนออกมาทั้งหมดได้ ก็ให้แยกมาทีละชิ้นก็พอ

ขั้นตอนที่ 2

โดยปกติแล้วที่นอนจะไม่ส่งเสียงดังออกมาเวลานอนหรือขยับตัว อย่างไรก็ตามหากที่นอนสปริง หรือที่นอนไฮบริดที่มีสปริงไม่ได้รับการดูแลที่ดี มีการวางของหนัก กระโดด ยืนบนที่นอน หรือมีอายุนานมาก ๆ ก็อาจมีปัญหาเรื่องของสปริงภายในที่ล้ม หรือเสื่อมสภาพ นำมาสู่การส่งเสียงดังได้เช่นเดียวกัน วิธีการคือให้เอาที่นอนแยกออกมาจากเตียงนอนและฐาน ลองนั่ง นอน กลิ้งไปกลิ้งมา กดส่วนต่าง ๆ บนที่นอนดูว่าเกิดเสียงหรือไม่ ถ้าหากเกิดเสียงดังขึ้น งานนี้ก็เป็นปัญหาจากที่นอนแล้วล่ะ ก็ต้องมานั่งเช็คประกันก่อนว่ายังมีอายุคุ้มครองอยู่ไหม ถ้ามีก็ลองสอบถามไปดู แต่ถ้าไม่งานนี้ก็คงต้องซื้อที่นอนใหม่เท่านั้น เพราะค่าซ่อมรับรองว่าไม่คุ้มค่าแน่นอน

ขั้นตอนที่ 3

หากตรวจสอบที่นอน แล้วไม่พบว่ามีปัญหาอะไร ลำดับต่อมาที่ต้องตรวจสอบก็คือฐานรองที่นอน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่มักจะเป็นต้นตอของปัญหาเสียงดังในเตียงนอน วิธีการตรวจสอบก็คล้าย ๆ กับที่นอน แยกออกมาแล้วลองนั่ง นอน กลิ้งไปกลิ้งมา ลองกดส่วนต่าง ๆ ดูว่ามีเสียงไหม ถ้ามีก็ถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว

ขั้นตอนที่ 4

เมื่อตรวจสอบที่นอน และฐานรองที่นอนแล้ว เรายังคงแนะนำให้ทดสอบส่วนอื่น ๆ ของเตียงนอนด้วย ไม่ว่าจะเป็นหัวเตียงมุมต่าง ๆ โดยเฉพาะขาเตียง เป็นอีกหนึ่งจุดที่มักจะมีปัญหาส่งเสียงดังเป็นประจำ หากพบว่ามีส่วนใดหลุดออกมา เพื่อน ๆ ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่มีสว่าน และตะปู นอกจากนั้นแล้วหากคุณพบว่ามีส่วนบางส่วนในเตียงนอนที่เสียดสีกับส่วนข้าง ๆ เป็นประจำ ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสารหล่อลื่นเข้าไปในจุดเหล่านั้น



5 ทริค จัดห้องนอน ให้ดูเรียบร้อย น่าอยู่

ห้องนอนมักเป็นห้องที่รกที่สุดในบ้าน นั่นเป็นเพราะห้องนอนคือห้องที่เรามักจะเอาสิ่งของที่ไม่มีที่เก็บมาสุมไว้รวมกัน ซึ่งทำให้ห้องดูรก แต่ไม่ต้องกลัว วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการแก้ปัญหาความรกและวิธีเก็บห้องนอน โดยเพียงแค่ใช้เวลาไม่นาน ห้องของคุณก็จะสะอาดเป็นระเบียบขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทั้งนี้ คุณต้องมีการวางแผนที่ดีอย่ารอช้า ยิ่งคุณลงมือเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะได้ห้องที่น่าอยู่กลับคืนมาเร็วขึ้นเท่านั้น

1. ดูว่าคุณต้องรับมือกับอะไรบ้าง

ก่อนอื่น เขียนรายการที่เก็บของทั้งหมดในห้อง (จากซ้ายไปขวา หรือจากมุมในสุดห้องมาถึงประตู ตามที่คุณสะดวก) ซึ่งอาจจะได้แก่ ตู้เสื้อผ้า ตู้ลิ้นชัก ใต้เตียง ชั้นหนังสือ กล่อง หรือตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่ที่อยู่ในห้อง

2. นำทุกสิ่งออกมากองรวมกัน

เอาของทุกชิ้นที่อยู่ในตู้หรือชั้นเก็บของทั้งหมดออกมา ไม่ว่าจะในตู้เสื้อผ้าหรือลิ้นชัก แล้วนำมากองรวมกันไว้ที่กลางห้อง

3. คัดแยกสิ่งของในห้องตามแต่ละประเภท

การคัดแยกสิ่งของนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณจะนำไปจัดเก็บไว้ในที่ใด เราแนะนำให้แยกตามประเภท เมื่อคัดแยกเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะเริ่มมองเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าสิ่งของที่คุณมีนี้จะต้องใช้พื้นที่ในห้องนอนของคุณเท่าใด และรู้ว่าควรจะนำไปเก็บไว้ตรงไหนบ้าง

วิธีเก็บห้องขั้นต่อไปก็คือการนำสิ่งของที่คุณแน่ใจว่าไม่มีที่พอจะใส่ไว้ในห้องมากองแยกไว้ จากนั้นคัดแยกสิ่งที่คุณจะต้องเอาออกจากห้องนอน เรารู้ว่าการทิ้งของสะสมแสนรักสมัยวัยรุ่นนั้นเป็นเรื่องอาจจะตัดใจอยากอยู่สักหน่อย แต่ท้ายที่สุดแล้ว นั่นคือสิ่งที่คุณควรทำ ถ้าคุณไม่อยากทิ้งของเหล่านั้นไปโดยเปล่าประโยชน์ อาจจะนำสิ่งของเหล่านั้นไปบริจาคหรือขายต่อ

4. กำหนดสิ่งของแต่ละกองสำหรับชั้นหรือกล่องสำหรับจัดเก็บแต่ละจุด

ชั้นหนังสือควรใช้เก็บหนังสือ ตู้เสื้อผ้าควรใช้สำหรับใส่เสื้อผ้า และอื่น ๆ ตามความเหมาะสม

5. จัดเก็บสิ่งของตามที่วางแผนไว้

เมื่อจัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว รับรองได้ว่าห้องของคุณจะสะอาดเอี่ยม ดูเป็นระเบียบและกว้างขวางขึ้นมาทันตา จนคุณแทบจะจำไม่ได้เลย



How to จัดตู้เสื้อผ้า แยกสีตามประเภท

ต้องบอกก่อนเลยว่า คำแนะนำเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เราต้องการนำมาบอกต่อสำหรับคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ในการที่จะจัดตู้เสื้อผ้าครั้งใหม่ ไปดูกันเลย

คำแนะนำในการจัดตู้เสื้อผ้านั้น ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 : นำเสื้อผ้าทั้งหมดออกมารวมกัน

ให้เก็บรวบรวมเสื้อผ้าทั้งหมดมากองรวมกัน ในห้องโล่งสักห้องในบ้าน แล้วแยกเสื้อผ้าเป็นกอง ๆ โดยแบ่งจากวาระการใช้สอย คือ เสื้อที่นาน ๆ ใช้ที เช่น เสื้อผ้าสำหรับตะลุยเมืองหนาว ชุดออกงานหรู หรือชุดที่ใส่ในฤดูร้อนบนชายหาด

ขั้นตอนที่ 2 : แยกกลุ่มเสื้อผ้าเป็นหมวดหมู่

ค่อย ๆ จัดการแยกกลุ่มเสื้อผ้าที่ใส่ประจำ เสื้อเชิ้ต กระโปรง เสื้อคอกลม คอปาด กางเกง สูท ฯลฯ แขวนใส่ไม้แขวนให้เรียบร้อย

ขั้นตอนที่ 3 : เครื่องประดับ เครื่องตกแต่งเสื้อผ้า

เข็มขัด ผ้าผูกเอว ผ้าพันคอผืนเล็ก หรือที่เป็นผ้าต่าง ๆ มีสองตัวเลือกคือ แขวนไว้กับชุดนั้นเลย หรือเก็บไว้ในกล่องรวมกัน เป็นกล่องใส่ของพวกนี้โดยเฉพาะ จะทำให้หาง่าย และเก็บง่ายมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 4 : การแขวนเสื้อผ้า

การนำเสื้อขึ้นไม้แขวน ควรระวังเรื่องเนื้อผ้า ผ้าชนิดที่ผสมเส้นใยที่ให้ความยืดตัว เวลานำขึ้นไม้แขวนเสื้ออาจเป็นรอยปูดโปน ควรหาไม้แขวนแบบพิเศษ (บุนวม หรือช่วงบ่าโค้งลาด) อย่าใช้แต่ไม้แขวนแบบเป็นโครงเหล็กดัด เพราะไม้แขวนแบบนั้นเหมาะสำหรับเสื้อเนื้อบางเท่านั้น

ขั้นตอนที่ 5 : การแยกสีสันเสื้อผ้า

การแขวนเสื้อแบบแยกสีเสื้อ จะดีมากสำหรับการแต่งกายแบบผสมผสาน

ขั้นตอนที่ 6 : พับเสื้อผ้า

บางคนชอบแขวนให้เห็นทั้งหมด แต่สำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย เสื้อผ้าที่พับได้ เสื้อยืด ชุดอยู่บ้าน ชุดชั้นใน กรณีพวกชุดชั้นใน ถุงน่อง ถุงเท้า ให้แยกไว้อย่างเป็นระเบียบในลิ้นชัก จะทำให้ประหยัดพื้นที่มากกว่า

ขั้นตอนที่ 7 : ชุดชั้นในบางประเภท

ถ้าเป็นชั้นในที่นาน ๆ ใส่ที เช่น กางเกงในสเตย์แบบรัดรูป สำหรับสวมกับชุดราตรี ให้ใส่ถุงซิปล็อกก่อนจัดไว้ในลิ้นชัก เวลาใช้จะได้หาง่าย

สุดท้ายแล้ว หมั่นคอยเช็คตู้เสื้อผ้าเป็นระยะ ไม้แขวนไหนที่ไม่ดีก็ทิ้งไป เสื้อผ้าที่เก่าแล้วก็นำไปทำประโยชน์อย่างอื่น ดีกว่าเก็บเก่าอยู่ในตู้ สาว ๆ บางคนถือคติ ทิ้งของเก่า เพื่อซื้อของใหม่ แบบนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิด