ช่างซ่อมบำรุง ใน กะทู้, ภูเก็ต

ช่างซ่อมบำรุง ใน กะทู้, ภูเก็ต

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เป็นคนตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ต่องาน ไม่ทิ้งงาน มีประสบการณ์มานาน มากกว่า 10 ปี สามารถซ่อมแซม ฝ้า เพดาน ประตู กลอนประตู ก๊อกน้ำ ระบบปั้มน้ำ ประปา ทาสี ทำสวน ซ่อมบำรุงทั่วไป สามารถทำงานได้หลายอย่าง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ติดต่อจ้างช่างล้างแอร์เพราะเพื่อนแอบกระซิบมาว่าบริการดี ช่างมีความชำนาญ ประทับใจค่ะ โอกาสหน้าจะมาใช้บริการอีกนะคะ
Saijai
อลีน่า เชติพัน
2 ปีที่แล้ว
จ้างช่างจากใส่ใจมาติดตั้งเพดานใหม่ คุณภาพงานดีเยี่ยมเหมือนไม่เคยพังมาก่อน
Saijai
พิมพร พรพิพันธ์
2 ปีที่แล้ว
บริการดี ช่างพูดจาสุภาพ งานละเอียดงานเนี๊ยบ รอบหน้าใช้บริการอีกแน่นอน
Saijai
เมธัต กิจเจริญ
2 ปีที่แล้ว
ช่างที่ติดต่อผ่าน SAIJAI บริการดีมากครับ ครั้งหน้ามาใช้บริการอีกแน่นอน
Saijai
เจนภพ อรุณพิทักษ์
2 ปีที่แล้ว
ช่างแอร์ที่ติดต่อจาก SAIJAI บริการดี เชี่ยวชาญถามาตอบไป ถามอะไรตอบได้หมด รอบหน้าจะมาใช้บริการอีกนะคะ
Saijai
วรรณา อนุรักษ์
2 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

ทำไมการซ่อมบำรุงจึงมาความสำคัญ
ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสำคัญและความจำเป็นของ “การซ่อมบำรุง” หลายคนอาจจะมองว่า การซ่อมบำรุงเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ไม่อยากจ่าย หากอุปกรณ์เครื่องมือภายในบ้านหรือในออฟฟิศเกิดชำรุดหรือเสียหาย ก็แค่ซ่อม ในกรณีที่ซ่อมไม่ได้ก็แค่ซื้อใหม่ ไม่เห็นว่าจำเป็นต้องดูแลรักษา หรือซ่อมบำรุงกันอย่างสม่ำเสมอ
แต่ที่จริงแล้ว “การซ่อมบำรุง” หรือ บำรุงรักษา หมายถึง งานหรือกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นเพื่อให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงการรักษาอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องจักร ให้อยู่ในสภาพที่ดี และเป็นการทำสิ่งที่ชำรุดให้คืนดี
อันตรายที่เกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลและ บำรุงรักษา ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม เช่น การเกิดไฟฟ้ารั่วเนื่องจากการติดตั้งใช้เดินสายไฟที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน การขาดการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ตลอดไปจนถึงการเสื่อมสภาพของฉนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้มาเป็นเวลานาน เป็นต้น
การละเลยขาดความใส่ใจในการซ่อมบำรุงและปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดปัญหา อาจทำให้การทำงานหยุดชะงักลงหรืออาจทำให้เครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นเกิดความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่น้อยในตอนแรกนั้นมากขึ้นกว่าเดิม หรือเราอาจจะต้องเสียเงินซื้อเครื่องจักรและเครื่องมือใหม่เพราะอาจจะชำรุดจนไม่สามารถซ่อมบำรุงได้อีกต่อไป
เครื่องมือเครื่องจักรไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานใหญ่หน่วยงานเล็ก หรือแม้กระทั้งในบ้านของเรา ควรที่จะดูแลและบำรุงรักษา ให้พร้อมใช้งานเสมอในระยะยาว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องมืออุปกรณ์ที่ชำรุดจนถึงขั้นต้องรักษาพยาบาล และในบางกรณีอาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต
คุณสมบัติของช่างซ่อมบำรุง
การที่เราจะสามารถเป็นช่างที่ดีได้นั้นเราควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร ควรวางตัวแบบไหน ควรมีแนวคิดหรือวิธีการคิดแบบไหนที่จะเป็นการส่งเสริมให้เรานั้นได้รับโอกาสในเส้นทางอาชีพของเรามากขึ้น SAIJAI จึงได้รวบรวมคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ช่างซ่อมบำรุงหรือช่างอื่น ๆ นั้นพึงมี ดังต่อไปนี้
1.ช่างซ่อมบำรุงควรเป็นคนที่ช่างสังเกต และช่างจดจำ รู้จักการคิดปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์
2.ช่างจะต้องมีนิสัยรักในการทำงาน มีความรับผิดชอบ ทำงานด้วยความปลอดภัย ไม่ประมาท และระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ
3.ช่างจะต้องมีความรู้ความสามารถสูงในสาขาอาชีพของตนเอง และมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
4.ช่างนั้นจะต้องมีทักษะความสามารถทางช่าง มีความรู้ ความแม่นยำในเครื่องจักรเครื่องมือและอุปกรณ์ รู้จักวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานของเครื่องจักรเครื่องมือ และยังคงพัฒนาทักษะทางการช่างให้มีความเจริญกก้าวหน้า
5.ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นประโยชน์ต่อช่างซ่อมบำรุงมาก ความกล้าที่จะตัดสินใจและมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จ และจะต้องคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกด้วย
6.การมีบุคลิกภาพและมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับช่างซ่อมบำรุง มันจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวช่างและลูกค้าที่พบเจอ เพื่อทำให้การทำงานร่วมกันนั้นดำเนินการร่วมกันได้เป็นอย่างดี และจะทำให้การประกอบอาชีพมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำงานไม่ว่าจะเป็นช่างซ่อมบำรุงหรืออาชีพอื่น ๆ นั่นคือความซื่อสัตย์ ดังสำนวน “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ดังนั้นเราจึงจะต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า และมีมาตรฐานในการทำงานให้มีคุณภาพดีที่สุดเสมอต้นเสมอปลาย ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไว้วางใจให้เราทำงานในครั้งถัดไป
ซ่อมเองหรือเรียกช่าง แบบไหนจะดีกว่ากัน
งานติดตั้ง หรืองานซ่อมบำรุงบางอย่างอาจหาข้อมูล และทำความเข้าใจได้ แต่เราต้องการให้งานนั้นถูกต้องและเรียบร้อยที่สุด เราคงต้องใช้คนที่มีทักษะ หรือความชำนาญในการทำงานเฉพาะทาง และอุปกรณ์ที่เราอาจไม่มีด้วย สิ่งนี้จะทำให้งานของเรานั้นดีขึ้นอย่างมากแน่นอน งานซ่อมแซมบางอย่างอาจมีความเสี่ยงก่อให้เกิดอันตราย เช่น
- ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ควรเรียกช่างซ่อมบำรุงผู้ชำนาญการมาทำจะปลอดภัยกว่า เพราะเราทำเองบางครั้งอาจเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต และสูญเสียทรัพย์สินได้
- บางครั้งปัญหาเล็กๆ อย่างหลอดไฟที่เคยสว่างอยู่ดีๆ เกิดกะพริบๆ มีเสียงดังขณะเปิด หรือกว่าจะสว่างก็ใช้เวลานาน หนักสุดคือ ดับไปเลย อาการเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นที่บัลลาสต์เสีย แกนหลวม หลอดไฟขาด หรือเสื่อมสภาพ หลอดไฟก็มีหลายแบบทั้งหลอดเกลียว แบบขาสปริง เราควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะนำมาใช้แล้ว ในกรณีที่หลอดไฟนั้นอยู่สูง ควรจะใช้บันไดไม่ควรใช้เก้าอี้ เพราะการใช้เก้าอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การยิงซิลิโคน การเจาะผนัง การทะลวงท่อน้ำนั้นต้องใช้เครื่องมือมากมายในการแก้ปัญหา
- ส่วนของช่องสำหรับการซ่อมบำรุงอาจเป็นสิ่งที่ถูกละเลยมากที่สุดในบ้าน โดยเฉพาะระบบสายไฟบนเพดานที่มีฝ้าปิดทึบทั้งหมด หากบ้านที่คุณอยู่ไม่มีช่องเปิดฝ้า แล้วมีหนูหาทางขึ้นฝ้าไปกัดสายไฟจนขาด ก็จะเป็นเรื่องลำบากมากในการแก้ไขสายไฟให้กลับมาเป็นปกติ ดังนั้น บ้านทุกหลังจำเป็นต้องมีช่องสำหรับซ่อมบำรุงสายไฟบนฝ้าเผื่อไว้ด้วย โดยเฉพาะชั้นล่างหรือชั้นที่ไม่ได้ติดหลังคา ส่วนชั้นที่ติดหลังคาจะมีช่องปีนขึ้นฝ้าอยู่ ถ้าไม่มั่นใจเราก็สามารถเรียกช่างซ่อมบำรุงมาตรวจดูได้
คุณสามามารถหาช่างซ่อมบำรุงด้านใดได้บ้าง จากแพลตฟอร์ม SAIJAI
การบำรุงรักษาสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านของเรา นอกบ้าน หรือบริเวณพื้นที่ของบ้านนั้นจะทำให้บ้านของเราน่าอยู่มากขึ้น อีกทั้งยังสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอาศัยอยู่ให้ตัวเราเองอีกด้วย
เมื่อว่าด้วยเรื่องของการทาสีบ้านนั้น เป็นเรื่องที่ต้องยกให้มืออาชีพอย่าง “ช่างทาสี” โดยเฉพาะเพราะการทาสีบ้านนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด ความใส่ใจ รวมถึงการเลือกสีที่มีความคงทนติดอยู่ได้นานเพื่อสร้างความสวยงามให้กับบ้านของเรา
การใช้บริการช่างจาก “ช่างปูกระเบื้อง” ที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
สำหรับฝ้าเพดานที่หลายคนมองข้ามนั้นก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น การเลือกฝ้าเพดานจึงเป็นอีกอย่างหนึ่งสำคัญ การใช้บริการช่าง “ช่างฝ้าเพดาน” เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพื่อจะเลือกฝ้าเพดานที่เหมาะสมกับบ้านของเรา ให้มีความทนทาน และสามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน
การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องทำให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน การมี “คนดูแลสวน” จึงเป็นสิ่งที่เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาให้แก่ตัวเราขึ้นมาก ๆ
คุณภาพของสระว่ายน้ำจะดีได้นั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ การดูแลที่มีขั้นตอนมากมาย และยากลำบากสำหรับเจ้าของสระบางรายจึงทำให้ต้องมีการจ้าง “ช่างดูแลสระว่ายน้ำ” เพื่อการดูแลสระว่ายน้ำของเราที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ก่อนทาสีบ้านหลังจากน้ำท่วมต้องเช็คอะไรบ้าง

- ตรวจสอบจุดที่ชำรุดเสียหาย หลังจากที่น้ำลดจนเหลือเพียงคราบและร่องรอยหลังน้ำท่วม เราจะต้องตรวจสอบก่อนว่ามีส่วนไหนในบ้านชำรุดบ้าง และจะต้องตรวจเช็คอย่างละเอียดให้ทั่วจุดต่าง ๆ ของบ้าน และจะต้องเช็คด้วยว่ามีสัตว์ร้ายหรือสัตว์มีพิษต่างๆที่มาพร้อมกับน้ำหรือไม่ และในกรณีที่น้ำท่วมไปจนถึงฝ้าเพดานก็จะต้องเช็คฝ้าเพดานด้วยว่ามีการดูดน้ำหรือไม่ฝ้าแอ่นตัวด้วยหรือไม่เพื่อดำเนินการแก้ไขได้อย่างถูกต้อง

- ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ตรวจสอบระบบไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นปลั๊กไฟ สายไฟ ว่ามีจุดไหนชำรุดหรือเสียหายบ้างเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านภายหลัง ให้เรียกช่างมาตรวจสอบและทำการแก้ไขห้ามดำเนินการเอง หรือหากยังไม่ได้ตรวจเช็คอย่างละเอียดก็ห้ามเปิดใช้ไฟฟ้าภายในบ้านก่อนเพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

- ทำความสะอาดบ้านทั้งภายในและภายนอก อย่าเพิ่งเริ่มทาสีบ้านเด็ดขาดหากยังไม่ได้ทำความสะอาดให้เรียบร้อย เมื่อทำความสะอาดบ้านเรียบร้อยก็ปล่อยให้แห้งที่สุดก่อนจะเริ่มการทาสี

- อย่าทาสีทับทันทีหากบ้านยังไม่แห้งดี เราจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าบ้านหลังน้ำท่วมนั้นจะมีความชื้นสูงมากหากไม่ปล่อยให้แห้งสนิทก่อนโอกาสที่ทาสีไปแล้วจะมีโอกาสหลุดลอกสูงมาก อย่างน้อย ๆ ก็ควรเว้นระยะเวลาหลังน้ำท่วมประมาณ 1 เดือนเป็นต้นไป



ทาสีบ้านหลังน้ำท่วมทำเองได้

1.การเตรียมพื้นผิวสำหรับทาสี การเคลียร์พื้นผิวสำหรับการทาสีจากคราบตะไคร่ คราบโคลนที่เกิดจากน้ำท่วมให้เรียบร้อย นอกจากปัญหาเหล่านี้ยังมีบางอย่างที่เราต้องทำการตรวจสอบ มีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

- ความสมบูรณ์ของยาแนว โดยเราจะต้องทำการแซะยาแนวเดิมออกก่อนให้หมดไม่ให้เหลือยาแนวเดิม

- รอยแตกของพื้นผิวเดิมโดยต้องทำการสกัดปูนเก่าออกให้เรียบร้อย

- ตรวจสอบรอยต่อคอนกรีตของผนังบ้านว่ามีการหลุดลอก หรือแตกร้าวหรือไม่

2.การฉาบปิดผิวให้เรียบเนียน จะต้องทำการฉาบปิดผิวผนังบ้านเดิมให้เรียบเนียนมากที่สุด โดยหากมีรอยแตกร้าวเล็ก ๆ ไม่ได้ใหญ่ก็สามารถเลือกใช้อะคริลิกสำเร็จรูปเพื่อทำการปกปิดรอยแตกร้าวได้ เมื่ออะคริลิกแห้งดีแล้วก็ให้นำกระดาษทรายมาขัดเบา ๆ ทำให้ผนังเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อที่เวลาทาสีทับจะได้ไม่เกิดร่องรอยการฉาบปิดผิว

3.ลงยาแนวตามขอบหน้าต่าง ทำการลงยาแนวประเภท PU ที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูงสามารถปิดรอยแตกร้าวของผนังและเชื่อมรอยต่อต่าง ๆ ได้ดี ในการลงยาแนวใหม่นั้นควรเตรียมพื้นผิวในขั้นตอนแรกให้ดีไม่ให้หลงเหลือยาแนวเดิมอยู่ เพื่อที่จะได้ลงยาแนวใหม่ได้ลึกและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

4.ทาสีรองพื้นปูนเก่า การทาสีรองพื้นปูนเก่าหรือก็คือน้ำยารองพื้นปูนเก่าโดยในที่นี้ต้องเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับตัวผนังบ้าน การทาสีรองพื้นปูผนังเก่านั้นจะทำให้สีใหม่ที่ทาลงไปติดทนได้ดียิ่งขึ้น ยึดเกาะได้ดี ลดโอกาสที่สีจะโป่งพองที่สำคัญคือไม่ทำให้เกิดคราบด่างหรือเกลือ

5.ลงสีทาทับหน้า สามารถเลือกสีที่ได้ตามที่ต้องการ การทาโดยไล่จากขอบหรือมุมก่อนแล้วให้ไล่ไปเรื่อย ๆ เป็นรูปตัว W เพราะจะช่วยทำให้ได้สีที่มีความเรียบเนียนและสม่ำเสมอกันทั้งหมด



เคลียร์ผนังบ้านก่อนทาสีบ้านใหม่

เทคนิคการเคลียร์ผนังบ้านก่อนเริ่มทาสีบ้าน ใหม่มีอะไรบ้างเรามาดูกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ หรือนานที่บ้านต้องเผชิญกับน้ำท่วมขังก็ล้วนส่งผลเสียต่อสีทาอยู่บนผนังบ้านหรือแม้แต่พื้นก็เกิดความเสียหายเช่นกัน การเคลียร์ผนังบ้านให้เรียบร้อยก่อนก็เพื่อให้สีที่ต้องการทาทับลงไปได้เฉดสีที่ต้องการและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

- ปัญหาคราบน้ำ โคลน และรอยเปื้อนต่าง ๆ หลังน้ำท่วม เป็นปัญหาที่พบเจอได้มากที่สุดหลังเกิดน้ำท่วม โดยเราจะต้องทำการฉีดล้างและขัดคราบโคลนต่าง ๆ ออกให้สะอาดเรียบร้อย

- สีผนังบ้านลอกและโป่งพอง ผนังบ้านลอก โป่งพองก็เป็นอีกหนึ่งในปัญหาที่สามารถพบได้บ่อยหลังเกิดน้ำท่วมขัง โดยเราจะต้องทำการขูดลอกสีเก่าให้หมดก่อนที่จะเริ่มทาสีบ้านใหม่

- เชื้อราและตะไคร่น้ำ วิธีทาสีบ้านที่เผชิญกับปัญหาเชื้อราและตะไคร่น้ำเกาะตัวนั้น ก่อนอื่นเราจะต้องทำการกำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำให้เรียบร้อยเสีย ไม่ว่าจะเป็นการฉีดน้ำด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงแล้วทำการขัดทำความสะอาดพื้นผิว รวมถึงการใช้น้ำยาที่ช่วยขจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำโดยตรง

ปัญหาผนังบ้านเกิดคราบต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับน้ำท่วมขัง หลาย ๆ บ้าน อาจต้องเริ่ม ทาสีบ้าน ใหม่เกือบทั้งหมด เพื่อขจัดปัญหาคราบและสิ่งสกปรกนานาชนิด ที่เกาะอยู่ตามผนังบ้าน ซึ่งสิ่งสำคัญในการทาสีบ้านหลังน้ำท่วม คือ ต้องเคลียร์ผนังบ้านให้คลีนก่อนลงสีทาทับ เพื่อให้ได้สีที่มีคุณภาพมากที่สุด และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน