วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างแต่งหน้า
สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์และกำลังจะมองหาช่างแต่งหน้าในงานแต่ง แต่ยังไม่มีเทคนิคและข้อแนะนำในการเลือกช่างแต่งหน้าให้ถูกใจ เราขอแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับเจ้าสาวในการเลือกช่างแต่งหน้าในงานแต่ง เพราะอย่าลืมว่าคนที่มาแปลงโฉมให้คุณกลายเป็นคนสวยที่สุดในวันนั้นคือช่างแต่งหน้าของคุณ จะมีคำแนะนำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้างนั้นมาดูกันค่ะ
1.คุยเรื่องวันเวลาและสถานที่ให้ชัดเจน เริ่มจากการล็อกคิวช่างแต่งหน้าไว้ก่อน สำหรับคู่ไหนที่ได้ฤกษ์แต่งงานแล้วก็ควรหาช่างแต่งหน้าทำผมให้เร็วที่สุด เพราะช่างที่เราต้องการบางคนอาจมีคิวที่ยาวเหยียดเต็มทั้งปี ควรพูดถึงรายละเอียด กำหนดการในพิธี ช่วงเวลาเริ่มงานและสถานที่จัดงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนสำคัญเพราะช่างบางคนอาจคิดbudget ค่าเดินทางด้วย
2.เงินมัดจำ การแต่งหน้าส่วนใหญ่จะมีการเรียกเก็บเงินมัดจำล่วงหน้าก่อนครึ่งหนึ่งของค่าจ้างทั้งหมด โดยราคาของช่างแต่งหน้าในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 5500 บาท แต่หากช่างที่มีประสบการณ์และชื่อเสียงมากก็จะสูงขึ้นไปตามลำดับ ควรจะคุยเรื่องรายละเอียดกับช่างให้ดี ตกลงกันให้ลงตัว จะได้ไม่เกินงบส่วนนี้ที่ตั้งไว้และไม่เกิดปัญหาตามมาทีหลัง
3.ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณให้ช่างแต่งหน้าทราบก่อนถึงวันจริงเช่น การบอกลักษณะของผิวหน้า เครื่องสำอางที่แพ้หรือต้องการแต่งหน้าให้ออกมาได้ลุคประมาณไหน
คำแนะนำในการหาช่างแต่งหน้าเหล่านี้ อาจใช้เป็นตัวช่วยตัดสินในการจ้างช่างแต่งหน้าได้ เพราะช่างแต่งหน้าบางคนก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่สามารถตอบสนองคุณได้ทั้งหมดและคุณเองก็อาจมีความต้องการบางอย่างที่ช่างแต่งหน้าไม่สามารถจะทำให้ได้เช่นกัน
สาวๆหลายคนคงเจอปัญหาเมคอัพไม่ติดทนตลอดทั้งวัน ก่อให้เกิดปัญหาหน้าดรอป หน้าหมองคล้ำระหว่างวันได้ แม้จะแต่งหน้าจัดเต็มแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ ซึ่งบางครั้งคุณภาพของเครื่องสำอางอาจไม่เพียงพอ จะต้องมีการเพิ่มเทคนิค ทริคเล็กๆในการแต่งหน้า เพื่อให้เมคอัพของสาวๆติดทนนานขึ้นอีกด้วย มาดูกันว่าเทคนิคดีๆจะมีอะไรกันบ้างค่ะ
-เริ่มต้นจากการล้างหน้าให้สะอาด หากมีเวลาสัก 5 นาที ก็อาจใช้มาสก์ล้างหน้าชนิดล้างออกพอกไว้สักพัก วิธีนี้จะทำให้การแต่งหน้าเรียบเนียนและทำให้เครื่องสำอางติดทนนานอีกด้วยค่ะ
-ใช้โทนเนอร์ทุกครั้งหลังล้างหน้า เพื่อเป็นการปรับค่าPH รักษาสมดุลให้กับผิว ทำให้ผิวรู้สึกชุ่มชื่น เปร่งปรั่งและยังช่วยกระชับรูขุมขนได้อีกด้วย
-ทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น โดยจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นแบบพอดี ไม่มากจนเกินไปทำให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้น เพราะหากผิวของเราแห้งมากไม่ว่าจะลงรองพื้นหนามากแค่ไหนก็ไม่เกาะผิวหน้า แถมยังทำให้เกิดเป็นคราบไม่เรียบเนียนบนใบหน้าอีกด้วย
-อย่าลืมลงครีมกันแดด ประเทศไทยมีแนวโน้มจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ใบหน้าของเราเกิดความมันได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงกันแดดสูตรที่เพิ่มมอยเจอไรเซอร์หรือกันแดดที่มีความมันอยู่แล้ว เพราะจะทำให้หน้าของเรามันยิ่งขึ้น เครื่องสำอางหลุดได้ง่าย ทางที่ดีควรทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นพอดีไม่มากจนเกินไป
-ใช้ลิปสติกแบบติดทน ใครไม่อยากให้ลิปสติกติดฟันอย่างแรกคือต้องทาลิปมัน จะทำให้ริมฝีปากเรียบเนียนและชุ่มชื่น เมื่อทาลิปเสร็จแล้วให้นำทิชชู่เม้มปากเอาไว้เพื่อกำจัดลิปสติกส่วนเกินออก จากนั้นทาทับอีกครั้งเพื่อให้สีติดแน่นขึ้น นอกจากนี้เวลารับประทานอาหารหากไม่อยากให้สีปากหายก็ต้องอ้าปากกว้างๆหรือต้องทาลิปสติกเติมเมื่อรับประทานอาหารเสร็จ
การแต่งหน้าให้ถูกขั้นตอนเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สาวๆควรให้ความสำคัญ ซึ่งหากพูดถึงการแต่งหน้าแบบมืออาชีพนั้นจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาสวยและดูดี แต่บางคนก็ยังกังวลว่าควรทาอะไรก่อนดี เพราะเครื่องสำอางมีเป็นสิบๆอย่างผสมปนเปไปหมด เราขอจัดเรียงขั้นตอนการแต่งหน้าแบบถูกวิธีมาฝาก รับรองว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆที่กำลังสับสนกับขั้นตอนของการแต่งหน้า ให้ออกมาเหมือนมือโปรกันเลยค่ะ
1.)ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีมอยเจอไรเซอร์เพื่อให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น เพราะหลายคนมีปัญหาเรื่องเครื่องสำอางไม่ติดทนนาน ทั้งนี้เป็นเพราะผิวขาดน้ำนั่นเอง หลังล้างหน้าเสร็จให้ลงครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเองและตามด้วยครีมกันแดดทุกครั้ง
2.)ลงเมคอัพเบสหรือไพรเมอร์ หากอยากให้เครื่องสำอางติดตลอดทั้งวัน จำเป็นต้องปกปิดรูขุมขนและควบคุมความมันบนใบหน้าเพื่อไม่ให้เหงื่อชะล้างเครื่องสำอาง
3.)ลงรองพื้น ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับการแต่งหน้า เพราะหากลงรองพื้นเหมาะกับสภาพผิวของเราและใช้อุปกรณ์ในการลงรองพื้นอย่างถูกวิธีรับรองว่าผิวหน้าจะดูเรียบเนียนเหมาะแก่การแต่งหน้าในขั้นตอนถัดๆไป ไม่ดูหนาและหลอกตา
4.)ใช้คอนซิลเลอร์ลงบริเวณใต้ตาสำหรับคนที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำและสามารถปกปิดบริเวณจุดด่างดำ ซอกจมูก ริมฝีปากสำหรับคนที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ
5.)ลงแป้งทับเพื่อเซตเครื่องสำอางและให้สีไม่เพี้ยน อีกทั้งเป็นการควบคุมความมันให้หน้าไม่เยิ้มระหว่างวันอีกด้วย ซึ่งหากใครที่ต้องการผิวเนียนใสก็ใช้แค่แป้งฝุ่นปัดเบาๆไม่ต้องใช้พัฟ
6.)เก็บรายละเอียดของใบหน้า ทั้งการทาคิ้วโดยไล่สีจากหางคิ้วไปหัวคิ้ว ทาตาด้วยอายเชโดว์โดยไล่จากเข้มไปอ่อน ปัดบลัชออนบริเวณกลางแก้มไม่ให้เข้มเกินไปและจบด้วยการทาลิปสติก
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง