ช่างแอร์ ใน ไทรน้อย, นนทบุรี

อายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศจะอยู่ที่ 8-12 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลของเรา การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องปรับอากาศ ปัญหาที่มักพบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศ ได้แก่
1.แอร์ตัดบ่อย การที่แอร์ตัดบ่อยนั้นเป็นเพราะคอมเพรสเซอร์แอร์ตัดระบบทำงานเร็วเกินกว่าที่ควร บางครั้งห้องยังไม่ทันเย็นก็ตัดเสียแล้ว การเลือกแอร์ให้เหมาะกับขนาดห้องนั้นก็สำคัญเช่นกัน การที่คอมเพรสเซอร์ตัดระบบทำงานเร็วเกินไปนั้นอาจมีสาเหตุมาจากคอมเพรสเซอร์แอร์ร้อนเกินไปจนระบบสั่งหยุดทำงาน หรืออาจเป็นเพราะสาเหตุอื่น ๆ เช่น ระบบแอร์ภายในตัน ไม่เคยล้างแอร์ เป็นต้น
2 แอร์มีแต่ลมออกมาไม่เย็น เป็นปัญหาที่พบบ่อยมาก ๆ ทั้งในแอร์เครื่องเก่าและใหม่ เกิดจากหลายสาเหตุด้วยไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งที่ไม่ถูกวิธี การไม่ได้ล้างแอร์เป็นเวลานานทำให้มีฝุ่นเกาะเป็นจำนวนมาก หรืออาจเป็นเพราะน้ำยาแอร์รั่วซึมก็ได้
3 แอร์มีน้ำหยด สาเหตุหลัก ๆ มาจากแอร์นั้นสกปรกหรือท่อน้ำทิ้งตันจนน้ำไม่สามารถระบายออกได้จึงทำให้มีน้ำหยดออกมา และยังมีสาเหตุการเกิดนอกจากนี้อีก เช่น องศาการเอียงเครื่องไม่เพียงพอถ้าหากท่อแอร์อยู่ฝั่งขวาควรติดตั้งแอร์ให้เอียงไปทางฝั่งขวาเล็กน้อย หรือน้ำแข็งเกิดการจับตัวกันที่แผงฟินคอยล์ สาเหตุมาจากมีฝุ่นเกาะหนาจนทำให้น้ำไหลลงไม่ตรงรางน้ำจึงทำให้ฝุ่นเกาะกันเป็นน้ำแข็ง
4 แอร์เสียงดัง สาเหตุที่ทำให้เกิดนั้นมีหลายอย่างดังต่อไปนี้
- แกนใบพัดแตกร้าว
- ใบพัดเสียศูนย์
- ตลับลูกปืนเสื่อม
- น้ำยาแอร์มากหรือน้อยเกินไป

การล้างแอร์นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุก ๆ บ้านที่มีแอร์บวกกับสภาพอากาศของประเทศไทยที่ร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อนทำให้มีการใช้แอร์อย่างหนักแทบตลอดทั้งวัน การล้างแอร์จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เครื่องปรับอากาศมีอายุการใช้งานยาวนานยิ่งขึ้น การล้างแอร์นั้นยังมีประโยชน์อีกมากมาย ดังต่อไปนี้
1.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอร์ การล้างแอร์จะช่วยให้แอร์ทำงานได้สะดวกขึ้นและยังส่งผลต่อความเย็นของแอร์อีกด้วย แอร์ที่ล้างแล้วนั้นจะเย็นขึ้นมากกว่าแอร์ที่ไม่ได้ล้าง
2.ประหยัดค่าไฟ การล้างแอร์นั้นนอกจากจะช่วยให้แอร์เย็นขึ้นแล้วยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย เพราะหลังจากการล้างแอร์จะทำให้ฝุ่นที่เกาะอยู่หายไปทำให้อากาศผ่านได้สะดวกมากขึ้น
3.ป้องกันกลิ่นอับชื้น และ การเกิดเชื้อรา หากเราไม่ได้ล้างแอร์เป็นเวลานานจะส่งผลให้ละอองฝุ่นที่สะสมอยู่ในแอร์นั้นเป็นแหล่งแพร่กระจายฝุ่น การสะสมของเชื้อโรคแบคทีเรียที่จะเข้าไปเจริญเติบโตภายในฝุ่นที่เกาะอยู่บนแผงคอยล์เย็นของแอร์ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ใช้งานเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจได้
4.ยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ เพราะการล้างแอร์นั้นจะช่วยให้ตัวเครื่องไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป

น้ำยาแอร์ หรือที่เราอีกอย่างคือสารทำความเย็น เป็นสารเคมีที่ใช้ในระบบปรับอากาศ และระบบทำความเย็น เมื่อไหลผ่านคอมเพรสเซอร์และคอยล์เย็น น้ำยาแอร์จะช่วยดูดซับความร้อนเพื่อเปลี่ยนอุณหภูมิให้ลดลงและจะถ่ายเทความร้อนผ่านคอนเดนเซอร์
น้ำยาแอร์ที่นิยมใช้ในประเทศไทยมี 3 ชนิด ได้แก่
1.น้ำยาแอร์ชนิด R22 สารทำความเย็นชนิดนิยมนำมาใช้ในบ้านเรือนทั่วไป ข้อดีคือถูกว่าน้ำยาแอร์ชนิดอื่น ๆ แต่ข้อเสียคือ ทำลายชั้นโอโซน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกซึ่งเป็นข้อเสียที่ส่งผลร้ายแรง
2.น้ำยาแอร์ชนิด R32 สารทำความเย็นชนิดนี้ถูกพัฒนามาเพื่อใช้แทนสารทำความเย็นชนิด R22 ข้อดีคือ ค่า ODP นั้นมีความต่ำกว่าสารทำความเย็นชนิดที่หนึ่ง ทำให้ไม่ทำลายชั้นโอโซน ถึงแม้ว่าจะไม่ทำลายชั้นโอโซนแต่ก็ยังส่งผลต่อภาวะเรือนกระจก และมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าสารทำความเย็นชนิดแรกที่กล่าวมา
3.น้ำยาแอร์ชนิด R410A เป็นสารทำความเย็นชนิดล่าสุด ผลิตขึ้นเพื่อช่วยในการประหยัดพลังงาน ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก เป็นสารทำความเย็นที่ประหยัดพลังงานมากที่สุด และมีราคาถูกกว่าสารทำความเย็นชนิด R32 อีกด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในการดูแลเครื่องปรับอากาศของเรานั้นก็คือ น้ำยาล้างแอร์ นั้นเองค่ะซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.น้ำยาล้างคอยล์ เป็นน้ำยาที่มีความสามารถในการกัดกร่อนคราบได้อย่างดี แต่เพราะน้ำยาล้างคอยล์นั้นเต็มไปด้วยสารกัดกร่อน หากใช่บ่อยเกินไปอาจทำให้น้ำยานั้นกัดกร่อนส่วนต่าง ๆ ของคอยล์เย็นได้ ถูกใช้งานโดยช่างแอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นหลัก
2.น้ำยาล้างแอร์ชนิดโฟม น้ำยาชนิดนี้สามารถหาซื้อได้ง่ายเหมาะสำหรับคนที่ต้องการล้างแอร์ด้วยตนเอง สามารถใช้งานได้ง่ายแต่จะไม่สะอาดหมดจดเท่ากับการจ้างช่างแอร์มาล้าง