ดูแลผู้สูงอายุ ใน ชลบุรี

ดูแลผู้สูงอายุ ใน ชลบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ ใน ชลบุรี:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
ธนภรณ์  เพ็ญสกุล
ธนภรณ์ เพ็ญสกุล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เอาใจใส่และเคารพผู้ป่วย ซื่อสัตย์และจริงใจต่อนายจ้าง แต่ไม่ชอบความวุ่นวายนะคะ เคยดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ป้อนอาหาร ให้ยา เข็ดตัว เปลี่ยนแพมเพิส และดูแลทำความสะอาดที่ดูแลผู้ป่วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
4 ปีที่แล้ว
พ่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมเลยหาคนดูแลจากเว็บไซต์ของใส่ใจ ขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากครับ และทางผู้ดูแลที่ทางใส่ใจส่งมา บริการได้น่าประทับใจมากครับ นอกจากจะใส่ใจคอยดูแลคุณพ่อผมแล้วยังคอยพูดคุยรับฟังเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ตอนนี้ผมจ้างพี่เค้าดูแลตลอดจนกว่าพ่อจะหายเลยครับ
Saijai
อนันต์ บุญเกิด
4 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
4 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
คุณสมบัติของผู้ดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
1. สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเลยคือ คุณสมบัติทางด้านอารมณ์ความรู้สึก (moral attitude and belief) คือความพึงพอใจ ความศรัทธา เลื่อมใสที่จะใช้จริยธรรมมาเป็นแนวปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ
2. การฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ และมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุให้ถูกวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
3. อุปนิสัย ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีใจรักในงานบริการ มีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความจริงใจ มีความรัก ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ ปรารถนาดีต่อผู้สูงอายุ เข้าใจและรับฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุให้มีความสุข
4. รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำและเข้าใจในเหตุผลของความถูกต้องดีงาม (moral reasoning)
5. อายุที่เหมาะสม หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของช่วงอายุไป แต่ต้องเข้าใจว่าช่วงอายุมีผลต่อวุฒิภาวะ ถ้าเด็กมากเกินไปก็อาจจะมีความอดทนที่ต่ำเพราะประสบการณ์การในชีวิตยังน้อย หรือถ้าอายุมากเกินไปก็ทำให้ความคล่องตัวในการดูแลผู้สูงวัยอาจจะมีน้อยลง
6. ประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบ่งบอกว่าคนคนนั้นเคยผ่านงานดูแลผู้สูงวัยมาก่อน ทำให้เข้าใจเนื้องานได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจรายละเอียดของการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องมีใจรักในงานเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนและใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถดูแลได้ถูกวิธีและถูกใจกันทุกฝ่ายอีกด้วย
7. เป็นผู้ประสานงานและเชื่อมโยงระหว่างบุตรหลานและญาติมิตรกับผู้สูงอายุ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้สูงอายุแล้ว ผู้ดูแลต้องสามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลที่จะช่วยให้ทำงานได้ดีและเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

จังหวัดชลบุรี

ชลบุรี 1 จังหวัดในประเทศไทยที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออก ซึ่งที่นี่เป็นที่รู้จักของคนไทยและต่างชาติ จาก พัทยา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมนั่นเอง นอกจากด้านการท่องเที่ยวแล้ว ชลบุรี ยังเป็นจังหวัดที่เป็นเขตอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน หรือ บริษัทต่างๆ ที่เข้ามาลงทุนที่นี่ ในปัจจุบัน ชลบุรี เป็นที่ตั้งของท่าเรือที่มีความสำคัญอีกด้วย เพราะอาณาเขตของจังหวัดนี้ ติดกับหลายจังหวัดที่สามารถติดต่อกับอ่าวไทยได้ ได้แก่ จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี และ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งในปี พ.ศ. 2562 ประชากรของ จังหวัดชลบุรี มีจำนวนมากกว่า 1.5 ล้านคน

ความเป็นมาของ จังหวัดชลบุรี ตามข้อมูลกล่าวไว้ว่า จังหวัดชลบุรี มีมนุษย์มาอาศัยอยู่ตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ เพราะเคยมีการขุดพบร่องรอยของชุมชนโบราณที่ลุ่มแม่น้ำพานทอง ซึ่งถือเป็นร่องรอยของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์นั่นเอง จึงมีการสันนิษฐานว่า สมัยก่อน จังหวัดชลบุรี มีเมืองที่รุ่งเรืองทั้งหมด 3 เมือง ได้แก่ เมืองพญาแร่ เมืองศรีพโล และ เมืองพระรถ โดยมีการขุดค้นพบของโบราณที่มีคุณค่าและวิจิตรงดงามจากที่นี่อย่างมากมาย ตัวอย่างเช่น เครื่องประดับ เพชรนิลจินดา เครื่องปั้นดินเผาที่มีลวดลายพิเศษ หรือแม้กระทั่งของใช้ เช่น ขวานหินขัด จากหลักฐานที่ขุดพบจึงเป็นหลักฐานสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้ทราบว่า จังหวัดชลบุรี มีความเป็นมาที่ยาวนานมาก

อาณาเขตของจังหวัดชลบุรี

- ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยอง

- ทิศตะวันตก ติดกับอ่าวไทย

- ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดฉะเชิงเทรา

- ทิศใต้ ติดกับจังหวัดระยอง



หาดบางแสน ทะเลใกล้ ๆ กรุงเทพ

หาดบางแสน ตั้งอยู่ในตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นหาดทรายริมทะเลของอ่าวไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักและนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนไทย เพราะหาดนี้อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ มากนัก คนกรุงเทพสามารถมาท่องเที่ยวที่นี่ได้ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดสั้น ๆ แค่ 1-2 คืน ด้วยการเดินทางทางรถยนต์ที่ใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่าๆ ด้วยระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ก็จะมาถึงหาดบางแสน ความยาวของ หาดบางแสน ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันชายหาดบางแสนมีการปรับภูมิทัศน์ใหม่ให้ร่มรื่นและสวยงาม ชายหาดสะอาดตามากขึ้น มีการจัดระเบียบร้านค้าต่าง ๆ มีสถานที่เช็คอินสวย ๆ ร้านกาแฟ คาเฟ่ ทำให้ที่นี่น่ามาเที่ยวมากยิ่งขึ้นไปอีก

บรรยากาศของ หาดบางแสน จะเป็นชายหาดกว้างและยาวไปสุดลูกหูลูกตา ส่วนมากจะมีเก้าอี้ผ้าใบและร่มตั้งริมชายหาด ทะเลที่นี่สามารถลงเล่นน้ำได้ คลื่นไม่ได้แรงมาก กิจกรรมส่วนใหญ่ที่ผู้คนนิยมกันเมื่อมาที่นี่ได้แก่ ว่ายน้ำ อาบแดด ขี่เจ็ทสกี ขี่บานานาโบ้ท เล่นว่าว นอกจากนี้ในบริเวณหาดจะมีอาหารทะเล ส้มตำ ไก่ย่าง ทั้งตามร้านอาหารและรถเข็นที่มาตั้งขายริมชายหาด

ปัจจุบันนอกจากหาดบางแสนแล้ว ยังมีอีกหาดซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก หาดบางแสน นั่นก็คือ หาดวอนนภา โดยจะเน้นชายหาดที่สะอาด ไร้พ่อค้าแม่ค้าหรือเตียงผ้าใบ ทำให้จุดนี้เป็นจุดที่มีความเป็นธรรมชาติเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า ถ้ามาหาดบางแสนแล้ว แวะมาที่นี่ด้วยก็จะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง



การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านควรทำอย่างไร

ในปัจจุบันหลาย ๆ ครอบครัวนิยมมีลูกคนเดียว จำนวนประชากรเด็กมีอัตราลดลง สวนทางกับประชากรผู้สูงอายุหรือวัยทำงานที่กำลังจะเข้าสู่วัยผู้สูงอายุกลับเพิ่มมากขึ้น ด้วยความเจริญในทางการแพทย์และเทคโนโลยีทำให้ผู้สูงอายุมีอายุยืนขึ้น ดังนั้นการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านก็มีความสำคัญที่จะทำให้ผู้สูงอายุของเรามีชีวิตที่ยืนยาว คุณภาพชีวิตดีและมีความสุขกับคนในครอบครัวด้วย การดูแลผู้สูงอายุขั้นพื้นฐานที่คนในครอบครัวสามารถทำได้ ได้แก่

1. ความรักความอบอุ่น สมาชิกในครอบครัวควรทำกิจกรรมร่วมกันกับ ผู้สูงอายุ อย่าปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่อย่างโดดเดี่ยว หากลูกหลานไม่ได้อาศัยอยู่บ้านเดียวกับ ผู้สูงอายุ ก็ควรหมั่นมาเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุอย่างสม่ำเสมอ เทคโนโลยีการสื่อสารออนไลน์ทำให้การติดต่อกับผู้สูงอายุทำได้ง่ายมากขึ้น หมั่นโทรหา หรือวิดีโอคอลหาเพื่อพูดคุยกับผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ได้แค่ช่วยคลายเหงาได้ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวได้อีกด้วย และควรรับฟังสิ่งต่าง ๆ ที่ ผู้สูงอายุ ต้องการระบายซึ่งจะทำให้ ผู้สูงอายุ ไม่รู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียว

2 บ้านที่พักอาศัย บ้านที่ ผู้สูงอายุ อยู่อาศัยควรมีลักษณะเป็นมิตรกับผู้สูงอายุ ตัวอย่างเช่น ในห้องน้ำมีราวเกาะหรือเก้าอี้สำหรับนั่งอาบน้ำ รวมทั้งพื้นห้องน้ำ เป็นพื้นที่ไม่ลื่นง่าย และควรหมั่นทำความสะอาดไม่ให้พื้นมีตะไคร่น้ำ ที่อาจจะเป็นปัจจัยทำให้ผู้สูงอายุลื่นล้มและเกิดอุบัติเหตุได้ รวมทั้งพื้นหรือทางเดินทั่วไปในบ้านไม่ควรมีพื้นต่างระดับมากเกินไป เพราะเสี่ยงกับการใช้ชีวิตประจำวันของ ผู้สูงอายุ ด้วยเช่นกัน

3 ดูแลเรื่องยาที่ต้องรับประทานและการพบแพทย์ ผู้สูงอายุ ส่วนมากต้องมียาที่รับประทานเป็นประจำ หรือต้องมีนัดเพื่อไปพบแพทย์ การที่ลูกหลานช่วยดูแลในเรื่องนี้ก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะ ผู้สูงอายุ บางครั้งการมองเห็นอาจจะไม่ชัดเจนเหมือนปกติ เสี่ยงต่อการหยิบยาผิดไปรับประทาน รวมทั้งก็ดูแลไปพบแพทย์ตามเวลาที่กำหนดก็มีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายของ ผู้สูงอายุ ในระยะยาวเป็นอย่างมาก