ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน คลองสามวา, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน คลองสามวา, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยดูแลเค้าที่บ้าน เจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและสามารถสอบถามราคาได้อย่างชัดเจน ก่อนที่เราจะตัดสินใจจ้าง แถมราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เยี่ยมไปเลยค่ะ
Saijai
ปัทมา เลิศชนะ
3 ปีที่แล้ว
หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
ชอบมากเลย บริการคือดีมาก ดูแลน้องหมาเราดี ปลื้มสุด
Saijai
อรอนงค์ วาร์ด
3 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เลือกใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะว่าไม่มีเวลาดูแลน้องหมาน้องแมวที่บ้านเลยจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาดูแลแทนเวลาเราไม่อยู่ อยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่ราคาไม่สูง ผู้ให้บริการบนเว็บไซต์ใส่ใจเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
Saijai
มัจฉา รุ่งอนันต์
3 ปีที่แล้ว
โชคดีที่ได้มาเจอเว็บไซต์ของใส่ใจเพราะมีบริการคนดูแลสัตว์เลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ประทับใจมาก ๆ ครับ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีบริการฝึกสอนสัตว์เลี้ยง อาบน้ำตัดขน อีกทั้งยังมีบริการสัตว์แพทย์นอกสถานที่ บอกได้เลยว่าครบวงจรจริง ๆ
Saijai
ศราวุติ ชัยเกตุ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
คุณสมบัติของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาคนช่วยดูแลบรรดาสัตว์เลี้ยงแสนรักที่บ้านในยามที่คุณไม่มีเวลา สิ่งเหล่านี้คือลักษณะและคุณสมบัติสำคัญของผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. มีใจรักงานบริการด้านนี้ และมีความรักที่แท้จริงต่อบรรดาสัตว์เลี้ยง ไม่รังเกียจที่จะต้องเก็บกวาดกรงหรือทำความสะอาดบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่ บางครั้งเจ้าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้อาจเล่นซนจนทำให้บ้านสกปรก ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงจะต้องทำความเข้าใจและหาทางแก้ไข โดยไม่แสดงอารมณ์หงุดหงิดต่อสัตว์เลี้ยงเหล่านั้น
2. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เนื่องจากบรรดาสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลอย่างเสมอต้นเสมอปลาย พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องบริหารเวลาในการดูแลอย่างมืออาชีพ เช่น เวลาให้อาหาร อาบน้ำ ออกกำลังกาย ฯลฯ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขอนามัยและสภาพจิตใจที่ดี
3. มีความรู้ในเรื่องของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมีวิธีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไป เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสุนัขและแมว สุนัขค่อนข้างเป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่กับผู้คน จึงสามารถพาออกไปเดินเล่นในที่สาธารณะได้ กลับกันแมวค่อนข้างเป็นสัตว์ที่รักสันโดษ หากเจอผู้คนมาก ๆ อาจทำให้ตื่นคนและอาจส่งผลให้เกิดความเครียดตามมา ดังนั้นพี่เลี้ยงสัตว์ที่ดีจำเป็นต้องรู้ว่าสัตว์ชนิดไหนเหมาะกับการเลี้ยงแบบใด
4. มีประสบการณ์ในการดูแลสัตว์เลี้ยง การอยู่กับสัตว์เหล่านี้มาเป็นเวลานานจะทำให้เกิดความเคยชิน และสามารถรับมือกับสถานการณ์คับขันได้เป็นอย่างดี เช่น ยามสัตว์เลี้ยงป่วยและจำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ผู้ดูแลที่มีความรู้ในการปฐมพยาบาลสัตว์สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้

คุณสมบัติทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมานั้นนับว่าเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีเลยก็ว่าได้ อย่าลังเลที่จะเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในทันที เพื่อความสบายใจของคุณ ลำพัง
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ก่อนจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผู้ว่าจ้างจะต้องทำข้อตกลงดังนี้?
ทุกคนที่มีสัตว์เลี้ยงย่อมเข้าใจถึงความห่วงใยเมื่อเราต้องอยู่ห่างไกลจากสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว ดังนั้น การเลือกพี่เลี้ยงสัตว์มาอยู่ที่บ้านจึงมีเงื่อนไขและข้อตกลงที่ต้องพูดคุยกันก่อนการจ้างงานดังนี้

• ค่าตอบแทนหรือค่าจ้าง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
• ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะมีตารางการทำงานที่ไม่แน่นอนทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่านายจ้างมีธุระหรือต้องการใช้บริการในตอนไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ดูแลสัตว์ขั้นพื้นฐานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การให้อาหารและน้ำ หรือขนมต่าง ๆ
• หากเป็นสัตว์ เช่น สุนัข หรือแมว พี่เลี้ยงต้องรู้จักการเช็ดตัว แปรงขน และแปรงฟันให้ได้
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปทำกิจกรรม หรือเดินออกกำลังกายได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องสนุกกับการใช้เวลาร่วมกับสัตว์และต้องรู้จักวิธีการทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เครียดเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเจ้าของ
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักวิธีทำความสะอาดเมื่อสัตว์เลี้ยงมีการขับถ่าย
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักรักษาความสะอาดของเล่น ที่นอน หรือบริเวณที่สัตว์อยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสามารถช่วยให้ยาสัตว์เลี้ยงได้ หากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วยหรือมีโรคประจำตัว
• หากมีเหตุฉุกเฉินที่สัตว์เลี้ยงป่วยกะทันหัน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถดูแลและพาไปพบแพทย์ได้ทันที
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อนและสามารถตรวจสอบประวัติก่อนทำการว่าจ้างได้

เดินทางมาเขตคลองสามวาไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ปัจจุบัน “เขตคลองสามวา” มีพื้นที่ทั้งสิ้น 110.686 ตารางกิโลเมตร นับเป็นเขตที่มีพื้นที่มากติดอันดับ 1 ใน 4 จากห้าสิบเขตของกรุงเทพมหานคร และมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 2 รองจากเขตสายไหม โดยมีพื้นที่อาณาเขตข้างเคียง ทิศเหนือติดต่อกับอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ทิศตะวันออกติดต่อกับเขตหนองจอก ทิศใต้ติดต่อกับเขตมีนบุรี ทิศตะวันตกติดต่อกับเขตคันนายาว เขตบางเขน และเขตสายไหม มีการแบ่งการปกครองย่อยออกเป็น 5 แขวง ดังนี้ แขวงสามวาตะวันตก แขวงสามวาตะวันออก แขวงบางชัน แขวงทรายกองดิน และแขวงทรายกองดินใต้ โดยประชากรนิยมอาศัยอยู่สูงมากในแขวงบางชัน และแขวงสามวาตะวันตก ตามลำดับ อดีตมีการใช้คลองเป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง แต่ปัจจุบันมีถนนสร้างเพิ่มขึ้นใหม่ลายสายเพื่อเชื่อมการเดินทางในเขตข้างเคียง โดยมีถนนสายหลักมีดังนี้ ถนนกาญจนาภิเษก ,ถนนนิมิตใหม่, ถนนหทัยราษฎร์, ถนนพระยาสุเรนทร์ (รามอินทรา 109) ,ถนนคู้บอน, ถนนเลียบคลองสอง , ถนนปัญญาอินทรา, ถนนไมตรีจิต, ถนนประชาร่วมใจ และทางพิเศษฉลองรัช ทำให้การเดินทางสะดวกสบายกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก

สำหรับการเดินทางไปเขตคลองสามวา นอกจากการใช้รถยนต์ส่วนตัวแล้ว ยังมีการเดินทางด้วยรถบัสสาธารณะสาย 197 ซึ่งจะเริ่มให้บริการเวลา 5:00 น. ของทุก ๆ วัน และสามารถเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าโดยสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้เขตนี้มากที่สุดคือ สถานีเลียบคลองสอง 11, ตรงข้ามเขตคลองสามวา อีกทั้งยังมีเส้นทางตัวเลือกใหม่เกิดขึ้นคือ โครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู เส้นทางแคราย-ปากเกร็ด-คลองสามวา ที่กำลังก่อนสร้างอยู่และคาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นโครงการที่อาจนำมาสู่การพัฒนา เปลี่ยนแปลงพื้นที่ในบริเวณใกล้รถไฟฟ้าในเขตพื้นที่นี้เป็นคอนโดที่พักอาศัย และสถานที่อำนวยความสะดวกสบายต่าง ๆ ขึ้น นั้นหมายถึงมูลค่าที่ดินในย่านนี้ต้องมีราคาที่สูงขึ้นด้วยอย่างแน่นอน นับเป็นเขตชานเมืองที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างยิ่ง ที่ต้องการหาพื้นที่ทำเลรอบนอกเขตกรุงเทพฯ เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่ต้องการความสงบ หลีกหนีความวุ่นวายจากสังคมเมือง ที่มีการเดินทางสะดวกสบาย มีตัวเลือกการเดินทางที่เชื่อมถึงกรุงเทพเขตภายใน



คลองสามวา เมืองแห่งความหลากหลายเชื้อชาติ

เขตคลองสามวา เป็นเขตพื้นที่ที่ตั้งอยู่ทางชานเมืองบนฝั่งพระนครค่อนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดกรุงเทพมหานคร นับเป็นเขตชานเมืองที่มีวิถีชีวิตของผู้คนอาศัยอยู่หลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา ทั้งศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม นอกจากนั้นยังมีกลุ่มชุมชนชาวมอญที่มีการอพยพมาตั้งถิ่นฐานในเขตชานเมืองกรุงตั้งแต่สมัยอยุธยา รวมไปถึงเขตพื้นที่นี้ด้วย โดยสังเกตได้จากสิ่งก่อสร้างอันเป็นสถานที่สำคัญและเป็นที่เคารพของแต่ละศาสนา ที่มีมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันอันประกอบไปด้วยวัดและมัสยิดไว้เป็นหลักฐานให้คนรุ่นหลังได้ใช้ทำพิธีกรรมสืบทอดกันมา เช่น วัดแป้นทองโสภาราม, วัดพระยาสุเรนทร์, วัดลำกระดาน, มัสยิดมาลุลอิสลาม, มัสยิดดารุ๊ลอีบาด๊ะห์ (สามวา) , สุเหร่าคลองสี่, สุเหร่าคลองหนึ่ง, สุเหร่าสาวา, สุเหร่าแสนแสบ เป็นต้น ซึ่งมีการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบ และมีสันติ

โดยที่มาของชื่อเขตนั้นมาจาก การให้ขุดคลองเชื่อมระหว่างคลองหกวากับคลองแสนแสบ โดยตัวคลอง ลึก 6 ศอก กว้าง 3 วา ปากคลองฝั่งเหนืออยู่ในพื้นที่ของอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ผ่านเขตคลองสามวา และไปรวมกับคลองแสนแสบที่เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ทำให้ชาวบ้านในบริเวณนี้มีความสัมพันธ์กับคลองมายาวนาน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ริมคลองเพราะในเขตพื้นที่นี้มีคลองจำนวนมากที่ใช้เป็นเส้นแบ่งเขตและเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยในการดำรงชีวิต เช่น คลองบางชัน คลองคู้บอน คลองคู้ชุมเห็ด คลองพระยาสุเรนทร์ (หนองใหญ่) คลองเก้า คลองแบนชะโด คลองลัดตาเตี้ย คลองแสนแสบ คลองลำบึงไผ่ คลองสามวา ลำรางสามวา คลองเจ๊ก ลำรางโต๊ะสุข ลำรางคูคต โดยใช้คลองแสนแสบและคลองบางชัน เป็นทางเลือกในการเดินทางน้ำตั้งแต่ในอดีตจวบจนถึงทุกวันนี้



เขตคลองสามวา มีความสัมพันธ์กับชาวมอญอย่างไร

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าเขตพื้นที่คลองสามวา มีวัฒนธรรมหลากหลายในด้านเชื้อชาติ ที่สืบทอดกันมายาวนาน หนึ่งในเชื้อชาติที่ยังคงเอกลักษณ์ทั้งทางด้านการแต่งกาย ประเพณีพิธีกรรรม วัฒนธรรมต่าง ๆ นั้นคือ คนไทยเชื้อสายมอญ ซึ่งในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ชาวมอญที่อาศัยอยู่ในอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางไปมา กับเขตคลองสามวา เพื่อทำนาเป็นอาชีพหลัก โดยใช้คลองแสนแสบในการเดินทาง มีการสร้างบ้านเรือนอยู่ริมสองฝั่งคลองสามตะวันตก และ คลองสี่ตะวันตก เมื่อหมดฤดูทำนาจะนำทรัพย์สินกลับบ้านไปที่พระประแดง เพื่อไปร่วมเทศกาลสงกรานต์ และกลับมาในฤดูทำนาใหม่ จะกระทั่งตั้งถิ่นฐานเป็นหลักแหล่งในพื้นที่คลองสามวาในที่สุด โดยพื้นที่บริเวณใกล้วัด วัดแป้นทองโสภาราม เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวมอญจำนวนมาก วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างมาเกือบร้อยปี และจัดเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเขตคลองสามวา ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 18 ซอยหทัยราษฎร์ 39 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เป็นวัดราษฎร์ ของนิกาย มหานิกาย ถูกสร้างโดยนางแป้นและนายทอง ทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาที่เลื่อมใส ศรัทธาในศาสนาพุทธ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้ชาวมอญในเขตคลองสามวา นิยมเรียกตนเองว่า “รามัญวัดแป้นทอง” โดยชาวรามัญวัดแป้นทองรุ่นใหม่ใช้ภาษาไทยเหมือนคนไทย แต่คนเก่าแก่ที่มีอายุยังคงใช้ภาษารามัญ อีกทั้งยังมีหน้าตาคล้ายคนไทย ทำให้กลืนเป็นคนไทยแบบแยกออกได้ยากขึ้นทุกวัน แต่ทางราชการยังคงให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ ประเพณี ภาษาของชาวรามัญให้สืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน ทำให้การทำพิธีในเทศกาลสงกรานต์ยังคงมีการท่อง สวดแบบภาษารามัญจากคนรุ่นหลังอยู่ นอกจากนั้นชาวรามัญวัดแป้นทองยังมีส่วนร่วมในการบริจาคที่ดินเพื่อสร้าง โรงเรียนวัดแป้นท้อง อีกด้วย