ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน คันนายาว, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน คันนายาว, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 24 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
4 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
4 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
ข้อสังเกตุว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจจะมีอาการป่วย
หลาย ๆ คนที่เคยมีสัตว์เลี้ยงย่อมเคยผ่านเหตุการณ์ที่สัตว์เลี้ยงป่วย การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามแม้อาจจะเป็นเพียงความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็ก ๆ น้อย เพราะหลายครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว

วันนี้เรามีวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรมองข้ามมาแชร์ให้ทราบกันค่ะ

1 สัตว์เลี้ยงมีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริง นอนมากกว่าปกติ ไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่อ้อนเหมือนเคย
2 พฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้ง ๆ ที่ปกติกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น อากาศร้อนเกินไป เปลี่ยนอาหารใหม่ ที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงกินน้อยลง
3 พบความผิดปกติ หรืออาการอื่นๆ เช่น มีขี้ตาเยอะ อาเจียน ตาแดง มีน้ำมูก มีกลิ่นตัวแรง เดินผิดปกติ ถ่ายเหลว
4 กินน้ำมากกว่าปกติ ก็เป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเราป่วยได้เช่นกัน
5 สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการ นอนไม่หลับ ตาเหล่ ตาเอียง ไม่มีแรงเดิน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางระบบประสาทในสัตว์เลี้ยง
6 สัตว์เลี้ยงเดินวนไปวนมาในเวลากลางคืน เป็นอาการที่พบบ่อยว่าเกิดจากโรคสมองเสื่อมในสัตว์วัยชรา หรืออาจจะบ่งชี้ได้ว่ามีโรคทางสมองอยู่ จนทำให้วงจรการหลับมีปัญหา นอกจากนี้โรคเบาหวาน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึกก็เป็นได้
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

คันนายาว ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร

คันนายาว สมัยก่อนในเขตนี้เป็นพื้นที่นาจำนวนมาก ในการทำนาจะมีการปั้นคันนาขึ้นมาหรือแบ่งนาเป็นแหล่ง ๆ โดยจะยกสูงขึ้นจากพื้นนาเรียกว่า "คันนา" ซึ่งชาวนายังใช้เป็นถนนสำหรับเดินทางเข้าออกท้องนาอีกด้วย และในบรรดานาทั้งหมดนั้น มีที่นาอยู่ผืนหนึ่งที่มีอาณาเขตยาวมาก ๆ โดยมีพื้นที่ตั้งแต่บริเวณท้ายหมู่บ้านสุเหร่าแดง หรือบริเวณถนนเสรีไทยในปัจจุบัน ยาวไปจนถึงปลายคันนา ซึ่งแต่ก่อนเรียกบริเวณนั้นว่า โรงแดง เพราะเป็นที่ตั้งของบ้านหลังหนึ่ง มุงหลังคาสังกะสีที่เป็นสนิมมองเห็นเป็นสีแดงมาแต่ไกล ปัจจุบันบริเวณนี้คือถนนรามอินทรา เรียกได้ว่าเป็นนาที่มีคันนาที่ยาวที่สุด จึงเป็นที่มาของชื่อ >คันนายาว ในปัจจุบัน

วิถีชีวิตของชาวคันนายาวถ้าจะเดาจากชื่อ อาชีพดั้งเดิมของคนที่นี่คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากการทำนา สมัยที่มีการทำนากันมากในช่วงเวลาที่ข้าวเริ่มตั้งท้อง ชาวบ้านจะนำอาหารใส่ชะลอมไปประกอบพิธีทำขวัญข้าวขอขมาพระแม่โพสพ โดยแม่หมอเป็นผู้สวดขอขมา ชาวบ้านจะเกี่ยวข้าวบางส่วนมาทำขนมข้าวกระยาคู โดยนำเอาเมล็ดข้าวที่มีน้ำนมอยู่มาโขลกแล้วกรองเอาแต่น้ำ นำน้ำไปต้มกับน้ำตาลได้รสชาติหอมหวานอร่อยและขนมข้าวเม่าใส่กระทงใบตองขนาดใหญ่มาถวาย เพื่อเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวนาที่รอผลผลิตจากที่ได้ลงแรงไป



ลักษณะนิสัยระหว่างหมาและแมว แตกต่างกันอย่างไร

ปกติสัตว์เลี้ยงที่ใกล้ชิดกับคนมากจนสามารถอยู่ร่วมบ้าน ร่วมเตียงกับมนุษย์ได้ คือ สุนัขและแมว ทั้งที่สัตว์ทั้งสองชนิดมีนิสัยและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ผู้เลี้ยงสามารถคาดหวังการตอบสนองที่แตกต่างกันจากการเลี้ยงสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ได้ ความแตกต่างระหว่างสุนัขและแมวอาจจะมีให้พิจารณาอยู่ในอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้ประโยชน์ อย่างการเลี้ยงแมว แมวสามารถใช้ประโยชน์ในการกำจัดหนู นก แมลง หรือสัตว์เล็ก ๆ ที่ล่วงล้ำเข้ามาอยู่ในบ้าน ในขณะเดียวกันสุนัขสามารถทำหน้าที่ได้มากมายขึ้นกับสายพันธุ์ เช่น การเฝ้าบ้าน การล่าสัตว์ การป้องกันภัยอันตรายจากการถูกทำร้ายโดยมนุษย์ หรือสัตว์ร้ายอื่นๆ เช่น งู ตะขาบ

โดยการให้อิสระของสัตว์ 2 ชนิดนี้ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ลักษณะของแมวนั้นเป็นสัตว์ที่มีความรักอิสระแม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงก็ตาม แมวจะมีลักษณะนิสัยของสัตว์ป่า คือชอบเที่ยวตามลำพังและทำทุกอย่างตามที่มันพอใจ ดังนั้นการออกไปเดินเล่นกับเจ้าของจึงไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยในแมว การฝึกให้แมวทำตามคำสั่งจึงเป็นไปได้ยาก ในขณะที่สุนัขจะเชื่อฟังและจงรักภักดีต่อเจ้าของ สามารถฝึกและสั่งให้ทำตามคำสั่งได้ โดยลักษณะความเป็นอยู่ของสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างมาก โดยแมวเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดเดียวที่ไม่ชอบอยู่เป็นฝูง แมวมักจะชอบอยู่ตามลำพัง ไม่ชอบให้คนไปวุ่นวาย ในขณะที่สุนัขจะชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง มีการจัดลำดับภายในฝูงว่าตัวใดเป็นจ่าฝูง ตัวใดเป็นลูกน้อง เมื่อคนนำสุนัขมาเลี้ยง สุนัขจะนับคนเป็นสมาชิกในฝูง และจะคอยดูแลป้องกันคุ้มครองและเห่าเตือนเมื่อมีคนแปลกหน้าที่มันเข้าใจว่าเป็นศัตรูเข้ามายังในบ้าน



เทคนิคการอาบน้ำให้แมว

สำหรับเจ้าของแมวการดูแลสุขอนามัยของแมวนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด จะเสริมสวยตัวเองโดยใช้ลิ้นเลียทั่วร่างกายจนสะอาด แต่ก็ไม่สะอาดไปทั้งหมด อาจยังมีความสกปรกแฝงอยู่ เจ้าของจึงต้องช่วยดูแลสุขอนามัยให้แมวด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อาบน้ำ การแปรงขน ตัดเล็บ ขัดหู อื่นๆ

การอาบน้ำให้แมวนั้น ควรฝึกอาบตั้งแต่ยังเป็นลูกแมวจะทำได้ง่ายกว่า โดยเริ่มได้ตั้งแต่แมวมีอายุ 14 สัปดาห์ขึ้นไป หากลูกแมวสกปรกมากจำเป็นต้องอาบน้ำก่อน 14 สัปดาห์ก็ทำได้ แต่ต้องระวังเรื่องความหนาวเย็น ให้ใช้สำลีอุดหูแมวกันน้ำเข้าหู และใช้ยาป้ายตาชนิดน้ำมันป้ายใต้ตาไว้ เพื่อป้องกันสบู่หรือแชมพูเข้าตา เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองในแมวและทำให้แมวดิ้นทุรนทุรายจนเป็นอันตรายได้

หากแมวดุมากเวลาอาบน้ำ อาจจะใช้วิธีจับแมวใส่ถุงผ้า ให้เหลือแต่ส่วนหัวโผล่ออกมา เวลาอาบน้ำให้จุ่มลงไปทั้งถุงโดยเหลือแต่ส่วนหัว อาบน้ำตามปกติเทแชมพูลงในถุง และถูภายนอก หลังจากนั้นให้ล้างแชมพูด้วยน้ำเปล่าให้เกลี้ยง โดยเช็ดและทำความสะอาดส่วนหัวในภายหลัง

ปกติแมวจะมีน้ำมันจากต่อมไขมันใต้รูขุมขนออกมาหล่อเลี้ยงให้ความชุ่มชื่นและขนเป็นเงา จึงไม่ควรอาบน้ำแมวบ่อยเกินไปเพราะเป็นการล้างไขมันจนทำให้ขนแห้งหลุดร่วงง่าย นอกจากนี้การอาบน้ำบ่อย ๆ อาจทำให้แมวเป็นหวัดง่ายอีกด้วย ความถี่ในการอาบน้ำให้แมวอย่างมากที่สุด เพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอ สำหรับสบู่หรือแชมพูที่ใช้ต้องระวังเป็นอย่างมาก แมวบางตัวอาจมีอาการแพ้แชมพูที่ใช้ ต้องเปลี่ยนแชมพูตัวใหม่และทดลองเลือกดูว่าแชมพูยี่ห้อไหนที่ทำให้แมวของเราไม่เกิดอาการแพ้