ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน จตุจักร, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน จตุจักร, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่แพง มีการบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้บริการมา 4ครั้งแล้วครับ บริการดีทุกครั้งเลยครับ
Saijai
ศิลา ใจอารีย์
3 ปีที่แล้ว
น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ชอบมากเลย บริการคือดีมาก ดูแลน้องหมาเราดี ปลื้มสุด
Saijai
อรอนงค์ วาร์ด
3 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
3 ปีที่แล้ว
โชคดีที่ได้มาเจอเว็บไซต์ของใส่ใจเพราะมีบริการคนดูแลสัตว์เลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ประทับใจมาก ๆ ครับ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีบริการฝึกสอนสัตว์เลี้ยง อาบน้ำตัดขน อีกทั้งยังมีบริการสัตว์แพทย์นอกสถานที่ บอกได้เลยว่าครบวงจรจริง ๆ
Saijai
ศราวุติ ชัยเกตุ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างไร
สัตว์เลี้ยง (Pets) หมายถึง สัตว์ที่คนเรานำมาดูแล ตั้งแต่ การให้อาหาร ที่อยู่ รักษายามเจ็บป่วย และ การผสมพันธุ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้งาน เป็นอาหาร หรือเป็นเพื่อน คนจึงมีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงด้วยความรักและการเป็นมิตรต่อกัน ส่วนการเลี้ยงสัตว์ หมายถึง การบำรุงสัตว์เลี้ยงให้เจริญเติบโต ด้วยการให้ความรัก ให้อาหาร ให้ที่อยู่ และรักษายามเจ็บป่วย ด้วยกันนั้นสัตว์แต่ละชนิดมีพฤติกรรมและสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะทำให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุข เติบโต และใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง จึงสำคัญ เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีชีวิต มีหัวใจ และสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนสามารถสัมผัสได้ คือ ความรักที่แท้จริงที่เราได้จากสัตว์เลี้ยง เราจะมีความสำคัญสำหรับพวกเขาเสมอ

ดังนั้นเราและสัตว์เลี้ยงเลยมีคุณค่าทางจิตใจซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ สุนัข แมว และปลา บางคนเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้คำถึงประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์มากนัก เพราะคิดว่าการเลี้ยงสัตว์ทำให้เรามีความสุขเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสัตว์นั้นมีประโยชน์มากมายหลายข้อเลย มาดูกันค่ะ

1. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดได้
2. ช่วยลดปัญหาด้านจิตใจห่อเหี่ยวสำหรับผู้สูงอายุ
3. ช่วยทำให้มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี
4. การเลี้ยงสุนัขทำให้เจ้าของนั้นได้ออกกำลังกายมากขึ้นเนื่องจากเจ้าของหมั่นต้องพาน้องหมาไปเดินออกกำลังกายเป็นประจำ
5. ช่วยลดค่าความดันโลหิตสูง มีผลวิจัยมาว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยลดความเครียด คอเลสเตอรอลต่ำ และความดันโลหิตลดลงอีกด้วย
ทักษะสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ นี่คือลักษณะและทักษะที่สำคัญ 4 ประการที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

สิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับเขตจตุจักร

ครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษาครบ 4 รอบ จังหวัดกรุงเทพมหานครได้จัดสร้างสวนจตุจักรเพื่อเป็นสัญลักษณ์และเสริมสร้างความสิริมงคล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “สวนจตุจักร” เมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ.2519 คำว่า “จตุจักร” หมายถึง สี่รอบทิศ ทางจังหวัดกรุงเทพมหานครจึงได้นำชื่อที่ซึ่งมีความสิริมงคลนี้มาตั้งเป็นชื่อเขตที่ตั้งใหม่ในปี พ.ศ. 2532 สำนักงานเขตจตุจักรเป็น 1 ใน 50 เขตของการแบ่งเขตการปกครองของกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ทั้งหมด 32,908 ตารางกิโลเมตร โดยพื้นที่ทั่วไปของเขตจตุจักรเป็นพื้นที่ราบและมีคูคลองสายเล็กหลายสาย ปัจจุบันมีประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตนี้ 155,297 คน สำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปัจจุบันเนื่องด้วยสภาพทางกายภาพ พัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งมีพลเมืองอาศัยอยู่หนาแน่น และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ทำให้เขตจตุจักรในปัจจุบันจัดขนาดพื้นที่แขวงจตุจักรให้มีความเหมาะสมขึ้นจากเดิมมีเพียงแขวงลาดยาว ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่แขวงใหม่เป็น 5 แขวง ดังนี้

1) แขวงเสนานิคม

2) แขวงลาดยาว

3) แขวงจตุจักร

4) แขวงจันทรเกษม

5) แขวงจอมพล

คำขวัญประจำเขตจตุจักรคือ “จักรหนึ่งจักพัฒนาคุณภาพชีวิต จักรหนึ่งจักพิชิตความทุกข์เข็ญ จักรหนึ่งจักปลูกต้นไม้ให้ร่มเย็น จักรหนึ่งจักมุ้งเน้นบริการ” นอกจากนี้หากพูดถึงจตุจักรผู้คนมักจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมและเป็นที่รู้จักอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาตินั่นก็คือตลาดนัดจตุจักรอันคึกคักในช่วงสุดสัปดาห์ และได้รับการแต่งตั้งว่าเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีจำนวนแผงค้าทั้งหมดมากกว่า 8,000 แผงค้า แบ่งเป็น 27 โครงการ มีสินค้าหลากหลายประเภท ได้แก่ ผักและผลไม้ เสื้อผ้า สัตว์เลี้ยง ต้นไม้ อาหารปรุง อาหารสำเร็จรูป อาหารสด และเบ็ดเตล็ด



รวมสวนสาธารณะในเขตจตุจักรสำหรับพาน้องหมาไปออกกำลังกาย

ชีวิตคนในเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย รถติด สภาพทางอากาศที่มีแต่มลภาวะ ส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของคนในเมืองไม่น้อย เราจึงรวบรวมพิกัดกรีนโซนย่านเขตจตุจักรที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ที่ช่วยทำให้คนในเมืองกรุงเทพฯ มีชีวิตที่ลงตัวขึ้น เพราะถือเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย ทำกิจกรรม ปิคนิค หรือพาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นได้อีกด้วย หากใครที่ชอบเดินตลาดนัดจตุจักรจะเห็นได้ว่าสวนสาธารณะอยู่ติดกับตลาดนัด สามารถเดินทะลุไปได้ง่าย ๆ แต่หากคุณได้ลองเดินสำรวจดี ๆ คุณจะพบกับสวนจตุจักรที่กว้างใหญ่ มีผู้คนมากมายมาออกกำลังกาย เดินเล่นและทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งยังเดินทางสะดวกอีกด้วย วันนี้ใส่ใจรวบรวมสวนสาธารณะชื่อดังย่านจตุจักร ดังนี้

1) สวนจตุจักร เป็นสวนสาธารณะที่เดินทางสะดวกที่สุดเพราะเชื่อมกับขนส่งมวลชนที่สำคัญอย่าง BTS หมอชิต, MRT สวนจตุจักร และ รถเมล์ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยเนื่องด้วยสวนจตุจักรมีเจ้าหน้าที่ควบคุมความปลอดภัยถึง 24 ชั่วโมง เหมาะแก่การไปออกกำลังกาย เดินเล่น ชมสวนธรรมชาติทั้งสวนไม้วรรณคดี สวนสมุนไพร และยังมีบึงขนาดใหญ่ที่เหมาะแก่การไปนั่งเล่นริมสระ นอกจากนี้ยังมีบริการเรือถีบรูปเป็ดให้ปั่น ซึ่งตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากมีวันชิล ๆ สบาย ๆ สวนจตุจักรมีเวลาเปิด-ปิดแน่นอน ซึ่งเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 04:30-21:00.

2) สวนวชิรเบญจทัศ หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า สวนรถไฟ เป็นสวนสาธารณะที่เหมาะกับสายลุยหรือสายสปอร์ต เพราะสวนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 375 ไร่ สายรักการออกกำลังกายจะชอบมาออกกำลังกายที่นี่เพราะสามารถวิ่งออกกำลังกายได้ยาว ๆ 1 รอบของสวนรถไฟมีระยะทางถึง 3.6 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีสนามกีฬาและกิจกรรมเต้นแอโรบิกอีกด้วย ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมสุดแอกทีฟมากมาย อาทิเช่น บริการเช่าจักรยานภายในสวน เที่ยวชมบรรยากาศรอบ ๆ ถ่ายภาพ หรือจะไปสำรวจอุทยานผีเสื้อที่อยู่ในสวนรถไฟก็ได้ สวนรถไฟแห่งเปิดให้เข้าเวลา 05:30-21:00.

3) สวนสมเด็จย่า 84 เป็นสวนหย่อมขนาดไม่ใหญ่มากเพราะมีพื้นที่เพียงแค่ 8 ไร่ สามารถมาเดินเล่น ออกกำลังกาย หรือพาน้องหมามาเดินเล่นได้ สวนแห่งนี้มีความร่มรื่น แต่จุดเด่นของสวนแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่สามารถมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ แต่สวนแห่งนี้เอาใจสายมู เพราะสวนนี้คือสวนแห่งการดูดวง มีพ่อหมอ แม่หมอมาปูเสื่อให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นดูลายมือ ดวงชะตา ดูไพ่ และที่สำคัญราคาย่อมเยาเริ่มต้นเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้น สวนสมเด็จย่า 84 เปิดให้เข้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง เดินทางได้สะดวกเพราะเชื่อมกับขนส่งมวลชนที่สำคัญอย่าง BTS เซ็ลทรัลลาดพร้าว, MRT พหลโยธิน และ รถเมล์



พิกัดโซนสัตว์เลี้ยงในตลาดนัดจตุจักรที่สายรักสัตว์ไม่ควรพลาด

จตุจักร หรือที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า “เจเจ” ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานครซึ่งตั้งอยู่เขตจตุจักร ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลกเนื่องจากมีแผงค้าทั้งหมดว่า 8,000 แผงและมีสินค้าหลากหลายประเภท แถมสินค้าแต่ละอย่างก็แสนจะเก๋ไก๋และมีสไตล์ที่ต่างกัน หนึ่งในนั้นคือ สัตว์เลี้ยงเพื่อเอาใจสายรักสัตว์ เพราะมีโซนขายสัตว์เลี้ยงมากมายไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว นก กระต่าย หนู ปลาและอื่น ๆ อีกมากมายอีกทั้งยังมี เฟอร์นิเจอร์ งานฝีมือ งานอดิเรก ของสะสมหายาก เสื้อผ้าแฟชั่นหลากหลายสไตล์ เครื่องประดับสวยงาม ฯลฯ แถมการเดินทางก็สะดวก จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนไทยและชาวต่างประเทศจำนวนมากถึงได้หลงเสน่ห์ของที่นี่ สำหรับสายรักสัตว์เลี้ยงไม่เพียงแต่สัตว์เลี้ยงที่คุณหาซื้อได้ในตลาดแห่งนี้ ยังมีอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงจำหน่ายอีกมากมาย ซึ่งโซนสัตว์เลี้ยงจะอยู่ โครงการที่ 11และ 13 วิธีการเดินทางไปสวนจตุจักรมีด้วยกันหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสาร หากคุณนำรถยนต์ส่วนตัวต้องนำไปจอดที่ลานจอดรถตลาดนัดจตุจักรหรือ Park Ride และมีรถรับส่งระหว่างลานจอดรถกับตลาดนัดจตุจักร (ประตู 2) หรือนั่งรถโดยสารประจำทางซึ่งมีหลายสายผ่าน และที่สะดวกมากก็คือรถโดยสารลงที่สถานีหมอชิตหรือรถไฟฟ้ามหานคร (BTS) รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ลงที่ สถานีกำแพงเพชร อีกทั้งยังมีรถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊กและรถตู้หลายสายให้บริการ หมายเลขรถประจำทางที่ผ่านตลาดนัดจตุจักรมีดังนี้ รถธรรมดา: 3, 8, 26, 27, 28, 29, 34, 38, 39, 44, 52, 59, 63, 77, 90, 96, 104, 108, 122, 126, 134, 136, 138, 145, 182, 188 รถปรับอากาศ: ปอ.3, ปอ.28, ปอ.29, ปอ.34, ปอ.39, ปอ.44, ปอ.59, ปอ.63, ปอ.77, ปอ.104, ปอ.126, ปอ.134, ปอ.138, ปอ.145, ปอ.157, ปอ.177, ปอ.502, ปอ.503, ปอ.509, ปอ.510, ปอ.512, ปอ.517, ปอ.524, ปอ.529