ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ตลิ่งชัน, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ตลิ่งชัน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 23 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 25 ปี
ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม
เทพทัต กะโปงทอง
เทพทัต กะโปงทอง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ มีความอดทนอดกลั้น เคยเลี้ยงสัตว์

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่แพง มีการบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้บริการมา 4ครั้งแล้วครับ บริการดีทุกครั้งเลยครับ
Saijai
ศิลา ใจอารีย์
3 ปีที่แล้ว
มองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยดูแลเค้าที่บ้าน เจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและสามารถสอบถามราคาได้อย่างชัดเจน ก่อนที่เราจะตัดสินใจจ้าง แถมราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เยี่ยมไปเลยค่ะ
Saijai
ปัทมา เลิศชนะ
3 ปีที่แล้ว
หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เลือกใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะว่าไม่มีเวลาดูแลน้องหมาน้องแมวที่บ้านเลยจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาดูแลแทนเวลาเราไม่อยู่ อยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่ราคาไม่สูง ผู้ให้บริการบนเว็บไซต์ใส่ใจเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
Saijai
มัจฉา รุ่งอนันต์
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ความสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยง
การมีสัตว์เลี้ยงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของหลาย ๆ คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงกันก็มีมากมายหลายชนิด แน่นอนว่านั่นหมายถึงการที่เราต้องใช้เวลาไปกับการดูแลเอาใจใส่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย สุขภาพ รวมไปถึงสภาพจิตใจของสัตว์เหล่านี้ด้วย

การดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงในทุก ๆ ด้านที่กล่าวมาข้างต้นนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะมันส่งผลดีให้กับทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ในมุมมองของเจ้าของ การได้ให้อาหาร หรือการเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเสมือนความสุขอย่างหนึ่ง ในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน หากได้กลับมาเจอสัตว์เลี้ยงนั่งรออยู่ที่หน้าประตู เพียงเท่านี้ก็ช่วยคลายความเหนื่อยไปได้เยอะเลยทีเดียว กลับกันในมุมของสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างครบถ้วนนั้นจะส่งผลดีให้กับพวกเขาเช่นกัน สัตว์เลี้ยงสัมผัสได้ถึงความรักที่ได้รับจากเจ้าของ ในขณะเดียวกันพวกเขาจะมอบความรักกลับคืนให้เจ้าของเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านคือ สามารถเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เลี้ยงได้ ซึ่งการได้ใช้เวลาทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงช่วยลดอาการตึงเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ ทั้งยังช่วยให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย เช่นการพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นทำให้ผู้เลี้ยงเองได้ออกกำลังกายไปด้วย

เห็นได้ชัดว่าการมีสัตว์เลี้ยงนั้นมีประโยชน์ต่อคนมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้น ก่อนเลี้ยงต้องมั่นใจว่าคุณจะมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลเขา เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์เช่นกัน หากคุณอยากมีสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของคุณ การใช้บริการรับดูแลสัตว์เลี้ยงก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ทักษะสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ นี่คือลักษณะและทักษะที่สำคัญ 4 ประการที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
การใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงในยามที่คุณไม่ว่างนั้นจะช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้ แต่ก่อนจะทำการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณกำหนด ซึ่งข้อตกลงสำคัญมีดังนี้

1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป

เขตตลิ่งชัน ณ ฝั่งธน

เขตตลิ่งชัน เป็นหนึ่งในห้าสิบเขตของกรุงเทพมหานคร เขตตลิ่งชันเป็นพื้นที่รอบนอกทางทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาที่เรียกกันทั่วไปว่า "ฝั่งธนบุรี" อำเภอตลิ่งชันจึงได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็น เขตตลิ่งชัน ส่วนตำบลต่าง ๆ ได้เปลี่ยนฐานะเป็นแขวงตามไปด้วย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2541 พื้นที่เขตทางฟากตะวันตกของถนนกาญจนาภิเษกได้ถูกแบ่งและจัดตั้งเป็นเขตใหม่ คือเขตทวีวัฒนา ทุกวันนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตยังคงเป็นพื้นที่เกษตร ได้แก่ สวนผัก สวนผลไม้ โดยผลไม้ที่เป็นผลไม้ดั้งเดิมของที่นี่ คือ มะเฟือง แต่ปัจจุบัน พื้นที่เกษตรกรรมกำลังลดลงไปอย่างมากจากการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองและการสร้างเส้นทางคมนาคม ในพื้นที่เขตตลิ่งชันมีทางสายหลักอยู่ 5 สาย คือ ถนนบรมราชชนนี ถนนราชพฤกษ์ ถนนพุทธมณฑล สาย 1 ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 และ ทางพิเศษศรีรัช แต่ผู้คนบางส่วนยังคงสัญจรไปมาทางน้ำโดยการใช้เรืออยู่ โดยมีคลองสายหลักอยู่ 8 คลองที่เกษตรกรสามารถใช้ในการเกษตร และสัญจร ได้แก่ คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ คลองชักพระ คลองบางระมาด คลองบางพรม คลองบางน้อย คลองบางเชือกหนัง และ คลองมอญ ส่วนในอนาคตอันใกล้นี้จะมี รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน (อยู่ระหว่างการดำเนินงาน) ซึ่งจะทำให้การเดินทางสู่เขตตลิ่งชัน มีทางเลือกมากขึ้น

เมื่อวิถีชีวิตในอีกมุมมองหนึ่งของชุมชนตลิ่งชัน เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยแม้จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่โดยลักษณะของ ตลาดสด หรือตลาดนัด ที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และการตั้งถิ่นฐานของชุมชนนั้น ๆ เช่น ถ้าใช้การคมนาคมทางบก ในการติดต่อค้าขาย เรียกว่า “ตลาดบก” หรือ ตลาดชุมชน ที่สามารถพบได้ทั่วไป ถ้าชุมชนใดใช้การคมนาคมทางน้ำเป็นสำคัญ ตลาดของชุมชนนั้น ก็เรียกว่า “ตลาดน้ำ” ตลาดน้ำจึงเป็นตลาดในลักษณะหนึ่งที่สะท้อนความเป็นอยู่ความ ผูกพันระหว่างสายน้ำและวิถีชีวิต ตลาดน้ำตลิ่งชัน ริมคลองชักพระได้เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2530 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ขณะเดียวกันสภาพพื้นที่ของตลิ่งชันที่มีแม่น้ำลำคลองเชื่อมหลายสาย การเกิดขึ้นของเรือสินค้าที่จะนำผลิตผลมาค้าขายจึงไม่ใช่เรื่องยาก จุดเริ่มแรกของตลาดน้ำแห่งนี้ เริ่มจากแพไม้ไผ่หรือแพลูกบวบ พื้นแพปูด้วยไม้กระดานเรียงเชื่อมกันจำนวน ๕ แพ มีพ่อค้าแม่ขายพายเรือรอบโป๊ะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมและซื้อสินค้าบนแพ ตลอดระยะเวลากว่า ๒๐ ปี ตลาดน้ำตลิ่งชันสามารถดำรงอยู่ได้ ปัจจัยสำคัญหนึ่งก็คือ ความสามัคคีของพ่อค้าแม่ขายที่ต้องการให้ตลาดเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว แต่ไม่ทำลายสภาพนิเวศต่างๆ ทั้งของตลาดน้ำและท้องถิ่นตลิ่งชัน



4 เคล็ดลับก่อนนำสัตว์เลี้ยงตัวไปหาสัตวแพทย์

ขอแสดงความยินดีที่ได้สมาชิกในครอบครัวเป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของคุณ! ไม่ว่าคุณจะมีสัตว์เลี้ยงหลายตัวหรือนี่เป็นครั้งแรกสำหรับคุณนี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น อีกไม่นานคุณจะได้รู้จักพฤติกรรมและนิสัยใจคอตามปกติของสัตว์เลี้ยง แต่ก่อนที่คุณจะเพลิดเพลินกับเพื่อนใหม่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีก็ควร พาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพและรับวัคซีน เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงและตัวคุณเอง

ห้าสิ่งที่ควรรู้ก่อนพาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ไปพบสัตวแพทย์เป็นครั้งแรก

1.อย่าล่าช้า แม้ว่าลูกแมวหรือลูกสุนัขตัวใหม่ของคุณจะดูแข็งแรงสมบูรณ์ แต่คุณควรให้สัตว์เลี้ยงของคุณตรวจร่างกายโดยเร็วที่สุดหลังจากพาเขาเข้าบ้าน สัตวแพทย์ของคุณอาจตรวจพบปัญหาทางการแพทย์ที่ไม่ปรากฏชัดในตอนแรก เช่นสภาพผิวบอบบาง หรือสัญญาณของหัวใจพิการแต่กำเนิด นอกจากนี้คุณจะต้องทำความรู้จักและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับสัตวแพทย์ เพราะเมื่อสัตว์เลี้ยงมีอาการเจ็บป่วยหรือเหตุฉุกเฉิน คุณจะได้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงของคุณสามารถรับการดูแลได้อย่างทันเวลา

2. มีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล น่าแปลกใจที่เราได้พบกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงรายใหม่จำนวนมากที่มีความเข้าใจผิดว่าสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของพวกเขาไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นการตรวจไวรัสหรือการถ่ายพยาธิเพราะมีคนบอกพวกเขาว่าสัตว์เลี้ยงนั้น “มีครบทุกอย่าง” ลูกสุนัขและลูกแมวจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิเป็นระยะ ๆ จนถึงอายุที่กำหนด (อายุนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่) หากไม่ทราบประวัติวัคซีนของพวกเขาพวกเขาอาจต้องการตัวกระตุ้นบ่อยขึ้นในตอนแรกเพื่อให้แน่ใจว่ามีภูมิคุ้มกันในการป้องกันไวรัสบางชนิด

3.ทำหมัน บางคนคิดว่าต้องให้สัตว์เลี้ยง เช่น หมาหรือแมว ถึงวัย “ติดสัด” ก่อนจึงทำหมันได้ แต่ที่จริงแล้วการทำหมันให้สัตว์เลี้ยงก่อนสัตว์เลี้ยงผสมพันธุ์ครั้งแรกจะลดโอกาสการเป็นมะเร็งเต้านมได้ถึง 90% แมวตัวผู้ที่ได้รับการทำหมันเร็วจะลดปัญหาการฉี่สร้างอาณาเขตได้อีกด้วย การค้นพบใหม่ ๆ เกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวของการทำหมันได้รับการเผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาในการกำหนดเวลาที่ดีที่สุดในการทำหมันให้แมวหรือสุนัข รวมถึงสายพันธุ์ด้วย พูดคุยกับสัตวแพทย์ของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของคุณรวมถึงข้อกังวลใด ๆ ที่คุณอาจมี

4. หมัดเห็บพยาธิหัวใจและหนอนในลำไส้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเจ้าสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขและแมว ที่ต้องนำสัตว์เลี้ยงของคุณไปพบสัตวแพทย์เพื่อ หยดยาป้องกันเห็บหมัด และถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในปัจจุบันมีปรสิตหลายชนิดซึ่งไม่เคยพบเห็นก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดโรคพยาธิหัวใจ (เกิดจากพยาธิที่พัฒนาในหัวใจและแพร่กระจายโดยยุง)



ศาลแม่โพสพในวัดศิริวัฒนาราม

ศาลแม่โพสพในวัดศิริวัฒนาราม แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของชาวไร่ชาวนา ในเขตุตลิ่งชัน “แม่โพสพ” หรือ “เจ้าแม่โพสพ” เทพีแห่งข้าว ที่คนไทยและกลุ่มชนชาติอื่นในพื้นที่อุษาคเนย์เชื่อกันว่า ข้าวมีเทพธิดาประจำอยู่ ชาวบ้านไทยทั่วไปในภาคกลางและภาคใต้ จะเรียกนามท่านว่า “แม่โพสพ” ส่วนคนอีสานเรียกว่า “แม่โคสก” โดยมีความเชื่อว่า ถ้าหากผู้ใดปฏิบัติดีปฏิบัติชอบต่อต้นข้าวเม็ดข้าว ก็จะส่งผลให้เกิดความมั่งคั่ง สุขสมบูรณ์ ซึ่งชาวนาในช่วงเวลาของฤดูกาลทำนา โดยชาวนาไทยจะสักการะเซ่นไหว้ เพื่อจะให้ได้ผลผลิตที่ดีตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นในท้องนาเมื่อทำพิธีทำขวัญข้าว หรือที่ยุ้งฉาง (เพื่อเก็บข้าวเปลือกไว้กิน ขาย และทำเป็นพันธุ์ข้าวในฤดูกาลหน้า) ของตนเองเมื่อเก็บข้าวขึ้นยุ้ง (สิ่งปลูกสร้างสําหรับเก็บข้าวเปลือก) และอาจด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ค่อยเห็นศาลแม่โพสพมากนัก

วัดแห่งนี้มีศาลแม่โพสพ โดยมีประวัติอยู่ว่า ในสมัยต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีชาวบ้านผัวเมียแช่ข้าวสารไว้ค้างคืนและตั้งใจจะมา โม่เป็นแป้งข้าวเจ้าไว้สำหรับทำเส้นขนมจีน แต่ครั้น พอรุ่งเช้าข้าวสารที่แช่ไว้ ก็ได้งอกเป็นต้นข้าว และชาวบ้านก็เชื่อว่าเป็นลางร้าย ทั้งสองตายายเลยเอาข้าวสารงอกไปผสมดินปั้นเป็นรูปแม่โพสพขึ้นไว้ แล้วตั้งศาลทรงไทยขึ้นเป็นที่ประดิษฐานที่สี่แยกจุดตัดของคลองในย่านนั้น แต่รูปปั้นแม่โพสพองค์เดิมถูกขโมยไป ชาวบ้านจึงช่วยกันจัดหารูปแม่โพสพองค์ใหม่ แล้วย้ายศาลมาตั้งในวัดศิริวัฒนารามที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อให้ใกล้หูใกล้ตามีคนคอยช่วยดูแล ในวัดศาลแม่โพสพในวัดศิริวัฒนาราม ก็ยังมีแม่นางกวักและพระแม่ธรณีบีบมวยผม (สันนิษฐานว่าแนวคิดพระธรณีมีวิวัฒนาการมาจากแนวคิดเทพเจ้าและพระแม่แห่งพื้นดิน) นั่นคือนอกจากแม่โพสพจะเป็นเทพธิดาแห่งข้าวแล้ว ยังเป็นที่เคารพในฐานะ “เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์” ของคนค้าคนขายด้วย

ต่อมาเมื่อสัก 20 กว่าปีมานี้ มีการเรี่ยไรเงินเพื่อสร้างศาลถวายให้ แม่โพสพใหม่ เป็นคอนกรีต มีหน้าบันปั้นรูประบายสีเป็นแม่โพสพสวยงาม เหมือนกับรูปประติมากรรมที่ประดิษฐานอยู่ภายใน คือทำเป็นรูปสตรีนั่งพับเพียบเรียบร้อย มือถือรวงข้าว

ทุกวันนี้ทุ่งนาแถบบางพรมหมดไปหลายสิบปีแล้ว แต่ศาลแม่โพสพก็ยังเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน โดยจะมีการจัดงานสมโภชประจำปีขึ้นพร้อมกับงานประจำปีของวัดศิริวัฒนารามในช่วงเดือนมีนาคม แถมในศาลยังมีการนำเอารูป แม่นางกวัก (เป็นเทพีแห่งโชคลาภตามคติไทย) มาตั้งรวมกันไว้ด้วย

เกร็ดความรู้ : พิธีรับขวัญแม่โพสพ สำหรับข้าวพันธุ์พื้นเมืองโดยทั่วไปจะเริ่มตั้งท้องประมาณต้นเดือน ๑๑ (โดยประมาณจะอยู่เดือนตุลาคม) ยกเว้นในพื้นที่ภาคใต้ที่ข้าวจะเริ่มตั้งท้องประมาณเดือนอ้าย (ประมาณเดือนธันวาคม) และเมื่อข้าวเริ่มตั้งท้องชาวนาก็จะสร้างศาลเพียงตาชั่วคราวขึ้นแล้วใส่เครื่องสังเวยรับขวัญแม่โพสพ และเพื่อเป็นการเตือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด เครื่องเซ่นแม่โพสพ มีข้าวปลา กล้วย อ้อย ถั่ว งา ขนม ผลไม้รสเปรี้ยว แป้ง กระจก เสื้อ หวี พิธีรับขวัญแม่โพสพนี้ ภาคใต้เรียกว่า พิธีคดข้าว ภาคกลางบางถิ่นเรียก ส่งข้าวบิณฑ์ ทางเพชรบุรีเรียกว่า พิธีทำขวัญข้าว เพื่อรับขวัญแม่โพสพที่เริ่มตั้งท้อง ชาวนาเพชรบุรีนิยมจัดพิธีนี้ในวันศุกร์ ข้างขึ้น เดือน ๑๒