ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ตลิ่งชัน, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ตลิ่งชัน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 24 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
4 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
4 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างไร
สัตว์เลี้ยง (Pets) หมายถึง สัตว์ที่คนเรานำมาดูแล ตั้งแต่ การให้อาหาร ที่อยู่ รักษายามเจ็บป่วย และ การผสมพันธุ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้งาน เป็นอาหาร หรือเป็นเพื่อน คนจึงมีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงด้วยความรักและการเป็นมิตรต่อกัน ส่วนการเลี้ยงสัตว์ หมายถึง การบำรุงสัตว์เลี้ยงให้เจริญเติบโต ด้วยการให้ความรัก ให้อาหาร ให้ที่อยู่ และรักษายามเจ็บป่วย ด้วยกันนั้นสัตว์แต่ละชนิดมีพฤติกรรมและสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะทำให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุข เติบโต และใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง จึงสำคัญ เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีชีวิต มีหัวใจ และสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนสามารถสัมผัสได้ คือ ความรักที่แท้จริงที่เราได้จากสัตว์เลี้ยง เราจะมีความสำคัญสำหรับพวกเขาเสมอ

ดังนั้นเราและสัตว์เลี้ยงเลยมีคุณค่าทางจิตใจซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ สุนัข แมว และปลา บางคนเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้คำถึงประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์มากนัก เพราะคิดว่าการเลี้ยงสัตว์ทำให้เรามีความสุขเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสัตว์นั้นมีประโยชน์มากมายหลายข้อเลย มาดูกันค่ะ

1. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดได้
2. ช่วยลดปัญหาด้านจิตใจห่อเหี่ยวสำหรับผู้สูงอายุ
3. ช่วยทำให้มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี
4. การเลี้ยงสุนัขทำให้เจ้าของนั้นได้ออกกำลังกายมากขึ้นเนื่องจากเจ้าของหมั่นต้องพาน้องหมาไปเดินออกกำลังกายเป็นประจำ
5. ช่วยลดค่าความดันโลหิตสูง มีผลวิจัยมาว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยลดความเครียด คอเลสเตอรอลต่ำ และความดันโลหิตลดลงอีกด้วย
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

เขตตลิ่งชัน ณ ฝั่งธน

เขตตลิ่งชัน เป็นหนึ่งในห้าสิบเขตของกรุงเทพมหานคร เขตตลิ่งชันเป็นพื้นที่รอบนอกทางทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาที่เรียกกันทั่วไปว่า "ฝั่งธนบุรี" อำเภอตลิ่งชันจึงได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็น เขตตลิ่งชัน ส่วนตำบลต่าง ๆ ได้เปลี่ยนฐานะเป็นแขวงตามไปด้วย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2541 พื้นที่เขตทางฟากตะวันตกของถนนกาญจนาภิเษกได้ถูกแบ่งและจัดตั้งเป็นเขตใหม่ คือเขตทวีวัฒนา ทุกวันนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตยังคงเป็นพื้นที่เกษตร ได้แก่ สวนผัก สวนผลไม้ โดยผลไม้ที่เป็นผลไม้ดั้งเดิมของที่นี่ คือ มะเฟือง แต่ปัจจุบัน พื้นที่เกษตรกรรมกำลังลดลงไปอย่างมากจากการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองและการสร้างเส้นทางคมนาคม ในพื้นที่เขตตลิ่งชันมีทางสายหลักอยู่ 5 สาย คือ ถนนบรมราชชนนี ถนนราชพฤกษ์ ถนนพุทธมณฑล สาย 1 ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 และ ทางพิเศษศรีรัช แต่ผู้คนบางส่วนยังคงสัญจรไปมาทางน้ำโดยการใช้เรืออยู่ โดยมีคลองสายหลักอยู่ 8 คลองที่เกษตรกรสามารถใช้ในการเกษตร และสัญจร ได้แก่ คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ คลองชักพระ คลองบางระมาด คลองบางพรม คลองบางน้อย คลองบางเชือกหนัง และ คลองมอญ ส่วนในอนาคตอันใกล้นี้จะมี รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน (อยู่ระหว่างการดำเนินงาน) ซึ่งจะทำให้การเดินทางสู่เขตตลิ่งชัน มีทางเลือกมากขึ้น

เมื่อวิถีชีวิตในอีกมุมมองหนึ่งของชุมชนตลิ่งชัน เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยแม้จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่โดยลักษณะของ ตลาดสด หรือตลาดนัด ที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และการตั้งถิ่นฐานของชุมชนนั้น ๆ เช่น ถ้าใช้การคมนาคมทางบก ในการติดต่อค้าขาย เรียกว่า “ตลาดบก” หรือ ตลาดชุมชน ที่สามารถพบได้ทั่วไป ถ้าชุมชนใดใช้การคมนาคมทางน้ำเป็นสำคัญ ตลาดของชุมชนนั้น ก็เรียกว่า “ตลาดน้ำ” ตลาดน้ำจึงเป็นตลาดในลักษณะหนึ่งที่สะท้อนความเป็นอยู่ความ ผูกพันระหว่างสายน้ำและวิถีชีวิต ตลาดน้ำตลิ่งชัน ริมคลองชักพระได้เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2530 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ขณะเดียวกันสภาพพื้นที่ของตลิ่งชันที่มีแม่น้ำลำคลองเชื่อมหลายสาย การเกิดขึ้นของเรือสินค้าที่จะนำผลิตผลมาค้าขายจึงไม่ใช่เรื่องยาก จุดเริ่มแรกของตลาดน้ำแห่งนี้ เริ่มจากแพไม้ไผ่หรือแพลูกบวบ พื้นแพปูด้วยไม้กระดานเรียงเชื่อมกันจำนวน ๕ แพ มีพ่อค้าแม่ขายพายเรือรอบโป๊ะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมและซื้อสินค้าบนแพ ตลอดระยะเวลากว่า ๒๐ ปี ตลาดน้ำตลิ่งชันสามารถดำรงอยู่ได้ ปัจจัยสำคัญหนึ่งก็คือ ความสามัคคีของพ่อค้าแม่ขายที่ต้องการให้ตลาดเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว แต่ไม่ทำลายสภาพนิเวศต่างๆ ทั้งของตลาดน้ำและท้องถิ่นตลิ่งชัน



4 เคล็ดลับก่อนนำสัตว์เลี้ยงตัวไปหาสัตวแพทย์

ขอแสดงความยินดีที่ได้สมาชิกในครอบครัวเป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของคุณ! ไม่ว่าคุณจะมีสัตว์เลี้ยงหลายตัวหรือนี่เป็นครั้งแรกสำหรับคุณนี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น อีกไม่นานคุณจะได้รู้จักพฤติกรรมและนิสัยใจคอตามปกติของสัตว์เลี้ยง แต่ก่อนที่คุณจะเพลิดเพลินกับเพื่อนใหม่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีก็ควร พาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพและรับวัคซีน เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงและตัวคุณเอง

ห้าสิ่งที่ควรรู้ก่อนพาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ไปพบสัตวแพทย์เป็นครั้งแรก

1.อย่าล่าช้า แม้ว่าลูกแมวหรือลูกสุนัขตัวใหม่ของคุณจะดูแข็งแรงสมบูรณ์ แต่คุณควรให้สัตว์เลี้ยงของคุณตรวจร่างกายโดยเร็วที่สุดหลังจากพาเขาเข้าบ้าน สัตวแพทย์ของคุณอาจตรวจพบปัญหาทางการแพทย์ที่ไม่ปรากฏชัดในตอนแรก เช่นสภาพผิวบอบบาง หรือสัญญาณของหัวใจพิการแต่กำเนิด นอกจากนี้คุณจะต้องทำความรู้จักและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับสัตวแพทย์ เพราะเมื่อสัตว์เลี้ยงมีอาการเจ็บป่วยหรือเหตุฉุกเฉิน คุณจะได้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงของคุณสามารถรับการดูแลได้อย่างทันเวลา

2. มีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล น่าแปลกใจที่เราได้พบกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงรายใหม่จำนวนมากที่มีความเข้าใจผิดว่าสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของพวกเขาไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นการตรวจไวรัสหรือการถ่ายพยาธิเพราะมีคนบอกพวกเขาว่าสัตว์เลี้ยงนั้น “มีครบทุกอย่าง” ลูกสุนัขและลูกแมวจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิเป็นระยะ ๆ จนถึงอายุที่กำหนด (อายุนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่) หากไม่ทราบประวัติวัคซีนของพวกเขาพวกเขาอาจต้องการตัวกระตุ้นบ่อยขึ้นในตอนแรกเพื่อให้แน่ใจว่ามีภูมิคุ้มกันในการป้องกันไวรัสบางชนิด

3.ทำหมัน บางคนคิดว่าต้องให้สัตว์เลี้ยง เช่น หมาหรือแมว ถึงวัย “ติดสัด” ก่อนจึงทำหมันได้ แต่ที่จริงแล้วการทำหมันให้สัตว์เลี้ยงก่อนสัตว์เลี้ยงผสมพันธุ์ครั้งแรกจะลดโอกาสการเป็นมะเร็งเต้านมได้ถึง 90% แมวตัวผู้ที่ได้รับการทำหมันเร็วจะลดปัญหาการฉี่สร้างอาณาเขตได้อีกด้วย การค้นพบใหม่ ๆ เกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวของการทำหมันได้รับการเผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาในการกำหนดเวลาที่ดีที่สุดในการทำหมันให้แมวหรือสุนัข รวมถึงสายพันธุ์ด้วย พูดคุยกับสัตวแพทย์ของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของคุณรวมถึงข้อกังวลใด ๆ ที่คุณอาจมี

4. หมัดเห็บพยาธิหัวใจและหนอนในลำไส้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเจ้าสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขและแมว ที่ต้องนำสัตว์เลี้ยงของคุณไปพบสัตวแพทย์เพื่อ หยดยาป้องกันเห็บหมัด และถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในปัจจุบันมีปรสิตหลายชนิดซึ่งไม่เคยพบเห็นก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดโรคพยาธิหัวใจ (เกิดจากพยาธิที่พัฒนาในหัวใจและแพร่กระจายโดยยุง)



ศาลแม่โพสพในวัดศิริวัฒนาราม

ศาลแม่โพสพในวัดศิริวัฒนาราม แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของชาวไร่ชาวนา ในเขตุตลิ่งชัน “แม่โพสพ” หรือ “เจ้าแม่โพสพ” เทพีแห่งข้าว ที่คนไทยและกลุ่มชนชาติอื่นในพื้นที่อุษาคเนย์เชื่อกันว่า ข้าวมีเทพธิดาประจำอยู่ ชาวบ้านไทยทั่วไปในภาคกลางและภาคใต้ จะเรียกนามท่านว่า “แม่โพสพ” ส่วนคนอีสานเรียกว่า “แม่โคสก” โดยมีความเชื่อว่า ถ้าหากผู้ใดปฏิบัติดีปฏิบัติชอบต่อต้นข้าวเม็ดข้าว ก็จะส่งผลให้เกิดความมั่งคั่ง สุขสมบูรณ์ ซึ่งชาวนาในช่วงเวลาของฤดูกาลทำนา โดยชาวนาไทยจะสักการะเซ่นไหว้ เพื่อจะให้ได้ผลผลิตที่ดีตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นในท้องนาเมื่อทำพิธีทำขวัญข้าว หรือที่ยุ้งฉาง (เพื่อเก็บข้าวเปลือกไว้กิน ขาย และทำเป็นพันธุ์ข้าวในฤดูกาลหน้า) ของตนเองเมื่อเก็บข้าวขึ้นยุ้ง (สิ่งปลูกสร้างสําหรับเก็บข้าวเปลือก) และอาจด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ค่อยเห็นศาลแม่โพสพมากนัก

วัดแห่งนี้มีศาลแม่โพสพ โดยมีประวัติอยู่ว่า ในสมัยต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีชาวบ้านผัวเมียแช่ข้าวสารไว้ค้างคืนและตั้งใจจะมา โม่เป็นแป้งข้าวเจ้าไว้สำหรับทำเส้นขนมจีน แต่ครั้น พอรุ่งเช้าข้าวสารที่แช่ไว้ ก็ได้งอกเป็นต้นข้าว และชาวบ้านก็เชื่อว่าเป็นลางร้าย ทั้งสองตายายเลยเอาข้าวสารงอกไปผสมดินปั้นเป็นรูปแม่โพสพขึ้นไว้ แล้วตั้งศาลทรงไทยขึ้นเป็นที่ประดิษฐานที่สี่แยกจุดตัดของคลองในย่านนั้น แต่รูปปั้นแม่โพสพองค์เดิมถูกขโมยไป ชาวบ้านจึงช่วยกันจัดหารูปแม่โพสพองค์ใหม่ แล้วย้ายศาลมาตั้งในวัดศิริวัฒนารามที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อให้ใกล้หูใกล้ตามีคนคอยช่วยดูแล ในวัดศาลแม่โพสพในวัดศิริวัฒนาราม ก็ยังมีแม่นางกวักและพระแม่ธรณีบีบมวยผม (สันนิษฐานว่าแนวคิดพระธรณีมีวิวัฒนาการมาจากแนวคิดเทพเจ้าและพระแม่แห่งพื้นดิน) นั่นคือนอกจากแม่โพสพจะเป็นเทพธิดาแห่งข้าวแล้ว ยังเป็นที่เคารพในฐานะ “เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์” ของคนค้าคนขายด้วย

ต่อมาเมื่อสัก 20 กว่าปีมานี้ มีการเรี่ยไรเงินเพื่อสร้างศาลถวายให้ แม่โพสพใหม่ เป็นคอนกรีต มีหน้าบันปั้นรูประบายสีเป็นแม่โพสพสวยงาม เหมือนกับรูปประติมากรรมที่ประดิษฐานอยู่ภายใน คือทำเป็นรูปสตรีนั่งพับเพียบเรียบร้อย มือถือรวงข้าว

ทุกวันนี้ทุ่งนาแถบบางพรมหมดไปหลายสิบปีแล้ว แต่ศาลแม่โพสพก็ยังเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน โดยจะมีการจัดงานสมโภชประจำปีขึ้นพร้อมกับงานประจำปีของวัดศิริวัฒนารามในช่วงเดือนมีนาคม แถมในศาลยังมีการนำเอารูป แม่นางกวัก (เป็นเทพีแห่งโชคลาภตามคติไทย) มาตั้งรวมกันไว้ด้วย

เกร็ดความรู้ : พิธีรับขวัญแม่โพสพ สำหรับข้าวพันธุ์พื้นเมืองโดยทั่วไปจะเริ่มตั้งท้องประมาณต้นเดือน ๑๑ (โดยประมาณจะอยู่เดือนตุลาคม) ยกเว้นในพื้นที่ภาคใต้ที่ข้าวจะเริ่มตั้งท้องประมาณเดือนอ้าย (ประมาณเดือนธันวาคม) และเมื่อข้าวเริ่มตั้งท้องชาวนาก็จะสร้างศาลเพียงตาชั่วคราวขึ้นแล้วใส่เครื่องสังเวยรับขวัญแม่โพสพ และเพื่อเป็นการเตือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด เครื่องเซ่นแม่โพสพ มีข้าวปลา กล้วย อ้อย ถั่ว งา ขนม ผลไม้รสเปรี้ยว แป้ง กระจก เสื้อ หวี พิธีรับขวัญแม่โพสพนี้ ภาคใต้เรียกว่า พิธีคดข้าว ภาคกลางบางถิ่นเรียก ส่งข้าวบิณฑ์ ทางเพชรบุรีเรียกว่า พิธีทำขวัญข้าว เพื่อรับขวัญแม่โพสพที่เริ่มตั้งท้อง ชาวนาเพชรบุรีนิยมจัดพิธีนี้ในวันศุกร์ ข้างขึ้น เดือน ๑๒