ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางรัก, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางรัก, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

มูฮัมหมัดอาซีซี ใบกาเด็ม
มูฮัมหมัดอาซีซี ใบกาเด็ม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 28 ปี
ปุ๊ ทองเฟื้อง
ปุ๊ ทองเฟื้อง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 33 ปี

สวัสดีค่ะชื่อ ปุ๊ ค่ะ ทำอาชีพค้าขายค่ะ ชอบงานอิสระที่สามารถได้มีเวลาอยู่กับคนที่เรารัก สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งที่เราชอบ ตอนนี้ที่บ้านเลี้ยงแมว9ตัว เลี้ยงสุนัข2ตัวค่ะ มีความสุขมากๆที่ได้อยู่กับพวกเค้า เลยสนใจเลือกงานนี้เป็นอาชีพเสริมค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 24 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
4 ปีที่แล้ว
โชคดีที่ได้มาเจอเว็บไซต์ของใส่ใจเพราะมีบริการคนดูแลสัตว์เลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ประทับใจมาก ๆ ครับ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีบริการฝึกสอนสัตว์เลี้ยง อาบน้ำตัดขน อีกทั้งยังมีบริการสัตว์แพทย์นอกสถานที่ บอกได้เลยว่าครบวงจรจริง ๆ
Saijai
ศราวุติ ชัยเกตุ
4 ปีที่แล้ว
สะดวกมากเลยค่ะ นัดพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการมาดูแลน้องหมาที่บ้านได้เลย ไม่ยุ่งยาก ระบบใช้งานง่าย สะดวกสุด ๆ ค่ะ ชอบ ๆ
Saijai
ธีรศักดิ์ เหมศักดิ์
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างไร
สัตว์เลี้ยง (Pets) หมายถึง สัตว์ที่คนเรานำมาดูแล ตั้งแต่ การให้อาหาร ที่อยู่ รักษายามเจ็บป่วย และ การผสมพันธุ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้งาน เป็นอาหาร หรือเป็นเพื่อน คนจึงมีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงด้วยความรักและการเป็นมิตรต่อกัน ส่วนการเลี้ยงสัตว์ หมายถึง การบำรุงสัตว์เลี้ยงให้เจริญเติบโต ด้วยการให้ความรัก ให้อาหาร ให้ที่อยู่ และรักษายามเจ็บป่วย ด้วยกันนั้นสัตว์แต่ละชนิดมีพฤติกรรมและสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะทำให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุข เติบโต และใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง จึงสำคัญ เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีชีวิต มีหัวใจ และสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนสามารถสัมผัสได้ คือ ความรักที่แท้จริงที่เราได้จากสัตว์เลี้ยง เราจะมีความสำคัญสำหรับพวกเขาเสมอ

ดังนั้นเราและสัตว์เลี้ยงเลยมีคุณค่าทางจิตใจซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ สุนัข แมว และปลา บางคนเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้คำถึงประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์มากนัก เพราะคิดว่าการเลี้ยงสัตว์ทำให้เรามีความสุขเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสัตว์นั้นมีประโยชน์มากมายหลายข้อเลย มาดูกันค่ะ

1. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดได้
2. ช่วยลดปัญหาด้านจิตใจห่อเหี่ยวสำหรับผู้สูงอายุ
3. ช่วยทำให้มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี
4. การเลี้ยงสุนัขทำให้เจ้าของนั้นได้ออกกำลังกายมากขึ้นเนื่องจากเจ้าของหมั่นต้องพาน้องหมาไปเดินออกกำลังกายเป็นประจำ
5. ช่วยลดค่าความดันโลหิตสูง มีผลวิจัยมาว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยลดความเครียด คอเลสเตอรอลต่ำ และความดันโลหิตลดลงอีกด้วย
ทักษะสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ นี่คือลักษณะและทักษะที่สำคัญ 4 ประการที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
ข้อสังเกตุว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจจะมีอาการป่วย
หลาย ๆ คนที่เคยมีสัตว์เลี้ยงย่อมเคยผ่านเหตุการณ์ที่สัตว์เลี้ยงป่วย การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามแม้อาจจะเป็นเพียงความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็ก ๆ น้อย เพราะหลายครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว

วันนี้เรามีวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรมองข้ามมาแชร์ให้ทราบกันค่ะ

1 สัตว์เลี้ยงมีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริง นอนมากกว่าปกติ ไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่อ้อนเหมือนเคย
2 พฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้ง ๆ ที่ปกติกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น อากาศร้อนเกินไป เปลี่ยนอาหารใหม่ ที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงกินน้อยลง
3 พบความผิดปกติ หรืออาการอื่นๆ เช่น มีขี้ตาเยอะ อาเจียน ตาแดง มีน้ำมูก มีกลิ่นตัวแรง เดินผิดปกติ ถ่ายเหลว
4 กินน้ำมากกว่าปกติ ก็เป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเราป่วยได้เช่นกัน
5 สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการ นอนไม่หลับ ตาเหล่ ตาเอียง ไม่มีแรงเดิน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางระบบประสาทในสัตว์เลี้ยง
6 สัตว์เลี้ยงเดินวนไปวนมาในเวลากลางคืน เป็นอาการที่พบบ่อยว่าเกิดจากโรคสมองเสื่อมในสัตว์วัยชรา หรืออาจจะบ่งชี้ได้ว่ามีโรคทางสมองอยู่ จนทำให้วงจรการหลับมีปัญหา นอกจากนี้โรคเบาหวาน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึกก็เป็นได้
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
การใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงในยามที่คุณไม่ว่างนั้นจะช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้ แต่ก่อนจะทำการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณกำหนด ซึ่งข้อตกลงสำคัญมีดังนี้

1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป

ณ บางรัก

เขตบางรัก ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เลยคลองผดุงกรุงเกษมซึ่งเป็นเขตเมืองเก่า สืบเนื่องมาจากการตั้งถิ่นฐานริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สมัยก่อนการก่อตั้งเมือง เขตบางรักได้เติบโตจนเป็นเขตสำคัญทางเศรษฐกิจ เนื่องจากมีการสร้างถนนและคลองใหม่ผ่านพื้นที่ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ซึ่งดึงดูดชุมชนของชาวต่างชาติและพัฒนาเป็นย่านการค้าที่สำคัญ การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของกรุงเทพฯ ทำให้พื้นที่ริมถนนสีลมและถนนสาทรกลายเป็นหนึ่งในย่านธุรกิจหลักของเมือง เต็มไปด้วยตึกระฟ้า ครอบคลุมพื้นที่ 5.54 ตารางกิโลเมตรและมีประชากรจดทะเบียน 48,227 (ณ ปี พ.ศ.2562) ปัจจุบัน บางรักเป็นที่รู้จักจากกิจกรรมทางการเงินของสำนักงานการค้า เช่นเดียวกับสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวา โบราณสถานและศาสนสถานอันหลากหลาย ซึ่งตั้งกระจุกตัวอยู่ในตำบลบางรักริมน้ำ สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์หลากหลายวัฒนธรรมเฉพาะตัวของเขตนี้ ลักษณะเด่นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของเขตบางรัก ได้แก่ ตึกระฟ้าสีลมและสาทร ซึ่งบางส่วน ได้แก่ มหานคร สเตททาวเวอร์ และจิวเวลรี่เทรดเซ็นเตอร์ เป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศ สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2524 เป็นสัญลักษณ์ของการนำการออกแบบสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้กับอาคารสูงคอนกรีต เช่นเดียวกับอาคารโรงแรมดุสิตธานีเดิมซึ่งถูกรื้อถอนในปี 2562 ตรงข้ามกับประวัติศาสตร์ยุคอาณานิคม อาคารต่างๆ เช่น ห้องสมุดเนลสัน เฮส์ และสโมสรอังกฤษบนถนนสุรวงศ์ และคฤหาสน์สาทร ใกล้แยกสาทร-นราธิวาส อาคารประวัติศาสตร์อื่นๆ กระจุกตัวอยู่ที่ย่านเจริญกรุงริมน้ำ รวมถึงสถานทูตโปรตุเกส ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2363 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ทรงพระราชทานที่ดินผืนนี้ให้แก่พระราชินีมาเรียแห่งโปรตุเกส เพื่อสร้างโรงสินค้าและที่พำนักสำหรับกงสุลโปรตุเกสประจำประเทศไทยในสมัยนั้น ซึ่งตัวอาคารได้รับการออกแบบและก่อสร้างจนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2413 กรมศุลกากร อาคารเอเซียตะวันออก ย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 อาคารไปรษณีย์กลางบนถนนเจริญกรุงปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศไทย Creative & Design Center ผู้สนับสนุนโครงการ Creative District จากช่วงเวลาเดียวกัน พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกและพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเขตบางรัก ริมถนนเจริญกรุง ใกล้ถนนมหาเศรษฐี จัดแสดงบ้านของครอบครัวชนชั้นกลางในสมัยนั้น และมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเขตบางรัก



บางรัก ...บนความสัมพันธ์กว่า 150

“เขตบางรัก” ถือว่าเป็นย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์รวมหลายๆ สิ่ง ที่มีเรื่องราวมากมาย ด้วยทำเลที่ตั้งเป็นพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีความสะดวกคมนาคม และนำมาสู่ความหลากหลายทางวัฒนธรรม บางรักจึงกลายเป็นศูนย์รวมความเจริญตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน อาคารในเขตนี้เหมือนสมุดบันทึกที่เล่าเรื่องราว หรือมีประวัติศาสตร์ เล่าไว้ หนึ่งในนั้น มีประวัติยาวนาน สถานที่เคยเป็นโรงสินค้าและที่พำนักสำหรับกงสุลโปรตุเกสประจำประเทศไทยโดยเริ่มจาก ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) พระองค์ทรงพระราชทานที่ดินผืนนี้ให้แก่พระราชินีมาเรียแห่งโปรตุเกส และ ในปี พ.ศ. 2363 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระราชทานที่ดินในย่านบางรักเพื่อสร้างเป็นสถานกงสุลโปรตุเกสแห่งแรก ซึ่งตัวอาคารได้รับการออกแบบและก่อสร้างจนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2413 เป็นอาคารทรงโคโลเนียลแบบโปรตุเกสผสมกับความเป็นไทย เดิมทีวัสดุที่ใช้ก่อสร้างทั้งหมดส่งตรงมาจากโปรตุเกส แต่เรือที่ขนส่งล่มระหว่างทาง จึงเปลี่ยนมาใช้วัสดุท้องถิ่นแทน ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงอาคารหลังนี้หลายส่วน เช่น เพิ่มระบบไฟฟ้า และเครื่องปรับอากาศ และแม้จะมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงพื้นที่หลายครั้งแต่ยังคงรักษาตัวอาคารและภูมิทัศน์เหมือนในช่วงเริ่มก่อสร้าง ซึ่งกลายมาเป็นสถานทูตโปรตุเกสในทุกวันนี้ ลักษณะทางสถาปัตยกรรม สถานทูตโปรตุเกสเป็นอาคาร 2 ชั้น สถาปัตยกรรมโคโลเนียล หลังคาทรงปั้นหยา หน้าจั่วประดับตราแผ่นดินของประเทศโปรตุเกส และรอบๆ ก็ยังมีมีชุมชนชาวโปรตุเกสตั้งถิ่นฐานอยู่รอบๆ มีโบสถ์กาลหว่าร์ (ภาษาโปรตุเกสออกเสียงว่า กาลวาริอุ) ย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยและโปรตุเกสเกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2054 เมื่อชาวโปรตุเกสล่องเรือมาเจริญสัมพันธไมตรีทางการค้ากับสยามประเทศ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2088 สยามยอมรับโปรตุเกสเป็นพันธมิตร จากการที่โปรตุเกสช่วยสยามร่วมรบกับพม่าที่เชียงกราน ชาวโปรตุเกสจึงได้รับการจัดสรรที่ดินในอยุธยา โดยสมเด็จพระไชยราชาธิราชทรงให้ลงหลักปักฐาน สร้างบ้านและโบสถ์ได้ หลังจากนั้นด้วยช่วงเวลาแห่งการผสมผสานของทั้งสองวัฒนธรรม จนเกิดการก่อตั้ง “บ้านโปรตุเกส” ที่ริมแม่น้ำในกรุงศรีอยุธยา ถึงแม้ว่าอาณาจักรอยุธยาจะล่มสลายลงใน ชาวโปรตุเกสก็ยังเลือกที่จะตามชาวสยามมายังเมืองหลวงแห่งใหม่ที่กรุงเทพฯ พวกเขาตั้งถิ่นฐานใน ย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา และในปี 2561 ซึ่งครบรอบ 500 ปีสนธิสัญญาทางการค้าเเละไมตรีฉบับเเรกระหว่างโปรตุเกสเเละสยาม (ประเทศไทย) ด้วยความสัมพันธ์ที่ยาวนาน จนวัฒนธรรมบางอย่างได้กลมกลืนไป แต่ก็ยังมีการกล่างถึงบ้างเช่นภาษา คำศัพท์ภาษาไทยหลายคำเป็นคำยืมมาจากภาษาโปรตุเกส อย่างเช่น ศาลา มาจากคำว่า sala (สาลา) ซึ่งในภาษาโปรตุเกสหมายถึง ห้องนั่งเล่น คำว่า สบู่ ก็มาจากคำว่า sabão (ซาเบา) คำว่า ขนมปัง ก็มาจากคำว่า pão (เปา) มีอีกสิ่งหนึ่งที่สำหรับประเทศไทยแล้วโปรตุเกสทิ้งร่องรอยวัฒนธรรมไว้อย่างเด่นชัดนั่นคือขนมหวาน ทองหยิบที่มีชื่อในภาษาโปรตุเกสว่า “ตรูซูช ดาช กัลดัช” (Trouxas das caldas) หรือฝอยทอง ชาวโปรตุเกสก็เรียกขนมชนิดนี้ว่า “ฟีอูซ เดอ ออวูซ” (Fios de ovos) เรียนรู้ความสัมพันธ์คร่าวๆ แล้ว อีกทั้งสถานทูตแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่คือความสัมพันธ์ของสองประเทศ



วิธีพูดว่า 'ฉันรักคุณ' ในภาษาสุนัข

1. การพูดคุยกับสุนัขไม่ใช่เรื่องน่าอาย การศึกษาโดยใช้เทคโนโลยี MRI (แมกเนติกเรโซแนนซ์ อิมเมจิ้ง หรือ เครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ตรวจดูอวัยวะภายในโดยไม่มีการใส่ส่วนของอุปกรณ์ใด ๆ เข้าไปในร่างกาย) แสดงให้เห็นว่าสุนัขเข้าใจภาษามนุษย์ได้และชอบให้เจ้าของพูดคุยด้วย การพูดคุยและช่วยให้สุนัขรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นในมากขึ้น

2. เป็นผู้ฟังที่ดี เพราะสุนัขไม่สามารถสื่อสารกับคุณด้วยภาษาพูด คุณควรเช้าใจการแสดงออกทางกาย ซึ่งการแสดงภาษากายที่บ่งบอกถึงความสุขของสุนัข ได้แก่กระดิกหาง สบตา ยกคิ้วขึ้น ในทางกลับกัน ให้จับตาดูสัญญาณเตือนของสุนัขที่ไม่มีความสุข เครียด วิตก กังวล : หางซุก เลียปาก มีแววตาตื่นตระหนก

3. การแสดงออกทางสายตา สุนัขสามารถเข้าใจการสื่อสารที่คุณแสดงออกทางสายตา เมื่อคุณสบตาสุนัขด้วยความอ่อนโยน และสุนัขตอบกลับด้วยการสบตาคุณนานๆ นั้นเป็นการแสดงความรักของสุนัขที่มีต่อคุณ หากคุณจ้องมองสุนัขด้วยสายตาที่ดุดันเกรี้ยวกราด สุนัขจะเข้าใจว่าคุณกำลังโกรธ ซึ่งจะทำให้สุนัขหวาดกลัวและอาจจะไม่อยากเข้าใกล้คุณ

4. การแสดงออกทางสีหน้า การศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าสุนัขสามารถอ่านอารมณ์ของมนุษย์ได้ผ่านการแสดงออกทางสีหน้า คุณสามารถบอกสุนัขของคุณได้ว่าคุณกำลังรู้สึกอย่างไร ด้วยการแสดงอารมณ์บนใบหน้า นักวิทยาศาสตร์ด้านพฤติกรรมชาวญี่ปุ่นได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อสุนัขรู้สึกผูกพันกับใครสักคน พวกเขามักจะเลิกคิ้วทางซ้ายมากกว่าทางขวา ดังนั้นการทักทายสุนัขของคุณด้วยการเลิกคิ้วและรอยยิ้มที่ผ่อนคลายจะบอกสุนัขของคุณว่าคุณมีความสุขแค่ไหนที่ได้เห็นพวกเขา

5. การเอนตัว การเอนตัวเข้าหาสุนัขอย่างผ่อนคลายหรือเอนพิงกันเบาๆ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้สุนัขสัมผัสได้ถึงความรักที่คุณมีต่อพวกเขา แต่ต้องคำนึงถึงลักษณะรูปร่าง น้ำหนัก และขนาดของสุนัข เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ทับสุนัขจนพวกเขาได้รับความบาดเจ็บได้

6. กอดและงีบและพักผ่อนด้วยกัน การงีบหลับด้วยกันในยามบ่ายบนโซฟาหรือบนพื้นหญ้าจะทำให้สุนัขของคุณรู้สึกผูกพันกับคุณมากขึ้น